ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 625 หมวกเกราะสีดำ

ทหารชุดเกราะดำค่อยๆ ถอดหมวกออก แล้วทหารที่อยู่ข้างๆ เค่ออวิ้นก็รู้ว่าเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงบททำโทษนี้ได้เลย แต่พวกเขาไม่เห็นใจเขาหรอก เพราะในขณะที่องค์ราชากำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่นั้น คำสั่งของเค่อหมิงถือเป็นคำขาด การที่เขาภักดีต่อองค์ราชาก็แปลว่าเขาจะไม่ขัดขืนคำสั่งของเค่อหมิง  

 

 

หลี่ว์ซู่เอ่ยอย่างน่ากลัว “คิดหรือว่าราชาของเราจะกลัวมนุษย์ชั้นต่ำแบบนั้น”  

 

 

“ไม่ครับท่าน ผมสำนึกผิดแล้ว” เค่ออวิ้นค้อมหัวลงต่ำ  

 

 

“เงยหน้าขึ้นมาได้” หลี่ว์ซู่อินกับบทหนักเลย…  

 

 

พอหลี่ว์ซู่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในปราสาทที่มีพลังเหนือมนุษย์นั้นกำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่ เขาก็ใจชื้นขึ้นมา…  

 

 

ทหารเกราะดำตนอื่นๆ ไม่กล้าที่ชำเลืองมองไปเลย ทุกคนคิดว่าการตบหน้ากันก็เพียงพอแล้ว อย่าให้ถึงขึ้นเฆี่ยนตีกันเลย แต่แล้ว…  

 

 

ฉึบ! เค่ออวิ้นสิ้นใจตายในทันที…  

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากเค่ออวิ้น +1000!]  

 

 

ทหารชุดดำที่เหลือก็พูดไม่ออก  

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จาก…]  

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จาก…]  

 

 

หลี่ว์ซู่ได้รับแต้มอารมณ์มาระลอกใหญ่ พวกทหารในชุดดำนั้นอึ้งกิมกี่กันไปเลย พวกเขามองร่างของเค่ออวิ้นที่กองอยู่บนพื้นอย่างหวาดกลัว ทำไมต้องทำโทษกันหนักขนาดนี้ด้วย หัวหน้าคงโกรธเลือดขึ้นหน้ามากแน่ๆ! พวกทหารเงียบกันเพราะตกอยู่ในความกลัว ไม่มีใครกล้าปริปากสักคน!  

 

 

หลี่ว์ซู่นั้นแปลกใจกับระบบลำดับขั้นของที่นี่มาก เขาอยากใช้โอกาสที่ไม่มีใครกล้าต่อต้านเขาเลยนี้สังหารทหารทะเลเพิ่ม  

 

 

สถานการณ์ตอนนี้ราวกับหลี่ว์ซู่นั้นกำลังเดินอยู่บนเส้นลวดที่ขึงห่างจากพื้นไปพันเมตร ถ้าเขาทำพลาดนิดเดียวก็คือตกลงมาตายแน่ๆ  

 

 

หากเป็นคนธรรมดาก็คงระมัดระวังตัวกัน แต่หลี่ว์ซู่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาทั้งม้วนหน้าม้วนหลัง เดินหน้า แล้วก็ถอยหลัง กว่าจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ก็ต้องเริ่มจากพัฒนาฝีมือให้เก่งกาจเสียก่อน…  

 

 

“ฉันจะเอาศพเขาทิ้งไว้ตรงนี้เป็นเครื่องเตือนใจทุกคน ยังมีใครกล้าหือกับฉันอีกไหม” หลี่ว์ซู่ทำเข้ม หน้าตาดุดันมาก  

 

 

เขากลัวว่าจะเสียศพไป เพราะเขาไม่สามารถปลอมตัวเป็นคนอื่นได้และเอาเกราะสีดำของพวกมันมา  

 

 

หลี่ว์ซู่หยุดคิดครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้น “พอลองคิดๆ ดู ที่เค่ออวิ้นพูดมาก็มีเหตุผลเหมือนกัน ฝ่าบาทต้องการการปกป้อง แก แก แก แล้วก็แก” หลี่ว์ซู่ชี้ไปที่ทหารชุดดำจำนวนหนึ่ง “พวกแกสิบคนตามฉันไปฆ่ามนุษย์คนนั้น!”  

 

 

กลุ่มทหารเกราะดำอึ้งไป งั้นแบบนี้เค่ออวิ้นตายฟรีงั้นเหรอ ทำไมไม่ลองคิดดูให้ดีๆ ก่อนจะโจมตีออกไปบ้างล่ะ ถ้าสิ่งที่เขาพูดมันถูกต้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเขาตั้งแต่แรก…  

 

 

แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมากันสักคน  

 

 

ก่อนเค่อหมิงจะถูกหลี่ว์ซู่ฆ่าทิ้งนั้น เขาเคยเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยสั่งฆ่าใครจรองๆ มาก่อน พวกเขารู้ว่าปราสาทแห่งนี้มีมนุษย์แทรกซึมเข้ามาได้ แต่พวกเขาก็เข้าใจการกระทำของเค่อหมิงเหมือนกัน  

 

 

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ตอนนี้มาคิดดีกว่าว่าจะไม่ไปกวนโมโหเค่อหมิงอย่างไร  

 

 

หลี่ว์ซู่ใช้เรื่องการฆ่ามนุษย์มาเป็นข้ออ้างเพื่อล่อทหารสิบตนให้ออกมา ตอนแรกเขากะว่าจะเอาทหารทั้งหกสิบสองตนออกไปที่เกาะเพื่อให้เฉินไป่หลี่ช่วยฆ่า แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินค่อยๆ เอาทหารออกมาฆ่าทีละกลุ่มแทน ถ้าทำแบบนี้แอนโธนี่จะได้ช่วยเขาได้ และไม่ต้องรบกวนเฉินไป่หลี่  

 

 

ตอนที่พวกทหารกำลังว่ายขึ้นมาจากคูน้ำอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งถามขึ้น  

 

 

“ท่านครับ ท่านไม่สบายหรือเปล่าครับ ท่าเดินของท่านแปลกไปเล็กน้อย…”  

 

 

“ฆ่ามัน” หลี่ว์ซู่พึมพำ  

 

 

ทหารชุดดำพูดไม่ออก  

 

 

แต่ทรายขาวทะเลลึกกลับไม่ปรากฏออกมา หลี่ว์ซู่ก็เลยหัวเราะเก้อๆ “ฮ่าๆ ล้อเล่นเฉยๆ น่ะ”  

 

 

แล้วทำไมต้องมาเป็นอะไรตอนที่สำคัญด้วยเนี่ย  

 

 

“ท่านครับ” ทหารคนหนึ่งถาม “เมื่อกี้ท่านพูดอยู่กับใครนะครับ”  

 

 

หลี่ว์ซู่พยายามจะรักษาตัวตนที่ปลอมมาให้ได้มากที่สุด “ก็ไม่ใช่เรื่องของแกนี่ว่าฉันพูดอะไรไปกับใคร”  

 

 

“ระวังนะ! มันไม่ใช่นายของเรา!” แล้วอยู่ๆ ก็มีคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา  

 

 

ทหารชุดดำแตกกระเจิงกันออกไป พวกมันชักดาบกันออกมาหมดเลย! หลี่ว์ซู่เพิ่งเห็นว่ารัศมีสีดำที่พวกทหารปล่อยออกมานั้นเชื่อมต่อกัน เหมือนกับครั้งแรกที่เห็นทหารจากทะเลไม่มีผิด ตอนนั้นเขายังประเมินฝีมือของมันไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเจ้าพวกนี้แข็งแกร่งขนาดไหน  

 

 

แต่เกราะสีดำนี่แปลกๆ แฮะ หลี่ว์ซู่รู้สึกได้ว่าเกราะบนตัวเขาตอบสนองกลับ ทว่าเกราะบนตัวทหารตนอื่นกลับแผ่รัศมีตีโต้กลับมา  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่เข้าใจ หรือจะเป็นเพราะเกราะนี้นะ  

 

 

เขาเจอของดีเข้าให้แล้ว!  

 

 

“พวกแกกล้าขัดขืนคำสั่งฉันเหรอ!” หลี่ว์ซู่ยังคงทำเนียนต่อไป…  

 

 

แล้วทรายขาวทะเลลึกก็มาถึงเสียที มันทำเหมือนกับที่เคยทำมา คือรวบรวมเม็ดของทรายขาวทะเลลึกพื่อเปลี่ยนให้เป็นกระสุน!  

 

 

แต่พวกทหารชุดดำเตรียมตัวไว้แล้ว พวกมันเอาโล่ขึ้นมาป้องกัน ทรายขาวทะเลลึกลยจำเป็นต้องยิงโดนโล่ไปด้วยการเพิ่มกำลังเพื่อที่จะทำให้ทหารพวกนั้นบาดเจ็บ  

 

 

ทรายขาวทะเลลึกโจมตีต่อไปแต่ทหารทั้งสิบนั้นกลับปล่อยลูกบอลแสงสีน้ำเงินอ่อนออกมาปัดป้องทรายทิ้งไป หลี่ว์ซู่ประหลาดใจ เจ้าพวกนี้ใช้พลังจากเกราะมาป้องกันตัวเองได้ด้วยเหรอ  

 

 

หลี่ว์ซู่ตะโกน “ค่อยๆ เล็งเป้าหมายไปทีละคน!” ซือโก่วและฝูฉื่อก็โจมตีลูกสีน้ำเงินนั้นตอบ ทรายขาวทะเลลึกเลยเล็งโจมตีไปที่เดียวกัน  

 

 

แต่การป้องกันของพวกมันแน่นหนามา หลี่ว์ซู่ไม่เคยเห็นการป้องกันใดที่สามารถตั้งรับซือโก่วและฝูฉื่อได้มาก่อน!  

 

 

แต่อย่างไรก็ตามระดับ C ขั้นกลางและระดับ B นั้นแตกต่างกันเกินไป ลูกบอลแสงสีน้ำเงินนั้นแตกกระจายไปเหมือนกับแก้วหลังจากที่ปล่อยออกมาได้แค่สิบวินาทีเท่านั้น แล้วพวกทหารก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อีก ก่อนจะค่อยๆ ตายไปข้างคูน้ำ  

 

 

“อืม ตายกันหมดแล้ว” หลี่ว์ซู่ผงกหัวด้วยความพอใจ เขาป้องกันไม่ให้โดนเปิดเผยตัวได้ แต่การทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกเท่าไหร่ ถึงอย่างไรตัวตนของเขาตอนนี้ก็ยังพอมั่นคงอยู่  

 

 

หลี่ว์ซู่มองเกราะสีดำบนตัวเขา ขนาดมีแค่สิบชุดยังสร้างพลังที่หลอมรวมกันออกมาได้ขนาดนี้ แล้วถ้ามีร้อยชุดล่ะ  

 

 

หากต้องปะทะกับระดับ C ที่มีพลังพอๆ กันแล้ว พวกระดับ C พวกนั้นก็คงจะแพ้ราบคาบไปในไม่กี่วินาทีเท่านั้น  

 

 

หลี่ว์ซู่คิดไปถึงตอนที่ทหารจากทะเลในชุดเกราะสีทองแดงถอยทัพกลับไป ตอนแรกหลี่ว์ซู่คิดว่ามันน่าจะกลัวกลุ่มระลอกทองแดง แต่พอคิดอีกครั้งแล้วมันน่าจะกลัวว่าระลอกทองแดงทำมันเสียเวลาบนเกาะมากกว่า ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่มันกลัวที่สุดคือเฉินไป่หลี่ที่อยู่บนเกาะต่างหาก  

 

 

หลี่ว์ซู่ตื่นเต้นมาก เขาอยากลองสัมผัสเกราะสีดำพวกนี้จะแย่แล้ว  

 

 

เขาเดินทางกลับไปที่ปราสาท แล้วแอนโธนี่ก็โผล่ขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เขาถึงกับถือปลาสีเงินหนึ่งตัวไว้ในมือแล้วยื่นให้หลี่ว์ซู่ และเอาทรายขาวทะเลลึกขียนไว้ด้านหลังว่า ‘เอานี่เก็บไว้ในที่เก็บของล่องหนสิ’  

 

 

หลี่ว์ซู่เงียบไปก่อนตอบกลับ “เธอควบคุมแอนโธนี่ให้ไปจับปลาอยู่งั้นสินะ”  

 

 

“ใช่เลย! แล้วปลานี่ก็อร่อยมากด้วยนะ!”  

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากหลี่ว์ซู่ +666!]  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset