บทที่ 115 ที่หนึ่ง
ในไม่ช้า นักเรียนคนที่สองก็ขึ้นไปบนเวที แต่ทำสำเร็จเพียงสามด่าน จากนั้นก็ทำไม่สำเร็จ
แน่นอนว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการหาผู้ชนะไม่ได้ หากไม่มีสัตว์เลี้ยงตัวไหนเลยที่ไม่สามารถทำตามคำสั่งได้ครบทุกอย่าง ทางโรงเรียนจึงกำหนดให้มีการคำนวณคะแนนรวมของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวเอาไว้ด้วยสำหรับคำสั่งที่สัตว์เลี้ยงพอจะทำได้สำเร็จ
“มันยากเกินไป เด็ก ๆ จะสั่งสัตว์เลี้ยงให้ทำท่ายาก ๆ แบบนั้นครบทั้งหมดได้ยังไง?”
“ใช่ มันยากเกินไป เจ้าตัวเล็กของผมไม่มีทางทำได้แน่”
“ลดระดับความยากลงเถอะ ใครกันจะทำได้ครบทุกอย่างตามที่กฎกำหนดแบบนี้?”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้ปกครองแทบทุกคนบ่นกันด้วยสีหน้าอึดอัด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่กำลังเสนอความคิดเห็นว่าทางโรงเรียนควรจะลดความยากลงสักหน่อย เสี่ยวห่าวซึ่งเคยเยาะเย้ยถวนถวนมาก่อน ก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้ามั่นใจเต็มเปี่ยม
‘คอยดูฉันให้ดี!’
เสี่ยวห่าวคิดในใจด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง เขามองเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ด้านล่างเวทีด้วยสายตาเย้ยหยัน
สัตว์เลี้ยงของคนพวกนี้จะมาเทียบกับสุนัขราคาแพงที่พ่อซื้อให้เขาได้ยังไง?
“ราโด้! ยืนตรงนี้!”
ทันทีที่เสี่ยวห่าวออกคำสั่ง สุนัขสีดำก็กระดิกหางและยืนตรงจุดที่เขาชี้
การเคลื่อนไหวของมันเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น
“เฮ้ ราโด้ ลอดห่วงนั่นซะ!”
คำสั่งที่สองก็สำเร็จในเวลาเร็วพอ ๆ กับคำสั่งแรก
ดูเหมือนว่าสุนัขตัวนี้จะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเลิศ แค่เพียงเสี่ยวห่าวเอ่ยคำสั่งออกมา มันก็สามารถเข้าใจความหมายของเจ้าของได้อย่างง่ายดาย
“ราโด้! กระโดด!”
การเคลื่อนไหวที่ราบรื่นไร้ที่ติปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าต่อตาทุกคน
เมื่อเห็นความไหลลื่นในทุกท่วงท่าของเจ้าราโด้ บรรดาผู้ชมทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าโง่งม พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าหมาสีดำตัวนี้ทำตามคำสั่งได้อย่างยอดเยี่ยมแบบนั้นได้ยังไง!!
“ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนเสี่ยวห่าวและเจ้าราโด้สุนัขแสนรู้ ที่เป็นคนแรกที่สามารถแสดงจบทุกท่า!”
ทันทีที่ราโด้ทำตามคำสั่งสุดท้ายเสร็จ คุณครูที่ได้รับหน้าที่เป็นผู้ตัดสินบนเวทีก็ประกาศอย่างตื่นเต้น เพราะหากไม่มีเด็กคนไหนที่ทำสำเร็จเลย ทางโรงเรียนจะถูกบรรดาผู้ปกครองรวมตัวกันกดดันแน่นอน
“ลูกใครเนี่ย? น่าทึ่งมาก!”
“ใช่แล้ว มันเหมือนกับว่าเจ้าหมาสีดำตัวนั้นเข้าใจคำพูดของมนุษย์ทุกคำพูดเลย ไม่ว่าจะสั่งอะไรมันก็ทำได้หมด ฉลาดมาก!”
“ในอนาคตเด็กคนนี้คงกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จแน่ ๆ”
เมื่อเห็นว่ามีเด็กที่สามารถทำได้สำเร็จ ผู้คนที่เคยอยากจะให้ลดความยากลงจึงทำได้แต่นิ่งเงียบ เพราะถ้าพวกเขาขืนพูดอะไรต่อมันจะยิ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าลูกของพวกเขานั้นไร้ความสามารถมากกว่าเดิม
เสี่ยวห่าวลูบหัวราโด้พร้อมกับมองเจาะจงไปที่ถวนถวนซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้คนด้านล่างเวทีด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
แน่นอนว่าถวนถวนเองก็เห็นสายตาที่จ้องมองมาของฝั่งตรงข้ามเช่นกัน ซึ่งมันทำให้เด็กน้อยรู้สึกอยากจะหาอะไรเขวี้ยงใส่ด้วยความหมั่นไส้
จากนั้นเด็กอีกสองสามคนถัดไปที่ขึ้นไปบนเวทีก็ทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ คนที่ทำได้ดีที่สุดทำได้เพียงห้าหรือหกท่าเท่านั้น
ในที่สุดก็ถึงคราวของถวนถวนที่ขึ้นไปบนเวที…
เด็กน้อยยืนอยู่บนเวทีด้วยสีหน้าไม่มั่นใจเลย ในใจของเธอรู้สึกสั่นกลัวเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ขึ้นมายืนบนเวทีแบบนี้
“เอาเลยถวนถวน ไม่ต้องกลัว!”
หลี่หรงส่งเสียงให้กำลังใจเทพธิดาตัวน้อยของเธอดังลั่น
ต่อมาการแสดงก็เริ่มขึ้น
“ลูกกวาด ลุกขึ้น!”
ตามคำสั่งของถวนถวน ลูกกวาดก็ยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของมนุษย์ได้
“ลูกกวาด! หมุนตัวเป็นวงกลม!”
มันยังคงทำตามคำสั่งอย่างราบรื่น ไม่ว่าถวนถวนจะสั่งอะไรออกมา ลูกกวาดก็ขยับทำตามทันที
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เป็นผลมาจากการฝึก แต่เป็นเพราะมันเข้าใจความหมายของคำพูดมนุษย์อย่างถ่องแท้!
“ช่างเป็นสุนัขที่ฉลาดอะไรแบบนี้!”
“เอ… ถ้าฉันจำไม่ผิดสุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์ มันไม่ได้ฉลาดสักเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ?”
“…”
ผู้ปกครองที่กำลังชมอยู่ต่างวิจารณ์กันดังสนั่น พวกเขาไม่เคยเห็นสุนัขที่ฉลาดขนาดนี้มาก่อน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าลูกหมาพันธุ์ชเนาเซอร์ตัวนี้ถึงดูเหมือนเข้าใจความหมายของคำพูดมนุษย์ได้ขนาดนี้
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางรู้แน่นอนว่าสาเหตุที่มันฉลาดขนาดนี้เป็นเพราะอวี้ฮ่าวหรานใช้พลังวิญญาณเพิ่มสติปัญญาให้กับมัน!
อันที่จริง หากอวี้ฮ่าวหรานแข็งแกร่งมากพอ เขาสามารถทำให้สติปัญญาของมันเทียบเท่ากับมนุษย์ได้ด้วยซ้ำ
แต่ต่อให้ตอนนี้เขาจะทำแบบนั้นได้ เขาก็คงยังไม่ทำมันแน่ ๆ เพราะนี่คือโลกมนุษย์ การใช้พลังวิญญาณเพื่อปลดล็อกความฉลาดของสัตว์เลี้ยงธรรมดาให้เท่ากับมนุษย์ย่อมเกิดผลกระทบที่คาดเดาไม่ได้
หลังจากเวลาผ่านไปอีกพักหนึ่ง ถวนถวนก็ออกคำสั่งสุดท้ายซึ่งเจ้าลูกกวาดก็ทำตามได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“เด็กอีกคนที่จบการแข่งขัน! ทุกคนเห็นไหม เด็กคนนี้กับสัตว์เลี้ยงของเธอช่างน่าทึ่งจริง ๆ!”
ครูบนเวทีประกาศเสียงดัง แม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกประหลาดใจกับสุนัขสีขาวดำตัวนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาดแบบลูกกวาดนับตั้งแต่ที่โรงเรียนจัดงานแข่งขันสัตว์เลี้ยงขึ้นมา
การแข่งขันดำเนินต่อไป แต่น่าเสียดายที่เด็กสองสามคนสุดท้ายไม่มีอะไรให้น่าสนใจมากนัก
สัตว์เลี้ยงของเหล่าเด็ก ๆ ที่เหลือนั้นไม่สามารถทำตามได้ครบทุกคำสั่ง
หลังจากแข่งขันกันไปได้เกือบสองชั่วโมง การแข่งขันก็จบลงอย่างเป็นทางการ
“ขณะนี้ช่วงการแข่งขันได้จบลงแล้วขอเรียนเชิญครูใหญ่ขึ้นมาบนเวทีเพื่อประกาศผลการแข่งขันด้วยครับ!” ครูบนเวทีประกาศขึ้น
จากนั้นครูใหญ่โรงเรียนอนุบาลก็ยืนขึ้นและเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อเริ่มประกาศผลการแข่งขัน
“ในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะสัตว์เลี้ยงของนักเรียนอวี้ซินถวนเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นกว่า ดังนั้นทางกรรมการจึงขอตัดสินให้เธอเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้!”
เมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง ถวนถวนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดขีด!
“พ่อจ๋า! พ่อจ๋า! หนูชนะที่หนึ่ง! ถวนถวนได้ที่หนึ่ง!!”
ก่อนการแข่งเธอไม่มีความมั่นใจสักเท่าไหร่ว่าจะสามารถเอาชนะเจ้าราโด้ของเสี่ยวห่าวได้ และยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่อยากล้มเหลวให้พ่อของเธอเห็น แต่แล้วในเวลานี้เมื่อเธอชนะที่หนึ่ง เด็กน้อยก็รู้สึกมั่นใจในตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนับจากนี้เธอคงมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อนของเธอ
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานก็พึงพอใจมากเช่นกัน เขารู้สึกว่ามันสมควรที่สุดที่ลูกสาวของเขาจะต้องเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง ลูกสาวของจักรพรรดิเทพจะเป็นคนที่ปราศจากความมั่นใจในตนเองได้อย่างไรจริงไหม?
ถัดมาชื่อของเสี่ยวห่าวก็ถูกประกาศขึ้นเป็นอันดับสอง ซึ่งมันทำให้เด็กน้อยคนนี้ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนเตะหมาของเขาเองเพื่อระบายความโกรธ
“ทำไมแกถึงเทียบลูกหมาตัวนั้นไม่ได้ล่ะ! พ่อฉันซื้อแกมาด้วยเงินมหาศาลเชียวนะ!”
เมื่อครู่เขายังอวดเบ่งต่อหน้าถวนถวนอยู่เลย เขาไม่คิดเลยว่าท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับอีกฝั่งอย่างราบคาบ ในเวลานี้เขาก้มศีรษะลงด้วยความหงุดหงิดไม่กล้าแสดงสีหน้าหยิ่งผยองอีกต่อไป
“ขอเชิญครูสวีมอบรางวัลให้เด็ก ๆ!”
ครูใหญ่เอ่ยเชิญสวีรุ่ยขึ้นมาบนเวที เพราะในฐานะที่เธอเป็นครูที่สวยที่สุดในโรงเรียน เธอจึงได้รับหน้าที่ให้ขึ้นมามอบของรางวัลให้กับเด็ก ๆ
“ถวนถวน หนูน่าทึ่งมากเลย เจ้าลูกกวาดของหนูเก่งจริง ๆ ครูสวีดีใจกับถวนถวนจริง ๆ ที่ชนะที่หนึ่งแบบนี้”
สวีรุ่ยเอ่ยชมพร้อมกับย่อตัวลงคล้องเหรียญรางวัลสีทองให้กับถวนถวน
“ขอบคุณค่ะครูสวี!”
ถวนถวนจับเหรียญรางวัลบนหน้าอกอย่างมีความสุข นี่เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมซึ่งเธอไม่เคยได้รู้สึกมาก่อนเลย!
ในอนาคต เสี่ยวห่าวคงจะไม่กล้าทำตัวหยิ่งผยองต่อหน้าเธออีกแล้ว ต้องรู้ว่าทุกครั้งที่เสี่ยวห่าวได้ของเล่นใหม่ ๆ จากพ่อของเขาเมื่อไหร่ เขาก็มักจะเอามันมาอวดในชั้นเรียนและเอามาเยาะเย้ยเธอด้วย ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันน่ารำคาญจริง ๆ