ยังมีวานรหน้าปีศาจอีกส่วนหนึ่งลอบโจมตีพวกเขา
พวกเขาค้นพบสิ่งที่น่ากลัวมาก นั่นคือรอบ ๆ บริเวณนี้ดูเหมือนจะมีวานรหน้าปีศาจอยู่เต็มไปหมด
ความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นไม่มากนัก แต่มันกลับรู้จักที่จะรอจังหวะแล้วเคลื่อนไหว จากนั้นก็โจมตีพวกเขาอย่างรุนแรงแบบกะเอาถึงตาย
เจ้าสิ่งนี้ช่างตึงมือยิ่งนัก แต่ทว่าพวกเขานั้นเป็นถึงตำแหน่งราชทินนามแห่งเมืองเฮยตู สำหรับพวกวานรหน้าปีศาจเหล่านี้พวกเขาได้มีการระวังตัวอยู่แล้ว และพวกเขาจะไม่ยอมให้พวกมันจู่โจมเข้ามาได้โดยง่าย
ใบหน้าของมู่เฉียนซีมืดครึ้มลง ที่ถ้ำแห่งนี้มิอาจที่จะอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว จำเป็นจะต้องรีบออกไปให้เร็ว
“บัวแดงพิฆาต!” ดอกบัวเพลิงสีแดงเข้มได้ส่องสว่างบริเวณรอบ ๆ
วานรหน้าปีศาจเองก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อันตราย แน่นอนว่ามันจึงไม่กล้าเข้าใกล้มู่เฉียนซี
เงาร่างสีม่วงได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และมู่เฉียนซีก็ได้พุ่งออกมาจากถ้ำแห่งนั้น
ราชทินนามเฮยที่ถูกวานรหน้าปีศาจโจมตีเสียจนเสื้อผ้าขาดวิ่นไปทั้งตัวก็มีสีหน้ามืดครึ้มลงมา “เจ้าเด็กบ้านี่กลับหนีไปก่อนเสีย”
ศัตรูอยู่ที่มืด พวกเขาอยู่ในที่สว่าง อยู่ในสถานที่แห่งนี้นั้นไม่ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย พวกเขาจะต้องรีบออกไปถึงจะได้
ทันทีที่พวกเขาออกมาจากในถ้ำนั้น จากนั้นก็ได้เผชิญกับวานรหน้าปีศาจที่รวมกันเป็นกลุ่มแล้วล้อมโจมตี
“ทักษะเทียนซวน!”
“ทักษะโยวหลัว!”
“ทักษะเฮยซวน!”
“ดาบทลายเมฆา!”
“……”
เมื่อต้องเผชิญการโจมตีอย่างบ้าคลั่งจากวานรหน้าปีศาจเหล่านี้ พวกเขาเองก็เริ่มใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมดตอบโต้
กว่าจะฝ่าวงล้อมมาได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญ จากนั้นพวกเขาก็ตกอยู่ในวงล้อมของเถาวัลย์ทมิฬ
ทุกย่างก้าวที่ก้าวเดินในอุโมงค์ฝังศพมังกรแห่งนี้ล้วนแต่ซ่อนเร้นการฆ่าฟันเอาไว้ หากมิใช่ว่าพวกเขามีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งพอจนเป็นตำแหน่งราชทินนามได้ เกรงว่าคงได้ตายกันสนิทไปนานแล้ว
เมื่อรอดพ้นจากกับดักแห่งแล้วแห่งเล่าออกมาได้ บนตัวของทุกคนนั้นก็เต็มไปด้วยโลหิต!
สิ่งที่ยิ่งทำให้ร้อนรนใจไปมากกว่านั้นก็คือ พวกเขาพบว่าพวกเขานั้นต่อสู้เคลื่อนไหววนเวียนไปมาอยู่ที่เดิม
สีหน้าของราชทินนามเฮยมืดครึ้มลง “พวกเราติดอยู่ในมิติอีกแล้ว ฝ่าบาทไม่อยู่พวกเราไม่อาจที่จะออกไปได้เลย หรือว่าพวกเราจะต้องติดตายอยู่ในที่แห่งนี้รึ?”
ออกไปมิได้ พวกเขาเองก็รู้ว่าหลงฉือนั้นเป็นคนอย่างไร เขานั้นไม่มีทางที่จะมาช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน
หากจะต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่เป็นการดีแน่
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นกระบี่มังกรเพลิงก็ได้คำรามออกไป!
“มังกรเพลิงสังหาร!”
มังกรเพลิงสีแดงเข้มพุ่งออกไปโดยมิได้ชนเข้ากับสิ่งกีดขวางใด ๆ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำเช่นไรก็ยังคงวนเวียนอยู่ในที่เดิม ๆ
ราชทินนามเฮยกล่าว “สาวน้อย เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นฝ่าบาทรึ! ลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้จะสามารถไปผ่ามิตินั้นออกได้อย่างไร”
ราชทินนามฉื่อกล่าว “ราชทินนามเฮย เจ้าเองก็อย่าได้กล่าวเสียดสีบั่นทอนผู้อื่นในสถานการณ์เช่นนี้อยู่เลย รีบคิดหาหนทางเถอะ! มิเช่นนั้นแล้วพวกเราล้วนแต่ต้องตายกันทั้งหมด”
พวกเขาคิดหาหนทางอยู่ครึ่งวันก็ยังคิดหนทางใดไม่ออก
พวกเขาที่โดดเด่นเป็นสง่าด้วยตำแหน่งราชทินนามของเมืองเฮยตูจะต้องมาติดตายอยู่ในที่แห่งนี้หรือ?
แววตาของมู่เฉียนซีหม่นหมองลง ที่แห่งนี้ได้ถูกปิดผนึกเอาไว้แล้ว เช่นนั้นบางทีพลังแห่งมิติอาจจะสามารถเปิดมันออกได้
ในตอนนี้ที่ตัวนางมีชิ้นส่วนของสุ่ยจิงอิ๋งเพียงสองชิ้น ถึงแม้ว่าจะยังมิได้ฝึกพลังวิญญาณธาตุมิติ แต่ในตอนนั้นที่ได้ซ่อมแซมค่ายกล พลังแห่งมิติในร่างกายของนางนั้นก็สามารถที่จะใช้ได้
นางได้รวบรวมพลังของสุ่ยจิงอิ๋งที่อยู่ในร่างกายของนางอย่างไม่ค่อยชำนาญนัก และได้โคจรเคล็ดวิชาเงาเทวาขึ้นมา เท้านางได้เหยียบเข้าไปในมิติและใช้ความเร็วอย่างสูงสุดพุ่งออกไป
มิตินั้นราวกับได้ถูกฉีกออก และในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังพุ่งออกไปนั้นราชทินนามอวิ๋นก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขากล่าวขึ้นอย่างรีบร้อน “นางมีความสามารถที่จะแหวกมิตินั่นและพุ่งออกไปได้ พวกเรารีบตามไปเร็ว”
นี่เป็นหนทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถฝ่าออกไปได้ แน่นอนว่าพวกเขาได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ราชทินนามเฮยเองก็ได้รีบตามไป!
แกรก!
เมื่อพุ่งออกมาจากพันธนาการของมิติที่สองได้สำเร็จ มู่เฉียนซีก็ได้ร่วงลงมาจากกลางอากาศ
นางมองสำรวจที่รอบด้านก็พบเข้ากับถ้ำอีกแห่งหนึ่ง แต่ทว่ามันกว้างกว่าถ้ำก่อนหน้านี้อยู่ไม่น้อย
ปัก ปัก ปัก!
อีกสามคนนั้นมิได้โชคดีเหมือนเช่นมู่เฉียนซี
โดยเฉพาะราชทินนามเฮยที่ตกกระแทกลงมาอย่างอนาถ
ราชทินนามเฮยกล่าว “เจ้ามีหนทางที่จะออกมาได้แต่กลับไม่บอกแก่พวกเรา เจ้าคิดที่จะหนีออกมาผู้เดียวรึ?”
หากมิใช่เพราะนางรวดเร็วพอ เกรงว่าคงจะสามารถทำได้เพียงแค่มองดูพวกเขาออกไปตาปริบ ๆ
ส่วนนางจะติดอยู่ในมิตินั้นจนกระทั่งตาย!
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเฉยเมย “ใช่แล้วอย่างไร? ทำไมข้าจะต้องบอกเจ้า”
“พวกเรานั้นเข้ามาด้วยกันนะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้านั้นไม่ลืมที่เมื่อครู่นี้เจ้ายังคิดที่จะลงมือกับข้า เข้ามาด้วยกันแล้วอย่างไรเล่า?”
ราชทินนามเฮยกล่าวอะไรไม่ออก!
ในตอนนี้พวกเขาระแวดระวังที่รอบด้านด้วยเพราะกลัวว่าจะมีวานรหน้าปีศาจเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นอีก
แต่ทว่าในครานี้วานรหน้าปีศาจกลับมิได้ปรากฏตัวขึ้น
เมื่อมั่นใจแล้วว่าสถานที่แห่งนี้ปลอดภัย มู่เฉียนซีก็มองไปยังส่วนลึกของถ้ำแห่งนี้และได้เดินเข้าไปในทันที
ดวงตาของคนอื่น ๆ นั้นสาดส่องประกายออกมา ฝ่าบาทได้สมบัติล้ำค่าจากที่แห่งอื่นไปแล้วมิน้อย
บางทีที่แห่งนี้อาจจะมีสิ่งล้ำค่าอยู่ก็เป็นได้
ในถ้ำแห่งนี้มีเสาศิลาวางเรียงรายอยู่ ยิ่งเข้าไปด้านในมากเท่าไหร่อากาศก็ยิ่งหนาวเย็นมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อไปถึงด้านใน พวกเขาก็พบว่าในที่แห่งนี้มีน้ำแข็งอันเย็นยะเยือกอยู่จำนวนไม่น้อย
ที่กลางชั้นน้ำแข็งมีสมุนไพรวิญญาณหลายต้นที่ราวกับว่ามันกำลังเติบโตอยู่ ทุกคนต่างตะลึงค้าง
ราชทินนามฉื่อกล่าว “ทั้งหมดนี่ล้วนแต่เป็นสมุนไพรวิญญาณกระมัง! มันอยู่ที่นี่มาเป็นเวลากี่ปีกันแล้ว?”
“สมุนไพรวิญญาณที่ถูกเอามาไว้ในที่แห่งนี้จะต้องไม่ธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน!”
“……”
พวกเขาไม่ใช่นักปรุงยาและไม่รู้จักว่าสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ว่ามันคืออะไรกันแน่? แต่มู่เฉียนซีนั้นกลับรู้จักมันดี
ในที่แห่งนี้กลับมีสมุนไพรวิญญาณอยู่จำนวนไม่น้อย
แม้ว่าสมุนไพรวิญญาณขั้นสวรรค์เหล่านี้จะไม่มีสองชนิดนั้นที่นางต้องการ แต่ทว่าสมุนไพรวิญญาณระดับขั้นนี้นั้นก็หาได้ยากยิ่งในโลกทั้งสี่ทิศ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมุนไพรวิญญาณอีกสามชนิดนั้นที่นางจะต้องหาให้พบ เพราะต้องการที่จะนำมันมาสกัดยาฟื้นคืนชีพ ยาที่เปลี่ยนโชคชะตาอย่างยาต้านสวรรค์ลิขิต และ ยาหยินหยางอนันต์นั้นจะขาดพวกมันไปมิได้
หากได้สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้มารวมกับน้ำดีงูมังกรของตระกูลเย่ซึ่งเป็นสามตระกูลนักปรุงยา สมุนไพรวิญญาณขั้นปฐพีที่ยาหยินหยางอนันต์ต้องใช้นั้นก็นับได้ว่าหาได้พบมากเกินกว่าครึ่งแล้ว
นางจะไม่ปล่อยสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ไปแน่นอน
ส่วนคนอื่น ๆ นั้นก็มองสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ตาเป็นประกาย
สายตาอันเปี่ยมความโลภของมนุษย์ทำให้ชั้นน้ำแข็งในที่แห่งนี้ค่อย ๆ ละลายลงอย่างช้า ๆ
สมุนไพรวิญญาณที่สดใหม่เหล่านั้นได้ร่วงลงมาบนพื้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
ดวงตาของมู่เฉียนซีฉายแววตกตะลึง ที่แห่งนี้มีสมุนไพรวิญญาณซ่อนอยู่มากมายเช่นนี้และไร้ซึ่งการโจมตี
เมื่อพวกเขาเข้ามาน้ำแข็งก็ได้เริ่มละลายด้วยตัวของมันเองแล้ว ราวกับว่าอยากให้พวกเขาหยิบเอาพวกมันไปได้อย่างสะดวกง่ายดายก็มิปาน
แต่ที่แห่งนี้เป็นถึงถ้ำสุสานมังกรที่อันตรายถึงขีดสุด มันจะไปมีเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้นในที่แห่งนี้จะต้องมีปัญหาอันใหญ่หลวงอย่างแน่นอน
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
ถึงแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตนเองชอบเป็นอย่างมาก แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงมีสติ
แต่ทว่าคนอื่น ๆ นั้นกลับไม่สามารถที่จะทำให้ตนเองสงบสติลงมาได้
ทั้งราชทินนามฉื่อ ราชทินนามเฮย และราชทินนามอวิ๋น ทั้งสามคนได้พุ่งตัวออกไปแล้ว
ปัง!
ราชทินนามฉื่อและราชทินนามอวิ๋นนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกันมาโดยตลอด แต่ทว่าในตอนนี้พวกเขาทั้งสองกลับเกิดความโลภเข้าตาและสู้กันเองขึ้นมา
“สมบัติมีค่าในที่แห่งนี้ล้วนแต่เป็นของข้าทั้งหมด ใครกล้าจะมาแย่งชิงกับข้า ข้าจะฆ่ามันผู้นั้นเสีย!” ในดวงของราชทินนามเฮยเองก็ได้ระเบิดจิตสังหารอันน่าตกใจออกมา
ราชทินนามอวิ๋นยิ้มแล้วแค่นเสียงกล่าว “มันจะเป็นของเจ้าไปได้อย่างไร เห็น ๆ กันอยู่ว่ามันเป็นของข้า”
ราชทินนามเฮยกล่าวเสียงแหลม “ของข้า! ล้วนเป็นของข้า! ฆ่าพวกเจ้าแล้วทั้งหมดก็เป็นของข้า!”