เมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานยื่นหน้าเข้ามาและกำลังเผลอ นักฆ่าจึงชักมีดออกมาและแทงไปที่คอของอีกฝ่ายทันที
เขารู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก
เฮอะ! แข็งแกร่งกว่าแล้วยังไง?
ตราบใดที่แกเผลอไม่ระวังตัวต่อหน้าฉัน ผลลัพธ์เดียวก็คือตาย!
แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่นักฆ่าแว่นดำหวังเอาไว้
มีหรือที่คนอย่างอวี้ฮ่าวหรานจะไม่ระวังตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรู?
อวี้ฮ่าวหรานกำใบมีดที่กำลังพุ่งมาที่คอของเขาได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมองเลยด้วยซ้ำ!
“เพล้ง!”
นักฆ่าแว่นดำได้ยินเสียงใบมีดแตกได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันทำให้เขายิ่งรู้สึกตื่นตระหนกมากกว่าเดิม
“อะไรกัน? แกคิดว่าแกจะฆ่าฉันได้ด้วยของแบบนี้งั้นเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่นักฆ่าซึ่งกำลังกลัวจนตัวสั่นด้วยสีหน้าขบขัน
ในทางกลับกัน นักฆ่ากลับเห็นสีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานที่กำลังขบขันน่าหวาดกลัวซะยิ่งกว่าเจอผี!
ไอ้คน ๆ นี้มันคือตัวบ้าอะไร?
มันสามารถบีบใบมีดที่ตีขึ้นมาจากเหล็กกล้าจนแตกละเอียดได้ยังไง?
นี่เขาต้องโง่ขนาดไหนถึงรับงานมาฆ่าสัตว์ประหลาดแบบนี้?
เมื่อคิดได้เช่นนี้เขารู้สึกหวาดกลัวจนแทบอยากจะฉี่ราด นักฆ่ารีบกลิ้งตัวถอยห่างออกมาจากอวี้ฮ่าวหรานทันที
แต่น่าเสียดายที่อวี้ฮ่าวหรานไม่มีแผนที่จะปล่อยอีกฝ่ายไป
อวี้ฮ่าวหรานพุ่งตัวตามไปอย่างรวดเร็วและเตะเข้าที่ชายโครงของนักฆ่าอย่างรุนแรงจนกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงอีกรอบ จากนั้นชายหนุ่มพุ่งตัวตามติดไปและกระทืบเข้าที่หัวเข่าของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้หนีได้อีก
“อ๊าก!!”
นักฆ่าแว่นดำแหกปากร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด แต่หลังจากแหกปากร้องไปได้ไม่เกิน 1 วินาที อวี้ฮ่าวหรานก็เอามือกำปากของอีกฝ่ายและบีบเพื่อให้หยุดร้องก่อนที่จะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันจะถามแกอีกที ใครส่งแกมาฆ่าฉัน?”
ในขณะที่พูด อวี้ฮ่าวหรานก็โคจรพลังวิญญาณไปที่ดวงตาให้มีแสงสีแดงเรืองออกมาเพื่อข่มขู่อีกฝ่ายให้กลัว
แน่นอนว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลแทบจะในทันที นักฆ่าแว่นดำตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวเมื่อมองเห็นดวงตาที่แดงฉานของอวี้ฮ่าวหราน
นี่มันดวงตาแบบไหนกัน!
ทำไมมันถึงดูเหมือนดวงตาของปีศาจที่อยู่ในหนังยังไงยังงั้น!
“ฉ..ฉันพูดแล้ว! ฉันพูดแล้ว! เป็นหวังเจา…เจ้าของบริษัทไป๋เชาที่ส่งฉันมาฆ่านาย!”
การเผชิญหน้ากับคนที่เหมือนปีศาจเช่นนี้ทำให้นักฆ่าแว่นดำรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าความตาย
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบ มันเป็นไปตามที่ชายหนุ่มคาดเอาไว้…เป็นหวังเจาจริง ๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกย้อนไปถึงตอนที่คุยโทรศัพท์กับเฉิงกัวอัน เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเฉิงกัวอันบอกว่าหวังเจาจะฆ่าพวกเขาทั้งสองคน
ถ้าเป็นเช่นนั้นในตอนนี้ เฉิงกัวอันก็ต้องตกอยู่ในอันตรายเช่นกันจริงไหม?
