หลังจากจัดการกับคงเหอเรียบร้อยแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็จากไปในทันที
ด้วยความแข็งแกร่งที่ต่างกันมาก แม้จะเพิ่งสู้กับคงเหอเสร็จหมาด ๆ เสื้อผ้าของเขาก็ยังคงสะอาดสะอ้านเหมือนเดิมไม่ต่างกับตอนที่เขาเพิ่งออกจากบ้านโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ อวี้ฮ่าวหรานจึงขับรถมุ่งหน้าต่อไปที่บริษัทของเขา
ในออฟฟิศ ผู้จัดการหวังรายงานสถานการณ์บริษัทให้กับอวี้ฮ่าวหราน ฟังเหมือนอย่างเช่นทุกวัน ซึ่งเมื่อฟังจนจบ อวี้ฮ่าวหรานก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ดีแล้วที่ผลประกอบการของเรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ว่าแต่สถานการณ์ภายในบริษัทของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ตัวอย่างเช่น หลี่จิงเทียน ช่วงนี้เคลื่อนไหวอะไรบ้างรึเปล่า?”
“เรียนท่านประธาน ช่วงนี้นายน้อยหลี่มาที่บริษัทบ่อยขึ้นมาก แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเดินไปเดินมาโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการใด ๆ ภายในบริษัทเลย”
ผู้จัดการหวังตอบกลับอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าผู้จัดการหวังจับตาดูหลี่จิงเทียนเป็นอย่างดีเพราะอวี้ฮ่าวหรานเคยมอบหมายงานนี้เอาไว้ให้เขาก่อนหน้านี้แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้ หลี่จิงเทียนสร้างปัญหาขึ้นอีก
“ดีมาก คุณช่วยผมจับตาดูเขาต่อไป”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นพวกเขาวกกลับไปคุยเรื่องบริษัทกันต่อ
อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกเขาคุยกันไปได้อีกพักหนึ่งจู่ ๆ ประตูห้องกลับถูกเปิดออกอย่างกระทันหัน
“นี่คุณเป็นใครกัน? ทำไมคุณไม่เคาะประตูและขออนุญาตก่อนจะเข้ามา!”
แน่นอนว่า ผู้จัดการหวังหันไปตำหนิด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานกลับตะลึงงันเมื่อเห็นหน้าของคนที่เปิดประตูออฟฟิศของเขาเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ที่เข้ามาเป็นหญิงสาวหน้าตางดงามเป็นอย่างมากคนหนึ่ง หน้าตาของหญิงสาวคนนี้ดูคล้ายกับหลี่หรงเป็นอย่างมาก!
แตกต่างกันก็แค่เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าภาพจำครั้งล่าสุดเมื่อสามปีของเขา
ผู้จัดการหวังแสดงสีหน้างุนงง เมื่อเห็นอาการตกตะลึงของอวี้ฮ่าวหราน เขามองไปที่หญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่งแต่รอบนี้เขามองอย่างตั้งใจและนั่นทำให้เขาคิดอะไรบางอย่างออก
เขาเคยเห็นรูปของหลี่หรงในช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาทำงานกับอวี้ฮ่าวหราน เพราะเขาต้องพยายามรู้จักเจ้านายคนใหม่ให้มากขึ้นเขาจึงพยายามสืบค้นข้อมูลดู
ผู้หญิงคนนี้หน้าตาคล้ายกับหลี่หรงหรือภรรยาของเจ้านายเขาเลยนี่นา!?
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด!
หลังจากสามหมื่นปีเขารอเวลานี้มาตลอด เขาคิดถึงใบหน้านี้อยู่ทุกวันทุกคืนเฝ้าฝันอยากจะพบเจอตลอดมา
ในตอนนี้ใบหน้าที่เขาอยากเจอได้มาปรากฏต่อหน้าเขาแล้ว!
หลังจากตกตะลึงอยู่พักใหญ่ความรู้สึกของอวี้ฮ่าวหรานก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้น เขาไม่นึกเลยว่าภรรยาของเขาจะเป็นฝ่ายกลับมาหาเขาเองแบบนี้
ผู้จัดการหวังเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เขาก็รู้ตัวดีว่าการอยู่ในห้องต่อไปมันคงไม่เหมาะเท่าไหร่ดังนั้นเขาจึงค่อย ๆ เดินออกไปจากห้องในแบบที่เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ก่อนที่เขาจะเดินพ้นประตูไป ผู้จัดการหวังก็ยังคงเหลือบมองไปที่อวี้ฮ่าวหรานอีกรอบเพื่อยืนยันความคิดของเขาอีกรอบว่าผู้หญิงคนนี้ใช่คนที่เขาคิดจริง ๆ รึเปล่า
เมื่อเขาเหลือบไปมอง เขาก็ยังคงเห็นสีหน้าที่หลากอารมณ์ของอวี้ฮ่าวหรานเหมือนเดิมและนั่นทำให้เขาแน่ใจมากขึ้นว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะเป็นคนที่เขาคิดจริง ๆ
น่าเสียดาย…
ความเป็นจริงมันช่างโหดร้ายเพราะแท้จริงแล้ว หญิงสาวคนนี้เป็นแค่คนหน้าเหมือนหลี่หรงเท่านั้น!
เธอไม่ใช่หลี่หรงตัวจริง!
‘หลี่เม่ย’ คนนี้คือคนที่ถูกส่งมาโดย หวังเจวีย!
ก่อนหน้านี้หวังเจวียได้มาคุยกับหลี่จิงเทียน ดังนั้นเขาจึงล่วงรู้ว่าจุดอ่อนของอวี้ฮ่าวหรานคือหลี่เม่ย
ภาพถ่ายต่าง ๆ ของหลี่เม่ย ต่างถูกส่งไปอยู่ในมือของหวังเจวีย และจากนั้นหวังเจวียก็เริ่มแผนการทำลายอวี้ฮ่าวหรานด้วยแผน ‘ภรรยาปลอม’
หากภรรยาที่หายไปกลับมา อวี้ฮ่าวหรานจะต้องดีใจจนหน้ามืดตามัวเลยจริงไหม?
และเมื่อเป็นแบบนั้นหาก หลี่เม่ยปลอมคนนี้บงการให้อวี้ฮ่าวหรานทำอะไรเขาก็คงจะยอมทำตามอย่างโง่เง่าแน่นอน!
หวังเจวียพยายามตามหาหญิงสาวที่หน้าตาและรูปร่างใกล้เคียงหลี่เม่ย อยู่เป็นเวลาหลายวันและลงทุนเงินจำนวนมหาศาลทำศัลยกรรมให้กับหญิงสาวที่เขาจ้างมาให้หน้าตาและรูปร่างออกมาเหมือนกับหลี่เม่ยในรูปภาพที่เขาได้มาให้มากที่สุด!
ด้วยพลังเงินจำนวนมากกว่าสิบล้านหยวน หมอชื่อดังที่สุดสร้างสรรค์ผลงานออกเป็นหลี่เม่ยที่สมบูรณ์แบบแถมแผลจากการทำศัลยกรรมยังหายได้อย่างรวดเร็วและไม่มีรอยแผลเป็นใด ๆ ให้เห็นจากภายนอกได้เลย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนหลี่เม่ยอย่างไร้ที่ติแต่กิริยาท่าทางต่าง ๆ รวมไปถึงนิสัยยังคงไม่เหมือนดังนั้นหน้าที่นี้จึงเป็นของ หลี่จิงเทียน ผู้ซึ่งกลายเป็นอาจารย์จำเป็นให้กับหลี่เม่ยปลอมคนนี้
จนท้ายที่สุด ผลงานทุกอย่างก็ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบจนแม้แต่หลี่จิงเทียน ในบางครั้งเขาก็เผลอลืมตัวคิดไปว่านี่อาจจะใช่พี่สาวตัวจริงของเขารึเปล่า?
…
ในออฟฟิศเมื่อผู้จัดการหวังออกไปแล้ว
อวี้ฮ่าวหรานไม่อาจทานทนกับอารมณ์ของตัวเองได้อีกเขาลุกขึ้นและเดินไปกอด ‘หลี่เม่ย’ ในทันที
“คุณ…คุณกลับมาแล้ว!”
ถึงแม้ว่าเวลาในโลกมนุษย์จะผ่านไปแค่3ปี แต่เวลาที่เขาใช้อยู่ในดินแดนแห่งเทพนั้นคือ3หมื่นกว่าปี! ช่วงเวลายาวนานขนาดนั้นมันทำให้หัวใจของเขารู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก
“คุณรู้ไหมว่าผมคิดถึงคุณแค่ไหนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะเล่าให้คุณฟังมากมาย”
“อื้ม! ฉันเองก็รู้สึกดีใจมากที่คุณกลับมาแล้ว พวกเราไม่ได้เจอกันตั้ง3ปีแล้วสินะ”
สีหน้าของ ‘หลี่เม่ย’ เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน
“คุณจำได้รึเปล่า? พ่อของคุณต่อต้านงานแต่งงานของเราขนาดไหนในตอนนั้น?”
“แน่นอนฉันต้องจำได้อยู่แล้ว ฉันยังจำได้อีกว่าหลี่หรงพยายามช่วยเราทุกวิถีทางจนถึงกระทั่งยอมทะเลาะกับพ่อของฉันอย่างรุนแรงจนไม่มองหน้ากันไปหลายปี”
‘หลี่เม่ย’ ซุกหน้าที่อกของ อวี้ฮ่าวหราน พร้อมกับตอบกลับท่าทีของเธอพยายามแสดงออกว่าคิดถึงอวี้ฮ่าวหรานมากจนอธิบายออกเป็นคำพูดได้ไม่หมด
เธอกอด อวี้ฮ่าวหราน แน่นด้วยรอยยิ้มที่ตื้นเต้นและเปี่ยมสุข…