ตอนที่ 591 กิ้งก่ากินคน
พื้นทรายร่วงลงไปในหลุมเสียงดัง เต็นท์ที่กางอยู่จมลงไปอยู่ในทรายบางส่วน
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขนาดทหารที่มากด้วยประสบการณ์ก็ยังไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
จู่ๆ ก็มีกิ้งก่ายักษ์หลายตัวไต่ขึ้นมาจากหลุม ตาของพวกมันแดงก่ำ และตัวของพวกมันก็ยาวมากกว่าสามเมตร ลิ้นของพวกมันแลบออกมาจากปาก ราวกับว่ามันจะกลืนคนเข้าไปทั้งตัวได้เลย
พวกทหารเอาปืนกลไรเฟิลออกมาแล้วระดมยิงไปที่กิ้งก่าพวกนั้น แต่กระสุนดูปืนจะใช้ไม่ได้กับเกล็ดหนาๆ นั่น พวกมันไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย กิ่งก่าพวกนี้วิ่งบนพื้นทรายเร็วกว่าตอนที่ไม่มีอะไรมาขวางเสียอีก
หลายคนรีบไปเอาอาวุธหนักออกมา แต่จรวดพวกนั้นก็เล็งไปที่พวกกิ้งก่าวิ่งเร็วยากเหลือเกิน
จนกระทั่งมีทหารลองปาระเบิดไปที่พวกกิ้งก่าตัวหนึ่ง มันหยุดนิ่งไปสักพัก แต่ต่อมามันก็วิ่งเข้าหากลุ่มคนอย่างดุร้าย
ในค่ายนั้นมีอาวุธที่มีพลังทำลายล้างหนักกว่า แต่ปัญหาก็คือกิ้งก่าพวกนั้นมันวิ่งออกมาจากค่ายน่ะสิ พวกเขาไม่สามารถระเบิดค่ายทิ้งได้เสียด้วย
ทันใดนั้น สมาชิกในเครือข่ายฟ้าดินก็ชักดาบออกมาแล้ววิ่งไปข้างหน้า พวกเขาต่างโชว์ความสามารถกันเต็มที่ได้เลยในเวลาแบบนี้ และพวกเขาจะชักช้าไม่ได้ ทหารธรรมดาๆ อาจจะตายไปตอนไหนก็ได้ ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่ากิ้งก่าพวกนี้มันจะออกมาจากใต้ดิน ทั้งยังไม่รู้แน่ชัดอีกด้วยว่าพวกมันมาจากไหน
พอเฉินจู่อานเห็นแบบนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงดัง “หยุดรถ!”
แต่ก่อนที่เขาจะส่งเสียงออกมาเสร็จ หลี่ว์ซู่ก็กระโจนลงจากรถไปแล้วในตอนที่รถยังไม่หยุดด้วยซ้ำ เขารีบวิ่งไปที่ค่ายทันที
ด้วยร่างกายของผู้บำเพ็ญแล้ว เขาไม่ต้องรอให้รถหยุดก็ได้ ผู้บำเพ็ญไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องแรงเฉื่อยหรือความสูง พวกเขาต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ถึงหลี่ว์ซู่อยากจะไปที่โบราณสถานมากแค่ไหน แต่ชีวิตของคนพวกนี้ก็สำคัญสำหรับเขาเหมือนกัน
ตราแผ่นดินที่เขามีนั้นไม่ใช่เรื่องลับอะไร ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในมือของสือเสวจิ้นหรือเนี่ยถิงก็ตาม แล้วทันใดนั้น หอกก็ปรากฏขึ้นมาในมือหลี่ว์ซู่ เขาปามันออกไปที่พวกกิ้งก่าด้วยความเร็วที่เร็วกว่าระเบิดจรวดอาร์พีจี หอกนั้นส่งเสียงคำรามดังขณะตัดผ่าอากาศไป กิ้งก่าที่กำลังพุ่งเข้ามาหาผู้คนนั้นอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
หอกนั้นปักเข้าไปที่ซี่โครงด้านซ้ายของมัน มันส่งเสียงร้องแหลมแสบแก้วหู อาวุธแหลมแทงทะลุเข้าไปที่ซี่โครงด้านขวา
กิ้งก่าโซซัดโซเซไปข้างๆ แทบจะยืนตรงไม่ไหว!
