ภายใต้การทิ้งระเบิดของมู่เฉียนซี ตอนนี้เหลือเพียงแค่เจ้าเมืองเฮยถูคนเดียว
เหตุผลที่เขาไม่โดนมู่เฉียนซีโจมตีนั่นก็เพราะเขาเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญภูตธาตุดิน
เขามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งแม้แต่มู่เฉียนซีก็ไม่มีทางเอาชนะเขาได้
กองดินขวางหน้าเจ้าเมืองเฮยถูเอาไว้
เขามองไปที่มู่เฉียนซีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “สาวน้อย ข้าต้องยอมรับว่าเจ้ามันวิปริตเป็นอย่างมาก แต่ข้าจะไม่แพ้อย่างแน่นอน”
ปัง ปัง ปัง!
พื้นดินใต้เท้าของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนไป และหนามดินที่แหลมคมก็ได้พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี
ร่างของเจ้าเมืองเฮยถูพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีราวกับลูกธนูที่หลุดออกจากคันธนู มู่เฉียนซีรีบหลบไปในทันที
ตูม! เสียงระเบิดดังกึกก้อง
ทุก ๆ ครั้งที่มู่เฉียนซีหลบหลีกด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดานั่น มันก็ทำให้ทุกคนที่ดูอยู่รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเป็นอย่างยิ่ง
อีกนิดเดียว! เกือบจะถูกฝังทั้งเป็นเสียแล้ว
มู่เฉียนซีก็ไม่ได้คิดจะหลบไปตลอด นางเริ่มโต้กลับแล้ว!
“ทักษะโยวหลัว!”
บึ้ม!
ทันทีที่ระเบิดใส่ เจ้าเมืองเฮยถูก็ใช้กำแพงดินป้องกัน การโจมตีของมู่เฉียนซีไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยสักนิด
เย่เฉินกล่าว “ท่านกู้ การป้องกันของเจ้าเมืองเฮยถูผู้นี้ แม้แต่เจ้าเมืองซีเจว๋ก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทะลวงผ่าน หากนายท่านคิดจะทำลายเกรงว่าจะไม่ง่ายเลย!”
กู้ไป๋อีกล่าว “คุณหนูใหญ่จะเอาชนะเขาได้ ไม่จำเป็นต้องทำลายมัน ตอนนี้นางเพียงต้องการรับการโจมตีของคนผู้นี้เพื่อให้ตัวนางเองทะลวงผ่านระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้า”
อยู่ในเมืองเฮยตู ความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีได้พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สี่แล้ว
ทุกครั้งของการเลื่อนขั้นของระดับจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่นี่คือขอบเขตชั้นล่างของโลกสี่ทิศและมีปราณวิญญาณที่เบาบาง
หากนางต้องการเลื่อนระดับด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ธรรมดา นางย่อมต้องอาศัยแรงกดดันจากภายนอกที่อันตราย!
ตูม!
ทั้งสองต่างชะงักงัน เจ้าเมืองเฮยถูไม่สามารถโจมตีมู่เฉียนซีได้ มู่เฉียนซีก็ไม่สามารถทำลายผนึกของเขาได้
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ สิ่งที่น่าตกใจคือการต่อสู้ระหว่างเจ้าเมืองซีเจว๋และเมืองหู่เสี้ยวที่เปลี่ยนไป
“โฮก โฮก โฮก!” เสียงคำรามของฝูงสัตว์ร้ายดังแว่วมา
ทั้งเจ็ดคนนั้นของเมืองหู่เสี้ยว ทุกคนได้อัญเชิญสัตว์พันธสัญญาออกมา
สัตว์พันธสัญญาที่อ่อนแอที่สุดก็คือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม แต่เจ้าเมืองหู่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า
มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมาเจ็ดตัว ความได้เปรียบในการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ได้เปลี่ยนไป
ทุกคนอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “ไม่จริงใช่ไหม! หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เมืองซีเจว๋จะต้องพ่ายแพ้แน่!”
“ตำแหน่งอันดับหนึ่งของเมืองซีเจว๋เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยแล้ว”
“เมืองหู่เสี้ยว ไปเอาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มากมายขนาดนี้มาจากไหนกันแน่?”
“……”
“น่าขยะแขยง!” ในเวลานี้ดวงตาของเจ้าเมืองซีเจว๋ก็ฉายแววจริงจัง
เมืองซีเจว๋ของเขาเป็นใหญ่ทางตะวันตกของทุ่งรกร้างมาหลายร้อยปี หากตอนนี้ต้องถูกเมืองหู่เสี้ยวดึงลงมา เขาย่อมไม่ยอม!
“เจว๋เทียน ออกมา!”
เขาต่อสู้อย่างสุดความสามารถ ในเมืองหู่เสี้ยวมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และเขาเองก็มีสัตว์พันธสัญญาที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
แต่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเขานี้เป็นเพียงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเท่านั้น! ยังห่างชั้นกันนัก!
“บึ้ม!”
ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม้ว่าคนจากเมืองซีเจว๋จะทุ่มเทสุดกำลังแล้ว แต่ทุกคนก็ถูกชาวเมืองหู่เสี้ยวทุบตีจนล้มลงไป
ครั้งนี้เมืองซีเจว๋คงพ่ายแพ้แล้วจริง ๆ
เจ้าเมืองหู่ชำเลืองมองเจ้าเมืองซีเจว๋ด้วยแววตาอันเย็นยะเยือก
“ไปตายซะ!”
พลังอันน่าหวาดหวั่นแผ่กระจายออกไป สัตว์พันธสัญญาของเขาถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ของเจ้าเมืองหู่ทุบตีจนพิการไปครึ่งหนึ่ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารของเจ้าเมืองหู่ เจ้าเมืองซีเจว๋รู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความตายปกคลุม
ในขณะที่พลังนี้กำลังจะทำลายเขา แสงของดาบก็วาบผ่านเข้ามา
เจ้าเมืองหู่โกรธจัด เป็นเจ้าหนุ่มนั่นที่มาทำลายเรื่องดี ๆ ของเขาอีกแล้ว!
เย่เฉินกล่าว “ในเมื่อตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว ไยต้องลงมือสังหารด้วยเล่า เจ้าเมืองซีเจว๋ก็เป็นยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หก มีเขาอยู่ พวกเราก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้นในการต่อกรกับสำนักขวางโซ่ว! ”
เจ้าเมืองชางกล่าว “ใช่แล้ว! ถ้าเจ้าฆ่าเจ้าเมืองซีเจว๋ เจ้าจะไปหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หกได้จากที่ไหนกัน!”
“ท่านเจ้าเมืองซีเจว๋จะตายไม่ได้ ท่านเจ้าเมืองหู่เจ้ามันโหดร้ายเกินไปแล้ว”
“……”
มีหลายคนเห็นด้วย และเจ้าเมืองซีเจว๋ก็ได้เดินลงจากเวทีประลองแล้ว เขากล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ข้าขอยอมแพ้!”
หลังของเขาเปียกโชกไปหมด อีกนิดเดียวเขาก็เกือบจะต้องตายและไปเยือนยังยมโลกแล้ว
ก้นบึ้งหัวใจของเขานั้นเกลียดเจ้าเมืองหู่มาก แต่เขากลับต้องระงับอารมณ์ของเขา เจ้าเมืองซีเจว๋จึงกล่าวว่า “ข้ายอมแพ้ได้”
เขามองกู้ไป๋อีและเย่เฉินด้วยความซาบซึ้ง ก่อนจะเดินไปหาพวกเขา “เมื่อครู่นี้ ขอบคุณมากจริง ๆ”
กู้ไป๋อีมองมาทางเขาอย่างเฉยเมย และไม่กล่าวอันใด เขาเพียงไม่อยากให้เจ้าเมืองหู่ผู้นั้นทำแผนชั่วสำเร็จก็เท่านั้น
เย่เฉินหัวเราะพลางกล่าว “ต่อให้พ่ายแพ้ไปหนึ่งรอบ เจ้าเมืองซีเจว๋ก็มีพลังที่ไม่ธรรมดาในทุ่งรกร้าง ตอนนี้พวกเราไม่มีใครอยากให้เจ้าถูกคนใจแคบฆ่าตายหรอก”
ทั้งใจแคบทั้งโหดเหี้ยม เย่เฉินไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ทุกคนรู้ว่าเขากำลังพูดถึงใคร?
เจ้าเมืองหู่โกรธจัด “เจ้าหนู เจ้าว่าใครกัน? เจ้ารนหาที่ตายเหรอ?”
เย่เฉินกล่าว “เจ้าเมืองหู่ชอบเอาเรื่องราวมาโยงกับตัวเองงั้นรึ?”
“เจ้า..”
เจ้าเมืองซีเจว๋กล่าว “เจ้าเมืองหู่ ที่นี่คือเมืองซีเจว๋ของข้า อย่าได้เอะอะก็ให้ลุยให้ฆ่าแกงเลย ช่วยอยู่ในกฏให้ข้าหน่อย การแข่งขันยังไม่จบลง!”
มู่เฉียนซีกำลังต่อสู้อยู่กับเจ้าเมืองเฮยถู เจ้าเมืองเฮยถูคิดว่าหากมู่เฉียนซีใช้พลังวิญญาณมากจนเกินไป เช่นนั้นก็จะไม่มีทางที่จะมีความเร็วที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้
แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าคุณหนูผู้นี้จะหยิบเอายาทั้งหมดมากินเป็นอาหาร หากกินยาคุณภาพสูงไปหนึ่งขวด พลังวิญญาณของนางก็จะใช้ไม่มีหมด
มู่เฉียนซีรู้ว่าเมืองหู่เสี้ยวสามารถเอาชนะเจ้าเมืองแห่งทุ่งรกร้างได้อย่างปาฏิหาริย์ คาดว่าเบื้องหลังของพวกเขาคงมีสำนักขวางโซ่วคอยหนุนหลังอยู่จริง ๆ
หลังจากต่อสู้กันมาเป็นเวลานาน และยังไม่มีท่าทีว่านางจะสามารถทะลวง
พลังได้เลย มู่เฉียนซีจึงตัดสินใจที่จะยุติการต่อสู้กับเจ้าเมืองเฮยถูเสียที
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านเจ้าเมืองเฮยถู ดูเหมือนว่าการประลองครั้งนี้จะจบลงแล้ว”
เจ้าเมืองเฮยถูกล่าว “สาวน้อย เจ้าอยากยอมแพ้รึ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ ข้าจะเอาชนะท่าน”
“เจ้าฝันไปเถอะ!”
ทันทีที่คำพูดของเจ้าเมืองเฮยถูหลุดออกไป มู่เฉียนซีก็บีบยาเม็ดจนแหลกละเอียด เมื่อยาเม็ดแตกออก หมอกพิษสีดำก็ระเบิดออกมา
เมื่อเผชิญหน้ากับหมอกพิษ เจ้าเมืองเฮยถูก็รีบป้องกันมันทันที
แต่กำแพงดินของเขาไม่สามารถต้านทานพิษของมู่เฉียนซีได้ ดวงตาของเขาหดเล็กลง
เป็นไปได้อย่างไร?
เจ้าเมืองฮยถูถูกพิษจนสลบล้มลงไปกับพื้น
รองเจ้าเมืองตงกัวกล่าว “เมืองเหลย มู่เฉียนซีชนะ”
การต่อสู้รอบที่สองได้จบลงแล้ว สามอันดับแรกก็ได้รับการยืนยันแล้ว
เมืองเหลย เมืองเหยียน และเมืองหู่เสี้ยว สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เมืองที่เข้าไปถึงสามอันดับแรกทั้งสามเมืองนั้นล้วนเป็นเมืองขั้นสำนักนิกายระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจจินตนาการได้แม้แต่น้อย
สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าคือความแข็งแกร่งของเมืองทั้งสองแห่งก่อนหน้านี้อยู่ในอันดับท้ายสุดของทุ่งรกร้าง
ตอนนี้พวกเขากลับอาศัยคนสองคนที่ไม่ธรรมดาเพื่อเข้าสู่สามอันดับแรก
รองเจ้าเมืองตงกัวกล่าว “รอบที่สามจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ วันนี้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่!”
เจ้าเมืองหู่กล่าวอย่างรำคาญว่า “พรุ่งนี้ ยังต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้อีก ข้ารอที่จะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้น ๆ ไม่ไหวแล้ว?”