กู้ไป๋อีก็ไม่รู้ว่าทำไมเด็กหนุ่มผู้นี้ถึงได้ขัดแย้งกับเขาทันทีที่ปรากฏตัว แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
เจ้าหมอนี่เป็นแค่ก้อนน้ำแข็ง คนอื่นไม่สนใจเขา อาถิงยั่วยุไปก็รู้สึกว่าไม่น่าสนใจ
อาถิงลอยอยู่บนท้องฟ้าผมยาวสีเทาอมเขียวปลิวไสวในอากาศราวกับภูตที่กำลังร่ายรำอยู่กลางเวหาช่างงดงามเกินจริง
เสียงแหลมรุนแรงเสียงหนึ่งดังออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม “ทำลาย!”
แสงสีเขียวอ่อนพุ่งไปยังทุกซอกทุกมุมของพื้นที่
กู้ไป๋อีสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลที่ยากจะอธิบายได้ มันกำลังทำลายพื้นที่รอบข้าง
นี่คือพลังแห่งเวลา!
มีเพียงพลังแห่งเวลาเท่านั้นที่สามารถทำลายได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
แววตาของกู้ไป๋อีฉายแววตื่นตะลึง ที่แท้เขา…
มู่เฉียนซีเองก็มองออกถึงความประหลาดใจของกู้ไป๋อี นางยิ้มแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ เขาเป็นผู้ทำพันธสัญญาของข้า อาถิง มีนิสัยที่ไม่ดีเล็กน้อย”
กู้ไป๋อีพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”
นี่ไม่ใช่มนุษย์ ตั้งแต่แรกเห็นก็รู้ได้ทันทีแล้ว
บนร่างของนางมีความลับมากมาย แม้แต่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์หรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แปลงร่างได้ก็ล้วนมีอยู่
กร๊อบ!
พลังแห่งเวลาอันแข็งแกร่งของอาถิงไม่ใช่สิ่งที่กระจกแห่งเวลาจะต้านทานเอาไว้ได้ ในไม่ช้ากระจกแห่งเวลาก็แตกออก
และไม่นานภาพตรงหน้าก็ได้หายวับไป พวกเขากลับมายังถ้ำสีแดงเข้มนั่นอีกครั้ง
อาถิงหยุดอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี นางรู้สึกว่าลมหายใจของเขาอ่อนแรงลงไม่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อเหนื่อยแล้ว ก็รีบกลับมิติแล้วนอนพักเถอะ!”
“แม้ว่าด่านที่ยากที่สุดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่สวรรค์ก็รู้ดีว่ามังกรดำตัวนั้นจะก่อเรื่องอันใดขึ้นอีก นายท่านข้าดูอ่อนแออย่างที่เจ้าคิดเหรอ?” อาถิงมองนางแล้วกล่าว
จุดสำคัญของเส้นทางนี้คือประตูสีดำ
กู้ไป๋อีเดินเข้าไปและกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ ข้าจะไปเปิดประตู”
ตูม! ประตูบานนี้ดูเหมือนจะเปิดได้ไม่ยาก
เมื่อเปิดประตูบานนี้ ก็มีดวงตาสีดำสนิทคู่หนึ่งจ้องมองพวกเขา
“ข้าวางกับดักไว้มากมาย แต่กลับยังคงทำให้มีคนพบที่นี่ได้ ดูแล้วข้าจะขวางเอาไว้ไม่อยู่” มันถอนหายใจเบา ๆ
กู้ไป๋อีและอาถิงขวางทางมู่เฉียนซี ทั่วทั้งห้องโถงโล่งกว้างมีเพียงมังกรดำตัวใหญ่ไร้ที่เปรียบตัวหนึ่ง
นี่คือมังกรดำตัวนั้นที่พวกเขาเห็นในกระจกแห่งเวลา
กู้ไป๋อีกล่าว “พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาที่นี่ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน”
ดวงตาของมังกรดำเปล่งประกาย “พวกเจ้าต้องการกุญแจเผ่าเทพมังกร เจ้ามีคำสาปของเผ่าคำสาป แน่นอนว่าเจ้าต้องเป็นคนของตระกูลพวกเขา แม้ว่าตอนนี้พลังที่เหลืออยู่ของข้าจะอ่อนแอ แต่ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าทำสำเร็จได้เป็นอันขาด”
มู่เฉียนซีกล่าว “มังกรดำ ข้าคิดว่าเจ้าคิดผิดแล้ว คำสาปบนร่างของเสี่ยวไป๋ถูกคนควบคุมไว้ เดิมทีไม่ใช่เผ่าคำสาปอะไร ขอเพียงเจ้ามอบกุญแจเทพเผ่ามังกรให้เสี่ยวไป๋ และแก้คำสาปให้เสี่ยวไป๋ พวกเราก็จะไม่รบกวนเจ้า”
“คำพูดของมนุษย์อย่างพวกเจ้าเชื่อถือได้หรือ?” มังกรดำสงสัยเป็นอย่างมาก
อาถิงก้าวออกไปหนึ่งก้าว “ไม่เชื่อ เจ้าก็ต้องเชื่อ!”
“หยุดมิติ!”
พลังวิญญาณถูกใช้ไปมาก เขาไม่อาจคงอยู่ได้นานนัก ดังนั้นจึงเลือกที่จะจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว
มิติได้หยุดลงแล้ว ทั้งมังกรดำและกู้ไป๋อีก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
แสงสีเขียวอ่อนปกคลุมมังกรดำไว้และในไม่ช้ากุญแจสีทองก็ได้โผล่ออกมาจากร่างของมังกรดำ
มู่เฉียนซีตะลึงงัน “นี่คือกุญแจเทพเผ่ามังกร”
มู่เฉียนซีพุ่งไปและหยิบกุญแจเทพเผ่ามังกรมาตรงหน้ากู้ไป๋อี
เวลาได้คืนกลับมา มู่เฉียนซีหยิบกุญแจเทพเผ่ามังกรส่งให้กู้ไป๋อี “ไป๋อี ข้าให้เจ้า แก้คำสาปบ้า ๆ นี่ซะ!”
ก่อนที่กู้ไป๋อีจะได้สติกลับมา ก็เห็นมู่เฉียนซีวางกุญแจสีทองไว้ในมือของเขาแล้ว
ในเวลานี้มังกรดำก็ตะลึงงันเช่นกัน “กุญแจเทพเผ่ามังกร เจ้า…เจ้าขโมยกุญแจเทพเผ่ามังกรไป”
ถูกพรากของสำคัญเช่นนี้ไป มัน…มันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย หรือว่า…
มันมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “กฎแห่งเวลา เจ้า…เจ้าควบคุมเวลาได้”
มันเคยได้รับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์มิติอย่างกระจกแห่งเวลา แน่นอนว่ามันย่อมเข้าใจพลังของเวลาเป็นอย่างดี
สามารถขโมยกุญแจเทพเผ่ามังกรที่มันเฝ้าอยู่ตลอดไปโดยที่มันไม่ทันรู้ตัวได้ ก็คงมีเพียงการควบคุมเวลาเท่านั้นจึงจะสามารถทำได้
“ข้า…ข้าจะสู้กับเจ้า!”
กู้ไป๋อีได้รับกุญแจเทพเผ่ามังกร ควันสีดำได้ลอยออกมาจากร่างของเขาและสลายหายไปในอากาศ
ในที่สุดคำสาปที่ควบคุมเขาก็ได้ถูกลบล้างไป เมื่อเขาเห็นมังกรดำกำลังจะแสดงพลัง เขาโบกมือและโยนกุญแจเทพเผ่ามังกรออกไป
“คำสาปของข้าถูกปลดออกแล้ว ข้าไม่ต้องการของสิ่งนี้ ข้าจะมอบมันให้กับเจ้า”
มังกรดำจับกุญแจเทพเผ่ามังกรไว้และรู้สึกว่าตนเองกำลังฝันไป!
ของล้ำค่าเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับมันไปแล้ว แต่กลับคืนมา
“พวกเจ้า…พวกเจ้าไม่ใช่คนของเผ่าคำสาปจริง ๆ ”
“พวกเจ้าไม่ต้องการกุญแจเทพเผ่ามังกรจริง ๆ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ดูไม่ออกว่ากุญแจสีทองอันนี้มีอะไรพิเศษ พวกเราคงไม่ได้ใช้มัน ตอนนี้ได้ล้างคำสาปของเสี่ยวไป๋แล้ว แล้วทำไมจะไม่คืนให้เจ้าเล่า?”
“เจ้า…เจ้าไม่รู้หรือว่ากุญแจเทพเผ่ามังกรอันนี้ แสดงถึงอะไร?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่รู้?”
มู่เฉียนซีมองมังกรดำพลางเอ่ยขึ้นว่า “มังกรดำ หากเจ้ารู้สึกขอบคุณที่ข้าไม่ขโมยกุญแจเทพเผ่ามังกรไป ก็บอกข่าวสารข้าสักหน่อยเป็นอย่างไร?”
มังกรดำกล่าวว่า “เจ้าต้องการรู้อะไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ข้าอยากรู้ว่าจะไปเผ่ามังกรได้อย่างไร? และส่วนหนึ่งของคำภีร์หมื่นคำสาปที่เผ่ามังกรครอบครองอยู่ที่ไหน?”
“เจ้า…” มังกรดำเบิกตากว้าง
“เจ้ารู้ความลับเช่นนี้นี่เอง”
เพราะนางถามเช่นนี้ มังกรดำจึงมั่นใจว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าคำสาป
มังกรดำยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “ข้าเป็นนักโทษของเผ่ามังกร ตอนนี้ข้าเหลือวิญญาณเพียงสี้ยวเดียวในมิติ ข้าจะรู้วิธีไปเผ่ามังกรได้อย่างไร?”
“และคำภีร์หมื่นคำสาป คือสิ่งที่สามเผ่าเทพของเราปกป้อง เจ้าต้องการสิ่งนี้ไปทำไมกัน?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ามีคนที่สำคัญมากผู้หนึ่ง เขาถูกคำสาปของคำภีร์หมื่นคำสาป ดังนั้นจึงต้องหาคำภีร์คำสาปเพื่อถอนคำสาปของเขา”
มังกรดำกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “นี่มันเป็นไปไม่ได้? คนที่รู้คำสาปในคำภีร์หมื่นคำสาป เท่าที่ข้ารู้ตอนนี้มีไม่เกินสิบคน และสิบคนนั้นไม่ใช่สิ่งที่สาวน้อยอย่างเจ้าจะสัมผัสได้”
“พวกเขา…พวกเขาจะลงมือกับคนรอบข้างเจ้าทำไมกัน”
มู่เฉียนซีกล่าว “สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง เชื่อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้า ดูเหมือนเจ้าจะรู้อะไรบางอย่าง? บอกได้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกำลังครุ่นคิด ถ้ามังกรดำไม่พูดละก็ นางจะใช้วิธีบีบบังคับให้มันพูดออกมา
ในเวลานี้อาถิกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คำภีร์หมื่นคำสาปที่ชำรุดทรุดโทรมนั่น เจ้าคิดว่าผู้ทำพันธสัญญาของข้าจะเสียดายมันนักหรือ? ถ้าไม่ใช่เพราะนางผู้หญิงบ้าผู้นี้ที่ดึงดูดผึ้งล่อผีเสื้อและก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ ข้าคงไม่อยากแตะต้องสิ่งนั้นเลย”
“ถ้าเจ้ารู้ ก็จงบอกให้ข้าฟังอย่างว่าง่าย ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า” อาถิงยืนขึ้น พลังเวลาอันทรงพลังกักขังมังกรดำและไว้ทำให้วิญญาณของมังกรดำสั่นสะท้าน
.
.