บทที่ 261 รุดหน้าไปยังสนามบิน
อวี้ฮ่าวหรานสัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าของหลี่จิงเทียนทันที ซึ่งชายหนุ่มได้ยินอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังวิ่งออกไปทางประตูหลังคฤหาสน์เพื่อที่จะหนี
แน่นอนว่าอวี้ฮ่าวหรานไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นแน่!
ด้วยการเคลื่อนที่ที่เร็วเหนือมนุษย์ แค่เพียงชั่วพริบตา ร่างของอวี้ฮ่าวหรานก็ไปปรากฏตัวและขวางประตูหลังเอาไว้ก่อนที่หลี่จิงเทียนจะทันได้วิ่งไปถึง
“ม…ไม่ ได้โปรด! พ…พี่เขย อย่าฆ่าผม! ผมยอมแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ร่างของอวี้ฮ่าวหรานปรากฏขึ้นตรงหน้า หลี่จิงเทียนที่กำลังวิ่งอย่างสุดแรงเกิดก็เบรกฝีเท้าของตัวเองอย่างกระทันหันจนตัวของเขาล้มคว่ำลง
เขารีบยันตัวลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนกและคลานถอยอย่างทุลักทุเลพร้อมกับตะโกนร้องเสียงหลง
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่หลี่จิงเทียนด้วยสายตาเย็นชาก่อนที่จะถามขึ้นอย่างห้วน ๆ
“เรื่องหลบเลี่ยงภาษีของบริษัทฉัน แกมีเอี่ยวด้วยหรือเปล่า?”
“ผ…ผม…”
เมื่อได้ยินคำถามอีกทั้งยังต้องเผชิญกับแววตาที่เย็นชาของอีกฝ่าย หลี่จิงเทียนก็หยุดคลานถอยทันทีเพราะความกลัว เขาไม่กล้าตอบกลับไป
“พูดมา!!”
อวี้ฮ่าวหรานไม่อยากจะเสียเวลากับอีกฝ่ายให้มากนัก เขาถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพุ่งตัวไปกำคอเสื้ออีกฝ่ายและยกตัวหลี่จิงเทียนให้ขึ้นมายืน
หลี่จิงเทียนที่โดนกำคอเสื้อเอาไว้ แข้งขาอ่อนแทบจะยืนเองไม่ไหว เขากลัวเป็นอย่างมากจนไม่กล้าปิดบังอะไรอีก
“ม…ม…มันเป็นเพราะกัวหย่งซิน! เผิงอิงอิงไปติดต่อกับกับไอ้อ้วนนั่นและส่งเลขาที่ชื่ออาหลิงมาล่อลวงผม ล…และผมโดนอีกฝ่ายล่อลวงจนหน้ามืดตามัว…ซื้อที่ดินด้วยเงินที่พวกนั้นให้มาและสร้างบัญชีปลอมพร้อมกับแต่งบัญชีหลบเลี่ยงภาษี…”
ด้วยความกลัว หลี่จิงเทียนจึงยอมเผยทุกอย่างจนหมดไม่มีเหลือ ซึ่งมันทำให้อวี้ฮ่าวหรานยิ่งโมโหมากขึ้นกว่าเดิม
เขาเคยเตือนไอ้โง่นี่แล้วว่าอย่าทำอะไรให้เขาไม่พอใจแต่มันก็ยังกล้าทำอีก!
“เพี๊ยะ!”
อวี้ฮ่าวหรานตบหลี่จิงเทียนจนลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นอีกรอบ และที่หน้าก็มีรอยฝ่ามืออย่างเห็นได้ชัด!
อย่างไรก็ตาม คราวนี้หลี่จิงเทียนไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นเลยกับการถูกตบ ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวตอนนี้ที่เขามีคือความกลัว!
เขากลัวว่าจะถูกฆ่า!
“พ…พี่เขย พี่เขย! ผมผิดไปแล้วยกโทษให้ผมเถอะ! ผมแค่หน้ามืดตามัวไปชั่วครู่แค่นั้นเอง! ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว! นับจากนี้ผมจะทำทุกอย่างตามที่พี่สั่งได้โปรดอย่าฆ่าผมเลย!”