“เฮ้! ไหนบอกมาสิว่าพวกแกกำลังจะไปฆ่าเฉิงกัวอันด้วยใช่ไหม?”
น่าเสียดายที่เมื่ออวี้ฮ่าวหรานถามประโยคนี้จบ นักฆ่าแว่นดำพลันใช้มีดที่หักซึ่งยังคงกำเอาไว้ในมือแทงคอของตัวเองทันทีเพื่อหนีจากปีศาจที่อยู่ตรงหน้า
“ค่อก…ค่อก…มัน…สาย…ไปแล้ว…แกไปช่วย…ไม่ทันแล้ว…ฮ่า…ฮ่า”
นักฆ่าแว่นดำใช้ลมหายใจที่ยังเหลือเฮือกสุดท้ายตอบกลับอวี้ฮ่าวหรานด้วยแววตาเย้ยหยัน
อวี้ฮ่าวหรานส่ายหัวด้วยสีหน้าดูถูก ส่งนักฆ่าที่อ่อนแอแบบนี้มาฆ่าเขาเนี่ยนะ? น่าตลกสิ้นดี!
หลังจากจัดการลากศพไปซ่อนเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็พาถวนถวนไปซื้อไอศกรีมก่อนที่จะขับรถออกจากสวนสนุก
ในระหว่างที่กำลังขับรถกลับ อวี้ฮ่าวหรานโทรหาเฉิงกัวอัน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดที่อีกฝ่ายไม่รับสายของเขา
เห็นได้ชัดว่าเฉิงกัวอันน่าจะกำลังถูกพวกนักฆ่าเล่นงานอยู่
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ชายหนุ่มจึงรีบโทรหาเฉิงชิวอวี้ทันที
“ตอนนี้พ่อของคุณอยู่ด้วยหรือเปล่า?”
เฉิงชิวอวี้รู้สึกประหลาดใจมากกับการที่อวี้ฮ่าวหรานโทรมาและถามคำถามนี้กับเธอ
อวี้ฮ่าวหรานมีเบอร์พ่อของเธออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
“ตอนนี้พ่อไม่ได้อยู่กับฉัน เขาเดินทางไปที่บริษัทไป๋เชาเพื่อเจรจาได้พักใหญ่ ๆ แล้ว นายมีธุระอะไรงั้นเหรอ? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“หวังเจาว่าจ้างพวกนักฆ่า ตอนนี้พ่อของคุณน่าจะกำลังอยู่ในอันตราย” อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับ
“ห๊ะ? อะไรนะ?!”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้…เฉิงชิวอวี้ตื่นตระหนกทันที
“อย่าเพิ่งขาดสติ ผมจะไปช่วยเขาเดี๋ยวนี้ ส่วนคุณรีบโทรแจ้งตำรวจและพาตำรวจไปที่บริษัทไป๋เชาให้เร็วที่สุด”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกจากปลายสาย อวี้ฮ่าวหรานจึงพูดให้อีกฝ่ายใจเย็นก่อน ส่วนเรื่องการเรียกตำรวจไปด้วยนั้นเป็นอีกแผนหนึ่งเพื่อจัดการกับหวังเจาให้สิ้นซาก
ข้อหาลักพาตัวและพยายามฆ่าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หวังเจาที่แก่แล้วอยู่ในคุกไปจนสิ้นอายุขัย!
แต่ถ้าหากหวังเจาตัดสินใจฆ่าเฉิงกัวอันในทันทีโดยไม่รีรออะไรเมื่อเห็นหน้า…นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าเดิม
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานเร่งความเร็วรถจนมิดเท้าตรงไปที่บริษัทไป๋เชา
สิบนาทีต่อมา…
อวี้ฮ่าวหรานขับรถไปถึงบริษัทไป๋เชา ซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าขณะนี้เฉิงชิวอวี้ก็มาถึงแล้วเช่นกัน แต่เธอไม่กล้าเข้าไปข้างในเพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างในเป็นอย่างไร หญิงสาวได้แต่ยืนคอยตำรวจและอวี้ฮ่าวหรานอยู่ข้างนอกด้วยสีหน้ากังวล
เมื่อเห็นเช่นนี้อวี้ฮ่าวหรานจึงส่งถวนถวนให้เฉิงชิวอวี้ดูแลก่อน ส่วนตัวเขาพุ่งตรงเข้าไปด้านในตึกของบริษัทไป๋เชาอย่างรวดเร็ว
เขาวิ่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุดภายในเวลาไม่ถึง 2 นาทีและเมื่อถึงหน้าห้องออฟฟิศของหวังเจาเขาถีบประตูอย่างแรง
“โครม!”
ความรุนแรงของแรงถีบทำให้ทั้งห้องสั่นไหว
หลังจากประตูกระเด็นหลุดออกไปทั้งบาน อวี้ฮ่าวหรานพุ่งเข้าไปด้านในและเห็นว่าขณะนี้หวังเจากำลังยืนอยู่ข้าง ๆ เฉิงกัวอัน ผู้ซึ่งถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้
หวังเจามองไปที่อวี้ฮ่าวหรานด้วยสีหน้างุนงง
ไอ้เวรนี่มันรอดมาได้ยังไง? และทำไมมันถึงมาที่นี่ได้เร็วนัก?
“เหอะ! แกรอดมาได้สินะ แต่ก็พอดีเลย แกมาที่นี่ก็ดี ฉันจะได้ฆ่าแกกับไอ้เฉิงกัวอันไปพร้อม ๆ กันไปเลย!”
หวังเจากัดฟันกรอดในขณะที่พูด เขาเคียดแค้นอวี้ฮ่าวหรานเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่เป็นเพราะอวี้ฮ่าวหราน แผนการสร้างความเสียหายให้กับบริษัทชิวเฮิงคงสำเร็จไปแล้วแน่ ๆ และยิ่งไปกว่านั้นอวี้ฮ่าวหรานคือคนที่ฆ่าลูกชายของเขา!
หลายวันที่ผ่านมา ไม่มีวินาทีไหนที่เขาไม่คิดถึงเรื่องฆ่าอวี้ฮ่าวหราน และเฉิงกัวอัน
“ในเมื่อตอนนี้แกมาถึงแล้วก็จงตายไปซะ ต่อให้แกจะเก่งกังฟูแค่ไหน วันนี้แกไม่มีทางรอดแน่!”
ในขณะที่พูด หวังเจาก็โบกมือส่งสัญญาณบางอย่าง
แค่เพียงชั่วเสี้ยววินาทีที่หวังเจาส่งสัญญาณ ใครบางคนที่หลบอยู่ที่มุมห้องพุ่งเข้าจู่โจมอวี้ฮ่าวหรานจากทางด้านหลังอย่างฉับพลันด้วยมีดสั้นที่คมกริบในมือ
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็เข้าใจแล้วว่าทำไมนักฆ่าที่เขาเผชิญหน้าตอนอยู่ที่สวนสนุกถึงอ่อนแอนัก
ที่แท้นักฆ่าที่แข็งแกร่งกว่าถูกส่งมาจัดการกับเฉิงกัวอันนี่เอง แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักฆ่าคนที่ถูกฝังอยู่ในสวนสนุกหรือคนที่กำลังจะแทงหลังเขาในตอนนี้ก็ไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับชายหนุ่ม
แค่เพียงชั่วพริบตาร่างของอวี้ฮ่าวหรานก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่และไปอยู่ที่ด้านหลังของนักฆ่าแทนพร้อมกับเอ่ยว่า
“อ่อนแอจนน่าสังเวชแบบนี้ยังคิดที่จะฆ่าฉันงั้นเหรอ?”