ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 809 จวินโม่ซีโกรธขึ้นมาแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “อืม! แน่นอนว่ามาเพื่อทำลายหุบเขาหมอเทวดา”

หากจะทําลายหุบเขาหมอเทวดาจากส่วนใน ก็ต้องเป็นคนสําคัญที่สุดของหุบเขาหมอเทวดาถึงจะได้

และตอนนี้พวกเขาก็ใกล้เข้ามาแล้ว

วันสอบมาถึงแล้ว ทุกคนมาถึงกันอย่างตรงเวลา

มู่เฉียนซีและจวินโม่ซีเองก็ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเช่นกัน ในตอนนั้นเอง เสียงของผู้ดูแลใหญ่ก็ดังขึ้น

“ท่านผู้เฒ่ามาถึงแล้ว!”

แสงสีขาวสว่างวาบขึ้นและชายชราในชุดคลุมสีขาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา

ผมสีขาว คิ้ว และหนวดเคราที่ดูเหมือนชายชรา แต่ผิวของเขาอ่อนเยาว์ราวกับหนุ่มสาวก็มิปาน

นี่เป็นครั้งแรกของหลาย ๆ คนที่ได้เห็นผู้เฒ่า ดวงตาของพวกเขาฉายแววประหลาดใจ

คนสูงอายุที่ดูกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และดูเหมือนว่าเป็นคนที่พูดจาดีมาก

มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทําไมคนของหุบเขาหมอเทวดาถึงชอบเสแสร้งนัก รากเหง้าอยู่ที่นี่นี่เอง

ผู้เฒ่าหุบเขาหมอเทวดาผู้นี้แตกต่างจากผู้เฒ่าประหลาดที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมอย่างที่นางคิดไว้โดยสิ้นเชิง

ดูภายนอกไม่เหมือนกัน แต่ในใจเกรงว่าจะห่างจากความคิดของนางไม่ไกลกันมากนัก

ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดายิ้มและกล่าวว่า “หุบเขาหมอเทวดาของข้า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีศิษย์ที่โดดเด่นอย่างพวกเจ้าปรากฏตัวขึ้นมาในรอบยี่สิบกว่าปีมานี้”

“การทดสอบต่อไป จะเลือกคนที่ข้าพอใจจากในหมู่พวกเจ้า มาเป็นศิษย์คนสนิทของข้า บางทีอาจจะไม่ใช่แค่คนเดียว ดังนั้นพวกเจ้าต้องสู้ ๆ เข้าล่ะ”

ไม่ใช่แค่คนเดียว เช่นนั้นก็มีโอกาสสูงแล้ว

ทุกคนต่างตื่นเต้นกันมาก “สู้ ๆ! ตอนนี้พวกเจ้าจงตามข้ามาที่สถานที่ทดสอบรอบแรก”

ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาเดินนําหน้า ฝีเท้าที่ไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ช้า ทุกท่วงท่าแฝงไว้ด้วยความเฉพาะตัว

มีผู้คนจํานวนไม่น้อยที่สับสนกับท่าทางของเขา และชื่นชมเขาอย่างหาที่เปรียบมิได้

เมื่อพวกเขามาถึงที่ปลายทาง กลับพบว่าพวกเขาได้มายังสถานที่ที่คุ้นเคยมาก

“ภูเขาสมุนไพร!”

“พวกเรามาถึงภูเขาสมุนไพรแล้ว!”

“หรือว่าสถานที่ทดสอบของพวกเราคือเขาสมุนไพร แต่อยู่ที่ภูเขาสมุนไพรแล้วจะทดสอบอย่างไร? นี่คือสถานที่ฝึกฝนและไม่มีแท่นหลอมยาอีกด้วย!”

ทุกคนต่างสับสน!

มู่เฉียนซีอึ้งไปเล็กน้อย สถานที่ทดสอบกลับเป็นภูเขาสมุนไพร

นางเฝ้ามองสมบัติชิ้นหนึ่งที่อยู่ด้านล่างของภูเขาสมุนไพรมาโดยตลอด!

ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาหัวเราะพลางกล่าว “พวกเจ้าคาดเดาไม่ผิด สถานที่ทดสอบรอบแรกอยู่ที่ภูเขาสมุนไพร!”

“เปิดอุโมงค์!” ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดากล่าว

ตูม! ผู้ดูแลใหญ่เปิดกลไกที่ลึกลับออก

ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกาย นางค้นหาเครื่องกลไกของที่นี่มาเป็นเวลานานแล้วแต่ก็ไม่พบมัน

มีกลไกที่นําไปสู่ใต้ดิน นั่นหมายความว่านางก็จะสามารถไปใต้ดินเพื่อหาสมบัตินั่นได้

กลไกเปิดออกและทางเดินก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา

ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดากล่าวว่า “ทุกคน เข้าสู่ใต้ดิน คนสามสิบคนที่ออกมาได้ก่อน ถือว่าผ่านการคัดเลือกรอบแรกแล้ว”

“ใต้ดินนี้ มีอะไร?”

“เพื่อทดสอบทักษะการกลั่นยา จำเป็นต้องลงไปใต้ดินด้วยหรือ?”

“……”

พวกเขาเริ่มสงสัยมากขึ้นเมื่อมองไปยังปากทางที่มืดสนิทนั่น ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดายิ้มและกล่าวว่า “เมื่อพวกเจ้าเข้าไปแล้ว ก็จะเข้าใจเจตนาของข้า การทดสอบใต้ดินนี้ไม่ด้อยไปกว่าการทดสอบของหอโอสถอย่างแน่นอน ข้าศึกษาและจัดสถานที่นี้มาหลายปีแล้ว และวันนี้เพิ่งได้เริ่มใช้ พวกเจ้าจะทําให้ข้าผิดหวังไม่ได้นะ!”

ทุกคนเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา “ดูโดดเด่นกว่าหอโอสถของหุบเขาโอสถเสียอีก!”

“มีอะไรอยู่ในนี้กันแน่?”

ทุกคนอยากรู้อยากเห็นมาก ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดากล่าวว่า “เอาล่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเจ้ารีบเข้าไปเถอะ!”

ทุกคนอดใจรอไม่ไหวที่จะเข้าไปข้างใน หลังจากเดินผ่านอุโมงค์ที่มืดสนิทนั้น พวกเขาก็ได้เข้าไปในเขาวงกตใต้ดิน

ทุกคนถูกแยกย้ายกันไป นอกจากตัวเองแล้วไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คนเดียว

มู่เฉียนซีและจวินโม่ซีก็ต้องแยกกันไปเช่นกัน มู่เฉียนซีมองไปข้างหน้าพลางพึมพํากับตัวเองว่า เขาวงกต! เจ้าแก่นั่นกําลังวางแผนบ้าอะไรอยู่กันแน่?

ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องบุกออกไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

ขณะที่มู่เฉียนซีเดินไปข้างหน้า นางก็ได้ทําสัญลักษณ์ไว้

แต่มันก็ไร้ประโยชน์ นางพบว่าตัวเองวนไปวนมาอยู่ที่เดิม

มู่เฉียนซีจึงหยุดเดิน ไม่…

หากชายชรานั่นต้องการศิษย์คนสนิทสักคน คงไม่ได้ให้ผู้คนบุกเข้าไปในเขาวงกตง่าย ๆ เช่นนั้นแน่

อย่างไรก็ตาม การบุกเขาวงกตนั้นขึ้นอยู่กับสติปัญญาและความโชคดีด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการกลั่นยามากนัก

จมูกของมู่เฉียนซีค่อย ๆ ขยับเล็กน้อย มีกลิ่นของสมุนไพร และเป็นกลิ่นหอมของสมุนไพรที่เบาบางมาก

ท่ามกลางอากาศที่มืดครึ้มในใต้ดินนี้ มู่เฉียนซียังคงแยกแยะได้ว่านี่เป็นกลิ่นของสมุนไพรวิญญาณอะไร

นางเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง และมันก็ได้เปลี่ยนเป็นกลิ่นอื่นอีก

มู่เฉียนซีกล่าว “หญ้าซานฉีกับเฟิงหวางฮว้า ฤทธิ์ของสมุนไพรทั้งสองนั้นขัดแย้งกัน แต่หญ้าซานฉีกลับสามารถออกฤทธิ์ร่วมกับหญ้าหลงซินได้ นั่นก็หมายความว่าเส้นทางทางนี้คือทางที่ถูกต้อง ส่วนเส้นทางด้านนั้นไม่สามารถไปได้!”

มู่เฉียนซีชี้นิ้วไปทางซ้ายแล้วเดินไป ทุกทางแยกล้วนแต่จะมีสมุนไพรแต่ละชนิดและเปลี่ยนชนิดสมุนไพรไปในทุก ๆ ทางแยก

หากมิใช่ออกฤทธิ์ขัดแย้งกันก็เป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ส่งเสริมกัน หรือพูดได้อีกอย่างว่าเป็นสมุนไพรที่สามารถเข้ากันได้และเข้ากันไม่ได้เป็นต้น

เมื่อเดิน ๆ ไป มู่เฉียนซีก็สามารถจับทางของเส้นทางได้ถูกเสียแล้ว

นี่คือการทดสอบพื้นฐานของวิชาการปรุงยาอย่างง่าย!

