“แก! แกฆ่าลูกชายของฉัน!!!”
หวังเจาไม่นึกเลยว่าเขาจะเจอฆาตกรง่ายขนาดนี้ แถมอีกฝ่ายยังยอมรับออกมาด้วยสีหน้ารื่นรมย์อีกต่างหาก…!
ในเวลานี้สีหน้าของเขาทั้งดำทั้งแดงบ่งบอกว่าเขาโกรธจนแทบคลั่ง
“ทำไม ๆๆ…แกฆ่าลูกชายของฉันทำไม!!! ลูกชายของฉันเป็นคนดีและไม่เคยทำร้ายใครเลย! ทำไมแกถึงฆ่าเขา!!”
หวังเจาตวาดสุดเสียงด้วยความเดือดดาล แต่ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานกลับแสดงสีหน้าเหยียดหยามอย่างที่สุด
กล้าวางแผนล้อเล่นกับความรู้สึกของข้าคนนี้โทษมีสถานเดียวคือความตาย!
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างดูถูกก่อนที่จะเดินไปยังเก้าอี้ประธานบริษัทของเขาและเอ่ยสั่งผู้จัดการหวัง
“ผู้จัดการหวัง…ผมไม่ต้องการที่จะพูดคุยไร้สาระกับคนเหล่านี้อีกต่อไปแล้ว ไล่พวกมันกลับไปให้หมด!”
“ฮ่า ๆ! ไล่พวกฉันกลับไปงั้นเหรอ? แกฆ่าลูกชายฉัน แกยังคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปง่าย ๆ งั้นเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานยังคงแสดงท่าทีโอหังต่อหน้าตัวเอง หวังเจา หัวเราะขึ้นด้วยความโมโห
“อาเว่ย! เอาเลย! ฆ่าไอ้เวรนี่ให้ฉัน! แกไม่ต้องกังวลอะไรหลังจากนี้ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง!”
หวังเจาตะโกนสั่งลูกน้องของเขาเสียงดังลั่น
“รับทราบ!”
บอดี้การ์ดที่ชื่ออาเว่ยเป็นชายร่างใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อบึกบีนและมีความสูงถึง 1.9 เมตร!
ด้วยความใหญ่โตของร่างกายมันทำให้เขาดูไม่ต่างอะไรกับภูเขาลูกย่อมๆ!
หลังจากได้ยินคำสั่งเจ้านายตัวเอง อาเว่ยชักมีดที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมาทันที
เมื่อเห็นภาพนี้บรรดาบอดี้การ์ดที่เหลือที่อยู่ในห้องต่างก็ชักมีดออกมาเช่นกัน
ไม่เหมือนกับบอดี้การ์ดทั่ว ๆ ไป บอดี้การ์ดพวกนี้ได้เซ็นสัญญาทำงานให้กับหวังเจาตลอดชีวิตเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากพวกเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาบุตรหลานและญาติของพวกเขาจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยบริษัทไป๋เชา
ดังนั้นบอดี้การ์ดทั้งหลายจึงไม่ลังเลเลยที่จะทำตามที่หวังเจาเอ่ยสั่ง พวกเขาวิ่งกรูกันเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหรานในทันที
ผู้จัดการหวังหวาดกลัวจับใจเมื่อเห็นสถานการณ์ที่เลยเถิดขนาดนี้!
เป็นไปตามที่เขาคาด…ชนชั้นสูงย่อมเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!
กลับกันอวี้ฮ่าวหรานเมื่อเห็นภาพนี้เขายิ้มอย่างดูถูกออกมาทันที
เหมือนกันไม่มีผิดทั้งพ่อทั้งลูก! เข้ามาในบริษัทของเขาแท้ ๆ ยังกล้าจะฆ่าเขาที่นี่อีกต่างหาก!
แต่เสียใจด้วยที่วันนี้แกเลือกเหยื่อผิดคนแล้ว!
พลั่ก!!
อวี้ฮ่าวหรานพุ่งตัวข้ามโต๊ะทำงานของเขาเองพุ่งไปหาอาเว่ยที่วิ่งนำหน้าเข้ามาแล้วถีบไปที่ท้องน้อยของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
เมื่อเผชิญกับลูกถีบของอวี้ฮ่าวหราน ชายร่างยักษ์สูง 1.9 เมตรลอยละลิ่วราวกับไร้น้ำหนักกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงห้องอย่างแรงจนห้องสั่น!
“ในเมื่อพวกแกอยากเจ็บตัวมากนักงั้นฉันจะสนองให้!”
เมื่อพูดจบ ร่างของอวี้ฮ่าวหรานหายวับไปอย่างน่าอัศจรรย์และพริบตาต่อมาเขาไปโผล่ที่ตรงหน้าบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งและชกหมัดเข้าไปที่กลางอกเต็มๆ
“ตูม! ตูม! ตูม!”
ร่างของบอดี้การ์ดทั้ง8คนลอยกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรงทีละคน ๆ โดยหมัดและเท้าของอวี้ฮ่าวหราน
หลังจากจัดการบอดี้การ์ดทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย สภาพของห้องก็กลายเป็นเละเทะ กำแพงที่มั่นคงแข็งแรงเกิดรอยร้าวมากมายจากการที่ร่างของเหล่าบอดี้การ์ดกระเด็นมากระแทกอย่างรุนแรง…
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ อวี้ฮ่าวหรานจงใจไม่ฆ่าคนเหล่านี้ เขาแค่เพียงทำให้คนเหล่านี้บาดเจ็บสาหัสก็แค่นั้น
ถ้าเขาฆ่าคนเหล่านี้ที่นี่มันจะมีปัญหาด้านกฎหมายตามมาอีกมากมายซึ่งเขาไม่ต้องการที่จะทำให้ชีวิตตัวยุ่งยากกับการต้องไปขึ้นโรงขึ้นสาล
อวี้ฮ่าวหรานจ้องไปที่หวังเจาด้วยแววตาเหยียดหยาม…
“เอาล่ะตอนนี้ไสหัวออกไปจากบริษัทของฉันได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องพูดอีกเป็นครั้งที่ 3!”
“น…นี่มันเป็นไปได้ยังไง…!”
หวังเจาตกตะลึงจนพูดอย่างตะกุกตะกัก เขามองไปที่บรรดาบอดีการ์ดของเขาที่นอนร้องโอดโอยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
ทำไมไอ้หนุ่มนี่มันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!
ไม่แปลกใจเลย!
ไม่แปลกใจเลยที่มันสามารถฆ่าลูกชายของเขาพร้อมกับบอดี้การ์ดหลายสิบที่คฤหาสน์จินหลาน!
“อวี้ฮ่าวหราน!!! แกรอก่อนเถอะ! ฉันไม่จบกับแกง่าย ๆ แน่! ฉันจะต้องแก้แค้นแกให้ได้!!!”
เมื่อได้ยินหวังเจาตะโกนราวกับคนบ้า อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะเยาะเย้ยอีกครั้ง
“ทำไม? แกอยากลองด้วยตัวเองงั้นเหรอ?”
“แก! อวี้ฮ่าวหราน! ฉันสาบานว่าฉันจะทำให้แกเสียใจที่เกิดมา!”
หลังจากพูดจบประโยคนี้ หวังเจากระทืบเท้าออกไปด้วยความเคียดแค้น เขารู้ว่าต่อให้เขาอยู่ต่อไปเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นเขาจะต้องกลับไปก่อนเพื่อหาทางแก้แค้นอวี้ฮ่าวหรานให้ได้!
ทางด้านของบอดีการ์ดที่นอนร้องโอยโอยไม่สามารถลุกขึ้นมาเองได้ อวี้ฮ่าวหรานเรียกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเขาลากคนพวกนี้ออกไปนอนข้างถนนด้านนอกบริษัทโดยไม่แยแส
หลังจากพวกหวังเจาจากไปทั้งหมด ผู้จัดการหวังที่เห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองก็เข้าใจอีกมุมหนึ่งของอวี้ฮ่าวหรานอย่างแจ่มแจ้ง
แท้จริงแล้วประธานบริษัทของเขาเป็นคนที่โหดเหี้ยม!
เขาเพิ่งไปฆ่าลูกชายของประธานบริษัทเวชภัณฑ์ไป๋เชาเมื่อวานนี้เอง!
และยิ่งไปกว่านั้นประธานของเขายังเป็นคนตรงถึงขนาดยอมรับหน้าตาเฉยต่อหน้าพ่อของคนตายว่าเขาเป็นคนฆ่า…
อย่างไรก็ตาม…ตอนนี้เขากังวลกับผลที่จะตามมามากกว่า
“ท่านประธาน ท่านไปยอมรับง่าย ๆ แบบนั้นได้ยังไง? หวังเจาคนนั้นไม่ใช่คนที่จะยอมง่าย ๆ แน่ ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นประธานบริษัทเวชภัณฑ์ไป๋เชาที่ยิ่งใหญ่แต่เขายังรู้จักพวกผู้มีอิทธิพลหลายคนในเมืองฮ่วยอัน!”
“เขาน่ากลัวมากเลยงั้นเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานถามกลับด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ในเมืองฮ่วยอัน เขาคือคนที่มีอิทธิพลอันดับต้น ๆ ผมคิดเราควร…” ผู้จัดการหวังเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าวิตกกังวลแต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานกลับพูดขึ้นแทรกก่อน
“คุณต้องรู้เอาไว้อย่างว่าใครก็ตามที่กล้าโกหกผมเกี่ยวกับเรื่องของภรรยาผม คนผู้นั้นมันต้องตาย! ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตามบทลงโทษเดียวที่มันต้องเผชิญคือความตาย!”
ในระหว่างที่อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยประโยคนี้ ผู้จัดการหวังสัมผัสได้ถึงความเย็นชาและโหดเหี้ยมของประธานบริษัทของเขาซึ่งมันทำให้เขาเหงื่อไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายคงทำสิ่งที่ก้าวข้ามเส้นของเจ้านายเขาจริง ๆ เพราะเขาไม่เคยเห็นเจ้านายของเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย!
…
ในเวลาเดียวกันอีกออฟฟิศหนึ่งในบริษัทของอวี้ฮ่าวหราน
“หวัง…หวังเจวีย ตายแล้วงั้นเหรอ!!!!”
หลี่จิงเทียนเบิกตาโพลงพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าว
เมื่อวานนี้เขายังคุยกับอีกฝ่ายอยู่เลยและคาดหวังให้อีกฝ่ายประสบความสำเร็จตามแผน แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับตายซะแล้ว!!
นี่พี่เขยของเขาโหดเหี้ยมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?
หลี่จิงเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้หนาวไปถึงกระดูกสันหลังเมื่อคิดว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในตัวการของเรื่องนี้ เขารู้สึกหวาดกลัวจริง ๆ เขากลัวว่าอวี้ฮ่าวหรานจะรู้ว่าเขาก็มีส่วนร่วม!