เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “อีกทั้งยังเป็นน้องสาวที่สวยงามอย่างมากผู้หนึ่งอีกด้วย”
นางมองสํารวจใบหน้าอันประณีตของมู่เฉียนซี ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก ใบหน้านั้นไร้ซึ่งจุดบกพร่อง อีกทั้งยังมีผิวพรรณที่เหมือนหิมะที่สามารถเป่าให้แตกแยกออกจากกันได้
เย่เฉินมองหญิงสาวตรงหน้านี้อย่างพิจารณา รู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้งดงามเสียจนมากเกินไปหน่อยอยู่บ้าง และไม่ควรที่จะอยู่ในสถานที่เช่นนี้เลย!
เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “พี่ชายเย่ ท่านชมดูจนเข้าภวังค์ไปแล้วใช่หรือไม่! งดงามละสิ!”
เย่เฉินกล่าว “ในใจของข้านั้น ฉีเอ๋อร์ เจ้าเป็นผู้ที่งดงามที่สุดตลอดกาล!”
ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อและกล่าวว่า พี่ชายเย่ รีบดูเถิดว่าเหตุใดนางถึงได้สลบไป ดูแล้วเห็นได้ชัดว่านางมิได้รับบาดเจ็บภายนอกแต่อย่างใด”
เย่เฉินกล่าว “เจ้าก็รู้ ๆ อยู่ว่าข้านั้นเป็น….”
“ไม่หรอก พี่ชายเย่เก่งกาจยิ่งนัก!” เหยียนเซี่ยฉีกล่าว
“ข้าพอรู้วิชาทางการรักษาอยู่บ้าง จะช่วยดูนางก็แล้วกัน!” เย่เฉินคุกเข่าลงแล้วตวรจดูร่างกายของมู่เฉียนซีคร่าว ๆ จากนั้นก็กล่าวขึ้น “ไม่เป็นอะไรนี่ นางแค่เพียงสูญเสียพลังจิตมากเกินไปก็เท่านั้น พักสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”
“มิต้องกินยาเม็ดหรอกหรือ?” เหยียนเซี่ยฉีกล่าวถามขึ้น
“ยาเม็ด….” ถึงแม้ว่าสถานะตัวตนของเซี่ยฉีนั้นจะไม่ธรรมดาเลยในตระกูลของนาง แต่ทว่ายาเม็ดนั้นมิใช่สิ่งที่จะสามารถนำออกมาได้ตามใจชอบ
“ข้าจำได้ว่า ควรจะกินเข้าไปสักเม็ดถึงจะถูก!” เหยียนเซี่ยฉีได้นำยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วป้อนมู่เฉียนซีเข้าไป
ร่างของมู่เฉียนซีที่สูญเสียพลังจิตไปจนหมดสิ้นกลับพลันรู้สึกได้ว่าในร่างกายนั้นมีพลังที่เพิ่มขึ้นมาและพลังจิตนั้นก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้า ๆ เหยียนเซี่ยฉีเฝ้าอยู่ที่ข้างกายของมู่เฉียนซีเพื่อรอให้นางตื่นขึ้นมา
เย่เฉินเองก็รู้สึกหมดอารมณ์เป็นอย่างมาก เดิมทีมันก็ไม่ง่ายเลยที่ทั้งสองจะหาเวลาได้อยู่ด้วยกันสองคน แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนผู้หนึ่งโผล่ออกมากลางอากาศแล้วทำแผนการที่วางไว้แต่เดิมพังลง
หลังจากหลับไปอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดตาทั้งสองข้างของมู่เฉียนซีก็ได้ลืมขึ้น
สองมือของนางนวดที่ขมับเบา ๆ เมื่อค่ายกลส่งระยะไกลเริ่มทำงาน มู่หรูเหยียนได้ปราฏตัวขึ้นแล้วให้คนทำลายมัน จากนั้นนางก็ได้พลัดหลงเข้าไปในห้วงแห่งกระแสของมิติ หลังจากที่สุ่ยจิงอิ๋งปกป้องนาง นางก็ได้เดินทางผ่านไปเป็นระยะทางที่ไกลแสนไกลจนกระทั่งนางสลบไป
ที่นี่คือที่ไหน?
“ตื่นแล้ว?” ยังไม่ทันรอให้มู่เฉียนซีได้สำรวจสถานการณ์รอบ ๆ ด้าน หญิงสาวที่น่ารักและเฉลียวฉลาดผู้หนึ่งได้ขยับเข้ามาอยู่ตรงหน้าของนาง
มู่เฉียนซีลุกขึ้นมานั่งแล้วจับตัวนางเอาไว้พร้อมถามขึ้น “เจ้าเป็นใคร? ที่นี่คือที่ไหน?”
“ปล่อยตัวฉีเอ๋อร์” มู่เฉียนซีที่เป็นคนแปลกหน้าได้พลันไปจับตัวคนที่อยู่ในใจของผู้อื่นเข้า นั่นจึงทำให้เย่เฉินร้อนรนขึ้นมา
มู่เฉียนซีเองก็พบว่าทั้งสองนั้นก็มิได้มีเจตนาร้าย นางเปิดปากกล่าวขึ้น “ข้ามิได้ต้องการที่ทำร้ายพวกเจ้า เพียงแต่ว่าข้าเพิ่งมาถึงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยก็เลยอยากจะรู้ให้ชัดเจน”
เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “ที่แห่งนี้คือพื้นที่ทุรกันดารที่ชานเมืองเหยียน”
มู่เฉียนซีตะลึงงัน “พื้นที่ทุรกันดาร?”
นางไม่คุ้นชื่อสถานที่แห่งนี้จริง ๆ
นางถามขึ้น “ที่แห่งนี้คือแดนตะวันออก? แดนเหนือ? หรือเป็นแดนตะวันตกกัน?” จะอย่างไรเสีย ที่แดนใต้นั้นไม่มีสถานที่เช่นนี้อยู่อย่างแน่นอน
เย่เฉินกล่าว “ที่แห่งนี้คือพื้นที่ทุรกันดารแห่งแดนตะวันออก เจ้ามาจากที่ใด? เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่?”
กับคนแปลกหน้าแล้ว เย่เฉินยังคงรักษาความตื่นตัวเอาไว้!
มู่เฉียนซีกล่าวตอบ “ข้ามาจากแดนใต้ ถึงต่อให้ข้าบอกชื่อของข้าไปพวกเจ้าก็ไม่รู้จัก ข้าอยากที่จะรู้จักสถานที่ที่ข้ามาอยู่เสียหน่อย จากนั้นก็จะติดต่อกับมิตรสหายของข้า พวกเจ้าจะได้มิต้องกังวลใจ พวกเจ้าสามารถพาข้ากลับไปในเมืองได้หรือไม่?”
เดิมทีเป้าหมายของนางคือเดินทางไปยังเมืองตงจี๋ซึ่งเป็นใจกลางของแดนตะวันออกโดยใช้ค่ายกลส่งระยะไกล แต่นึกไม่ถึงเลยว่านางจะมายังฝั่งตะวันตกของแดนตะวันออกเสีย
เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “ที่จริงแล้ว….ตอนนี้พวกเรายังไม่สามารถกลับไปที่เมืองได้ ข้า…”
มู่เฉียนซีจึงถามขึ้น “เช่นนั้นก็มิรบกวนแล้ว ทางไปยังเมืองนั้นอยู่ทางใด?”
“ทางนั้น!” เย่เฉินกล่าวพลางชี้นิ้วบอกทางออกไป
“ขอบคุณมาก!” มู่เฉียนซีต้องการที่จะไปแล้วจริง ๆ
เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “พี่ชายเย่ หรือไม่ก็พวกเรากลับกันไปไวกว่าเดิมหน่อยเถิด! นางเป็นแม่นางน้อยตัวคนเดียว อีกทั้งยังไม่รู้เส้นทางอีก ถ้าหากว่าไปพบเจออันตรายอะไรระหว่างทางเข้าจะทำเช่นไร?”
เย่เฉินกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “แม่นางน้อยผู้นี้มิธรรมดา คนผู้หนึ่งสามารถตื่นขึ้นมาในที่ที่ไม่คุ้นเคยแต่กลับไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ด้วยระยะเวลาแค่เพียงขยับกายก็ได้ปล่อยกลิ่นอายออกมา มันมิใช่อะไรที่กลุ่มกองกำลังธรรมดาทั่วไปจะสามารถเลี้ยงดูฝึกฝนออกมาได้ พวกเราอย่าไปยุ่งเสียจะดีกว่าเพื่อจะได้มิต้องเดือดร้อน!”
ซึบ!
ในตอนนี้เอง ก็พลันเกิดเสียงดังแหวกอากาศลอยมา!
มู่เฉียนซีที่เพิ่งเดินจากไปได้ไม่ไกลนักก็ได้พลันหมุนตัวย้อนกลับมา จากนั้นก็ได้ชักกระบี่มังกรเพลิงออกมา!
“มังกรเพลิงสังหาร!”
บึ้ม!
มังกรเพลิงสีแดงเข้มพุ่งออกไปและกลืนกินลูกศรที่ถูกยิงออกมา
สีหน้าของเย่เฉินมืดครึ้มลงอย่างทันใดและมายืนกันอยู่ที่ด้านหน้าของเหยียนเซี่ยฉี!
มู่เฉียนซีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกมา สถานที่แห่งนี้มีวิสัยทัศน์ในการมองเห็นที่กว้างไกล พวกเจ้าคิดว่าทำตัวหลบ ๆ ซ่อน ๆ แล้วจะไม่มีใครสามารถพบพวกเจ้าเข้าได้หรือ?”
ฟึบ ฟึบ ฟึบ!
บุคคลในชุดสีดำจำนวนหลายคนปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา แต่ละคนมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม พวกนั้นไม่อ่อนแอเลย!
พวกเขามองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าว “สาวน้อย เห็นแก่ว่าเจ้าเป็นผู้ที่ผ่านทางมาผู้หนึ่ง อย่างไรเสียอย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า เป้าหมายของพวกเราคือพวกเขาทั้งสองคน”
“พวกเรา?” เหยียนเซี่ยฉีและเย่เฉินเบิกตากว้างโพรง
ฉีเอ๋อร์เป็นคนที่เป็นมิตรมาโดยตลอดและมิเคยไปล่วงเกินผู้ใด หรือว่าจะเป็นเพราะนาง?
เย่เฉินกล่าวขึ้น “แม่นาง เมื่อครู่นี้ฉีเอ๋อร์ได้ใช้ยาเม็ดระดับห้าที่มีติดตัวนางอยู่ช่วยเจ้า มิเช่นนั้นแล้วไม่รู้ว่าเจ้าจะต้องหลับใหลไปถึงเมื่อใด ตอนนี้ข้าขอร้องเจ้า ให้พาฉีเอ๋อร์หนีไปอย่างปลอดภัย!”
“เรื่องนี้ คุณหนูใหญ่เหยียนจะไปไม่ได้ มิเช่นนั้นแล้วชีวิตไอ้เด็กด้อยค่าเช่นเจ้ามันจะไปมีราคาเท่าไรกัน” หนึ่งในคนเหล่านั้นกล่าวออกมา
มู่เฉียนซีมองไปทางเย่เฉินแล้วกล่าว “พวกเจ้าช่วยข้าเอาไว้ พวกเจ้าสามารถยื่นเงื่อนไขกับข้าได้หนึ่งข้อเท่านั้น แต่ทว่าคำขอนี้มิใช่เป็นการขาดการคิดทบทวนไปหน่อยหรือ?”
เย่เฉินกล่าว “ข้ารู้ว่าการพาฉีเอ๋อร์ไปด้วยนั้นทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตราย แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่สามารถช่วยนางที่ข้าคิดออกในตอนนี้”
“ที่ข้าพูดเรื่องขาดการคิดทบทวนนั้นมิใช่ปัญหาที่ว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย แต่เป็น….” กระบี่มังกรเพลิงของมู่เฉียนซีชี้ไปทางคนเหล่านั้นพลางกล่าวออกมา
“ทำไมเจ้าถึงไม่ให้ข้าฆ่าพวกนั้นเลยเสีย หรือไม่ก็มีอะไรมากกว่านั้น….” อย่างไรเสีย มันก็จัดการได้ราบรื่นอยู่ดี
ชายชุดดำเหล่านั้นหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า! สาวน้อย เจ้าต้องการที่จะฆ่าพวกเรา?”
“พลังในการปัดป้องลูกศรเมื่อครู่นี้ไม่เลวเลย แต่ถ้าหากว่าข้ามิได้มองผิดไปล่ะก็ เจ้าเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตระดับจักรพรรดิขั้นที่สามเท่านั้นกระมัง!”
“……”
ระดับสาม! เหยียนเซี่ยฉีตะลึงงัน
นางกล่าว “การพบเจอของพวกเราที่ไม่รู้จักกันนั้นเป็นชะตาลิขิตอย่างหนึ่ง แต่หากวันนี้ข้าต้องตายก็จะขอตายอยู่ด้วยกันกับพี่ชายเย่ อย่างไรเสียเจ้าไปก่อนเถิด!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีอะไรให้น่าเหนื่อยยากมากมายนัก มันง่ายดั่งเพียงกระดิกมือเท่านั้น!”
ร่างกายของมู่เฉียนซีขยับอย่างรวดเร็ว นางได้เริ่มลงมือแล้ว!
“รวดเร็วยิ่งนัก!”
คนเหล่านี้อย่างน้อย ๆ ที่สุดก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิแห่งภูต แต่ทว่าพวกเขากลับมิได้มองเห็นอย่างชัดเจนถึงความรวดเร็วของมู่เฉียนซีเลย!
ฟึบ ฟึบ ฟึบ!
มู่เฉียนซีมิได้เปลืองแรงกับพวกเขาเท่าไรนักก็ได้ปล่อยเข็มยาออกมา!
เข็มยาหลายเข็มพุ่งไปทางคนเหล่านั้นในมุมที่สามารถรับมือได้ยากยิ่ง แล้วยิ่งไปกว่านั้นมู่เฉียนซีมีความรวดเร็วที่ไวมากจริง ๆ พวกเขาแต่ละคนจึงได้รับโชคเข้าเสีย
ซึบ ซึบ ซึบ!
ภายในระยะเวลาเพียงชั่วพริบตา ห้าคนที่มากันนั้นก็ได้ล้มลงไปกองบนพื้น!