ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 885 สามตระกูลโอสถที่ยิ่งใหญ่

เย่เฉินกล่าว “ข้านึกว่าตนเองระงับอารมณ์และคำพูดได้ดี คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเจ้ามองออก ใช่ ข้าตั้งใจ”

“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้าลงมือ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นนักปรุงยา สําหรับนักปรุงยาแล้ว สมุนไพรวิญญาณระดับสูงนั้นน่าสนใจมากสําหรับพวกเขา ทั่วทั้งเมืองเหยียนเฉิง สมุนไพรวิญญาณระดับสูงสุดที่ข้ารู้ก็คือดอกกล้วยไม้หงส์ดำ”

“ข้าก็เคยลังเลที่จะให้เจ้าไปที่ืทุ่งศิลาดำ ข้ากลัวว่าเจ้าจะตกอยู่ในอันตรายในทุ่งศิลาดำ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้าและฉีเอ๋อร์ ข้าก็ไม่ต้องการให้เจ้าเสี่ยงอันตราย แต่ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงเดิมพัน”

มู่เฉียนซีถามขึ้น “เดิมพัน? เจ้ากำลังจะเดิมพันอะไร?”

เย่เฉินกล่าว “เดิมพันกับคนที่มีอํานาจช่วยข้า”

มุมปากของมู่เฉียนซีโค้งขึ้นเล็กน้อย “อยากให้ข้าช่วยเจ้า เจ้าสามารถเอาอะไรออกมาได้บ้าง?”

“เนื่องจากเจ้าเป็นนักปรุงยา และเป็นนักปรุงยาที่คลั่งไคล้กับสมุนไพรวิญญาณมาก ดังนั้นข้าจึงรู้สึกว่าข้าสามารถนําสิ่งที่เจ้าพอใจออกมาได้” ในจุดนี้ เย่เฉินมั่นใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

“งั้นเจ้าว่ามา นั่นมันคืออะไร?” มู่เฉียนซีถามด้วยความสงสัย

เย่เฉินมองกู้ไป๋อี และกล่าวเสียงเข้มว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ข้าไม่อยากให้ใครรู้เพิ่มอีก”

มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋ เจ้าไปรอข้าข้างนอก!”

นางเองก็เช่นกัน นางไม่เชื่อใจกู้ไป๋อี!

ดวงตาของกู้ไป๋อีเป็นประกายเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

มู่เฉียนซีกล่าวกับเย่เฉินว่า “ตอนนี้เจ้าพูดได้แล้ว!”

เย่เฉินกล่าว “แม่นางมู่ เจ้าเคยได้ยินสามตระกูลโอสถโบราณมาก่อนหรือไม่?”

มู่เฉียนซีอึ้งไปเล็กน้อย สามตระกูลโอสถโบราณ!

นางกล่าวว่า “รู้แล้วอย่างไร”

จวินโม่ซี ก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลโอสถโบราณ ตระกูลจวินถูกทําลายลงเพราะมีแผนที่ม้วนไม้ไผ่นิรันดร์

แผนที่ม้วนไม้ไผ่อีกสองแผนที่ก็กระจัดกระจายอยู่ด้านนอก และอีกสองตระกูลโอสถใหญ่ก็เกรงว่าจะจบลงด้วยไม่ดีเช่นกัน

“สามตระกูลโอสถโบราณ นําโดยตระกูลจวิน ตามด้วยตระกูลเย่ ตระกูลเสี่ยว ข้าเป็นหนึ่งในคนของตระกูลเย่”

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วกล่าว “ตระกูลเย่ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลโอสถโบราณตกต่ำจนเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าจะให้อะไรข้า?”

“ถึงแม้ว่าตระกูลเย่จะถูกทำลายไปแล้ว แต่สมุนไพรล้ำค่าในคลังโอสถของตระกูลเย่ของข้านั้นมิได้ถูกศัตรูทำลายไปด้วย”

“แต่ในตอนนี้สมุนไพรวิญญาณก็ไม่ได้อยู่กับตัวเจ้า”

ถ้าหากว่ามันอยู่ล่ะก็ ตระกูลเย่ก็คงไม่ตกต่ำและเป็นสำนักนิกายครึ่งระดับอย่างฝืนทนเช่นนี้

“แต่ข้ารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “เช่นนั้น สมุนไพรวิญญาณในนี้ เจ้าพูดมาสิว่าคลังโอสถนั้นของตระกูลเย่มีกี่ชนิด”

มู่เฉียนซีได้หยิบใบสูตรยาหยินหยางแห่งโชคลาภออกมา เมื่อเย่เฉินมองดูก็มีอาการตกตะลึงอยู่บ้าง เขากล่าว “นี่….นี่มันเป็นใบสูตรยาหยินหยางแห่งโชคลาภ เจ้า….เจ้ากลับมีสูตรยานี้อยู่”

มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองสูตรยานี้ไม่ออก แต่ทว่าเย่เฉินกลับมองมันออก

สำหรับในเรื่องสถานะตัวตนของเขานั้น มู่เฉียนซีได้คลายความสงสัยลงมาแล้วบ้างบางส่วน

“โอ้! เจ้ารู้สูตรโอสถนี้?” มู่เฉียนซีกล่าว

เย่เฉินกล่าว “พวกเราสามตระกูลโอสถโบราณนั้นเป็นตระกูลที่คอยปรนนิบัติท่านหม้อวิญญาณนิรันดร์ สูตรการทำยาหยินหยางแห่งโชคลาภนี่ก็เป็นท่านหม้อวิญญาณนิรันดร์สร้างมันขึ้นมา สูตรโอสถที่สูงที่สุดของตระกูลเย่ ลือกันว่ายานี้ แม้ผู้ที่ตายไปแล้วแต่ขอแค่เพียงวิญญาณยังไม่แตกสลายไป ก็สามารถทำให้คนผู้นั้นฟื้นขึ้นมาได้ คนตายกลับฟื้นคืนชีพ ถึงขนาดที่ว่าแย่งชิงชีวิตกับฟ้า เปลี่ยนชะตาอย่างสวนทางกับสวรรค์!”

มู่เฉียนซีพยักหน้าแล้วกล่าว “เจ้ากล่าวมิผิด สถานะตัวตนของเจ้านั้น ข้าเองก็ไม่ได้กุมความเคลือบแคลงสงสัยใดเอาไว้ เช่นนั้นเจ้าก็ควรจะตอบคำถามข้าแล้ว”

“ยาหยินหยางแห่งโชคลาภ สิ่งที่ยาเม็ดขั้นนี้ต้องการนั้นเป็นสมุนไพรวิญญาณที่หาพบได้ยากยิ่ง นอกจากดอกกล้วยไม้หงส์ดำที่แม่นางมู่หาเจอ ในคลังโอสถตระกูลข้านั้นมีเพียงแค่ดีงูสวรรค์” เย่เฉินกล่าวตามความจริงออกมา และก็ไม่ได้คิดที่จะให้มู่เฉียนซีช่วยเหลือ

มู่เฉียนซีถามขึ้นด้วยเสียงต่ำ “ชนิดเดียวหรือ?”

ถึงแม้ว่าจะมีชนิดเดียว นางก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาอย่างไม่เลือกวิธีการ

มู่เฉียนซีถามขึ้น “เช่นนั้นแล้วสิ่งที่เจ้าต้องการเล่า? ต้องการให้ข้าช่วยเจ้าฟื้นฟูตระกูลเย่ขึ้นมา?”

เย่เฉินส่ายหน้าแล้วกล่าว “มิใช่ ข้าอยากให้เจ้าช่วยให้ข้ากับฉีเอ๋อร์ได้อยู่ด้วยกัน”

หากไม่ใช่เพราะความรัก ไฉนเลยจะมาบอกความลับอันสำคัญเช่นนี้ที่เก็บมาโดยตลอดแก่ผู้แปลกหน้า!

หากไม่ใช่เพราะความรัก เขาก็จะไม่มากแผนการเช่นนี้!

“เพราะท่านเจ้าเมืองขัดขวาง?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วถาม

เย่เฉินส่ายหัวแล้วกล่าว “มิใช่ หากแต่เป็นผู้ที่มีอำนาจที่สุดในพื้นที่ทุรกันดาร นายน้อยของเมืองแห่งความโกลาหลต้องตากับฉีเอ๋อร์เข้า รอจนเมื่อฉีเอ๋อร์พ้นอายุสิบแปดปีก็จะนำฉีเอ๋อร์ไปเป็นภรรยาน้อย เมืองแห่งความโกลาหลเป็นสำนักนิกายระดับสองแห่งหนึ่ง”

ด้วยมีตระกูลเย่อยู่ มีเมืองเหยียนอยู่ จึงมิอาจที่จะหนีไปด้วยกันได้!

มิเช่นนั้นแล้วเกรงว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำเรื่องดั่งเช่นฆ่าล้างเมืองขึ้นมา ที่แห่งนี้คือทุ่งพื้นที่ทุรกันดาร เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นกันอยู่มิน้อย

“ข้าสามารถหานักฆ่าแล้วส่งไปเชือดเขาได้ เจ้าคิดเช่นไร?” มู่เฉียนซีถามขึ้น

“ฆ่านายน้อยของเมืองแห่งความโกลาหลไป ก็ยังจะมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนเพ่งเล็งไปที่ฉีเอ๋อร์ เพราะว่า….”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้น “เพราะฉีเอ๋อร์นั้นเป็นร่างจิ่วอินซวน เป็นเตาหลอมแห่งสวรรค์?”

“เจ้ารู้?”

“ข้าเองก็มิได้ตรวจร่างกายของฉีเอ๋อร์อย่างละเอียด แต่เป็นเจ้าที่เตือนข้า เมื่อายุสิบแปดปี! การที่ร่างจิ่วอินซวนจะตื่นขึ้นมานั้นต้องใช้เวลาสิบแปดปี เมื่อถึงเวลานั้นแล้วจึงจะสามารถใช้ได้”

เย่เฉินกล่าว “เจ้าไม่ธรรมดาอย่างมากดั่งที่คิดเอาไว้จริง ๆ”

มู่เฉียนซีคิด ๆ ดูแล้วก็กล่าวขึ้น “อยากที่จะปกป้องผู้หญิงที่ใจของเจ้ารัก เจ้าก็ต้องฆ่าคนที่รู้เรื่องนี้ทิ้งเสียให้สิ้น ไม่ให้เหลือแม้แต่เพียงผู้เดียว หรือไม่ก็ตัวของเจ้าเองต้องแข็งแกร่งขึ้นมา แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่ไม่ว่าจะเป็นสำนักนิกายระดับสองหรือสามก็ล้วนแต่ไม่สามารถทำอะไรนางได้”

หญิงสาวที่ไร้เดียงสาและจิตใจดีผู้นั้นมีร่างกายเช่นนี้อีกทั้งยังอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร สำหรับนางแล้วมันมีแต่เรื่องร้ายไร้ซึ่งเรื่องดี ๆ เลยแม้แต่สักเรื่องเดียว

มู่เฉียนซีกล่าวต่อ “สิ่งแรกนั้นง่ายดายกว่ามากนัก แต่ทว่ามันก็เหมือนดั่งมัจฉาหลุดจากตาข่าย เป็นการรักษาตามอาการแต่มิใช่รักษาที่ต้นเหตุ ส่วนสิ่งหลังนั้นยากลำบากกว่ามากนัก”

นางเงยหน้าขึ้นมองเย่เฉินแล้วกล่าวขึ้น “เย่เฉิน จงบอกสิ่งที่เจ้าเลือกแก่ข้า”

“ข้าเลือกสิ่งหลัง ปกป้องนางไปตลอดชีวิตอย่างไร้กังวล” เย่เฉินกล่าวอย่างหนักแน่น

“เจ้าสามารถจ่ายด้วยอะไรได้? ดีงูสวรรค์หนึ่งชิ้นนั้นไม่พอแน่”

“เช่นนั้น หม้อที่สร้างเลียนแบบหม้อเทพนิรันดร์ขึ้นมาหม้อหนึ่ง หม้อเทพไท่อีเล่า?”

“หม้อเทพไท่อี?” มู่เฉียนซีพึมพำเสียงต่ำ

“นี่ก็ยังไม่พอ นอกเสียกจากจะเป็นหม้อเทพนิรันดร์” มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว

เย่เฉินกล่าวอย่างจนปัญญา “หม้อเทพนิรันดร์ ถ้าหากหม้อเทพนิรันดร์อยู่ที่ตระกูลเย่ล่ะก็ พวกเราตระกูลเย่คงมิได้ถูกทำลายลงง่าย ๆ แม่นางมู่ สิ่งที่เจ้าต้องการนั้นข้าไม่สามารถนำมาให้ได้”

มู่เฉียนซีกล่าว “ได้ เช่นนั้นก็เปลี่ยนเงื่อนไข เจ้ามาเป็นสมุนข้าสิบปี ในระยะเวลาสิบปีนี้จะต้องฟังคำสั่งของข้า ห้ามทรยศ เป็นเช่นไร?”

เขามาจากตระกูลโอสถโบราณ เขาหยิ่งยโสไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่ต้องมายอมภักดีกับผู้อื่นถึงสิบปี สิบปีเต็ม…..

เย่เฉินหลับตาทั้งสองข้างลงแล้วกล่าว “เจ้าให้ข้าคิดหน่อยนะ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ให้เวลาเจ้าเพียงหนึ่งวัน หากหนึ่งวันให้หลังแล้วเจ้าไม่ให้คำตอบกับข้า ข้าจะไปจากเมืองเหยียน”

เย่เฉินกล่าว “ข้ารู้แล้ว”

เย่เฉินเปิดประตูแล้วเดินออกไป กู้ไป๋อีเดินเข้ามาแล้วกล่าว “สาวน้อย คุยกับเสือเพื่อขอหนัง เกรงว่าจะโดนมันย้อนเขมือบเอา! มิสู้รีบไปจากพื้นที่ทุรกันดารนี่ แล้วไปที่…..”

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset