บทที่ 244 หายตัวไป
เมื่อได้ยินคำถามครั้งที่สองของอวี้ฮ่าวหราน สวีรุ่ยก็เริ่มได้สติและเงยหน้าขึ้นมอง
“ค…คุณ…มาแล้วเหรอ? ฮือ….พ…พ่อของฉัน…พ่อของฉันหายไปอีกแล้ว…ฮือ…ฉันตามหาจน…จนทั่วแล้วก็ไม่เจอเลย…”
“หืม? พ่อของคุณหายตัวไปอีกแล้วงั้นเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานถามกลับพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ ชายหนุ่มพอจะเดาได้ไม่ยากเลยว่าพ่อของอีกฝ่ายคงน่าจะไปสร้างเรื่องอีกแล้วและก็หนีไปอีกเช่นเคย
อดีตผีพนันที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยมันจะมีเรื่องอื่นได้ยังไงนอกจากกลับไปเล่นพนันอีก?
“คุณได้ลองไปตามในบ่อนบ้างหรือยัง? พ่อของคุณอาจจะกลับไปเล่นพนันอีกก็ได้จริงไหม?”
“ฉ…ฉันไปมาหมดแล้ว…ต…แต่พวกคนในบ่อนบอกว่า…พวกเขาไม่เห็นพ่อของฉันเลย…”
สวีรุ่ยตอบกลับด้วยอาการสะอึกสะอื้น
ก่อนหน้านี้เธอไปทุกบ่อนใหญ่ ๆ ในเมืองมาแล้ว แถมบางบ่อนก็ไล่เธอออกมาอย่างรุนแรงอีก ซึ่งโชคดีมากที่เธอไม่ได้เป็นอะไร
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่หญิงสาวคนนี้ด้วยสายตาเห็นใจ การที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งตระเวนไปตามบ่อนที่เปิดโดยพวกคนของโลกใต้ดินตามลำพังนับได้ว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก เธอใช้ความกล้าเป็นอย่างมากเพื่อทำเช่นนี้
“คุณไม่ต้องกังวลผมจะช่วยคุณเอง”
อวี้ฮ่าวหรานตบไปที่ไหล่อีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลม
“ข…ขอบคุณ ฉ…ฉันขอบคุณ…คุณจริง ๆ”
เมื่อได้รับการปลอบโยนจากผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบอยู่แล้ว อารมณ์ของ สวีรุ่ยก็ยิ่งพรั่งพรู เธอโผเข้าไปกอดอวี้ฮ่าวหรานทันที
เมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่อ่อนแอของอีกฝ่าย อวี้ฮ่าวหรานก็ทำได้แต่ถอนหายใจก่อนที่จะเอ่ยขึ้นว่า
“พวกเราไปจากตรงนี้กันก่อนจะดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาคุณกลับบ้าน ส่วนเรื่องตามหาพ่อของคุณหลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็พาสวีรุ่ยขึ้นรถ และอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา เขาก็ขับไปถึงบ้านของเธอ
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ สำหรับเรื่องของพ่อคุณ เดี๋ยวผมจะลองให้คนออกตามหาพ่อของคุณเดี๋ยวนี้แหละ”
เมื่อพาสวีรุ่ยลงนั่งที่โซฟาในห้องรับแขกเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็เปิดโทรศัพท์โทรหาหวังเหยียน
“ฮัลโหล ว่ายังไงน้องอวี้? มีอะไรให้ฉันช่วยงั้นเหรอ?”
ยังไม่ทันที่อวี้ฮ่าวหรานจะเอ่ยทัก หวังเหยียนก็พูดทักขึ้นก่อนอย่างนอบน้อม
“อืม ฉันเอง ฉันโทรมามีเรื่องอยากให้ช่วยสักหน่อย”
“ว่ามาเลยน้องอวี้ไม่ต้องเกรงใจ หากฉันคนนี้มีความสามารถทำให้ได้ ฉันจะทำให้แน่นอน!”
“นายจำสวีเซี่ยงจวิน คนที่ฉันให้พวกนายออกตามหาล่าสุดได้ไหม? ตอนนี้เขาหายตัวไปอีกแล้ว ฉันต้องการรู้ว่าตอนนี้เขาหายตัวไปไหน ฉันเดาว่าเขาน่าจะอยู่ที่บ่อนไหนสักแห่ง นายช่วยไปตรวจสอบให้ทีก็แล้วกัน”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขออย่างตรงไปตรงมา
แน่นอนว่าเมื่อได้ยินคำขอนี้ หวังเหยียนไม่มีทางกล้าปฏิเสธ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องที่อยู่นอกเหนือความสามารถของเขา และยิ่งไปกว่านั้น อวี้ฮ่าวหรานคือคนที่เขาปฏิเสธไม่ได้!
“ได้เลย! ไม่มีปัญหา! ฉันจะรีบไปสืบหาตัวเขาเดี๋ยวนี้ ได้ความคืบหน้าแล้วฉันจะรีบโทรไปบอกนาย!”
หลังจากพูดจบ หวังเหยียนก็วางสายไปในทันที
ที่บนโซฟา สวีรุ่ยยังคงนั่งหลั่งน้ำตา
“ข…ขอบคุณจริง ๆ ที่ช่วยเหลือฉัน…ถ้าไม่มีคุณ…ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ…”
สวีรุ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง เธอรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่มีอวี้ฮ่าวหราน อยู่ใกล้ ๆ
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้ผมจัดการเอง คุณไม่ต้องกังวล”
“อืม…”
หลังจากคุยกันไปได้อีกพักหนึ่ง โทรศัพท์ของอวี้ฮ่าวหรานก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“น้องอวี้ เมื่อกี้ฉันโทรถามทุกบ่อนที่แก๊งของฉันดูแลอยู่จนหมดแล้ว แต่ไม่มีบ่อนไหนที่เห็นหน้าของสวีเซี่ยงจวินเลย เขาไม่อยู่ในบ่อนของเราแน่นอน ตอนนี้นายช่วยรออีกสักหน่อย ฉันขอส่งคนออกไปสืบที่บ่อนของแก๊งอื่น ๆ ก่อน แต่มันอาจจะกินเวลาอยู่บ้าง”
ในสิบนาทีที่ผ่านมา หวังเหยียนก็โทรออกไปถามทุกบ่อนที่แก๊งพยัคฆ์เวหาดูแลอยู่ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้มาก ๆ และก่อนที่อวี้ฮ่าวหรานจะโทรมา อันที่จริงเขาได้ส่งคนของตัวเองออกไปตามหาพ่อของสวีรุ่ยที่บ่อนของแก๊งอื่นเรียบร้อยแล้ว
ในเมื่อนี่เป็นโอกาสที่จะได้สร้างความพึงพอใจให้กับอวี้ฮ่าวหราน หวังเหยียนและโจวเฟยหู่จึงรู้สึกยินดีที่จะตามหาสวีเซี่ยงจวินกันอย่างสุดความสามารถ
หลังจากได้รับข่าวความคืบหน้าจากหวังเหยียน อวี้ฮ่าวหรานจึงวางสายไปเพื่อรอคอยต่อไป
ในความคิดของเขามันไม่น่าจะใช้เวลาอีกมากนักเพราะตอนนี้บ่อนส่วนใหญ่ในเมืองฮ่วยอันล้วนตกอยู่ในกำมือของแก๊งพยัคฆ์เวหาหมดแล้ว การตามหาในบ่อนที่เหลือจึงไม่น่าจะกินเวลามากนัก
จากนั้น อวี้ฮ่าวหรานจึงปลอบหญิงสาวที่กำลังนั่งร้องไห้บนโซฟาต่อ
“ไม่ต้องห่วง เมื่อครู่คนที่ผมขอให้ช่วยตามหาเขาโทรมาแล้วและอีกไม่นานพวกเขาน่าจะเจอตัวพ่อของคุณ ผมไม่คิดว่าพ่อของคุณจะมีอันตรายอะไร”
หลังจากปลอบไปได้อีกพักใหญ่ เมื่อเห็นว่าสวีรุ่ยอารมณ์เริ่มคงที่แล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงลุกขึ้นเตรียมที่จะจากไป
“อย่าไปได้ไหม?”
เมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานกำลังจะจากไป สวีรุ่ยก็เงยหน้าขึ้นและขอร้องเขาทั้งน้ำตา เธอไม่อยากที่จะอยู่ตามลำพังอย่างโดดเดี่ยวในช่วงเวลาแบบนี้
อย่างน้อย ๆ คืนนี้เธอไม่อยากอยู่คนเดียว
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่หญิงสาวซึ่งดวงตาบวมเป่งเนื่องจากผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารอีกฝ่าย
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงตัดสินใจพยักหน้า
“ก็ได้ คืนนี้ผมจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อน คุณไปเข้านอนในห้องเถอะ”
“ขอบคุณ ขอบคุณ!”
สวีรุ่ยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายยอมตอบตกลงจนเธอโผกอดเขาแน่นทันที
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยที่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็โผเข้ากอดเขาอีกแล้ว และด้วยความอ่อนนุ่มและผิวที่เรียบเนียนของอีกฝ่ายรวมไปถึงกลิ่นหอมจาง ๆ หากเป็นผู้ชายคนอื่น ป่านนี้คงต้องมีความคิดอกุศลในใจกันบ้างแล้ว แต่สำหรับอวี้ฮ่าวหรานผู้ที่อยู่มาเป็นหมื่นปีและยังคงรักมั่นต่อภรรยา เขาจึงทำแค่ตบหลังอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลมเท่านั้น