ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 615 ระลอกเกราะทองแดง

ตอนที่ 615 ระลอกเกราะทองแดง 

 

 

หลี่ว์ซู่ที่อยู่แถวหน้าของการปะทะเองก็สวมเกราะทองแดงเพื่อป้องกันไม่ให้การบาดเจ็บแล้วเหมือนกัน ถึงพวกกองทัพจากทะเลจะทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อยากได้แผลหรอก เมื่อเห็นว่าทีมของหวังซูนั้นล่าถอยกลับด้วยความกลัว หลี่ว์ซู่จึงถอดหมวกออกแล้ววิ่งตามไป “อย่าวิ่งหนี! เราเป็นฝ่ายพันธมิตร!” 

 

 

“…โห!” หวังซูร้องอุทานหลังจากเห็นหน้าหลี่ว์ซู่โผล่ออกมา 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากหวังซู +199!] 

 

 

“อย่าถูกปั่น พี่น้องทั้งหลาย! พวกเขาไม่ใช่ศัตรู!” หวังซูรีบตะโกนบอก “ที่เราระดมทุนไปได้ผลด้วย! รีบไปสมทบฆ่าศัตรูร่วมกับกองพันที่ 42 กันเถอะ!” 

 

 

แล้วพวกเขาก็จิตใจฮึกเหิมกันขึ้นมา ตอนแรกพวกเขาสงสัยว่าที่ร่วมระดมทุนไปนั้นจะได้ผลหรือเปล่า แต่มันก็ได้ผลจริงๆ! 

 

 

ด้วยการนำขบวนของหวังซู กองพันที่ 43 พากันมุ่งหน้ากันไปอย่างรวดเร็วและทะลวงเข้าไปในขบวนทัพที่ถอยกันไปแล้วในฝั่งทะเล ทุกคนใจสู้กันมาก! 

 

 

จะว่าไปแล้วยุคนี้เป็นยุคที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะผู้ชายหลายคนต่างก็ใฝ่ฝันอยากลงสมรภูมิต่อสู้ดูสักครั้ง กระนั้นสำหรับผู้หญิงแล้วอาจจะไม่ใช่ เพราะผู้หญิงทุกคนไม่ได้โชคดีมีหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นผู้นำทัพ 

 

 

อยู่ๆ หวังซูก็นึกขึ้นได้ว่ามีอะไรแปลกๆ ทำไมกองพันที่ 42 ถึงไม่ค่อยดุดันเลยเทียบกับก่อนหน้านี้ ว่าแต่พวกเขาไปเอาเกราะทองแดงมาจากไหนกันนะ! 

 

 

แต่แล้วจากนั้นเขาก็ต้องอึ้งไปเมื่อเห็นทีมของหลี่ว์ซู่ลากกลุ่มนักรบจากทะเลที่ไม่สามารถขยับตัวได้เข้าไปในฝูงชน แล้วลอกคราบเกราะของพวกมันออก 

 

 

จากนั้นก็สวมเกราะของพวกมันแทน! 

 

 

“กลยุทธ์บ้าอะไรเนี่ย” หวังซูแทบไม่เชื่อสายตา 

 

 

ไม่มีใครจะมานั่งคิดเรื่องเกราะเพราะมันจะสลายไปหลังจากที่พวกศัตรูตายไป แต่หลี่ว์ซู่นั้นกลับคิดแผนแยบยลขนาดนี้ออกมาได้ ทำให้สมาชิกทีมของเขาแข็งแกร่งพอก่อนที่จะถอดเกราะของศัตรูออกและทำให้ตัวเองมีพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น 

 

 

แต่อย่างไรก็ตามกองพันที่ 43 นั้นรู้สึกขอบคุณความช่วยเหลือจากกองพันที่ 42 เป็นอย่างมาก ไม่งั้นกว่ากองเสริมของเฉิงชิวเฉี่ยวจะมาถึง พวกเขาคงตกที่นั่งลำบากกันแล้ว 

 

 

ไม่นานการเคลื่อนไหวของหลี่ว์ซู่ก็กลับมาว่องไวอีกครั้ง เขาดูราวกับเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม เขาทำให้ทหารจากทะเลสามคนแน่นิ่งไป ไม่สามารถขยับตัวได้ในพริบตาเดียว เขาแข็งแกร่งแบบไม่มีใครสู้ได้เลย 

 

 

“โห! เท่มาก!” หวังซูตะโกนอย่างตื่นเต้น 

 

 

ส่วนคนอื่นๆ ในกองพันที่ 43 ก็ร่วมตะโกนไปกับเขาด้วย พวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญและแบ่งมีเวลาไปสังเกตการณ์ฝั่งของหลี่ว์ซู่ด้วย 

 

 

“ถ้ากองพัน 42 เอาชนะศัตรูได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน!” หวังซูกู่ร้องอย่างสดใส 

 

 

แต่แล้วจู่ๆ กองพันที่ 42 ก็ถอยกันอีกครั้ง! 

 

 

“บ้าเปล่าเนี่ย! อย่าเพิ่งไปสิเพื่อน!” หวังซูตะโกน 

 

 

สมาชิกกองพัน 42 แต่ละคนลากข้อเท้านักรบทะเลแล้ววิ่งกลับมาในแดนของตัวเองโดยไม่ลังเล… 

 

 

นี่เป็นเพราะหลี่ว์ซู่รู้สึกว่ากลยุทธ์ต่อสู้ในตอนแรกนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพพอ พวกเขาต้องทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวไม่ได้ในครั้งเดียวเพื่อให้ทุกคนทำงานของตัวเองได้ 

 

 

และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือทุกคนในทีมของเขานั้นได้เกราะทองแดงแบบจัดเต็มกันมา ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังมีเกราะเพิ่มกันมาอีกสิบชุดด้วย… 

 

 

แต่หลี่ว์ซู่ก็ยังไม่พอใจแค่นั้น “ไปขโมยเกราะมาเพิ่มอีก! แต่ระวังด้วยนะทุกคน! ฉันเห็นว่ามีพวกศัตรูตายไปก่อนที่เราจะเอาเกราะมาได้ด้วย! ระวังอย่าให้เป็นแบบนั้นอีกรอบล่ะ!” 

 

 

แล้วทันใดนั้นกองพันที่ 42 ก็รู้สึกตัวว่าเป้าหมายของพวกเขานั้นค่อยๆ ห่างไกลจากกองพันอื่นๆ ไปมากแล้ว… 

 

 

แต่ก่อนที่กองพัน 43 จะหาคำตอบได้ ก็มีระลอกเกราะทองแดงพุ่งกลับมาอีกครั้ง และใช้กลยุทธ์แบบเดิมด้วย… 

 

 

“พวกเขานี่แปลกที่สุดในเกาะแห่งความปลอดภัยเลยนะ” หวังซูถอนใจขณะที่เห็นหลี่ว์ซู่นำทัพออกไปอีกรอบ… 

 

 

การต่อสู้นี้กินเวลานานถึงสามชั่วโมง ครั้งนี้กองพันที่ 43 ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีเลย เพราะการที่กองพัน 42 เข้าไปบุกรุกพื้นที่ชายหาดจนทำให้ศัตรูไม่สามารถรวมตัวกันได้ 

 

 

พอการต่อสู้จบลง หวังซูก็พาทีมมาขอบคุณกองพันที่ 42 

 

 

ในขณะนั้นที่แนวป้องกันของกองพันที่ 42 ทุกคนกำลังคุยกันอย่างมีความสุข พวกเขาไม่ได้ถอดเกราะออกกันเลยสักนิด ทุกคนดูเตรียมตัวพร้อมสำหรับการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ 

 

 

ข้างๆ พวกเขามีเกราะทองแดงสุมกันอยู่เป็นตั้งหลายร้อยชุด… 

 

 

ดวงตาของหลี่ว์ซู่เป็นประกายหลังจากเห็นหวังซูเดินเข้ามา “ยินดีต้อนรับหัวหน้าหวัง ฉันมีเรื่องธุรกิจจะคุยด้วย” 

 

 

หวังซูกลืนน้ำลายดังเอื๊อก “ขอเดานะ จะมาขายเกราะทองแดงให้ใช่หรือเปล่า…” 

 

 

“ฮ่าๆ ฉลาดนี่!” หลี่ว์ซู่หน้าตาสดใส คุยกับคนฉลาดนี่มันง่ายจริงๆ! ตอนแรกเขาก็ลังเลที่จะขอเงินกันซึ่งๆ หน้า ก็มีการค้าขายนี่แหละที่เป็นทางเลือกที่พอเป็นไปได้ 

 

 

“ห้าแสนหยวนต่อชุด ไม่มีต่อ แต่จะจ่ายมาเป็นเงินมัดจำก่อนก็ได้ เป็นไงล่ะ ไม่แพงมากใช่ไหม จะเซ็นสัญญาก็ได้เหมือนกันนะ ฉันให้นายพิเศษแค่คนเดียวเลย” หลี่ว์ซู่ยิ้ม เขาเรียนรู้มาจากมั่วเฉิงคงเพื่อนรักของหวังซูว่าครอบครัวหวังซูนั้นร่ำรวย! 

 

 

หวังซูรู้ว่ามันเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และเกราะทองแดงนี้ยังสามารถใช้แลกเป็นเคล็ดวิชาฝึกฝนได้ด้วย ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดแบบนี้หลี่ว์ซู่กลับคิดวิธีขายของได้ ไม่เหมือนใครจริงๆ! 

 

 

“ขอยี่สิบชุด แล้วจะเซ็นสัญญาให้” หวังซูกัดฟันพูด 

 

 

หลี่ว์ซู่ก็ถอนใจออกมาด้วยความทุกข์ใจ เขาหันกลับไปคุยกับมั่วเฉิงคง “ตอนแรกฉันคิดว่าเขาน่าจะให้มากกว่านี้นะ…” 

 

 

หวังซูกัดฟันแน่น คนรวยๆ เกลียดอะไรมากที่สุดรู้ไหม พวกเขาเกลียดที่คนอื่นคิดว่าพวกเขาเป็นพวกไม่มีเงินน่ะสิ! “งั้นสามสิบชุด!” 

 

 

“ตกลง!” 

 

 

แค่สิบนาทีหลังจากนั้น นักเรียนห้องเต้าหยวนในชุดเกราะทองแดงก็เริ่มโฆษณากันไปปากต่อปาก กองพันต่อกองพัน แล้วบรรยากาศของเกาะปลอดภัยนี้ก็เปลี่ยนไปด้วยเหตุประการฉะนี้นี่เอง… 

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset