บทที่ 338 สาขาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกรอบ
บทที่ 338 สาขาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกรอบ
หลังจากได้ยินสวีเซี่ยงจวินยืนยันแล้วว่าไม่มีปัญหากับตำแหน่งงาน อวี้ฮ่าวหรานจึงเอ่ยเตือนดักเอาไว้อย่างจริงจัง
“ฉันหวังว่านายจะไม่ไปแตะต้องพวกการพนันและอบายมุขต่าง ๆ เหล่านั้นอีก สวีรุ่ยควรได้อยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวที่สมบูรณ์”
เขารู้สึกเป็นห่วงสวีรุ่ยจริง ๆ ความทรงจำครั้งล่าสุดที่เขาเห็นหญิงสาวคนนั้นนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่สี่แยกมันทำให้เขารู้สึกเวทนาจริง ๆ
“น…แน่นอนครับ! ผมจะทำให้รุ่ยเอ๋อร์มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน!”
สวีเซี่ยงจวินสัญญาอย่างรวดเร็ว
ทางด้านของผู้จัดการหวังก็ทำเป็นนิ่งเงียบ เขารู้ว่าการแสร้งทำเป็นไร้ตัวตนในเวลานี้เป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุด
แต่แล้วในขณะที่อวี้ฮ่าวหรานกำลังจะเอ่ยเตือนเรื่องอื่น ๆ ต่อ จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน!
“ฮ่าวหราน! เร็วเข้า…รีบมาช่วยลูกสาวของฉันที! เราโดนองค์กรอสรพิษจับได้!”
ทันทีที่รับสายโทรศัพท์ เสียงที่ตื่นตระหนกอย่างยิ่งจากปลายสายก็ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น!”
เสียงนั้นเป็นเสียงของเฉิงกัวอัน และอวี้ฮ่าวหรานก็ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเขาได้ยินประโยคนี้!
องค์กรอสรพิษ!
องค์กรนี้ไม่ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขานานแล้ว จนเขาคิดว่าพวกมันน่าจะกลัวจนไม่กล้าโผล่หัวมาอีก
“ฮี่ฮี่ แกคืออวี้ฮ่าวหรานสินะ? ฉันรู้ว่าแกห่วงใยไอ้สองคนนี้มาก ดังนั้นฉันจะให้โอกาสแกได้ช่วยพวกมัน จงมาที่ยอดตึกชางเหว่ยภายในหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นแกจะได้เห็นศพของสองพ่อลูกนี้ปรากฏขึ้นกลางถนน!”
“แกเป็นใคร?”
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินสิ่งนี้ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที!
ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเขาทำผิดพลาดอีกแล้วที่ไม่ฆ่าองค์กรนักฆ่านี้ไปให้หมด!
“ฉันเหรอ ฮ่าฮ่า แกสามารถเรียกฉันได้ว่า ‘อสรพิษเงิน’ และฉันเป็นรองเจ้าตำหนักคุมกฎขององค์กร ฉันขอชมเชยแกจริง ๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจของฉันได้ จนฉันต้องมาฆ่าแกด้วยตัวเองแบบนี้! อ้อ และแกมั่นใจได้เลยว่าเมื่อไหร่ที่แกตาย ฉันจะส่งครอบครัวของแกลงนรกตามแกไปด้วยเพื่อที่แกจะได้ไม่เหงา!”
เสียงปลายสายของโทรศัพท์นั้นเย็นชามาก และยิ่งเมื่อรวมกับการข่มขู่เยาะเย้ยก็ยิ่งทำให้ใครก็ตามที่ฟังสั่นกลัวได้อย่างง่ายดาย
แต่อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย มีเพียงแค่ความโกรธเท่านั้นที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา!
หลังจากวางสาย เขาเอ่ยลาสั้น ๆ กับผู้จัดการหวังและสวีเซี่ยงจวิน จากนั้นเขาก็เดินจากไปในทันที
ในเวลานี้ ผู้จัดการหวังรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อเห็นแววตาเจ้านายของเขาเมื่อครู่
เขาพบว่าตัวเองมองประธานหนุ่มคนนี้ไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไร
สรุปแล้วประธานของเขาเป็นคนที่อ่อนโยนหรือว่าโหดเหี้ยมกันแน่?
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะคิดอะไร อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถออกไปเรียบร้อยแล้ว
อวี้ฮ่าวหรานขับรถไปถึงอาคารชางเหว่ยในเวลาเพียงสี่สิบนาที!
นี่เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชน และอาคารก็ดูทรุดโทรมมาก
“ไม่ทราบว่าคุณมาติดต่อธุระรึเปล่า? แต่คุณช่วยเลื่อนรถเข้ามาจอดด้านในบริษัทของเราได้ไหม กรุณาอย่าจอดรถขวางประตูของบริษัทเรา”
รปภ. ที่ประตูเมื่อเห็นมีรถสุดหรูขับเข้ามา ทัศนคติของเขายังคงค่อนข้างสุภาพ ถึงแม้อวี้ฮ่าวหรานจะขับรถจอดขวางประตูเต็ม ๆ
แต่อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจอีกฝ่าย เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
“หลีกไป!”
รปภ. ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจ้าอารมณ์ได้ขนาดนี้
หลังจากได้สติแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!
“บัดซบ! ดูถูกกันมากไปแล้ว! คุณรู้ไหมว่าบริษัทของเราทำอะไร!”
รปภ. ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองเมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน!
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างดูถูกและพูดคำสั้น ๆ
“องค์กรอสรพิษ?”
คำสั้น ๆ นี้ทำให้ รปภ. ดูเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก!
“แกรู้ได้ยังไง! บัดซบ!”
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินสิ่งนี้ เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาทันที!
รปภ. คนนี้น่าจะมาจากองค์กรอสรพิษ เห็นได้ชัดว่านี่อาจเป็นสาขาใหม่ขององค์กรอสรพิษ
ในเมื่อเป็นกรณีนี้ เขาจะทำลายที่นี่ให้พินาศ!
‘บรึม!’
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายเริ่มก่อน อวี้ฮ่าวหรานก็เตะรปภ. อย่างรุนแรงจนกระเด็นไปกระแทกกับประตูรั้วเหล็กจนพังโครมลง!
อย่างไรก็ตาม รปภ. คนนี้เป็นผู้บ่มเพาะถึงระดับพลังภายในอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าเขาจะโดนเตะไปเต็ม ๆ เขาก็ยังคงมีแรงตะโกนสียงดัง
“มีคนบุกเข้ามา! มีคนบุกเข้ามา…”
‘กร๊อบ!’
แต่ก่อนที่เขาจะตะโกนเสร็จเป็นครั้งที่สอง อวี้ฮ่าวหรานก็พุ่งเข้าไปหาและเหยียบเข้าไปที่คอของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนมีเสียงกระดูกคอหักดังลั่น!
คราวนี้เขาตั้งใจว่าจะฆ่าคนขององค์กรอสรพิษทั้งหมดจริง ๆ!
เหตุผลส่วนใหญ่ที่เฉิงกัวอันและเฉิงชิวอวี้ถูกจับตัวมาแบบนี้มันน่าจะมาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างพวกเขากับอวี้ฮ่าวหราน ดังนั้นหากเขาไม่ฆ่าพวกองค์กรอสรพิษในวันนี้ให้หมด คราวหน้าอีกฝ่ายคงมุ่งเป้าไปที่ หลี่หรงและถวนถวนอย่างแน่นอน!
เขาจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้!
“หาที่ตาย! กล้าดียังไงถึงบุกรุกบริษัทเราแบบนี้!”
ในเวลานี้ รปภ. จำนวนมากกว่าสองโหลได้หลั่งไหลออกมาจากตึกสำนักงานราวกับน้ำหลาก!
คนที่นำหน้าตะโกนอย่างโกรธจัด!
อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และพบว่าผู้ชายที่นำหน้าสุดเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตพลังภายในขั้นกลาง ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ อย่างน้อยก็เกือบจะทะลวงขึ้นมามีพลังภายในแล้ว!
คนพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยหากเทียบกับเกณฑ์ความแข็งแกร่งของโลกมนุษย์!
แค่คนไม่กี่สิบพวกนี้ก็เทียบได้กับความแข็งแกร่งของแก๊งพยัคฆ์เวหาทั้งหมดแล้ว!
หลังจากยืนยันว่านี่คือองค์กรอสรพิษสาขาใหม่ ดวงตาของอวี้ฮ่าวหราน ก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม!
อีกฝ่ายรีบรุมล้อมเขา!
“รนหาที่ตาย! กล้าดียังไงมาบุกสาขาองค์กรอสรพิษของเรา! ฉันจะทำให้แกทรมานจนต้องร้องขอความตาย!”
ผู้นำกลุ่มตะโกนอย่างหยิ่งผยอง เขาไม่ปิดบังตัวตนอีกแล้วว่ามาจากองค์กรอสรพิษ
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ขาข้างหนึ่งของพวกเขาก้าวเข้าไปในยมโลกเรียบร้อวแล้ว!
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาก่อนจะหายตัวไปราวกับผี!
วินาทีถัดมา ฉากที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็ปรากฏขึ้น!
เมื่อร่างที่หายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง อวี้ฮ่าวหรานก็คว้าคอผู้นำกลุ่มที่เป็นปรมาจารย์พลังภายในด้วยมือข้างหนึ่งแล้วยกขึ้น!
ดวงตาของนักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นหัวหน้ารปภ. เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
เขาคือปรมาจารย์พลังภายใน! ผู้ที่แข็งแกร่งใกล้จะขึ้นได้รับตำแหน่งเจ้าตำหนัก!
แต่ตอนนี้เขากลับถูกอีกฝ่ายคร่ากุมอย่างง่าย ๆ ได้ยังไง?
เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น!
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานก็เพิกเฉยต่ออาการสยองขวัญของอีกฝ่ายและเขาไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดแม้แต่น้อย
‘กร๊อบ!’
หลังจากสิ้นเสียงกระดูกถูกบดละเอียด ปรมาจารย์พลังภายในผู้ที่เคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเหนือล้ำก็แน่นิ่งตาเหลือกและหมดลมหายใจในทันที!
‘ผลั่ก’
อวี้ฮ่าวหราน มองไปรอบ ๆ หลังจากโยนร่างไร้ชีวิตลงบนพื้น
“วันนี้พวกแกทั้งหมดจะต้องตาย!!”
อวี้ฮ่าวหรานพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก แต่พวกนักฆ่าต่างกลัวจนถอยกลับไปสองก้าว!
พวกเขาไม่เคยเห็นตัวตนที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน!
“ก…แก! อย่าได้ใจไปนักนะโว้ย! ตัวตนระดับสูงขององค์กรเราอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าขืนแกก้าวเข้ามาอีกแกตายแน่!”
หนึ่งในนั้นรวบรวมความกล้าตะโกนขึ้นขู่หวังว่ามันจะได้ผลบ้าง
“โอ้ ไอ้คนที่แกหวังพึ่งนี่แหละที่ฉันกำลังมองหาอยู่!”
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็โคจรพลังวิญญาณอย่างรวดเร็วและระเบิดคลื่นพลังออกไปทางด้านหน้าจนกวาดล้างพวกนักฆ่ายี่สิบกว่าคนพร้อม ๆ กันอย่างหมดจด
หลังจากจัดการกับพวกนักฆ่าด้านนอกตึกเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปด้านในผ่านประตูกระจกที่แตกเละเทะหลังจากการปะทะเมื่อครู่
แต่แล้วเมื่ออวี้ฮ่าวหรานเข้าไปด้านในตึก เขาก็เห็นว่าที่ด้านในมีพวกพนักงานที่น่าจะเป็นคนธรรมดาไม่รู้อีโหน่อีเหน่จำนวนมากอยู่ด้วย คนพวกนี้ไม่มีคลื่นพลังแผ่ออกจากร่างกาย ดังนั้นอวี้ฮ่าวหรานจึงสรุปได้ทันทีว่าคนพวกนี้ไม่ใช่พวกที่ปลอมตัวมา ในเวลานี้พวกหนักงานเหล่านี้ต่างตื่นตระหนกและพากันวิ่งหนีเตลิดไปคนละทิศคนละทาง