หลงฉือยิ้มขำกับสิ่งที่ได้ยิน เขากล่าว “อยู่ข้างนอก พลังวิญญาณของเจ้าขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้าอย่างนั้นเหรอ ไป๋อี เจ้าหยุดกล่าววาจาน่าขำเช่นนี้ได้แล้ว อย่าคิดว่าเจ้าจะปิดบังข้าแล้วข้าจะดูไม่ออก ระดับพลังวิญญาณสูงสุดของเจ้า เกรงว่าจะเป็นเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิยอดยุทธ์เท่านั้นกระมัง!”
พวกเขาประเมินค่ากุญแจเทพเผ่ามังกรว่ามีความหมายสำหรับหลงฉือนั้นต่ำไป
ในตอนนี้หลงฉือตัดสินใจที่จะจับพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดทั้งสิ้นเพื่อที่จะให้ได้กุญแจเทพเผ่ามังกรมา
หลงฉือพุ่งเข้าหากู้ไป๋อี “ไป๋อี วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าได้เห็นดีสักหน่อย!”
ตูม! พวกเขาทั้งสองปะทะกันแล้ว
หลงฉือออกคำสั่ง “พวกเจ้าจับมู่เฉียนซีเอาไว้ ขอเพียงแค่จับสาวน้อยผู้นี้ได้ ด้วยความสำคัญที่ไป๋อีมีต่อนาง เกรงว่าจะแพ้โดยไม่ต้องต่อสู้ด้วยซ้ำ”
“ขอรับ!” ราชทินนามซวงและพวกน้อมรับคำสั่ง และพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีทันที
ในตอนนี้เอง ร่างในชุดดำก็ได้โจมตีออกไปทำให้ราชทินนามล่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เฮยอู่ทำลาย!”
ตูม!
จู่ ๆ ราชทินนามเฮยก็ลงมือเช่นนี้ทำให้พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง!
ราชทินนามล่วนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสีหน้าซีดเผือดในตอนนี้กล่าว “ราชทินนามเฮย เจ้าทำเช่นนี้หมายความเช่นไร นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะลงมือกับข้า เจ้า…เจ้าทรยศต่อฝ่าบาท”
หลงฉือเองก็ตกตะลึงพรึงเพริดมากเช่นกัน “ราชทินนามเฮย บังอาจนัก! เจ้ากล้าทรยศข้า”
ราชทินนามเฮยมองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “นายท่าน ด้วยพลังความแข็งแกร่งของข้า สามารถขวางราชทินนามล่วนได้ แต่สำหรับราชทินนามซวงแล้ว ไม่ทราบว่านายท่าน…”
มู่เฉียนซีกล่าว “ราชทินนามซวงมอบให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการก็ได้แล้ว!”
“เจ้าค่ะ!”
ราชทินนามเฮยต่อสู้กับราชทินนามล่วนอย่างสุดกำลังความสามารถ ส่วนราชทินนามซวงสองพี่น้องก็เหมาะสมที่จะต่อสู้กับมู่เฉียนซีอย่างสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติ
สำหรับพวกเขาสองพี่น้องแล้ว หนึ่งบวกหนึ่งไม่ได้เท่ากับสอง แต่เหนือกว่าเป็นร้อยเท่า
จัดการกับสาวน้อยผู้นี้ อย่าได้จัดการได้ง่าย ๆ เกินไปนักล่ะ
พวกเขาร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติ ส่วนความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นก็รวดเร็วขึ้นมาก และสามารถหลบหลีกการโจมตีของพวกเขาได้
“บัวแดงพิฆาต!”
“ทักษะโยวหลัว!”
“……”
การต่อสู้สนามจริงที่ได้ฝึกฝนอย่างนองเลือดในเมืองเฉยตูนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์เลย แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับราชทินนามซวง มู่เฉียนซีก็ยังสามารถยืดหยัดรับมือได้
ทว่า ทางด้านของกู้ไป๋อีนั้นสถานการณ์เลวร้ายมาก
ระดับพลังวิญญาณของเขาในตอนนี้ไม่สามารถปิดบังได้อีกแล้ว
หลงฉือยิ้มพลางกล่าว “กู้ไป๋อีนะกู้ไป๋อี! ข้านึกไม่ถึงเลยว่าพลังวิญญาณของเจ้าจะถดถอยลงถึงขั้นจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่ง เจ้าหลอกข้าได้อย่างน่าเวทนายิ่งนัก!”
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อมองออกถึงพลังวิญญาณของกู้ไป๋อีแล้ว หลงฉือก็มีความมั่นใจมากขึ้นในการต่อสู้กับเขา
ถูกหลงฉือโจมตีอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ กู้ไปอีถูกบีบบังคับให้ต้องล่าถอย แต่…
พลังชีวิตในเมืองเฮยตูกำลังโคจรขึ้น กู้ไป๋อีรู้สึกได้ว่าไม่สามารถฝึกฝนเพิ่มได้หนึ่งก้าว ภายใต้การบีบบังคับของหลงฉือ พลังของเขาได้ทะลวงขึ้นแล้ว
พลังชีวิตกำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขา และพลังของกู้ไป๋อีก็ทะลวงถึงขั้นจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้า
ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของหลงฉือแข็งทื่อไปทันที “ไป๋อี นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมาทะลวงพลังวิญญาณเอาในเวลานี้ แต่พลังขั้นจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้า เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้อย่างนั้นเหรอ”
กู้ไป๋อีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พลังขั้นจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้า ก็เพียงพอที่จะเอาชนะเจ้าได้แล้ว!”
กระบี่เฉียนหานเริ่มกวัดแกว่งอีกครั้ง กู้ไป๋อีที่พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นในตอนนี้ก็พอที่จะหยุดยั้งหลงฉือได้แล้ว ส่วนหลงฉือก็ตระหนักได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของชายผู้นี้แล้วเช่นกัน
“สามเงาจันทรากวาดล้าง!”
วงล้อจันทราสีเงินสามวงล้อเข้ามาใกล้หลงฉือทีละวง
พวกมันดูเหมือนจะมีดวงตาอย่างไรอย่างนั้น มันไล่ตามหลงฉืออย่างไม่ยอมแพ้!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! ภายใต้ทักษะกระบี่กระบวนท่าที่สามของกู้ไป๋อี หลงฉือได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส
ชุดคลุมยาวสีดำขลับถูกตัดขาด บนผิวพรรณที่ขาวผ่องเกิดบาดแผลและรอยเลือดสีแดงสดจำนวนมาก แววตาของกู้ไป๋อีตอนนี้เต็มไปด้วยจิตสังหาร
เรื่องที่พวกเขาได้กุญแจเทพเผ่ามังกรมานั้น ไม่อาจแพร่งพรายออกไปได้เป็นอันขาด
ในสายตาของคนบ้าเหล่านี้ เขาสามารถอธิบายได้แค่ว่าไม่น่าเชื่อถือ
หลงฉือ เจ้าต้องตาย!
ภายใต้จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวของกู้ไป๋อีนั้น หลงฉือรับมือไม่ไหวแล้ว
เดิมทีต้องการจะจับตัวมู่เฉียนซีเพื่อที่จะข่มขู่กู้ไป๋อี แต่เขานึกไม่ถึงเลยว่าราชทินนามซวงจะไม่สามารถเอาชนะมู่เฉียนซีที่เป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับสี่ได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า! กู้ไป๋อี ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่เพียงแค่จักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้า เจ้าคิดว่าพลังเพียงเล็กน้อยแค่นี้จะเพียงพอเหรอ ไม่พอ!”
ฉ่า! หลงฉือบดขยี้ลูกบอลหยกสีดำลูกหนึ่งแตก ชั่วครู่หนึ่งเส้นผมสีดำขลับของเขาก็กวัดแกว่งอย่างบ้าคลั่ง
อักขระสาปบนใบหน้าของเขาก็เคลื่อนไหวแล้ว ราวกับว่าปกคลุมร่างของเขาเอาไว้ทั้งหมด
พลังกดดันนั้นได้ปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองเฮยตู
สีหน้าของราชทินนามเฮยพลันเปลี่ยนไปมาก “นั่นมันพลังอันใดกัน การยับยั้งของเมืองเฮยตูดูเหมือนว่าจะไม่อาจควบคุมเขาได้”
มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ถึงพลังอันน่าขนพองสยองเกล้านั้น เป็นพลังที่แข็งแกร่งและทรงพลังมาก เกรงว่าพลังวิญญาณระดับสี่ของตนเองนั้นไม่อาจเทียบกับเขาได้เลย
หลงฉือกล่าว “กู้ไป๋อี เจ้าช่างเยี่ยมจริง ๆ! นึกไม่ถึงเลยว่าคนเช่นเจ้าจะสามารถบีบบังคับให้ข้าใช้คำสาปเช่นนี้ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่ได้คัมภีร์หมื่นคำสาปมา ถึงแม้ว่าข้าจะต้องคำสาปนี้ ข้าก็ไม่ตาย”
แม้มังกรดำจะทำให้ความแข็งแกร่งในเมืองเฮยตูถูกยับยั้งไปทั้งหมด แต่หลายปีที่ผ่านมานี้เผ่าคำสาปก็คิดหาวิธีการรับมือออกมาไม่น้อยเลย
ถึงแม้ว่าวิธีการเหล่านี้จะต้องจ่ายไปอย่างหนัก แต่หากไม่จนตรอกจริง ๆ ก็คงไม่มีใครใช้มันอย่างแน่นอน
ตอนนี้กุญแจของเผ่ามังกรถูกคนผู้หนึ่งคว้าไปได้แล้ว และแน่นอนว่านี่ถึงจุดจนตรอกแล้ว ดังนั้นหลงฉือจึงตัดสินใจทำมันลงไปอย่างไม่อาจถอยหนีได้
กู้ไป๋อีขมวดคิ้วขึ้น เขารู้ตัวดีถึงแม้ว่าตอนนี้พลังวิญญาณของเขาจะฟื้นฟูกลับมาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงฉืออยู่ดี
สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
เขากล่าว “คุณหนูใหญ่ รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!”
กล่าวจบ เขาก็พุ่งเข้าหาหลงฉืออย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ตูม ปัง ปัง!
กู้ไป๋อีไม่สามารถทำให้หลงฉือบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย ทันทีที่มีดของหลงฉือเคลื่อนไหวก็พุ่งตัดผ่านอากาศไปทันที
กู้ไป๋อีไม่อาจหลบหลีกได้
พรวด! เอวของเขาในตอนนี้ปรากฏรอยเลือดที่โหดร้ายทารุณขึ้น
หากไม่ใช่เพราะว่าหลงฉือยังไม่อยากให้เขาต้องตายแล้วละก็ เกรงว่าเอวของเขาคงจะขาดสะบั้นไปแล้ว
พลังความแข็งแกร่งห่างชั้นกันปานนี้ เขาไม่มีทางที่จะตอบโต้กลับได้เลย
ตุบ! ร่างของกู้ไป๋อีล้มลงกระแทกพื้น เลือดในช่องท้องไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง บริเวณโดยรอบถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด
ร่างชุดขาวที่นอนจมอยู่ในกองเลือดสีแดงสดนั้นทำให้แววตาของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมลง “เสี่ยวไป๋!”
นางไม่อยากจะพัวพันอยู่กับราชทินนามซวงอีกต่อไปแล้ว ยาโชคลาภตี้หลินถูกใช้อีกครั้ง ทำให้พลังวิญญาณของนางเพิ่มขึ้นถึงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า
“ถึงเวลาตายของพวกเจ้าทั้งสองแล้ว!”
พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นสิ่งที่ราชทินนามซวงคิดไม่ถึงจริง ๆ
รวดเร็วมาก การโจมตีของมู่เฉียนซีได้มาถึงแล้ว!
“บัวแดงพิฆาต!” การโจมตีอันทำลายล้างนี้ได้กำจัดพี่ใหญ่ของหนึ่งในราชทินนามซวงได้แล้ว
เหล่าเอ้อร์หลบรอดไปได้ แต่มู่เฉียนซีกลับปรากฏกายขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็วราวกับปีศาจ พลังธาตุวารีได้ก่อตัวเป็นระลอกคลื่นรอบ ๆ ตัวนาง
มู่เฉียนซีตะโกนอย่างเย็นชาว่า “ทักษะโยวหลัว!”
ตูม! เสียงตูมดังสนั่นขึ้น ร่างของเขากระแทกลงบนพื้นจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น
หลังจากที่จัดการกับราชทินนามซวงได้แล้ว มู่เฉียนซีก็รีบวิ่งมาตรงหน้ากู้ไป๋อี
ฉึก ฉึก ฉึก! เข็มยาหลายเข็มปักลงบนร่างของเขา
บาดแผลที่ช่วงเอวทำให้น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง หากไม่ใช่เพราะหลงฉือต้องการกุญแจเทพเผ่ามังกรในมือเขาแล้วละก็ เกรงว่านางก็คงจะได้เห็นเสี่ยวไป๋ที่ร่างขาดสะบั้นเป็นสองท่อนแล้ว
มู่เฉียนซีช่วยหยุดเลือดให้กู้ไป๋อีจนในที่สุดเขาก็ฟื้นฟูพลังกลับมาได้เล็กน้อยแล้ว เขากล่าว “หลงฉือ สิ่งที่เจ้าต้องการอยู่ที่ข้า เจ้าปล่อยนางไป ข้าก็จะมอบของให้เจ้า เป็นเช่นไร?”