บทที่ 57 ชายชรา
เมื่อเห็นท่าทางของอวี้ฮ่าวหรานแบบนี้ ผู้จัดการเจาก็รู้ได้ว่า ฝั่งตรงข้ามจงใจมาหาเรื่องโดยเฉพาะ ดังนั้นเขาจึงรีบยกโทรศัพท์โทร ลงไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยทันที
“พวกแกทำอะไรกันอยู่ถึงปล่อยให้คนนอกเข้ามาสร้างความวุ่นวายบนนี้ได้? หะ! อะไรนะ? แม่งเอ๊ย!”
แค่คุยโทรศัพท์เพียงครู่เดียวผู้จัดการเจาก็วางสายไปอย่างรุนแรงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“แกเป็นใครกันแน่?”
ผู้จัดการเจาเบนสายตาไปหาอวี้ฮ่าวหรานทันที ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเขาเกือบหมดถูกอัดซะเละอยู่ที่ชั้นล่าง
“ดูเหมือนว่าวันนี้แผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทแกจะ ปิดทำการถูกต้องไหม?” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มเย้ย
สีหน้าของผู้จัดการเจาเปลี่ยนเป็นมืดหม่นอย่างเห็นได้ชัด “แกมาที่นี่เพื่อมาหาเรื่องพวกเราสินะ?”
“ฉันต้องการรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าสาขาขององค์กรอสรพิษในเมืองฮ่วยอัน!” อวี้ฮ่าวหรานพูดขึ้นพร้อมกับกับลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาผู้จัดการเกาอย่างช้า ๆ
“ฉันไม่รู้ว่าแกพูดถึงเรื่องบ้าอะไร ฉันไม่รู้จักองค์กรอสรพิษอะไรนั่นทั้งนั้น! แต่ในเมื่อแกกล้ามาหาเรื่องฉันถึงที่นี่ งั้นแกก็เตรียมตัวตาย ได้เลย!”
ในทันทีที่ผู้จัดการเจาพูดจบ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดุดันและ พุ่งตัวเข้าหาอวี้ฮ่าวหรานกะทันหันพร้อมกับชกหมัดไปที่หน้าของ อวี้ฮ่าวหรานอย่างเต็มแรง
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะในใจเมื่อเห็นการออกหมัดที่ดูปวกเปียก ของผู้จัดการเจา เขาบอกได้เลยว่าคนคนนี้เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่เหมือนกับพวกนักฆ่าที่เขาเผชิญก่อนหน้านี้
อวี้ฮ่าวหรานเบี่ยงตัวหลบแบบง่าย ๆ จากนั้นเขาชกสวนไปที่ท้องของผู้จัดการเจาเบา ๆ เพื่อแค่ให้ ฝังตรงข้ามจุกจนยืนไม่อยู่ก็พอ
“อั่ก!”
“องค์กรอสรพิษมีไก่อ่อนอย่างแกรวมอยู่ด้วยได้ยังไง?”
อวี้ฮ่าวหรานพูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูกพร้อมกับจิกหัวผู้จัดการเจาขึ้นมาถาม
“ฉ…ฉัน ไม่รู้จริง ๆ ว่าแกพูดเรื่องอะไร… ฉันไม่รู้จักองค์กรที่ชื่ออสรพิษอะไรนั่นทั้งนั้น!”
ในตอนนี้ผู้จัดการเจาก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง แต่น่าเสียดายที่ แววตาลุกลี้ลุกลนของเขามันทรยศคำพูดของเขาอย่างสิ้นเชิง
“เอาล่ะก็ได้! ในเมื่อแกยังปากแข็งอยู่ ถ้างั้นก็พาฉันไปหาประธานของแกที แต่ถ้าแกยังคงปฏิเสธไม่ยอมพาฉันไป ฉันจะจับแกโยนลงไปข้างล่างจากบนนี้!” อวี้ฮ่าวหรานเริ่มรู้สึกรำคาญฝั่งตรงข้าม เขาไม่อยากจะเสียเวลากับตัวประกอบแบบนี้อีกต่อไปจึงขู่เอาชีวิตทันที
เมื่อได้ยินคำขู่แบบนี้บวกกับสีหน้าที่เย็นชาของอวี้ฮ่าวหราน ผู้จัดการเจาก็กลัวจนหัวหด เขารีบพยักหน้าและนำทางอวี้ฮ่าวหราน ไปยังห้องของประธานอย่างรวดเร็ว
แค่เพียงครู่เดียว พวกเขาก็เดินมาถึงหน้าห้องประธานบริษัท
“นี่คือห้องของประธานบริษัทของฉัน แต่วันนี้เขาน่าจะไม่อยู่ ในบริษัท ไม่งั้นห้องคงไม่ล็อคอยู่แบบนี้!”
ในตอนนี้สีหน้าของผู้จัดการเจากลายเป็นหดหู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อตอนนี้ที่เขาพบว่าห้องมันถูกล็อคอยู่ เขากลัวว่า อวี้ฮ่าวหรานจะโมโหและทำร้ายเขาอีกรอบ
“ไม่อยู่งั้นเหรอ? ไม่เป็นไร งั้นแกโทรเรียกมันมาเดี๋ยวนี้บอกไปว่าฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับมัน!” อวี้ฮ่าวหรานเริ่มรู้สึกร้อนรน เขานึกไม่ถึงว่าวันที่เขามาบุกมันกลับตรงกับวันที่คนดูแลองค์กรอสรพิษสาขาเมืองฮ่วยอันดันไม่อยู่บริษัทซะงั้น
“เร็วเข้ารีบโทรหามัน เรียกมันให้มาเดี๋ยวนี้บอกมันไปว่า ถ้ามันไม่มาที่นี่ภายใน 1 ชั่วโมง… ฉันจะเผาที่นี่ให้ราบ!”
อวี้ฮ่าวหรานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนผู้จัดการเจาเชื่อหมดใจว่าถ้าหากเขาไม่ทำตาม ฝั่งตรงข้ามคงจะเผาที่นี่จริง ๆ แน่นอน
ผู้จัดการเจารีบโทรออกในทันทีและเล่าทุกอย่างให้กับปลายสายฟังด้วยสีหน้าตื่นกลัว
“ท…ท่าน ประธานของฉันบอกจะมาที่นี่ทันที” เมื่อคุยโทรศัพท์จบ ผู้จัดการเจารีบหันมาบอกอวี้ฮ่าวหราน
“ดีมาก! เอาล่ะตอนนี้แกไสหัวไปได้แล้ว ฉันจะรอประธานของแกอยู่ที่นี่เอง!”
อวี้ฮ่าวหรานถีบประตูห้องประธานบริษัทจนเปิดออก และเดินเข้าไปรอด้านในทันทีโดยไม่สนใจว่าผู้จัดการตัวอ้วนจะอยู่ต่อหรือจะหนีไปตามที่เขาบอก
แน่นอนว่าผู้จัดการเจาเมื่อได้ยินว่าฝั่งตรงข้ามปล่อยเขาไป เขาก็รีบวิ่งหนีไปกดลิฟต์ทันที เขาไม่ต้องการที่จะอยู่กับอวี้ฮ่าวหราน แม้อีกเพียงวินาทีเดียว!
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ยินเสียงเท้าที่กำลังเดินใกล้เข้ามา ซึ่งจากนั้นไม่นานชายที่มีอายุราว 50 กว่า ๆ ก็เดินเข้ามา ในห้องประธานบริษัทด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“ฉันคือประธานของบริษัทแห่งนี้ ขอทราบได้ไหมว่าน้องชายมีเรื่องผิดใจอะไรกับบริษัทของฉันงั้นเหรอถึงได้เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับฉันถึงขนาดนี้?”
ชายชราเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตำหนิ แต่น่าแปลกที่มันกลับไม่ได้ ให้ความรู้สึกที่น่าอึดอัด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานลุกขึ้นจากโซฟาทันที เขามองสำรวจไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาพบว่าชายชราคนนี้ไม่ได้พาผู้ติดตามมาเลยสักคน!
น่าแปลกจริง ๆ ที่คนระดับสั่งการขององค์กรนักฆ่าที่โด่งดังไม่มีใครคอยคุ้มกันเลย?
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็เริ่มรู้สึกลังเล หรือว่าข่าวที่ เฉิงกัวอันได้รับมาจะไม่ถูกต้อง? เมื่อเริ่มลังเล อวี้ฮ่าวหรานจึงตัดสินใจที่จะทดสอบชายชราคนนี้สักหน่อย
“ฉันได้ข่าวมาว่าที่นี่คือแหล่งกบดานขององค์กรอสรพิษ ฉันก็เลยมาตรวจสอบดู!”
ได้ผล!
ในทันทีที่คำว่าองค์กรอสรพิษหลุดออกจากปากของอวี้ฮ่าวหราน แววตาของชายชราแสดงความผิดปกติทันทีอยู่เสี้ยววินาที หากเป็นคนธรรมดาคงมองไม่ทันแต่อวี้ฮ่าวหรานที่กำลังจ้องมองอยู่นั้นสังเกตเห็น มันเต็ม ๆ “องค์กรอสรพิษงั้นเหรอ? น้องชายเข้าใจผิดแล้วที่นี่ไม่มีองค์กรอะไรนั่นหรอก ข่าวที่น้องชายได้รับมามันไม่จริงอย่างแน่นอน ตาแก่ผู้นี้ มีชีวิตอยู่มาก็นานแล้วยังไม่เคยชื่อองค์กรแปลก ๆ แบบนั้นมาก่อนเลย”
ทั้งสีหน้าและความต่อเนื่องของการพูดของชายชรามันไม่มีช่องโหว่ใด ๆ ให้จับผิดได้เลย ถ้าหากอวี้ฮ่าวหรานไม่จับสังเกตได้จากแววตา เมื่อครู่ เขาคงเชื่อไปแล้วว่าข้อมูลที่เขาได้รับมามันไม่ถูกต้อง
ในตอนนี้เมื่ออวี้ฮ่าวหรานแน่ใจแล้วว่าฝั่งตรงข้ามน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอสรพิษแน่นอน เขาจึงแสร้งเอ่ยขึ้นว่า “อ้อ ถ้าอย่างนั้นผมต้องขออภัยด้วยจริงๆ ที่วันนี้ผมสร้างความวุ่นวายให้กับที่นี่ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ผมยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณอย่างเต็มจำนวนเลยก็แล้วกัน”
เมื่อพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานหมุนตัวกลับเดินออกจากประตูไปในทันที แต่แล้วในขณะที่ชายชราไม่ทันระวังตัว อวี้ฮ่าวหราน กลับพุ่งกลับเข้ามาในห้องด้วยความเร็วเหนือมนุษย์และกระชากแขนเสื้อของฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว!
รอยสักงูเห่า! มีมันอยู่จริง ๆ ถูกแล้วที่นี่คือแหล่งกบดานของไอ้องค์กรอสรพิษ!
เมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกแล้ว ชายชรารีบชักแขนกลับและกระโดดถอยหลังทันทีด้วยสีหน้ามืดหม่น
“หึ! ฉันอุตส่าห์จะปล่อยให้แกมีชีวิตรอดไปได้อีกสัก 2-3 วัน แล้วค่อยฆ่าแกทีหลังในฐานะที่มาสร้างความเสียหายให้กับประตูบริษัทฉัน! แต่ในเมื่อแกสู่รู้ดีนักงั้นฉันฆ่าแกให้ตายวันนี้เลยดีกว่า!”
ทันทีที่ชายชราพูดจบ ประตูลับที่อยู่ในห้องหลายบานก็เปิดออก และจากนั้นเหล่านักฆ่าในชุดดำ 15 คนก็กรูกันออกมาล้อมอวี้ฮ่าวหราน!
นักฆ่าพวกนี้ทุกคนล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธที่สามารถใช้พลังปราณได้อย่างช่ำชอง!
“ก่อนแกจะตายฉันขอถามอะไรสักคำ แกรู้ได้ยังไงว่าองค์กรของฉันอยู่ที่นี่?”
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานแสดงสีหน้าไม่แยแส ไม่มีท่าทีที่จะตอบกลับแม้แต่น้อย ชายชราพลันพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะตะโกนสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“เอาเลย ฆ่ามันให้จบ ๆ ไปซะ!”
เมื่อสิ้นเสียงคำสั่ง บรรดานักฆ่า 15 คนก็กรูกันเข้าไปหา อวี้ฮ่าวหรานอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยมีดสั้นในมือ
เนื่องจากตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าอวี้ฮ่าวหรานเป็นใคร ดังนั้นในความคิดของพวกเขาตอนนี้จึงมองว่าอวี้ฮ่าวหรานนั้นเหมือนคนที่ตายไปแล้ว
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่บรรดานักฆ่าที่พุ่งเข้ามาด้วยสายตาเย็นชาและไปจบลงที่ชายชรา
“นี่คือไพ่ตายของแกงั้นเหรอ?”
“หากแกมีปัญญาทำได้แค่นี้ งั้นวันนี้มันก็เป็นวันอวสานของพวกแกแน่นอน!”