บทที่ 288 ฝ่าคมกระสุน
บทที่ 288 ฝ่าคมกระสุน
หลังจากที่อู๋เส้าฮัววางสายไป อวี้ฮ่าวหรานรีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่างและขับรถออกไปอย่างเร่งร้อนทันที!
ที่ด้านในโกดังซิงหยวน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมือง
ขณะนี้ที่ด้านในโกดังไม่มีสินค้าใด ๆ อยู่ทั้งนั้น มีแต่เพียงกลุ่มนักฆ่าชุดสูทดำสิบสามคนและบอดี้การ์ดของตระกูลอู๋อีกสิบกว่าคนที่วางกำลังคุ้มกันทุกจุดของโกดังอยู่เท่านั้น
กลุ่มนักฆ่าชุดสูทดำพวกนี้แตกต่างจากพวกนักเลงโดยสิ้นเชิง เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้มีดเป็นอาวุธ แต่พวกเขาทุกคนต่างมีปืนในมือกันทุกคน!
ในเวลานี้ หลี่หรงถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้กลางโกดังและถูกล้อมรอบโดยชายฉกรรจ์แปดคน
“หึหึ รออีกเดี๋ยว…อีกเดี๋ยวไอ้อวี้ฮ่าวหรานมันก็มาแล้ว”
อู๋เส้าฮัวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน
คราวนี้เขามั่นใจมากว่า อวี้ฮ่าวหรานจะต้องไม่รอดจากคมกระสุนปืนแน่นอน เขาวางแผนว่าจะให้อวี้ฮ่าวหรานได้เห็นภาพบาดตาก่อนที่จะตายอย่างน่าอนาถ
“อู๋เส้าฮัว! ถ้าแกไม่อยากตาย แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
ขณะนี้หลี่หรงฟื้นขึ้นมาแล้ว และเมื่อเธอเห็นชายที่เธอรังเกียจที่สุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจึงสบถด่าออกไปทันที ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองโง่งมถึงขนาดที่ปล่อยให้คนของตระกูลอู๋มาซื้อตัวคนของเธอไปได้ จนต้องโดนจับมาแบบนี้
ในทางกลับกัน อู๋เส้าฮัวกลับยิ่งรู้สึกชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าที่เดือดดาลของหลี่หรง
“หึหึหึ ด่าออกมา ด่าออกมาให้หนำใจ เพราะเดี๋ยวหลังจากนี้เธอจะไม่มีโอกาสด่า เธอจะทำได้แต่ส่งเสียงร้องครวญคราง และจะได้รู้ว่าโลกนี้มันมีความสุขอีกรูปแบบที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน แถมเหตุการณ์ทั้งหมดพี่เขยของเธอจะได้ชมมันอย่างเต็มตาอีกด้วย!”
น้ำเสียงของอู๋เส้าฮัวในตอนนี้มั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะคราวนี้มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน ๆ คนที่เขาจ้างมาในวันนี้คือนักฆ่ามืออาชีพราคาแพงที่มีอาวุธสงครามครบมือ!
คน ๆ เดียวจะทนคมกระสุนนับร้อยได้ยังไง?
และยิ่งไปกว่านั้น อาวุธปืนแต่ละกระบอกมันคืออาวุธสงครามเชียวนะ!
หลี่หรงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เช่นกัน และเมื่อเธอเห็นว่าพวกชายฉกรรจ์ชุดสูทดำมีปืนแบบเดียวกับที่พวกทหารใช้ เธอก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าพี่เขยของเธอแข็งแกร่งราวกับยอดมนุษย์ แต่เขาจะรับมือกับอาวุธสงครามแบบนี้ได้หรือเปล่า?
ทว่าในขณะที่เธอกำลังกังวลอยู่นั้น เสียงดังลั่นของรถที่ขับเข้ามาใกล้โกดังและเบรกอย่างรุนแรงก็ดังขึ้น
อู๋เส้าฮัวเมื่อได้ยินเสียงนี้ สีหน้าของเขายิ่งตื่นเต้นมากกว่าเดิม
“ฮ่า ๆ มันมาแล้ว! ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ฉันจะได้ล้างแค้นแล้ว!”
เขาพูดขณะที่จินตนาการว่าจะทรมานอวี้ฮ่าวหรานยังไงในหัว
“หลี่หรง ไหนเธอลองทายสิว่าฉันจะทำยังไงกับพี่เขยของเธอบ้างต่อจากนี้?”
