“ซีทำใจทำไม่ลง!” จิ่วเยี่ยมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวอย่างราบเรียบ
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจในร่างกายของตนเองเลยแม้แต่น้อย
“ข้าทำใจทำไม่ลง? ไม่ให้เจ้าได้เจอดีเสียหน่อย เจ้าก็จะไม่รู้จักพอประมาณเลย” มู่เฉียนซีกล่าวออกมาอย่างดุร้าย
“ใช่ข้าทำไม่ลง!”
จากนั้นก็ได้เกิดการหมุนเวียนผันเปลี่ยน ไม่ง่ายเลยที่จะชิงความได้เปรียบมาได้ แต่ก็กลับต้องเสียมันไปอีกครั้งหนึ่ง
ปัง!
เข็มยาได้ร่วงหล่นลงไป จิ่วเยี่ยได้กลับมายึดครองสิทธิ์ของผู้เป็นฝ่ายกระทำอีกครั้ง
“เจ้า…เจ้าลอบโจมตี….”
“ซีทำใจไม่ได้ ซีให้ข้าใกล้ชิดเป็นอย่างมาก!” จิ่วเยี่ยกัดไปที่ติ่งหูของมู่เฉียนซีเบา ๆ แล้วกล่าว
“ไม่ใช่!นั่นมันไม่เหมือนกัน!” เมื่อครู่นี้นางพลันเกิดความลังเลขึ้นมาชั่วขณะจึงมิได้ลงมือ นั่นเลยทำให้ตนเองต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนั้นอีกครั้ง
“เล่นลิ้น!”
“ไม่ใช่!”
“ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ข้ารู้ก็พอแล้ว!”
จูบที่แน่นขนัดราวกับสายฝนทำให้มู่เฉียนซีสิ้นเรี่ยวแรงไปทั้งตัว แม้แต่แรงกำลังที่จะโกรธก็ยังไม่มี
เขา…
เขารู้อะไรกันแน่! เขานั้นไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้น
เพราะองค์ชายจิ่วเยี่ยนั้นไม่มีความเป็นมนุษย์เลยแม้แต่น้อย และผลสุดท้ายปรากฏว่าจวินโม่ซีนั้นก็มิได้เจอตัวมู่เฉียนเลย
นี่มันสามวันเข้าแล้ว!
คนที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้นรอเสียจนแทบจะคลั่งแล้ว
ด้วยความจนปัญญาโม่จิ่นจึงทำได้เพียงไปหาหัวหน้านักปรุงยาจวิน “หัวหน้านักปรุงยาจวิน มีหนทางใดหรือไม่?”
“ไม่มี! ไม่มี! เรื่องใหญ่เช่นนี้ต้องให้ผู้ที่เป็นหัวหน้าหอมาทำกระมัง! ข้านั้นทำอะไรไม่เป็นทั้งสิ้น!” อารมณ์อันโกรธเกรี้ยวของจวินโม่ซีนับวันยิ่งจะรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ!
ปรากฏว่าในตอนนี้เอง ชีซิงได้ส่งเสียงกล่าวออกมาว่า “เป็นสตรีนางหนึ่ง ต้องใจ….”
“สตรี…..” สีหน้าของจวินโม่ซีมืดครึ้ม
ชีซิงกล่าว “โอ้! เป็นบุรุษ ข้ายังไม่ชินกับสภาพเช่นนี้!”
“บุรุษนั้นมีเมียหลวงสามเมียน้อยสี่ก็เป็นเรื่องธรรมดายิ่งนัก…..”
“โอ้! นั่นก็ไม่ถูกต้อง!”
“อย่างไรเสียเจ้าจงอย่าได้หึงหวงมากไปหน่อยเลย หึงมากเข้าไฟในใจจะใหญ่โตนัก จะทำร้ายหัวใจทำร้ายปอดทำร้ายตับเอานะ!”
จวินโม่ซีโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแล้วกล่าว “เจ้าหุบปาก หุบปาก! พูดมากเกินไปแล้ว”
“อย่างไรเสียเจ้าจงละซึ่งความโศกเศร้าแล้วทำตัวตามความเปลี่ยนแปลงเถอะ! ด้วยรูปลักษณ์ดั่งเช่นนายท่านแล้ว ยากที่จะไปแย่งมาจากบุรุษที่น่ากลัวผู้นั้นได้ เมื่อพบเจอกับตัวละครเช่นนั้น ก็มีเพียงแต่นายท่านที่ต้องออกโรงเองเสียแล้ว ข้าเองก็ช่วยอะไรไม่ได้” หม้อชีซิงซวนกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจ
“หุบปาก!”
สามวันให้หลัง ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว
ดวงตาทั้งสองของโม่จิ่นมองไปทางมู่เฉียนซีด้วยน้ำตาคลอ “นายท่าน ในที่สุดท่านก็มาแล้ว ข้านึกว่าท่านรักในคนงามจนไม่ต้องการกิจการเสียแล้ว!”
สีหน้าของมู่เฉียนซีหมองคล้ำลง นั่นเป็นคนงามหรือ? นั่นมันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายตัวหนึ่งต่างหากเข้าใจหรือไม่?
มู่เฉียนซีนวดขมับพลางกล่าวขึ้น “เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันนี้มาหน่อยเถอะ!”
“ทางด้านของหุบเขาหมอเทวดาได้จัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่ายอดฝีมือของกองกำลังใหญ่ต่าง ๆ ยังคงมีพิษอยู่ พวกเขาโวยวายต้องการยาถอนพิษของหมอปีศาจ”
“ในเรื่องของจำนวนคนและภูมิหลังของพวกเขาได้ถูกจดบันทึกไปทั้งหมดหรือยัง?”
“ได้ถูกบันทึกลงไปหมดแล้ว!”
“ไปเจรจาเงื่อนไขกับพวกเขาว่า เอาหยกวิญญาณชั้นดีหนึ่งร้อยล้านชิ้น หากไม่มีก็ยังสามารถที่จะมอบยาแก้พิษให้ได้ แต่จะต้องช่วยหอหมอปีศาจทำเรื่องสามเรื่อง” มู่เฉียนซีกล่าว
โม่จิ่นตกตะลึงถึงที่สุด ที่จริงแล้วเขาเองก็คิดเงื่อนไขเอาไว้แล้วเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับเงื่อนไขของผู้เป็นเจ้านายแล้ว เงื่อนไขของเขานั้นมันไม่โหดร้ายเลยแม้แต่น้อย!
“บอกพวกเขาไป ถ้าอยากรักษาชีวิตเอาไว้ก็รีบตอบตกลง มิเช่นนั้นแล้วล่ะก็ข้าจะปฏิเสธ!”
เมื่อทุกคนได้ยินในสิ่งที่มู่เฉียนซีขอแล้วนั้น ก็ได้กร่นด่าหอหมอปีศาจอยู่ในใจว่าฉวยโอกาสปล้นชิง ใจดำอำมหิต
ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จำต้องตอบรับเงื่อนไข นอกเสียจากว่าพวกเขาจะไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้ว
มู่เฉียนซีถามขึ้น “เจ้าตะกละจวินล่ะ?”
ยาเม็ดชนิดนี้ต้องให้เจ้าหมอนั่นสกัดออกมา เพราะว่าหม้อชีซิงซวนนั้นรู้ดี!
โม่จิ่นกล่าว “ช่วงนี้หัวหน้านักปรุงยาจวินอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไร อีกทั้งยังกินอาหารน้อยยิ่งนักและยังไม่อยากที่จะปรุงยา เขาบอกว่าเรื่องพวกนี้ให้นายท่านจัดการก็ได้แล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ส่งคนไปที่หอเทียนหยู่แล้วสั่งให้นำอาหารที่เขาชอบมาส่ง”
“ขอรับ!”
หลังจากที่อาหารได้มาส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วมู่เฉียนซีก็ได้เข้าไป จวินโม่ซียังมิได้ขยับตะเกียบ เขาเหลือบมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าว “ข้านึกว่าเจ้าลืมข้าผู้นี้ไปเสียแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “จะไปลืมแรงงานชั้นดีเช่นเจ้าได้อย่างไรเล่า รีบกิน กินเสร็จแล้วไปทำงาน เมื่อทำงานเสร็จแล้วหากงานที่เจ้าทำออกมาดีอีกไม่นานนักก็จะมีงานเลี้ยงฉลองขึ้น”
“อะไรนะ? งานเลี้ยงฉลอง!” ในทีสุดจวินโม่ซีที่ไร้ซึ่งอารมณ์ก็ได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว
เมื่ออาหารอันเลิศรสอยู่ตรงหน้า จวินโม่ซีเองก็มิได้ยึดมั่นและคิดไปกับความโกรธเคืองแล้วและเริ่มขยับตัวกิน!
จวินโม่ซีกินอิ่มแล้วมีอารมณ์ดี ไม่นานนักยาที่ทุกคนต้องการก็ได้สกัดออกมาเสร็จสิ้น
ด้วยเหตุนี้หอหมอปีศาจจึงได้รับทรัพย์อันน่าตื่นตะลึง อีกทั้งยังทำให้ยอดฝีมือของกองกำลังใหญ่ต่าง ๆ ติดหนี้บุญคุณพวกเขา อีกทั้งยังมีเงื่อนไขสามข้อนั้นด้วย
นับแต่วันนี้ไป เกรงว่าทั่วทั้งแดนใต้คงไม่มีกองกำลังใดกล้าที่จะเป็นศัตรูกับหอหมอปีศาจ เพราะหากทันทีที่กลายเป็นศัตรูของหอหมอปีศาจ ก็มิต่างอะไรกับไปกระทุ้งรังแตน เกรงว่าจุดจบนั้นคงจะอนาถเสียยิ่งกว่าหุบเขาหมอเทวดา
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าเฒ่าหมอเทวดาถูกขังเอาไว้ที่ไหน?”
โม่จิ่นตอบ “ตอนนี้เขาถูกขังเอาไว้ในคุกลับ นายท่านไปเจอเขาเสียหน่อยเถิด!”
“ไปเจอเสียหน่อยก็แล้วกัน!”
ทันทีที่เข้าไปในคุกลับก็พลันได้ยินเสียงผู้เฒ่าหมอเทวดาตะโกนออกมา “มู่เฉียนซี เจ้ารีบฆ่าข้าเสีย! ให้ข้าได้ไปอยู่เป็นเพื่อนท่านกู่จี!”
“ฆ่าข้าเถอะ! รีบฆ่าข้าเถอะ! ให้ข้าตายเสียเถอะ!”
มู่เฉียนซีเปิดปากถามขึ้น “เจ้าอยากตายนักหรือ?”
“มู่เฉียนซี!” เขาจ้องมองที่มู่เฉียนซี
“เจ้าตอบคำถามข้าสักสองสามคำถาม เจ้าไปรู้จักกู่จีนั่นได้อย่างไร” มู่เฉียนซีถามขึ้น
“ท่านกู่จีได้รับบาดเจ็บสาหัสในศึกใหญ่ครั้งหนึ่ง ร่างกายได้ถูกทำลาย และเหลือพลังวิญญาณอยู่แค่เพียงเล็กน้อย นางพบว่าสิ่งแวดล้อมของหุบเขาหมอเทวดาเหมาะแก่การที่นางจะรักษาตัว ดังนั้นแล้วจึงได้อยู่ที่หุบเขาหมอเทวดาเป็นเวลาสิบปี”
“ท่านกู่จีอยากที่จะได้หม้อเทพนิรันดร์เป็นอย่างมาก มันสามารถปรุงยาที่สามารถฟื้นฟูร่างกายของนางขึ้นมาได้ ข้าจึงได้พยายามมาโดยตลอดเพื่อที่จะหาหม้อเทพนิรันดร์ให้แก่ท่านกู่จี แต่ว่าข้านั้นยังมิได้ทำเรื่องที่ท่านมอบหมายได้สำเร็จไปสักเท่าไร ก็กลับต้องทำให้ท่านลำบากไปด้วยเสียแล้ว….”
หมอเทวดาเศร้าโศกเป็นอย่างมาก ในเวลาเดียวกันนั้นก็เกลียดนางเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
มู่เฉียนซีถามขึ้น “เช่นนั้นในตอนที่นางอยู่ในหุบเขาหมอเทวดา นางเคยคลุกคลีกับคนที่คล้ายกับนางหรือไม่ อย่างเช่นพี่สาวผู้นั้นของนาง…..”
“ซี!” จิ่วเยี่ยปรากฏกายขึ้นที่ด้านหลังของมู่เฉียนซีและกอดนางเอาไว้
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องกังวลใจ!” เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ข้างหูของมู่เฉียนซี
เดิมทีเจ้าเฒ่านี่ฆ่าทิ้งเสียก็เท่านั้น
แต่คำพูดสุดท้ายของกู่จีนั้นทำให้นางมิอาจที่จะไม่สนใจได้ และยังมีผู้ที่จะเอาชีวิตของจิ่วเยี่ยอีกผู้หนึ่งที่แฝงตัวอยู่ นางหวังว่าจะสามารถเจอตัวศัตรูได้เหมือนดั่งตามรอยรากใบที่เลื้อยอยู่บนดินไปจนเก็บลูกฟักทองได้
“ไม่มี! ท่านกู่จีอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด ข้าเองก็ไม่รู้ว่านางมีพี่สาวอีกผู้หนึ่ง สิ่งที่ข้ารู้ก็ได้บอกเจ้าไปจนหมดแล้ว เจ้าฆ่าข้าเสียเถอะ มอบความสบายให้แก่ข้าเถอะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าให้คนนอกอีกคนนึงจัดการเถอะ! นั่นเป็นเรื่องที่เจ้าติดค้างตระกูลจวินเอาไว้!”
เจ้าเฒ่านี่ มู่เฉียนซีได้มอบให้จวินโม่ซีจัดการเสีย จวินโม่ซีเองก็ได้จัดการให้เจ้าหมอนี่หลุดพ้นไปอย่างสบาย ๆ
หุบเขาหมอเทวดาล่มสลาย ความแค้นของจวินโม่ซีและมู่เฉียนซีที่มีต่อหุบเขาหมอเทวดาก็ได้จบสิ้นลงแล้ว
ในตอนนี้เอง ที่ทวีปเซี่ยโจว แสงสีขาวแสงหนึ่งก็ได้สว่างวาบขึ้นที่แคว้นจื่อเยี่ย
มิติแห่งหนึ่งได้ถูกเปิดออก เสียงที่อ่อนโยนแต่เมื่อได้ยินแล้วกลับทำให้ผู้คนขนลุกซู่ขึ้นมา “แคว้นจื่อเยี่ย ข้ากลับมาแล้ว!”
“ครั้งนี้ ข้าจะต้องไม่ให้เจ้าได้ตายดีแน่ มู่เฉียนซี!”