หลี่ว์ซู่ใช้หอกไปแล้วทั้งหมดยี่สิบเล่มตอนบุกฐานทวยเทพ ตอนนี้เหลืออยู่อีกแค่ห้าเล่มเท่านั้น และทั้งห้าเล่มก็ถูกใช้โจมตีกิ้งก่าที่กำลังวิ่งไล่ทหารอย่างจังไปแล้วทั้งห้าตัว
กิ้งก่าตัวที่โดนโจมตีนั้นพยายามจะลุกขึ้นมาโจมตีกลับ แต่พอพวกมันยืนขึ้น มันก็ล้มลงไปเหมือนเดิม หลี่ว์ซู่เล็งอาวุธไปไม่ค่อยแม่นหรอก แต่แรงจากหอกที่พุ่งผ่านอากาศไปทำให้พวกกิ้งก่าเจ็บปวดเป็นอย่างมาก หัวใจของพวกมันอยู่ใต้ซี่โครง และหัวใจจะหยุดทำงานเพราะแรงจากหอกนี้ได้ ถึงแม้ว่าหอกจะไม่ได้ปักเข้าไปที่หัวใจตรงๆ ก็ตาม
จากที่หลี่ว์ซู่สังเกตดูแล้ว กิ้งก่าพวกนี้น่าจะอยู่ประมาณระดับ D และพวกที่แข็งแกร่งหน่อยอาจจะอยู่ที่ระดับ C เลยก็ได้ พวกมันจะเข้าโจมตีทหารธรรมดาๆ เป็นหลัก สมาชิกจากเครือข่ายฟ้าดินและยอดฝีมือระดับ C จะอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน แต่เครือข่ายฟ้าก็ไม่สามารถจัดให้คนระดับ C จำนวนมากมาประจำอยู่ที่ค่ายนี่ได้ ถึงแม้จะมีหลายคนที่เลื่อนเป็นระดับ C แล้วก็ตาม
เพราะแค่จัดผู้บำเพ็ญระดับ C ราวสองถึงสามคนมาประจำอยู่ที่ชายแดนเพื่อคอยเฝ้าป้องกันพวกผู้บุกรุกก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อมีกิ้งก่ากว่าสิบตัวบุกเข้ามาในค่ายแล้ว พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก
ส่วนพวกสมาชิกเครือข่ายฟ้าดินคนอื่นๆ ก็ดูจะทำอะไรพวกกิ้งก่าไม่ได้เพราะพวกกิ้งก่านั้นเร็วเกินไป
จนตอนนี้หอกห้าเล่มก็พุ่งผ่านอากาศไปและปักไปที่กิ้งก่าที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา พวกเขาตกใจกันมาก มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยพวกเขาแล้ว!
เฉินจู่อานวิ่งไล่ตามหลี่ว์ซู่มาอย่างบ้าคลั่งจากด้านหลัง เขาดูหัวเสียเล็กน้อย เพราะหลังจากเข้ารับการฝึกทหารมาแล้ว เขาคิดว่าช่องว่างความสามารถระหว่างเขากับหลี่ว์ซู่ต้องหดลงบ้างแล้ว แต่หลี่ว์ซู่ก็ยังคงเป็นหลี่ว์ซู่เหมือนเดิม ความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นอีกระดับจริงๆ
เจียงเฟิงและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร พอพวกเขาเห็นว่าหอกพุ่งตรงออกไปแบบนั้น พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าหลี่ว์ซู่ไม่ใช่แค่เด็กเส้นที่มาจากครอบครัวมีอิทธิพล ความแตกต่างระหว่างพวกเขากับหลี่ว์ซู่นั้นราวกับฟ้าและเหว
ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นหลี่ว์ซู่ปล่อยดาบแสงเกือบล่องหนออกไปกว่าร้อยเล่ม พลังดาบรัศมีพวกนั้นบินออกไปอย่างยุ่งเหยิงโดยไม่มีการจัดลำดับก่อนหลัง แต่สุดท้ายพลังดาบทั้งหมดนั้นก็พุ่งเข้าไปโดนกิ้งก่ายักษ์กินคนอย่างจัง
ไม่มีใครเคยเห็นการโจมตีเช่นนี้มาก่อน ถ้าพวกเขาได้พบกับการโจมตีแบบนี้ในการต่อสู้จริงๆ คงจะไม่มีใครเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน!
“เดี๋ยวนะ พวกนายไม่เคยได้ยินการโจมตีด้วยหอกแบบนี้มาก่อนเหรอ ทักษะการปาหอกของเขาดีเป็นบ้าเลย!”
“เขาคือหลี่ว์ซู่ไม่ใช่เหรอ” มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างตกใจ
เฉินจู่อานวิ่งไปพูดไปจนหายใจไม่ทัน “บ้าไปแล้ว จะมีใครดุดันไปกว่าหลี่ว์ซู่อีกเหรอ”
เขาอิจฉาทักษะดาบของหลี่ว์ซู่จริงๆ นี่มันเป็นวิชาจากหอเกียรติกระบี่นี่ พลังดาบรัศมีล่องหนเนี่ย!
หลี่ว์ซู่ขมวดคิ้วแล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างดุดัน ตอนที่เขาขุดภูเขาพลังไปล่าสุด เขาก็ได้พลังดาบรัศมีเพิ่มขึ้นมาอีกสามเล่ม พลังดาบรัศมีพวกนี้โจมตีใส่กิ้งก่ากินคอเป็นระลอกๆ ดาบทั้งหมดนั้นพุ่งเข้าไปปักตัวกิ้งก่าระดับ C เพียงไม่กี่เซนติเมตร ถ้าหลี่ว์ซู่อยากจะฆ่าพวกนี้จริงๆ เขาจะต้องเล็งพลังดาบรัศมีหลายๆ เล่มเข้าไปที่จุดเดียวกันย้ำๆ เขาได้เปรียบเรื่องจำนวนของดาบ เขาสามารถใช้ข้อได้เปรียบนี้เพื่อเอาชนะกิ้งก่าพวกนี้!
การบังคับพลังดาบรัศมีสำหรับหลี่ว์ซู่แล้วไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แต่จะให้เล็งเป้าหลายๆ เป้าในคราวเดียวกันก็เป็นเรื่องท้าท้ายพอดู
พอพลังดาบรัศมีพวกนี้เจาะเข้าไปในผิวของพวกกิ้งก่าแล้วหลี่ว์ซู่ก็ไม่ใส่ใจเล็งให้เข้าเป้าอีกเลย เพราะพลังดาบรัศมีพวกนี้จู่โจมพวกกิ้งก่าอย่างบ้าคลั่งจากภายนอก ค่อยๆ ปลิดชีวิตมัน
เสียงร้องโหยหวนดังมาจากพวกกิ้งก่า และหลี่ว์ซู่พอใจมาก ถ้ามีกิ้งก่าระดับ C โผล่มาอีก เขาอาจจะมีพลังดาบรัศมีไม่พอใช้
ดูเหมือนว่าหลี่ว์ซู่จะเป็นฝ่ายที่ดุร้ายกว่า หลังจากที่เขาปล่อยพลังดาบรัศมีออกไปแล้ว พลังดาบรัศมีอีกพันกว่าเล่มก็ตามหลังมาติดๆ เขาไม่ปรานีใดๆ ทั้งนั้น หลี่ว์ซู่เริ่มจะมีพลังดาบรัศมีเหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้ว ถ้าเขาอยากใช้มันอีกก็ต้องรอไปอีกสามวันเป็นอย่างน้อย เขาจำได้ว่าตอนที่ไปหาข้อมูลของหลัวปู้พัว เขาเจอว่ามีการรายงานเห็นกิ้งก่ากว่าพันตัวถูกพบเจอในระหว่างกลุ่มหิน และสุดท้ายพวกมันก็โดนฆ่าตายด้วยอาวุธหนักทำลายล้างสูง และมีคนกล่าวอีกว่าที่แห่งนี้ควรเป็นที่เอาไว้ทดลองระเบิดนิวเคลียร์เพราะเหตุนี้นี่เอง
แต่ข้อมูลที่ว่ามาก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด อย่างน้อยๆ กิ้งก่ายักษ์กินคนพวกนี้ก็ยังไม่ตายล่ะ
หลี่ว์ซู่เดินทอดน่องเข้าไปที่หลุมลึกนั้นและมองลงไปในความมืดด้านล่าง มันจะมีกิ้งก่าแบบนี้โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินอีกหรือเปล่านะ