ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 857 มึนเมาและลุ่มหลง

มู่เฉียนซีกล่าว “เหลยหมิง ข้าคอไม่แข็ง ดื่มชาแทนเหล้าเป็นเช่นไร?”

“ไม่มีปัญหา!” ภายใต้สายตาที่น่ากลัวของจิ่วเยี่ย เหลยหมิงก็ไม่กล้าดึงดัน ดื่มชาแทนเหล้าก็ดื่มชาแทนเหล้า

หลังจากที่ดื่มหมดหนึ่งจอก ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารนี้ของจิ่วเยี่ย เขาจำต้องรีบออกห่างไปให้ไกล!

เขาคิดในใจว่า ‘ชายผู้นี้โผล่มาจากที่ใดกันแน่’

งานเลี้ยงฉลองนี้ เป็นการเฉลิมฉลองที่หอหมอปีศาจได้กำจัดหุบเขาหมอเทวดาได้อย่างราบเรียบ ในขณะเดียวกันก็เลี้ยงฉลองที่หอหมอปีศาจของพวกเขาได้กลายเป็นกองกำลังที่ไม่มีผู้ใดในแดนใต้กล้าขย่มอีกด้วย

ตอนนี้โม่จิ่นรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง โม่ซางคงเดินเข้ามาและกล่าวว่า “อาจิ่น ขอแสดงความยินดีด้วย แล้วก็ยินดีกับเฉียนซีด้วย”

ข้างกายของมู่เฉียนซีมีดาวมฤตยูอย่างจิ่วเยี่ยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ไม่สามารถเข้าใกล้มู่เฉียนซีได้ โม่ซางคงจึงทำได้แค่มาหาโม่จิ่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ขอบใจมาก!” โม่จิ่นหัวเราะและยิ้มพลางกล่าว

งานเลี้ยงท่ามกลางแสงไฟ ความสนุกสนานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ตูม!

ปัง ปัง ปัง!

ตอนนี้ บนท้องฟ้าของสำนักศึกษาซวนเสียได้จุดพลุหลากสีขึ้น ทำให้เสียงโห่ร้องยินดีของทุกคนยิ่งดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

และตอนนี้จิ่วเยี่ยก็ได้กอดมู่เฉียนซีนั่งอยู่บนพื้นหญ้าเพื่อชมความงดงามของพลุนั้น เขายื่นหน้าไปกระซิบข้างหูมู่เฉียนซีว่า “ซีรู้สึกหรือไม่ว่าดื่มเหล้าแค่จอกเดียวไม่พอ!”

“ไม่ได้รู้สึกหนิ อีกอย่างข้าก็ไม่ได้คอแข็งด้วย!” มู่เฉียนซีกล่าว

“ไม่เป็นไร มีข้าอยู่ด้วย คอไม่แข็งก็ลองดูได้”

“ข้าว่าช่างมัน……”

ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าริมฝีปากของตนเองนั้นถูกประกบ รสชาติและกลิ่นอันหอมเข้มข้นของเหล้านั้นได้ถ่ายเทเข้าในปากของมู่เฉียนซี

“อือ!”

นึกไม่ถึงว่าจิ่วเยี่ยจะใช้วิธีเช่นนี้ป้อนเหล้าให้นางอย่างไม่ลังเล มู่เฉียนซีอยากจะผลักเขาออก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ผลักไม่ออก

เหล้าหนึ่งคำถูกปล่อยเข้า และมีหยดน้ำเล็ก ๆ ติดอยู่ที่มุมปากของมู่เฉียนซี

ริมฝีปากของจิ่วเยี่ยเลียริมฝีปากของมู่เฉียนซีอย่างช้า ๆ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “เหล้าที่ย้อมไปด้วยกลิ่นอายของซี มันยิ่งอร่อยมากเลยทีเดียว”

ริมฝีปากที่งดงามนั้นช่างทำให้สับสนเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แววตาและใบหน้าที่มีเสน่ห์นั้นงดงามจนทำให้ผู้คนมึนเมาและลุ่มหลงได้

“ซีอยากได้อีกใช่หรือไม่?”

คล้ายกับว่าถูกมอมเมาก็มิปาน มู่เฉียนซีพยักหน้าอย่างช้า ๆ และริมฝีปากก็ถูกประกบอีกครั้ง

จิ่วเยี่ยกำลังพัวพันอยู่กับมู่เฉียนซี และทุกคนกำลังส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีอย่างเต็มที่ แต่ทันใดนั้นเอง เสียงโกรธเกรี้ยวเสียงหนึ่งตะโกนลั่นขึ้นอย่างผิดเวลา

“มู่เฉียนซี! โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”

ทุกคนต่างตกใจขึ้น ผู้ใดกันที่กล้าหาญบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ นึกไม่ถึงว่าจะก่อเรื่องขึ้นในงานเลี้ยงฉลองของหอหมอปีศาจ

ณ บัดนี้ ที่จวนตระกูลมู่ แคว้นจื่อเยี่ย ดินแดนเซี่ยโจว!

กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายร่างกำลังเข้ามาใกล้ เหล่าองครักษ์ที่ประจำอยู่ในจวนตระกูลมู่ต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น และรีบกล่าวว่า “มีศัตรูลอบโจมตี!”

“ป้องกันเอาไว้!”

“เร็วเข้า!”

ตูม ปัง ปัง!

ร่างหลายร่างบุกเข้ามาในจวนตระกูลมู่ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าในจวนตระกูลมู่นั้นจะหาผู้ที่พวกเขาตามหาไม่เจอ

แกร่ก!

มือเรียวยาวคู่หนึ่งได้บีบคอคนผู้หนึ่งเอาไว้พลางกล่าว “มู่เฉียนซีกับมู่อวู่ซวงอยู่ที่ไหน?”

“ต่อให้พวกข้าตาย ก็ไม่มีวันทรยศหักหลังท่านผู้นำ!”

แกร่ก!

มือคู่นั้นเพิ่มแรงบีบแรงขึ้น ทันทีที่เพิ่มแรงบีบ คนผู้นั้นก็ได้สิ้นใจลงแล้ว

นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”

ชายชราผู้หนึ่งกล่าวขึ้นว่า “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ คนพวกนี้ก็เป็นแค่พวกมดปลวกเท่านั้น พวกเราไม่จำเป็นต้องลดตัวไปลงมือหรอก!”

“มดปลวกเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเรา!”

คนเหล่านี้บ้างก็มีพลังวิญญาณขั้นราชา แข็งแกร่งสุดก็แค่ขั้นจักรพรรดิเท่านั้น

ฆ่ามดปลวกเช่นนี้ ช่างเป็นการดูถูกพวกเขาเสียจริง!

จากนั้นก็มีคนกล่าวขึ้นว่า “ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ ท่านหัวหน้าตำหนักได้สั่งเอาไว้แล้ว ถึงแม้ว่าแคว้นจื่อเยี่ยของดินแดนเซี่ยโจวจะเป็นแคว้นเล็ก ๆ เปรียบเสมือนมดปลวก แต่ก็อย่าได้ลงมือสังหารมากเกินไปจะดีกว่า!”

“ภารกิจของพวกเรา ก็เพียงแค่ปกป้องธิดาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น!”

“ทำลายตระกูลมู่ให้สิ้น อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว คนเพียงแค่นี้ ก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่อันใดหรอก หากพวกเจ้าไม่ฆ่า ข้าลงมือเอง”

ตาเฒ่ากลุ่มนี้ นึกไม่ถึงว่าจะไม่เห็นธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างนางอยู่ในสายตา

ตูม ปัง ปัง!

ร่างชุดขาวร่างหนึ่งลงมือทำลายตระกูลมู่อย่างบ้าคลั่ง เจอผู้ใดลงมือฆ่าหมด!

ตระกูลมู่เกิดการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเช่นนี้ ทางราชสำนักก็ได้รู้ข่าวแล้ว

“รายงานฝ่าบาท มียอดฝีมือได้ลงมือบุกตระกูลมู่พะยะค่ะ ความแข็งแกร่งของพวกเขาอย่างน้อยก็……เอ่อ……อย่างน้อยก็ขั้นมหาจักรพรรดิพะยะค่ะ!”

บัดนี้ ตระกูลมู่ได้กลายเป็นตระกูลที่ผู้คนในเซี่ยโจวเคารพยำเกรงเป็นอย่างยิ่ง

ไม่เพียงแต่จะไม่มีผู้ใดในแคว้นจื่อเยี่ยกล้ายั่วยุ ต่อให้ทั่วทั้งเซี่ยโจวก็ไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุตระกูลมู่

ในเวลานี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนมาลงมือกับตระกูลมู่เช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเสียจริง!

และมู่เฉียนซีที่อยู่แดนไกลอย่างสำนักศึกษาซวนเสียยังไม่รู้ว่าฐานที่มั่นของตระกูลมู่ที่ท่านพ่อของตนเองทิ้งไว้ให้นาง ตอนนี้กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งทำลายลงแล้ว

เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อนางเช่นนี้ ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ตั้งสติขึ้นมาได้ ไม่ได้ถูกจิ่วเยี่ยผู้นี้ล่อลวง

นางกลืนยาแก้เมาเข้าไปหนึ่งเม็ด ใบหน้าที่แดงก่ำนั้นก็กลับมาเป็นปกติเช่นเดิม

คนผู้นั้นยังคงตะโกนเรียกชื่อนางอย่างอยู่ มู่เฉียนซีลุกขึ้น และกล่าวกับจิ่วเยี่ยว่า “องค์ชายจิ่วเยี่ย ข้าต้องขอตัวก่อน เจ้าค่อย ๆ ดื่มล่ะ!”

ดวงตาของจิ่วเยี่ยฉายแววอันตรายออกมา ทันใดนั้นบรรยากาศรอบ ๆ ก็พลันเปลี่ยนเย็นยะเยือกขึ้น พวกเขาต่างก็ตกใจขึ้น เหตุใดจู่ ๆ อากาศได้พลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกเช่นนี้ได้

มู่เฉียนซีเดินออกไป นางยิ้มพลางมองไปที่ชายหนุ่มผู้นั้น และกล่าวว่า “โย่! ผ่านการทดสอบของหอโอสถมาได้เร็วมาก นึกไม่ถึงว่าจะออกมาในตอนนี้”

ผู้ที่มานี้เป็นหนึ่งในนักเรียนห้องเจ็ดของหน่วยสำนักปรุงยา ซูเซิงผู้สารพัดพิษ

ซูเซิงกล่าว “บัดซบ! ทุกอย่างล้วนแต่เป็นเพราะเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าไปเสนอเงื่อนไขบ้า ๆ บอ ๆ นั่นกับหอโอสถ พวกเราก็คงจะไม่ได้ไปอยู่ในสถานที่นรก ๆ นั่น”

ใช! หอโอสถก็คือนรก!

การทดสอบในหอโอสถ พวกเขาถูกหอโอสถผู้วิปริตผู้นั้นทรมานให้ตายทั้งเป็น

จากนั้นก็ได้มีข่าวออกมาจากหอโอสถว่านั่นเป็นข้อเสนอของนาง เป็นข้อเสนอตอนที่นางทดสอบผ่านจากหอโอสถ

“เป็นเจ้าที่เป็นคนไปบอกท่านอาจารย์มู่แน่ ให้อาจารย์มู่โยนพวกเราไปที่สถานที่เช่นนั้น”

พวกเขาไม่กล่าวโทษโกรธท่านอาจารย์ ถึงอย่างไรเสียท่านอาจารย์มู่ก็หวังดีต่อพวกเขา แต่ก็จำใจต้องโกรธหญิงสาวผู้นี้!

โกรธเกรี้ยวมาก ส่งให้พวกเขาไปตายชัด ๆ โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมสิ้นดี!

ทว่า มู่เฉียนซีก็ไม่ได้โกรธเขา นางยิ้มพลางกล่าวว่า “สามารถออกมาได้เช่นนี้ ดูท่าผลลัพธ์ก็คงจะไม่เลว รอให้เจ้าเอาชนะราชาแห่งพิษได้เมื่อไหร่ เจ้าก็จะได้เป็นหัวหน้านักพิษแห่งหอหมอปีศาจ!”

ราชาแห่งพิษรู้สึกไม่เป็นสุขแล้ว “นายท่าน เจ้าหนูผู้นี้คิดอยากจะเอาชนะข้า เกรงว่าต้องฝึกต่อไปอีกสิบปี!”

ซูเซิงจบการศึกษาจากการฝึกฝนของปีศาจได้ในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ หากคิดจะเอาชนะราชาแห่งพิษ ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนอีกสิบปีหรอก

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านอาจารย์มู่ของเจ้าบอกเอาไว้ว่า หากเจ้าเอาชนะราชาแห่งพิษได้ เจ้าก็จะได้กลายเป็นหัวหน้านักพิษแห่งหอหมอปีศาจ แล้วเขาก็จะมอบของขวัญให้เจ้าหนึ่งชิ้น อีกทั้งยังบอกเรื่องที่จะทำให้เจ้าประหลาดใจอีกด้วยนะ!”

“จริงเหรอ?” เมื่อได้ยินว่าท่านอาจารย์ของตนเองมีรางวัลให้เขาเช่นนี้ ดวงตาของซูเซิงก็เปล่งประกายขึ้น

“เป็นเรื่องจริงแน่นอน!”

ซูเซิงกล่าว “เช่นนั้น ข้าจะขอท้าประลองกับเจ้าเดี๋ยวนี้ ราชาแห่งพิษ!”

ราชาแห่งพิษยิ้มพลางกล่าว “เจ้าหนูมีความกล้าเช่นนี้ เช่นนั้นราชาแห่งพิษอย่างข้าก็จะทำให้งานเลี้ยงฉลองในคืนนี้ครึกครื้นมากยิ่งขึ้น จะประลองกับเจ้าสักตั้ง!”

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset