เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเขา มู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าคิดว่าข้าในตอนนี้ จะยอมปล่อยพวกเจ้าไปอย่างนั้นเหรอ ลำพังเพียงแค่เจ้าผู้เดียว ช่วยเจ้าหมอนี่ไม่ได้หรอก!”
“แล้วถ้าหากมีเจ้านี่ล่ะ!” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของท่านผู้อาวุโสรอง
ตูม! สัตว์พันธสัญญาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสตัวนั้นของเขาถูกโยนออกมา
เขาทิ้งสัตว์พันธสัญญาของตัวเอง อีกทั้งยังใช้ให้สัตว์พันธสัญญาของตัวเองระเบิดทำลายตัวเองอีกด้วย
มู่เฉียนซีหลบอย่างรวดเร็ว วิธีการหนีเอาตัวรอดของสำนักขวางโซ่วก็คือการระเบิดทำลายตัวเอง
หาวิธีใหม่บ้างไม่ได้หรืออย่างไรกัน?!
ทว่า จำต้องบอกเลยว่าผลของการระเบิดทำลายตัวเองนั้นดีมากทีเดียว
การที่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าตัวหนึ่งระเบิดทำลายตัวเองนั้น เพียงพอที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสหนีรอด
มู่เฉียนซีรีบกล่าวว่า “รีบหลบเร็วเข้า หลบให้ไกลได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี!”
อีกทางด้านหนึ่ง เงานั้นก็ระเบิดทำลายตัวเองเช่นกัน!
ตูม!
ตูม!
เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น บ้านเรือนส่วนใหญ่ของเมืองซีเจว๋ก็ได้พังทลายลง
เมืองซีเจว๋ที่ยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นซากปรักหักพังในทันที
นี่จบสิ้นแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ยัง!
การระเบิดทำลายตัวเองสองครั้งนี้ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอย่างน่าสังเวช และทำให้คนของสำนักขวางโซ่วได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อยเลยเช่นกัน
ในตอนนี้เอง มีคนตะโกนเสียงดังขึ้นว่า “ตะขาบ!”
“ตะขาบมาจากไหนมากมายปานนี้!”
“พระเจ้า! ตะขาบเหล่านี้มีพิษ!”
“ช่วยด้วย!”
ทั่วทั้งเมืองซีเจว๋ในตอนนี้ได้กลายเป็นเมืองตะขาบไปแล้ว บนพื้นเต็มไปด้วยตะขาบที่คืบคลานอย่างหนาแน่น
ตูม ปัง ปัง!
พวกเขาพยายามโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ทั้งใช้ดาบฟัน ทั้งใช้ไฟเผา แต่ก็ยังคงถูกตะขาบเหล่านี้ห้อมล้อมเอาไว้ และตะขาบเหล่านี้ก็ยังคงคืบคลานออกมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนคนของสำนักขวางโซ่วเหล่านั้นก็ไม่ได้เข้ามาพัวพันกับพวกเขาแล้ว แต่รีบหนีเอาชีวิตรอดออกไปจากเมืองอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมลง “เจ้าตงกัวนั่นเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม ช่างต่ำทรามยิ่งนัก!”
ถึงแม้ตงกัวจะคิดว่าแผนการในครั้งนี้ของเขาจะไม่มีทางผิดพลาด แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ เขาจึงได้ทิ้งสิ่งนี้เอาไว้!
หากพ่ายแพ้ ตะขาบพิษก็จะถูกปล่อยออกมาทำลายเมืองซีเจว๋ทั้งเมือง ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก
ตอนนี้พวกมู่เฉียนซีไม่มีศัตรูของสำนักขวางโซ่วแล้ว มีเพียงแค่ตะขาบพิษตรงหน้าเหล่านี้ที่ยังคงพัวพันอย่างไม่ยอมเลิกราอยู่ ตอนนี้เองมู่เฉียนซีจึงได้หาที่ที่สงบที่หนึ่ง
นางกล่าวกับกู้ไป๋อีว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าดูแลความปลอดภัยให้ข้า ข้าจะปรุงยาทำลายตะขาบเหล่านี้”
กู้ไป๋อีพยักหน้าพลางกล่าว “ได้!”
ถึงแม้ว่าตะขาบเหล่านี้จะมีพิษ อีกทั้งยังมีจำนวนมาก แต่การที่จะปรุงยาทำลายตะขาบออกมานั้นก็ไม่ได้ยากอะไร
มู่เฉียนซีได้ปรุงยาออกมาเป็นจำนวนมาก นางให้เย่เฉินเอายาเหล่านี้ไปมอบให้กับคนอื่น ๆ ไม่นานนักก็ได้เกิดการฆ่าแมลงครั้งใหญ่ขึ้น
พลั่ก พลั่ก พลั่ก!
เมื่อได้เห็นยาเหล่านี้สามารถฆ่าทำลายตะขาบเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาก็โล่งอกไปเปราะหนึ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “ต้องหาที่มาของตะขาบเหล่านี้ให้ได้ มิเช่นนั้นฆ่าเช่นไรก็ไม่มีทางฆ่าหมดแน่นอน!”
เนื่องจากตะขาบเหล่านี้ได้ถูกฆ่าทำลายจนจำนวนของมันลดน้อยลง มู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีจึงพบว่าตะขาบเหล่านี้มาจากที่ใด นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นชั้นตำราในห้องตำราของเจ้าเมืองซีเจว๋
บนชั้นตำรามีกล่องไม้กล่องหนึ่งวางอยู่
กล่องไม้นั้นถูกเปิดออก และด้านในมีตะขาบคืบคลานออกมาอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากบนร่างของมู่เฉียนซีนั้นมีกลิ่นอายที่ทำให้มันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก พวกมันจึงคืบคลานอ้อมมู่เฉียนซีไป
มู่เฉียนซีชักกระบี่มังกรเพลิงออกมา กระบี่มังกรเพลิงระเบิดเปลวไฟที่แผดเผาออกมา และทำลายกล่องไม้นั้นจนสิ้นซาก
หลังจากที่จัดการกับตะขาบเหล่านั้นได้อย่างหมดจด ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เดิมทีพวกเขามาเพื่อปรึกษาหาทางรับมือกับสำนักขวางโซ่ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกสำนักขวางโซ่วตลบหลัง ทำร้ายจนบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก!
ตุบ! คนผู้หนึ่งถูกโยนมาตรงหน้ามู่เฉียนซี
“ท่านมู่ เจอตัวเจ้าเมืองซีเจว๋แล้ว เขายังไม่ตาย!”
ในตอนนี้เจ้าเมืองซีเจว๋ถูกพิษของตงกัวทรมานจนแทบจะไม่ใช่มนุษย์แล้ว แต่ยังคงมีชีวิตและยังรู้สึกตัวอยู่
เขากล่าว “ข้าถูกบังคับ ข้าถูกเจ้าสุนัขจิ้งจอกผู้นั้นบังคับ ข้าก็ไม่อยากจะทำเช่นนี้”
“ท่านมู่ อย่าไปเชื่อเขา! ในตอนที่เขาลงมือกับพวกเรา เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย” คนผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
“ถูกบังคับ ใครจะเชื่อเจ้า! ไม่แน่เจ้าก็อาจจะเป็นคนของสำนักขวางโซ่วด้วยก็ได้” อีกคนที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวเสริม
เจ้าเมืองซีเจว๋กล่าว “พวกเจ้าต้องเชื่อข้า ข้าถูกบังคับจริง ๆ ช่วยข้าด้วยเถอะนะ แม่นางมู่ ช่วยข้าด้วย…”
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถในการใช้พิษ เจ้าต้องแก้พิษให้ข้าได้แน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ในคืนเดียวกันกับวันที่เมืองเหลยของพวกข้าได้รับชัยชนะ เจ้าส่งคนมาลอบฆ่าพวกข้า เจ้าคิดว่าพวกข้าจะไม่รู้อย่างนั้นเหรอ?”
“คนเจ้าเล่ห์ผู้นี้ แพ้แล้วไม่ยอมรับ แพ้แล้วพาล นึกไม่ถึงว่ายังจะลอบฆ่าท่านมู่กับพวกอีก”
“ต้องสับเจ้านี่ให้ตายเป็นหมื่น ๆ ชิ้น จะใจอ่อนให้ไม่ได้เด็ดขาด!”
“……”
“ขะ ข้า ข้าก็แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะ เป็นเพราะตงกัววางยาพิษข้า ใช่! ขะ…ข้า ข้าถูกวางยาพิษจึงได้ทำเรื่องเลวทรามนั่นลงไป”
“แม่นางมู่ ท่านเจ้าเมืองเย่ ขอเพียงแค่พวกเจ้าช่วยข้า ต่อไปตำแหน่งท่านเจ้าเมืองเมืองซีเจว๋ก็จะเป็นของพวกเจ้า” เจ้าเมืองซีเจว๋กล่าวอย่างลนลาน
เย่เฉินกล่าวเย้ยหยันว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ากลายเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังจะเป็นท่านเจ้าเมืองซีเจว๋คนเก่าได้อีกเหรอ?”
“อีกอย่าง หากพวกข้าต้องการเมืองเมืองนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เจ้ามอบให้!”
ในตอนนี้มู่เฉียนซีและพวกได้กลายผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตทุกคนไว้ พลังความแข็งแกร่งก็มีเพียงพอ ต่อให้เขาพูดว่าพวกเขาต้องการครอบครองเมืองซีเจว๋ คนอื่นก็ไม่ได้มีความเห็นแต่อย่างใด
“ขะ ข้า…”
เจ้าเมืองซีเจว๋ไม่มีหมากที่จะมาต่อรองแล้ว เขากล่าว “ขอเพียงแค่ช่วยข้า นับจากนี้ต่อไปข้าจะยอมทำตามที่พวกเจ้าสั่งทุกอย่าง ข้ายอมแล้วทุกอย่าง ถึงอย่างไรพลังวิญญาณของข้าก็เป็นถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกนะ”
ทางตะวันตกของทุ่งรกร้างต้องให้ผู้มีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกเป็นผู้อยู่ประจำเมือง มิเช่นนั้น ต่อให้พวกเขากลายเป็นพันธมิตรกัน แต่ไร้ผู้แข็งแกร่งอยู่ประจำเมือง ก็เกรงว่าจะถูกผู้แข็งแกร่งของเมืองอื่นยึดครองไปได้
ทุกคนต่างก็เกิดความลังเลเล็กน้อย กลัวว่าเจ้าเมืองซีเจว๋จะไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง และทำร้ายพวกเขาอีกครั้ง
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าพูดถูก ข้าช่วยเจ้าได้ แต่หากต่อไปในภายภาคหน้าเจ้าคิดไม่ซื่ออีก ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะต้องอนาถกว่าครั้งนี้แน่นอน”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาหลายเข็มปักเข้าร่างของเจ้าเมืองซีเจว๋
ไม่นานนักพิษในร่างเจ้าเมืองซีเจว๋ก็ถูกแก้ สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม
คนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง พิษอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าท่านมู่จะแก้พิษได้ภายในชั่วพริบตา มหัศจรรย์ยิ่งนัก
“ส่วนยาพิษนี้ กินซะ ข้าไม่ไว้ใจเจ้าจริง ๆ!” มู่เฉียนซีหยิบเม็ดยาวิญญาณสีดำเม็ดหนึ่งออกมายื่นให้เขา
หลังจากที่ผ่านความตกใจนั้นมา เจ้าเมืองซีเจว๋ก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง รีบกลืนเม็ดยานั้นลงไปทันที
เขากล่าว “ข้ากับตงกัวอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้! ข้าอยู่ร่วมโลกกับสำนักขวางโซ่วไม่ได้ ข้าจะช่วยแม่นางมู่และท่านเจ้าเมืองเย่กับพวกรับมือกับสำนักขวางโซ่ว ไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด!”
จวนเจ้าเมืองถูกทำลายยับเยินแล้ว ส่วนสถานที่อื่นก็พังทลายเพราะการระเบิดทำลายตัวเองของคนจากสำนักขวางโซ่วเช่นกัน การปรึกษากันในครั้งต่อไปจึงต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่แล้ว
ตอนที่มามีผู้แข็งแกร่งนับร้อยเมือง เมื่อผ่านการต่อสู้ครั้งแรกกับสำนักขวางโซ่ว ผู้แข็งแกร่งก็ลดน้อยลงไปสิบกว่าเมือง
ในตอนที่ประลองกันก็มีผู้ที่ตายไปไม่น้อยด้วยความไม่ระมัดระวังของตนเอง และเมื่อผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่นั้นมา ก็เหลือเพียงแค่สามสิบกว่าเมืองเท่านั้น มู่เฉียนซีมองไปที่พวกเขาและกล่าวว่า “นับจากวันนี้ไป เมืองเหลยจะย้ายมาที่เมืองซีเจว๋ เย่เฉินเป็นท่านเจ้าเมือง และเป็นผู้นำทางตะวันตกของทุ่งรกร้างแห่งนี้ ไม่ทราบว่าทุกท่านมีความคิดเห็นใดหรือไม่?”