เพราะความคุ้นเคยและไวต่อสมุนไพร มู่เฉียนซีจึงดำเนินภารกิจไปได้อย่างราบรื่น

ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ของจวินโม่ซีกลับไม่ค่อยดีนัก

มือของเขาจับกําแพงและดวงตาของเขาก็มืดครึ้มลง

เมืองหมื่นโอสถลึกลับของตระกูลจวินถูกผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาขโมยเอาไปใช้

เจ้าหมอนี่นอกจากทรยศแล้วยังจะกล้าขโมยสมบัติของตระกูลจวินอีกด้วย

เมื่อตระกูลจวินถูกทําลาย เมืองหมื่นโอสถก็ถูกทําลายไปจนหมดสิ้นเช่นกัน ตอนนี้เมื่อเขาเห็นการเลียนแบบต่ำ ๆ เช่นนี้ แววตาของเขาก็ส่อประกายเย็นยะเยือกขึ้นมา

จวินโม่ซีก็เหมือนกับมู่เฉียนซี ที่เป็นคนไร้หัวใจ

เขาไม่ต้องการให้ความเกลียดชังกลายเป็นภาระของตัวเอง และทําให้ตัวเองเหนื่อยหนัก แต่บางคนกลับกําลังท้าทายเส้นตายของเขา

ทั้งที่แอบขโมยของจากตระกูลจวินไปใช้ แต่เจ้าเฒ่าจากหุบเขาหมอเทวดานั่นกลับบอกว่าเขานั้นตั้งใจศึกษาและจัดการขึ้นมาเอง ช่างเป็นขโมยที่ไร้ยางอายเสียจริง ๆ

เขาวงกตนี้ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับมู่เฉียนซี และสําหรับจวินโม่ซีแล้วก็ยิ่งง่ายราวกับใช้ชีวิตประจำวันปกติ

เมือหมื่นโอสถลึกลับนี้แตกต่างจากของตระกูลจวินเป็นอย่างมาก และมันค่อนข้างเรียบง่ายมาก คิดอยากจะออกไปนั้นง่ายดายนัก

“หุบเขาหมอเทวดา หุบเขาหมอเทวดา…”

เมื่อเห็นขุมทรัพย์ของตระกูลตัวเองถูกผู้อื่นขโมยไป แม้จะถูกเอาเปรียบอย่างไร้ยางอาย แต่จวินโม่ซีก็ไม่เคยคิดที่จะทําลายหุบเขาหมอเทวดาอย่างเช่นนี้มาก่อน

เขายังคงมีสายเลือดของตระกูลจวินอยู่ตลอด และเป็นเกียรติของตระกูลจวิน

แม้ทุกครั้งที่เขาถูกไล่ล่าโดยหุบเขาหมอเทวดาจนสิ้นหวัง เขาก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังเช่นนี้

หลังจากมู่เฉียนซีเดินผ่านมาเป็นเวลานาน นางก็พบว่าการทดสอบได้เปลี่ยนไป มู่เฉียนซีกล่าวว่า “บัวเจ่าซิน หญ้าเสอซิน…”

“มันเป็นสูตรยาสําหรับการกลั่นเม็ดยาระดับหนึ่ง”

จากนั้นมู่เฉียนซีก็ราวกับนำจิ๊กซอว์มาปะติดปะต่อกัน โดยรวบรวมกลิ่นอายของสมุนไพรวิญญาณจากทุกแยกเพื่อให้เป็นสูตรยาที่สมบูรณ์ นางจึงจะสามารถเดินไปถูกทางได้

หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติของยาแล้ว ก็ต้องศึกษาความเข้าใจในเม็ดยา ต้องบอกเลยว่าการทดสอบนี้ทั้งน่าสนใจและยังเป็นการทดสอบพื้นฐานได้ดีอีกด้วย ไม่เลวเลย

แต่ด้วยผู้เฒ่าหุบเขาหมอเทวดาจอมเสแสร้งนั่น เขาสามารถคิดอะไรดี ๆ เช่นนี้ได้จริงหรือ? หากไม่มีพื้นฐานและความเข้าใจในสมุนไพรเพียงพอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างสถานที่ทดสอบคนรุ่นใหม่เช่นนี้ได้

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset