เมื่อได้ยินคําพูดของจื่อโยว ดวงตาของกู้ไป๋อีก็หม่นหมองลง
“พูดออกมาเช่นนี้ หมายความว่าอะไร?”
จื่อโยวหัวเราะและกล่าวว่า “ก็เห็นเจ้าเย็นชาราวกับนักปราชญ์ที่ไร้ความปราณี ที่จงใจกระตุ้นเจ้า! ก็เพื่อจะบอกเจ้าว่า เจ้าไม่มีโอกาส”
กู้ไป๋อีกล่าวอย่างเย็นชา “น่าเบื่อ!”
กู้ไป๋อีเองก็โชคร้าย ได้ถูกเจ้านายของตนเองรังเกียจแทบตาย และถูกโยนออกมาอย่างกับมารร้ายนั้นช่างน่าเบื่อยิ่งนัก
อารมณ์ที่น่าเบื่อหน่ายไม่ได้สวยงามเท่าไหร่นัก ดังนั้นแน่นอนว่าจื่อโยวทําได้เพียงทรมานกู้ไป๋อีเท่านั้น
จากประสบการณ์หลายปีที่เขาอยู่ในแวดวงความรัก กู้ไป๋อีผู้นี้ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
หลังจากประมูลยาไปสิบขวดติดต่อกัน มูลค่ารวมของที่ประมูลออกมาก็น่าตกใจมาก
พิธีกรสาวสวยกล่าว “ทุกคนคิดว่าการประมูลยาได้สิ้นสุดลงแล้วหรือ? ในความเป็นจริงมีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ประมูล…”
แปะแปะแปะ! นางตบมือเบา ๆ ไม่นานก็มีคนส่งยาน้ำสิบขวดมาให้
ของเหลวที่อยู่ภายในนั้นใสสะอาด ทุกคนตะลึงงัน “นี่มันคืออะไรกัน?”
“นี่คือยา!”
“เอายาน้ำออกมาประมูลได้อย่างไร? คงไม่ใช่การประมูลที่ผิดพลาดหรอกกระมัง!”
พิธีกรประมูลกล่าวว่า “คําพูดของข้า จะพูดแค่ครั้งเดียว!”
“ของเหลววิญญาณนี้ มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเม็ดยารวมวิญญานระดับปฐพีขั้นสูง ทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าเม็ดยารวมวิญญานคืออะไร? มีเม็ดยารวมวิญญาน พวกเจ้าก็อาจจะสามารถฝึกเป็นนักปรุงยาหรือผู้หลอมอาวุธได้”
“เป็นไปไม่ได้หรอกที่ยาจะสามารถทําถึงได้ขั้นนั้น!”
“โกหก!”
“……”
เมื่อต้องเผชิญกับข่าวที่น่าแปลกใจนี้ พวกเขาล้วนแสดงออกว่ามันยากที่จะเชื่อ
พิธีกรประมูลหัวเราะและกล่าวว่า “พวกเจ้าคิดว่าพวกเราจะเอาชื่อเสียงของโรงประมูลชางหมางมาล้อเล่นงั้นรึ? โอกาสนี้มีเพียงครั้งนี้เท่านั้น ยาน้ำทั้งสิบขวดนี้ถูกบรรจุและนำมาเปิดประมูล หากพลาดมันไปแล้ว เกรงว่าพวกเจ้าจะไม่มีโอกาสนี้อีกตลอดไป”
“ไม่ทราบว่าทุกท่าน ยินยอมจะเดิมพันหรือไม่?”
ทุกคนต่างกำลังลังเลว่าจะเดิมพันหรือไม่เดิมพันดี?
ดวงตาที่ยั่วยวนของพิธีกรประมูลได้มองผ่านไป นางยิ้มและกล่าวว่า “ข้าหวังว่าทุกท่านจะเดิมพันกัน เช่นนี้การประมูลในครั้งนี้ถึงจะสนุกมากขึ้น?”
มู่เฉียนซีหัวเราะและกล่าวว่า “ผู้หญิงคนนี้สามารถร่ายเสน่ห์ได้ดี โรงประมูลชางหมางแห่งนี้ช่างมีฝีมือจริงๆ”
เห็นได้ชัดว่าทักษะร่ายเสน่ห์ของพิธีกรประมูลมีประโยชน์ต่อผู้คนไม่น้อย
นางกล่าว “ยาน้ำทั้งสิบขวดนี้ถูกบรรจุไว้เพื่อประมูลด้วยกัน ราคาเริ่มต้นไม่จํากัด ราคาที่เพิ่มก็ไม่จํากัดเช่นกัน ทุกคนสามารถเพิ่มราคาได้”
นายน้อยหู่กล่าว “เสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ผลกับข้า แต่จะเดิมพันหรือไม่นั้น การประมูลชางหมางไม่จําเป็นต้องนําของแบบนี้ออกมาเพื่อส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตัวเอง”
ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ เขากล่าวว่า “เดิมพัน! เราไม่สามารถซื้อเม็ดยารวมวิญญานได้ หากสิ่งนี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าเม็ดยารวมวิญญาณจริง ๆ มันจะเป็นประโยชน์สําหรับข้าและเจ้า”
พวกเขาล้วนเป็นผู้หลอมอาวุธ การได้สิ่งที่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้นั้นสําคัญสําหรับพวกเขามาก
“หนึ่งล้าน!”
“ห้าล้าน!”
“ยี่สิบล้าน!”
“ห้าสิบล้าน!”
“หนึ่งร้อยล้าน!”
“ห้าร้อยล้าน!” นายน้อยหู่เสนอราคา
มู่เฉียนซีถอนหายใจอย่างไม่รู้จบอีกครั้ง ดูท่าแล้วเมืองหู่เสี้ยวแห่งนี้จะร่ำรวยมากจริง ๆ ก่อนหน้านี้ก็เจ็บหนักไปแล้วครั้งหนึ่ง มาตอนนี้กลับยังมีแรงมาเสนอราคาอีก
ดวงตาของมู่เฉียนซีเป็นประกาย นางยังไม่ลืมว่านายน้อยหู่บอกว่าตนเองเป็นผู้หลอมอาวุธ
แม้ว่าจะเป็นนักหลอมอาวุธ แต่นางกลับรู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณของเขาไม่ค่อยดีนัก? พวกเขาต้องอยากได้ของที่ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณนี้มากแน่
มู่เฉียนซีตะโกนราคาทันที “พันล้าน!”
“สวรรค์! มีคนเสนอราคาพันล้าน!”
“นี่มันสูงเกินไปแล้ว!”
“……”
แววตาของนายน้อยหู่ลุกโชนดั่งเปลวไฟ “เป็นนางอีกแล้ว เป็นนางที่มาขวางทางอีกแล้ว!”
ผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ เขากล่าว “ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็ต้องเอามันมาให้ได้!”
“ข้ารู้!” นายน้อยหู่ตอบ!
“หนึ่งพันหนึ่งร้อยล้าน”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าเสนอไปหนึ่งพันหนึ่งร้อยล้าน ข้าเพิ่มหยกวิญญาณอีกหนึ่งชิ้นก็พอแล้ว พิธีกรประมูลคนสวย นี่ไม่ผิดกฎใช่ไหม!”
พิธีกรประมูลผู้นั้นหัวเราะและกล่าวว่า “แน่นอนว่าไม่ผิดกฎ อย่างไรเสียการประมูลครั้งนี้ ก็เพิ่มราคาได้ไม่จํากัด และหยกวิญญาณอีกชิ้นก็ถือว่าเพิ่มขึ้นเช่นกัน”
รอยยิ้มของนางมีเสน่ห์กินใจคน ในฐานะพิธีกรประมูลในการประมูลครั้งนี้ นางย่อมรู้ดีว่าผู้ที่ส่งของมาประมูลเป็นใคร?
แม้แต่หัวหน้าโรงประมูลก็ยังกลัว ดังนั้นนางจึงต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“เจ้า…เจ้าตั้งใจ!” นายน้อยหู่กล่าวด้วยความโกรธ
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าตั้งใจ ไม่ว่าเจ้าจะเสนอราคาสูงแค่ไหน ข้าก็จะเพิ่มหยกวิญญาณเพิ่มไปอีกหนึ่งชิ้น เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะยอมแพ้ไปตอนนี้”
นายน้อยหู่กัดฟัน “เจ้าต้องการที่จะใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้เพื่อให้ข้ายอมแพ้ ฝันไปเถอะ! แม้ว่าข้าจะยอมแพ้ ข้าก็จะให้ราคาที่เจ้าไม่สามารถจ่ายได้”
“หนึ่งพันสองร้อยล้าน!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “ข้าเพิ่มหยกวิญญาณเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น!”
“หนึ่งพันสาม!”
“เพิ่มอีกชิ้น!”
“……”
ตอนนี้ในโรงประมูลชางหมาง ได้เกิดฉากประหลาดเช่นนี้ขึ้น
ฝ่ายหนึ่งเพิ่มเงินหนึ่งร้อยล้าน ส่วนอีกฝ่ายกลับเพิ่มเพียงหยกวิญญาณหนึ่งชิ้น
เรื่องแบบนี้ เป็นครั้งแรกในโรงประมูลชางหมาง
“สามพันล้าน!”
ราคาของการประมูลสูงขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
มู่เฉียนซีพูดด้วยใบหหน้าเรียบเฉย “เพิ่มอีกชิ้น!”
เหยียนเซี่ยฉีและเจ้าเมืองเหยียนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย “นี่มันมากเกินไปแล้วกระมัง!”
หากอีกฝ่ายยอมแพ้ เมื่อถึงเวลานั้นการจะจ่ายเงินก้อนโตเพื่อซื้อของของตัวเองนั้นช่างน่าขาดทุนเสียจริง
จื่อโยวยืนดูละครสนุก ๆ อยู่ด้านข้าง มีจิ่วเยี่ยอยู่ สาวน้อยคนสวยจะเสียเปรียบได้อย่างไร!
ใบหน้าของกู้ไป๋อียังคงเย็นชา เหมือนพวกเขาไม่เป็นกังวลแม้แต่น้อย!
มู่เฉียนซีกล่าว “เพิ่มหยกวิญญาณเพิ่มอีกชิ้น”
“เจ้า…” ดวงตาของนายน้อยหู่ลุกเป็นไฟ เขาอยากจะพุ่งเข้าไปฉีกมู่เฉียนซีเป็นชิ้น ๆ
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวว่า “ยอมแพ้เถอะ! ถ้ายาน้ำนี้มีประสิทธิภาพเราก็มีวิธีที่จะได้มันมา ไม่จําเป็นต้องเสียเงินฟุ่มเฟือยที่นี่”
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็รู้สึกถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างจิ่วเยี่ย นางอึ้งไปเล็กน้อย “หรือว่าฝั่งเมืองหู่เสี้ยว กําลังวางแผนอะไรอยู่?”
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “ซีอยากรู้เหรอ?”
“แน่นอน!” มู่เฉียนซีพยักหน้า
“ขอความจริงใจหน่อย!” จิ่วเยี่ยจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างเงียบงัน
นายน้อยหู่กล่าว “ถ้าพวกเขาใช้ยานี้มันจะยุ่งยากมาก แล้วพวกเราจะพลาดมันไปทั้งหมด ดังนั้นเราจะเพิ่มมันอีกรอบดีหรือไม่? ท่านผู้อาวุโสใหญ่”
ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้!”
“ข้าเสนอสามพันล้านและเพิ่มหยกวิญญาณสองชิ้น!”
มู่เฉียนซีหัวเราะอย่างสนุกสนาน “เจ้าเพิ่มอีกสองชิ้น!”
“หรือว่าอนุญาตให้เพียงเจ้าที่สามารถเพิ่มชิ้นเดียวได้ แต่ไม่อนุญาตให้ข้าเพิ่มสองชิ้นบ้าง!” นายน้อยหูเชิดหน้าขึ้นและกล่าว
มู่เฉียนซีจึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ยินดีด้วยที่เจ้าเลียนแบบข้าจนสําเร็จ เมื่อเห็นนักเรียนอย่างเจ้าจริงจังขนาดนี้ ข้าก็จะยอมแพ้การประมูลครั้งนี้ ยาน้ำนี้เป็นของเจ้าแล้ว”
“เป็น…เป็นของข้า”
นายน้อยหู่ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเขาได้สติกลับมา เขาก็รู้สึกว่าตนเองถูกหลอกอีกครั้ง
“เจ้า…เจ้าจงใจ!”
แววตาของผู้อาวุโสใหญ่ฉายแววอาฆาตพยาบาทออกมา “สาวน้อยไม่รู้จักที่ตาย กล้าล้อเล่นกับคนของเมืองหู่เสี้ยวของพวกเรา เราจะไม่ปล่อยนางไปแน่”
นายน้อยหู่พยักหน้าและกล่าวด้วยเสียงเครียดแค้น “ท่านพูดถูก! เราจะไม่ปล่อยพวกมันไป”