หลี่จิงเทียนร้องไห้พร้อมกับรีบคลานมากอดขาอวี้ฮ่าวหรานอย่างน่าสังเวช
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่อีกฝ่ายด้วยแววตารังเกียจ เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากจนอยากจะฆ่าไอ้ตัวปัญหานี่ให้จบ ๆ ไปซะเพื่อที่มันจะได้ไม่สร้างปัญหาอีกในอนาคต ชายหนุ่มรู้ว่าคนอย่างหลี่จิงเทียนเจ็บแล้วจำได้ไม่นาน แต่ปัญหาก็คืออีกฝ่ายคือน้องชายของหลี่เม่ย ซึ่งมันทำให้เขาไม่สามารถฆ่ามันได้!
“ฮึ่ม! แกควรจะขอบคุณสวรรค์ให้มาก ๆ ที่แกมีพี่สาวที่ดีอย่างหลี่เม่ย ไม่งั้นฉันฆ่าแกตายไปหลายรอบแล้ว เอาล่ะ ตอนนี้แกรีบบอกฉันมาว่าหัวหน้าฝ่ายบัญชีหายตัวไปอยู่ที่ไหน!”
แน่นอนว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่อวี้ฮ่าวหรานไม่ฆ่าหลี่จิงเทียน เป็นเพราะเขาต้องการหาตัวหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่หายตัวไปด้วย เพราะผู้หญิงคนนั้นคือพยานคนสำคัญที่จะแก้ต่างให้กับบริษัทของเขา
“ห…หัวหน้าฝ่ายบัญชี?”
หลี่จิงเทียนอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามนี้ จากนั้นเขาเร่งตอบกลับอย่างเร่งรีบกลัวว่าถ้าหากตอบช้า อวี้ฮ่าวหรานอาจเปลี่ยนใจฆ่าเขาก็ได้ “ผ…ผมรู้ว่าอยู่ที่ไหน! ผ…ผู้หญิงคนนั้นหลังจากแต่งบัญชีเสร็จก็จองตั๋วเครื่องบินหนีไปทันที ธ…เธอมีเที่ยวบินตอนบ่ายนี้!”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินว่าผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของเขากำลังจะหนี
เขาไม่อาจให้อีกฝ่ายหนีไปได้!
ไม่เช่นนั้นด้วยขนาดความกว้างใหญ่ของประเทศจีน การจะหาอีกฝ่ายพบมันไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร!
หลังจากคิดได้แล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็ปล่อยหลี่จิงเทียนไปก่อน และรีบขับรถมุ่งหน้าไปที่สนามบินทันที
เนื่องจากสนามบินอยู่ไม่ไกลนักราว 15 นาทีถัดมา อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถไปถึงสนามบินและวิ่งไปที่ห้องโถงสำหรับผู้โดยสารขาออกที่กำลังรอเช็คอินตั๋ว
ขณะนี้ในห้องโถงมีคนอยู่จำนวนมาก ดังนั้นการหาผู้หญิงธรรมดา ๆ หนึ่งคนภายใต้ความหนาแน่นของผู้คนด้วยวิธีการหาแบบปกติจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้
อวี้ฮ่าวหรานเปิดใช้เนตรเทวะทันทีและกวาดสายตามองหาผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของเขา ซึ่งแค่เพียงไม่กี่อึดใจก็หาเจอ!
เขาโชคดีจริง ๆ เพราะในตอนนี้คนที่เขากำลังตามหากำลังต่อคิวเดินเข้าไปในพื้นที่รอขึ้นเครื่องแล้ว หากมาช้ากว่านี้อีกนิด เขาคงจะซื้อตั๋วเพื่อตามเข้าไปด้านใน ซึ่งมันจะยิ่งยุ่งยากมากกว่าเดิม
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานรีบเดินซอยเท้าเข้าไปดึงตัวหัวหน้าฝ่ายบัญชีของเขาให้ออกจากแถวทันที
“นี่คุณ! อ…เอ๊ะ? ท่านประธาน….”
เมื่อโดนดึงแขน หัวหน้าฝ่ายบัญชีของอวี้ฮ่าวหรานรู้สึกงุนงงและตั้งใจหันกลับมาด่าในทันที แต่เมื่อเห็นว่าเป็นอวี้ฮ่าวหรานที่เป็นคนดึงแขนของเธอ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก
เธอไม่นึกเลยว่า เจ้านายเก่าของเธอจะตามหาตัวเธอเจอเร็วขนาดนี้!
“เรื่องที่เธอติดต่อกับคนนอกวางแผนทำลายบริษัทของฉันถูกเปิดโปงหมดแล้ว!”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา และเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของอีกฝ่าย มันก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่าเขาตามตัวถูกคน!
การจับตัวผู้หญิงคนนี้ได้ มันหมายความว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะถูกเปิดเผย!
ในขณะเดียวกัน หัวหน้าฝ่ายบัญชีกลัวจนตัวสั่นไปหมดเมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว เธอตะโกนขึ้นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“ท…ทำไมคุณถึงรู้เรื่องเร็วขนาดนี้! ทำไม! ทั้ง ๆ ที่ฉันควรจะมีเวลาหนีมากกว่านี้ทำไมคุณถึงหาฉันเจอเร็วขนาดนี้!”
“ฮึ่ม! คิดเหรอว่าจะหนีฉันพ้นหลังจากที่สร้างเรื่องให้กับฉัน? หลังจากนี้ฉันจะจับเธอยัดเข้าตารางและให้ใช้ชีวิตอยู่ในนั้นไปตลอดชีวิต!”
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจและข่มขู่ให้อีกฝ่ายกลัวมากยิ่งขึ้น
“ตาราง? คุก? ม…ไม่นะ ไม่! ฉันไม่อยากเข้าคุก ได้โปรดท่านประธานฉันไม่อยากอยู่ในคุกไปตลอดชีวิตที่เหลือ ได้โปรดยกโทษให้ฉันเถอะ ได้โปรด!”
แน่นอนว่าเมื่อโดนขู่ว่าจะโดนจับขังคุกตลอดชีวิต หัวหน้าฝ่ายบัญชีพลันเข่าอ่อนลงไปนั่งคุกเข่าและกอดขาอวี้ฮ่าวหรานเพื่ออ้อนวอนทันที เธอแค่โลภอยากได้เงิน ดังนั้นเมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิตเธอก็ยอมจำนนอย่างไม่มีข้อแม้
“ฮึ่ม ฉันมีทางเลือกให้เธอ ถ้าเธอยอมสารภาพทุกอย่างให้กับตำรวจ ฉันจะช่วยพูดกับตำรวจให้เธอรับโทษน้อยลง และถ้าเธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทุกอย่าง บางทีเธออาจจะติดคุกแค่ไม่กี่เดือน!”
“ม…ไม่กี่เดือนงั้นเหรอ? ได้ ได้! ฉันยอม! ฉันยอมให้ความร่วมมือทุกอย่างเลย ท่านประธาน!”
แต่หลังจากที่เธอพยักหน้าตกลงไปได้แค่ครู่เดียว จู่ ๆ เธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ซึ่งมันทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวมากกว่าเดิมและตะโกนร้องขึ้น
“ม…ไม่สิ ไม่ได้! ฉันกลับไปกับคุณไม่ได้! ขืนฉันกลับไปฉันถูกฆ่าแน่! กัวหย่งซินเคยขู่ฉันเอาไว้ และยิ่งถ้าฉันสารภาพทุกอย่างเขาจะต้องฆ่าฉันแน่นอน!”
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กัวหย่งซินจะขู่ผู้หญิงคนนี้เอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องกังวลเรื่องกัวหย่งซิน ตราบใดที่เธอสารภาพทั้งหมด ฉันรับปากว่าจะปกป้องเธอเองด้วยอิทธิพลของฉัน!”
อวี้ฮ่าวหรานปลอบอีกฝ่ายทันทีด้วยสีหน้าจริงจังเพื่อให้เธอเชื่อใจ การหว่านล้อมให้ผู้หญิงคนนี้สารภาพเรื่องทั้งหมดออกมานั้นเป็นงานที่สำคัญที่สุดเพราะมันจะทำให้บริษัทของเขาพ้นผิดได้อย่างแน่นอน
ต้องทำให้ทุกคนรู้ว่าเรื่องหลบเลี่ยงภาษีที่บริษัทของเขาเผชิญอยู่เป็นการจัดฉาก ดังนั้นหากผู้หญิงคนนี้ให้การสารภาพกับพวกสรรพากรทั้งหมด ความจริงทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดาย พวกสรรพากรน่ะไม่ได้โง่เลยสักนิด พวกเขาจะรู้ได้ทันทีว่าหลักฐานใดเท็จหลักฐานใดจริงหากมีเบาะแส
“ต…แต่ พวกเขา…พวกเขาขู่ฉัน…พวกเขาขู่ว่าจะฆ่าฉันแน่นอนหากฉันปริปาก…”
เธอยังคงกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงปลอบอีกฝ่ายอีกรอบหนึ่ง