“เขาจะฆ่าแกแน่!”
หลี่หรงตวาดกลับอย่างไม่กลัวตาย แม้ว่าเธอจะกังวลใจมาก แต่เธอรู้ว่าหากเธอแสดงออกมา มันจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายมีความสุขมากขึ้นซึ่งเธอไม่ยอมแน่!
“ถ้างั้นฉันเฉลยกับเธอเองก็ได้ ฉันจะตัดแขนตัดขาของไอ้อวี้ฮ่าวหรานมันออกก่อน และจากนั้นฉันจะรีบห้ามเลือดมันไม่ให้ตายง่าย ๆ และถัดมาฉันจะให้มันมองดูเราทั้งคู่ขึ้นสวรรค์ไปพร้อม ๆ กัน…”
โครม!!
ก่อนที่อู่เส้าฮัวจะทันได้พูดจบประโยค ประตูโกดังถูกถีบจนลอยละลิ่วเข้ามาด้านในราวกับถูกระเบิด!
ภายใต้คลื่นพลังวิญญาณที่รุนแรงล้อมรอบกาย อวี้ฮ่าวหรานค่อย ๆ เดินเข้ามาด้านในด้วยสีหน้าเย็นชา
“ไอ้พวกมดแมลงไร้สมอง ในเมื่อพวกแกอยากตายนัก งั้นวันนี้ฉันจะสนองความต้องการให้!”
ด้วยแววตาที่ดูอำมหิตราวกับเป็นแววตาของเทพปีศาจผู้ปกครองขุมนรก บรรดานักฆ่าทั้งหลายต่างรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นภาพนี้!
ในทางกลับกัน อู๋เส้าฮัวผู้ไม่คุ้นเคยกับกลิ่นอายแห่งความตาย กลับมองว่าการแสดงออกของอวี้ฮ่าวหรานช่างน่าขำขัน
“ฮ่า ๆ ในที่สุดแกก็มา ไอ้โง่อวี้ฮ่าวหราน! จะตายอยู่แล้วแกยังปากดีได้เหมือนเดิม แกไม่เห็นหรือไงว่าคนของฉันถืออะไรอยู่ในมือ ฮ่า ๆๆ!”
ด้วยความเงียบของบริเวณโดยรอย เสียงของอู๋เส้าฮัวจึงดังก้องให้ได้ยินอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกันนี้ บรรดานักฆ่าทั้งหลายต่างก็ยกปืนขึ้นเล็งไปที่อวี้ฮ่าวหราน
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ หลี่หรงควบคุมความรู้สึกกลัวของตัวเองไม่อยู่อีกแล้ว!
“พี่เขยหนีไป! ทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่ซะ คนพวกนี้มีปืนของทหารกันทุกคน!”
หากพี่เขยของเธอถูกคนพวกนี้จับตัวได้ล่ะก็…
แค่จินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมามันก็ทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ในทางกลับกัน เมื่อได้ยินคำขู่ อวี้ฮ่าวหรานกลับเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
“ฮึ เพราะคนพวกนี้น่ะเหรอที่ทำให้แกมั่นใจได้ขนาดนี้ น่าขำจริง ๆ!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารให้ปกคลุมไปทั่วทั้งโกดัง ส่งผลให้บรรดานักฆ่าและอู๋เส้าฮัวหายใจแทบไม่ออก
พวกเขารู้สึกว่าจู่ ๆ บรรยากาศในโกดังมันดูน่าสยดสยองคล้ายกับกำลังอยู่ในฝันร้าย
มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน และมันทำให้คนทั้งหมดเริ่มตื่นตระหนกและหวาดกลัว!
“น…นี่มันความรู้สึกบ้าอะไรกัน! แม่งเอ๊ย พวกแกทุกคน เร็วเข้า ยิงมัน! รีบยิงมันให้ตายไปเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องล้อเล่นกับมันอีกแล้ว!”
ด้วยความตื่นตระหนก อู๋เส้าฮัวสั่งให้บรรดานักฆ่ายิงใส่อวี้ฮ่าวหราน ทันที
ทางด้านของพวกนักฆ่าเมื่อได้ยินคำสั่ง พวกเขาก็เล็งและเหนี่ยวไกอย่างรวดเร็ว!
