ในเวลานี้ อาถิงกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าพวกนี้ ทําไมถึงมีอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้ นางผู้หญิงบ้า เจ้านี่โชคร้ายอยู่ตลอดเลย”
อยากได้รับโอกาส ก็จะต้องเผชิญกับอันตรายต่าง ๆ
แต่อาถิงรู้ดีว่าอันตรายในครั้งนี้สําหรับมู่เฉียนซีแล้วมันอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าว “อาถิง เจ้ารู้จักเจ้าพวกนี้หรือ?”
“ข้ารู้จัก แน่นอนว่าต้องรู้จัก ผลงานชิ้นเอกของชายที่น่าขยะแขยงมาก! ดูดวิญญาณของกิ้งก่ายักษ์สัตว์ดุร้ายในโบราณกาลเพื่อสร้างหุ่นเชิดสัตว์สงครามที่ทรงพลัง โชคดีที่ในพื้นที่แห่งนี้ ความแข็งแกร่งของพวกมันได้ถูกสะกดเอาไว้เช่นกัน”
“พวกมันฆ่าไม่ตายและไม่กลัวการสูญเสียพลัง แม้ว่าจะถูกสะกดความแข็งแกร่งเอาไว้ให้เป็นเพียงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าหรือระดับหก ก็เพียงพอที่จะลากพวกเจ้าไปสู่ความตายได้!”
อย่างไรก็ตาม อาถิงผู้อารมณ์ฉุนเฉียวก็ได้บอกนางอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือพวกเขาต้องตายอย่างแน่นอน
สิ่งที่อาถิงกลัวในตอนนี้ไม่ใช่หุ่นเชิดสัตว์สงครามเหล่านี้ แต่เป็น……
“อ๊าาา!” มีคนถูกหุ่นเชิดสัตว์สงครามเหล่านี้ฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้ว
หลายคนกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา พวกเขาอุทานออกมาว่า “แข็งแกร่งมาก! ความแข็งแกร่งของพวกมันอย่างน้อยก็คงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าระดับหก และพวกเราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน”
แม้ว่าทุกคนจะร่วมมือกัน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะหุ่นเชิดสัตว์สงครามทั้งเจ็ดตัวนี้ได้ นี่ทำให้รู้สึกสิ้นหวังยิ่งนัก
เจ้าพวกนี้ยังหนังเหนียวจนไม่สามารถโจมตีพวกมันได้แม้แต่นิดเดียว นี่มันช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว
มู่เฉียนซีถามว่า “หอฉงโหลวบนเมฆา มีวิธีเปิดมิติที่ปิดนี่แล้วให้พวกเราออกไปไหม?”
ในเมื่อสู้ไม่ได้ เช่นนั้นพวกเขาก็มีเพียงทางเลือกเดียว นั่นก็คือหนี!
หอฉงโหลวบนเมฆาจะร้องไห้ “นายท่าน พลังของอีกฝ่ายอยู่เหนือข้า ข้าคิดไม่ออกเลยว่าจะเปิดมิติที่ปิดล้อมนี้ได้อย่างไร แย่แล้ว! มันจบสิ้นแล้ว!”
อาถิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “นางผู้หญิงบ้า ปลุกพี่สาวให้ตื่น ให้พี่สาวพาเจ้าบัดซบหวงจิ่วเยี่ยนั่นมา แผนการตอนนี้คงต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งแล้ว”
ในเวลานี้ เขาเองก็ต้องยอมรับว่าชายผู้นั้นแข็งแกร่งพอ
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้เขาสามารถปกป้องนางผู้หญิงบ้าผู้นี้ได้
“สุ่ยจิงอิ๋งเพิ่งสูญเสียพลังไป ถ้าพาจิ่วเยี่ยมาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่?”
“อย่าไปสนใจอะไรมากเลย ถ้าเจ้าตาย ข้ากับพี่สาวและพวกมันล้วนไม่มีจุดจบที่ดีแน่!” อาถิงกล่าวอย่างร้อนรน
ในเวลานี้ หางของหุ่นเชิดกิ้งก่าตัวหนึ่งได้กวาดไปที่มู่เฉียนซี
มู่เฉียนซียังไม่ทันได้ปลุกสุ่ยจิงอิ๋ง เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ นางย่อมไม่สามารถหลบการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้!
“สาวน้อย!” จวินโม่ซีตกใจมาก เขาลงมือโจมตีหุ่นเชิดกิ้งก่านั่น แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางของหางนั่นได้
เงาสีเขียวพุ่งผ่านและผลักมู่เฉียนซีออกไป
ปัง! หางของจิ้งจกตัวนั้นเหวี่ยงเงาสีเขียวจนกระเด็นออกไปบนผนัง
“ชิงอิ่ง!”
ในตอนนี้ชิงอิ่งได้กระแทกไปที่ผนังห้องจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นบนผนัง!
หากเป็นคนอื่น อวัยวะภายในก็คงจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ไปนานแล้ว และคงตายอย่างตายไม่ได้อีก
แต่ชิงอิ่งนอกจากหัวใจแล้วไม่มีอะไรเลย ร่างกายก็แข็งแรงเป็นพิเศษ ในตอนที่ถูกกระแทกเข้ากับกําแพงนั้น ชิงอิ่งก็พุ่งกลับมาหามู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “เฉียน เอาอาหารทั้งหมดที่เจ้ามีติดตัวมาให้ข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง! ฆ่าพวกมัน! ”
อาหารที่หมายถึงก็คือเม็ดยา! เม็ดยาที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขา
ตั้งแต่มีหัวใจ แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้ เขาก็ไม่ได้ต้องการสมุนไพรวิญญาณมากนัก
แต่ตอนนี้กลับต้องการสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดของนาง แสดงว่าเขาจะต้องเผชิญกับการต่อสู้ครั้งใหญ่
“เจ้า…” มู่เฉียนซีเป็นห่วงเขา
ตูม! ตอนนี้หุ่นเชิดกิ้งก่าได้ฆ่าคนไปไม่น้อยแล้ว
จวินโม่ซี โม่จิ่นและพวกได้รับบาดเจ็บสาหัส มนุษย์ในที่แห่งนี้ คงประคับประคองไปได้อีกไม่นานนักหรอก
“ข้าอยากปกป้องเฉียน!” ชิงอิ่งคว้าตัวมู่เฉียนซีแล้วกล่าว
“ได้ ข้าจะให้เจ้า!”
มู่เฉียนซีหยิบเม็ดยาออกมาจนหมดจริง ๆ แม้กระทั่งยาน้ำก็ยังหยิบยาออกมา ชิงอิ่งกลืนมันลงไปอย่างไม่เกรงใจ
ร่างสีเขียวพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า
อาถิงกล่าว “ตัวประหลาดนี่ สามารถทําได้จริงหรือ?”
มีชีวิตอยู่มาตั้งนานเห็นมาก็มาก ย่อมรู้เรื่องมากเป็นแน่ แต่อาถิงก็มองเจ้าหัวไม้นี่ไม่ออกเลยจริง ๆ!
ชิงอิ่งพุ่งเข้าไปหาหุ่นเชิดกิ้งก่าตัวหนึ่ง เมื่อมีคนพุ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย หุ่นเชิดกิ้งก่าเองก็เริ่มโต้กลับ!
ตูม!
การโจมตีมากมายของมัน กลับไม่สามารถโจมตีเป้าหมายได้!
ชิงอิ่งกระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน และขยับข้อมือ!
กร๊อบ!
ชิงอิ่งผู้แข็งแกร่งบิดคอกิ้งก่าตัวนี้ออกอย่างแรง
กิ้งก่าตัวใหญ่ที่ถูกบิดคอจนหักยังคิดที่จะฟื้นคืนสภาพร่างเดิม
ชิงอิ่งยกมือขึ้น แสงสีเขียวกลุ่มหนึ่งได้โอบล้อมมันเอาไว้
พวกมันในท่ามกลางแสงสีเขียวนั้นได้กลายเป็นความว่างเปล่า
ดวงตาของมู่เฉียนซีฉายแววตกตะลึง ชิงอิ่งระเบิดพลังออกมาได้ร้ายกาจมาก!
พลังสีเขียวนั่นยับยั้งพลังของหุ่นเชิดกิ้งก่าได้
อาถิงกล่าวอย่างตกใจ “พลังชีวิตของเขายับยั้งปราณมรณะที่ควบคุมหุ่นเชิดสัตว์สงครามกลุ่มนี้ไว้ได้ ดังนั้น…”
“คนผู้นี้ ไม่สิ! ควรจะเป็นหุ่นเชิด มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว!”
ไม่มีใครสามารถฆ่าสัตว์ประหลาดกิ้งก่าได้
แต่ชิงอิ่งกลับทําสําเร็จ เพียงลงมือบิดหัก และทําให้กลายเป็นความว่างเปล่าไปในทันที
อีกทั้งคนผู้นี้ กลับไม่มีคลื่นพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย!
“เขา! เขาแข็งแกร่งถึงขั้นนี้!” หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าวด้วยความประหลาดใจ
แน่นอนว่าเขารู้จักชิงอิ่ง เพราะครั้งก่อนเมื่อตอนที่เขาโจมตีสํานักซวนเสีย เขาก็ได้ต่อสู้กับชิงอิ่ง ชิ่งอิ่งเป็นองค์รักษ์ของมู่เฉียนซี
ตูม!
ในเวลานี้หัวหน้าหุบเขาซือคงกําลังเผชิญกับการโจมตีของหุ่นเชิดกิ้งก่า เขาตะโกนว่า “ท่านชิงอิ่ง ช่วยด้วย!”
คนอื่น ๆ ก็กล่าวอย่างตกใจเช่นกันว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนของหอหมอปีศาจ แต่หอหมอปีศาจกลับมียอดฝีมือเช่นนี้ด้วย!”
“ท่าน ช่วยข้าด้วย!”
แน่นอนว่าชิงอิ่งไม่ได้ไปช่วยซือคงเลี่ยว แต่เลือกหุ่นเชิดกิ้งก่าตัวอื่นแทน
มือบิดหัวของหุ่นเชิดกิ้งก่าออก แสงสีเขียวทําให้พวกมันกลายเป็นความว่างเปล่า
ตัวที่สามก็จัดการได้รวดเร็วมาก รวดเร็วอย่างหาที่เปรียบมิได้ และแข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนตกใจจนอ้าปากค้าง
ตูม!
หลังจากจัดการตัวที่เจ็ดแล้ว การต่อสู้อันดุเดือดในครั้งนี้ก็ได้ยุติลง
ในเวลานี้มู่เฉียนซีกลัวว่าชิงอิ่งจะหลับใหลไปเป็นเวลานานอีกครั้งเพราะพลังของเขา
ชิงอิ่งกล่าวเสียงต่ำว่า “ไม่เป็นไร ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะยืนหยัดที่จะพาเฉียนออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย”
จวินโม่ซีเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เจ้าหัวไม้นี่มันสุดยอดจริง ๆ!
กิ้งก่าทั้งเจ็ดตัวที่เกือบทําให้ยอดฝีมือถึงเก้าส่วนของแดนใต้ถูกทําลาย กลับถูกเขาผู้เดียวทําลายไป
แต่ฆ่าสัตว์ประหลาดนี้แล้ว พวกเขาจะออกไปได้อย่างไร?
ในความมืดมิด เสียงที่แปลกประหลาดเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้น
“เจ้าของเล่นทั้งเจ็ดถูกสังหารไปแล้ว นี่ทําให้ข้าประหลาดใจเล็กน้อย! บางทีในฝูงมดปลวกกลุ่มนี้ ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนที่น่าสนใจ?”
“ที่รัก เจ้าว่าไงล่ะ! เจ้าอยากเจอหรือไม่?”
“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องอยากเจออย่างแน่นอน อย่างไรเสียอยู่ที่นี่ เจ้าก็ยังไม่ได้พบเจอใครนอกจากข้า”
บึ้ม! ในตอนนี้เอง ตําหนักที่กว้างโล่งและปิดสนิทแห่งนี้ก็พลันปรากฏประตูบานใหญ่สีดำสนิทร่วงลงมาจากด้านบน