ปัง ๆๆๆ!!
เสียงระดมยิงดังลั่นกึกก้องโกดังจนแม้แต่อู่เส้าฮัวและหลี่หรงซึ่งอยู่ไม่ได้ใกล้กับพวกนักฆ่าที่ประจำจุดยิงยังหูอื้อไปชั่วคราว
หลังจากยิงไปหนึ่งชุดใหญ่จนหมดแม็กกาซีน บรรดานักฆ่าเปลี่ยนแม็กกาซีนกระสุนใหม่อย่างรวดเร็วและยกปืนขึ้นประทับเล็งอีกรอบ แต่พวกเขายังคงไม่ยิงเพราะต้องการรอดูผลลัพธ์ก่อน
ทางด้านของอู๋เส้าฮัวรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าอำนาจการยิงของนักฆ่าเหล่านี้รุนแรงเป็นอย่างมาก ตรงจุดที่อวี้ฮ่าวหรานยืนอยู่เมื่อครู่ถูกยิงจนฝุ่นตลบซึ่งบ่งบอกได้ว่าอำนาจการทำลายจากอาวุธสงครามมันร้ายแรงขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม หลังจากฝุ่นควันเริ่มสงบลง อู๋เส้าฮัวและบรรดานักฆ่าทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น
นี่มัน…นี่มัน…!!
ภาพที่พวกเขาเห็นคือ อวี้ฮ่าวหรานยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน และบนเสื้อผ้าไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ อู๋เส้าฮัวก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูก
เขาไม่อาจบรรยายภาพที่เห็นออกมาเป็นคำพูดได้เลย
“ย…ยิง! ยิงเข้าไปอีก ยิงให้มันตายสิวะไอ้พวกโง่!”
ด้วยความตื่นกลัว อู๋เส้าฮัวเอ่ยสั่งขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
พวกนักฆ่าทั้งหลายนั้นได้รับการฝึกมาอย่างดี ดังนั้น แม้พวกเขาจะตื่นตระหนกและหวาดกลัว ก็ยังคงสามารถควบคุมไม่ให้มือตัวเองสั่นและสามารถลั่นกระสุนได้อย่างแม่นยำตามเดิม
“ปัง ๆๆๆๆๆๆๆ!!”
เสียงยิงดังรัวขึ้นอีกชุด!
รอบนี้พวกนักฆ่ายิงกระสุนออกไปมากกว่าเดิม หลังจากกระสุนในแม็กกาซีนแรกหมด พวกเขารีบเปลี่ยนแม็กกาซีนใหม่และรัวยิงต่อไปทันที เมื่อหมดสองแม็กกาซีนเต็ม ๆ พวกเขาถึงหยุดยิง
แต่แล้ว หลังจากฝุ่นควันหายไปอีกครั้ง พวกนักฆ่าและอู๋เส้าฮัวก็แทบจะเข่าอ่อนทรุดลงไปที่พื้น
ภาพที่พวกเขาเห็นก็ยังคงเหมือนเมื่อครู่!
อวี้ฮ่าวหรานยังคงยืนอยู่ที่เดิมไร้รอยขีดข่วนเหมือนเดิมเลย!
ไม่ใช่แล้ว…ไอ้นี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!
นี่มันไม่ใช่งานจ้างวานฆ่าคนอีกต่อไปแล้ว มันเป็นงานฆ่าตัวตายชัด ๆ!
กร๊อบ!
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง อวี้ฮ่าวหรานก็เริ่มเดินก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับหักนิ้วตัวเอง
แค่เสียงหักนิ้วที่แผ่วเบา มันก็ทำให้กลุ่มของอู๋เส้าฮัวใจเต้นระส่ำราวกับว่าได้ยินเสียงดาบของเพชฌฆาตถูกชักออกจากฝัก และเตรียมที่จะบั่นคอพวกเขา
“พวกแกเล่นกันเสร็จแล้วใช่ไหม? ตอนนี้มันน่าจะถึงตาฉันบ้างแล้ว ถูกหรือเปล่า?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“ไม่!!! นี่มันเป็นไปไม่ได้!! แกไม่เป็นอะไรเลยได้ยังไง!!”
ในขณะที่คนอื่นเงียบกริบไม่กล้าพูดอะไร อู๋เส้าฮัวตะโกนร้องเสียงดังลั่นไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติ