ทหารชุดเกราะดำค่อยๆ ถอดหมวกออก แล้วทหารที่อยู่ข้างๆ เค่ออวิ้นก็รู้ว่าเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงบททำโทษนี้ได้เลย แต่พวกเขาไม่เห็นใจเขาหรอก เพราะในขณะที่องค์ราชากำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่นั้น คำสั่งของเค่อหมิงถือเป็นคำขาด การที่เขาภักดีต่อองค์ราชาก็แปลว่าเขาจะไม่ขัดขืนคำสั่งของเค่อหมิง
หลี่ว์ซู่เอ่ยอย่างน่ากลัว “คิดหรือว่าราชาของเราจะกลัวมนุษย์ชั้นต่ำแบบนั้น”
“ไม่ครับท่าน ผมสำนึกผิดแล้ว” เค่ออวิ้นค้อมหัวลงต่ำ
“เงยหน้าขึ้นมาได้” หลี่ว์ซู่อินกับบทหนักเลย…
พอหลี่ว์ซู่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในปราสาทที่มีพลังเหนือมนุษย์นั้นกำลังฟื้นฟูร่างกายอยู่ เขาก็ใจชื้นขึ้นมา…
ทหารเกราะดำตนอื่นๆ ไม่กล้าที่ชำเลืองมองไปเลย ทุกคนคิดว่าการตบหน้ากันก็เพียงพอแล้ว อย่าให้ถึงขึ้นเฆี่ยนตีกันเลย แต่แล้ว…
ฉึบ! เค่ออวิ้นสิ้นใจตายในทันที…
[ได้แต้มอารมณ์จากเค่ออวิ้น +1000!]
ทหารชุดดำที่เหลือก็พูดไม่ออก
[ได้แต้มอารมณ์จาก…]
[ได้แต้มอารมณ์จาก…]
หลี่ว์ซู่ได้รับแต้มอารมณ์มาระลอกใหญ่ พวกทหารในชุดดำนั้นอึ้งกิมกี่กันไปเลย พวกเขามองร่างของเค่ออวิ้นที่กองอยู่บนพื้นอย่างหวาดกลัว ทำไมต้องทำโทษกันหนักขนาดนี้ด้วย หัวหน้าคงโกรธเลือดขึ้นหน้ามากแน่ๆ! พวกทหารเงียบกันเพราะตกอยู่ในความกลัว ไม่มีใครกล้าปริปากสักคน!
หลี่ว์ซู่นั้นแปลกใจกับระบบลำดับขั้นของที่นี่มาก เขาอยากใช้โอกาสที่ไม่มีใครกล้าต่อต้านเขาเลยนี้สังหารทหารทะเลเพิ่ม
สถานการณ์ตอนนี้ราวกับหลี่ว์ซู่นั้นกำลังเดินอยู่บนเส้นลวดที่ขึงห่างจากพื้นไปพันเมตร ถ้าเขาทำพลาดนิดเดียวก็คือตกลงมาตายแน่ๆ
หากเป็นคนธรรมดาก็คงระมัดระวังตัวกัน แต่หลี่ว์ซู่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาทั้งม้วนหน้าม้วนหลัง เดินหน้า แล้วก็ถอยหลัง กว่าจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ก็ต้องเริ่มจากพัฒนาฝีมือให้เก่งกาจเสียก่อน…
“ฉันจะเอาศพเขาทิ้งไว้ตรงนี้เป็นเครื่องเตือนใจทุกคน ยังมีใครกล้าหือกับฉันอีกไหม” หลี่ว์ซู่ทำเข้ม หน้าตาดุดันมาก
เขากลัวว่าจะเสียศพไป เพราะเขาไม่สามารถปลอมตัวเป็นคนอื่นได้และเอาเกราะสีดำของพวกมันมา
หลี่ว์ซู่หยุดคิดครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้น “พอลองคิดๆ ดู ที่เค่ออวิ้นพูดมาก็มีเหตุผลเหมือนกัน ฝ่าบาทต้องการการปกป้อง แก แก แก แล้วก็แก” หลี่ว์ซู่ชี้ไปที่ทหารชุดดำจำนวนหนึ่ง “พวกแกสิบคนตามฉันไปฆ่ามนุษย์คนนั้น!”
กลุ่มทหารเกราะดำอึ้งไป งั้นแบบนี้เค่ออวิ้นตายฟรีงั้นเหรอ ทำไมไม่ลองคิดดูให้ดีๆ ก่อนจะโจมตีออกไปบ้างล่ะ ถ้าสิ่งที่เขาพูดมันถูกต้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเขาตั้งแต่แรก…
แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมากันสักคน
ก่อนเค่อหมิงจะถูกหลี่ว์ซู่ฆ่าทิ้งนั้น เขาเคยเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยสั่งฆ่าใครจรองๆ มาก่อน พวกเขารู้ว่าปราสาทแห่งนี้มีมนุษย์แทรกซึมเข้ามาได้ แต่พวกเขาก็เข้าใจการกระทำของเค่อหมิงเหมือนกัน
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ตอนนี้มาคิดดีกว่าว่าจะไม่ไปกวนโมโหเค่อหมิงอย่างไร
หลี่ว์ซู่ใช้เรื่องการฆ่ามนุษย์มาเป็นข้ออ้างเพื่อล่อทหารสิบตนให้ออกมา ตอนแรกเขากะว่าจะเอาทหารทั้งหกสิบสองตนออกไปที่เกาะเพื่อให้เฉินไป่หลี่ช่วยฆ่า แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินค่อยๆ เอาทหารออกมาฆ่าทีละกลุ่มแทน ถ้าทำแบบนี้แอนโธนี่จะได้ช่วยเขาได้ และไม่ต้องรบกวนเฉินไป่หลี่
ตอนที่พวกทหารกำลังว่ายขึ้นมาจากคูน้ำอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งถามขึ้น
“ท่านครับ ท่านไม่สบายหรือเปล่าครับ ท่าเดินของท่านแปลกไปเล็กน้อย…”
“ฆ่ามัน” หลี่ว์ซู่พึมพำ
ทหารชุดดำพูดไม่ออก
แต่ทรายขาวทะเลลึกกลับไม่ปรากฏออกมา หลี่ว์ซู่ก็เลยหัวเราะเก้อๆ “ฮ่าๆ ล้อเล่นเฉยๆ น่ะ”
แล้วทำไมต้องมาเป็นอะไรตอนที่สำคัญด้วยเนี่ย
“ท่านครับ” ทหารคนหนึ่งถาม “เมื่อกี้ท่านพูดอยู่กับใครนะครับ”
หลี่ว์ซู่พยายามจะรักษาตัวตนที่ปลอมมาให้ได้มากที่สุด “ก็ไม่ใช่เรื่องของแกนี่ว่าฉันพูดอะไรไปกับใคร”
“ระวังนะ! มันไม่ใช่นายของเรา!” แล้วอยู่ๆ ก็มีคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
ทหารชุดดำแตกกระเจิงกันออกไป พวกมันชักดาบกันออกมาหมดเลย! หลี่ว์ซู่เพิ่งเห็นว่ารัศมีสีดำที่พวกทหารปล่อยออกมานั้นเชื่อมต่อกัน เหมือนกับครั้งแรกที่เห็นทหารจากทะเลไม่มีผิด ตอนนั้นเขายังประเมินฝีมือของมันไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเจ้าพวกนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
แต่เกราะสีดำนี่แปลกๆ แฮะ หลี่ว์ซู่รู้สึกได้ว่าเกราะบนตัวเขาตอบสนองกลับ ทว่าเกราะบนตัวทหารตนอื่นกลับแผ่รัศมีตีโต้กลับมา
หลี่ว์ซู่ไม่เข้าใจ หรือจะเป็นเพราะเกราะนี้นะ
เขาเจอของดีเข้าให้แล้ว!
“พวกแกกล้าขัดขืนคำสั่งฉันเหรอ!” หลี่ว์ซู่ยังคงทำเนียนต่อไป…
แล้วทรายขาวทะเลลึกก็มาถึงเสียที มันทำเหมือนกับที่เคยทำมา คือรวบรวมเม็ดของทรายขาวทะเลลึกพื่อเปลี่ยนให้เป็นกระสุน!
แต่พวกทหารชุดดำเตรียมตัวไว้แล้ว พวกมันเอาโล่ขึ้นมาป้องกัน ทรายขาวทะเลลึกลยจำเป็นต้องยิงโดนโล่ไปด้วยการเพิ่มกำลังเพื่อที่จะทำให้ทหารพวกนั้นบาดเจ็บ
ทรายขาวทะเลลึกโจมตีต่อไปแต่ทหารทั้งสิบนั้นกลับปล่อยลูกบอลแสงสีน้ำเงินอ่อนออกมาปัดป้องทรายทิ้งไป หลี่ว์ซู่ประหลาดใจ เจ้าพวกนี้ใช้พลังจากเกราะมาป้องกันตัวเองได้ด้วยเหรอ
หลี่ว์ซู่ตะโกน “ค่อยๆ เล็งเป้าหมายไปทีละคน!” ซือโก่วและฝูฉื่อก็โจมตีลูกสีน้ำเงินนั้นตอบ ทรายขาวทะเลลึกเลยเล็งโจมตีไปที่เดียวกัน
แต่การป้องกันของพวกมันแน่นหนามา หลี่ว์ซู่ไม่เคยเห็นการป้องกันใดที่สามารถตั้งรับซือโก่วและฝูฉื่อได้มาก่อน!
แต่อย่างไรก็ตามระดับ C ขั้นกลางและระดับ B นั้นแตกต่างกันเกินไป ลูกบอลแสงสีน้ำเงินนั้นแตกกระจายไปเหมือนกับแก้วหลังจากที่ปล่อยออกมาได้แค่สิบวินาทีเท่านั้น แล้วพวกทหารก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อีก ก่อนจะค่อยๆ ตายไปข้างคูน้ำ
“อืม ตายกันหมดแล้ว” หลี่ว์ซู่ผงกหัวด้วยความพอใจ เขาป้องกันไม่ให้โดนเปิดเผยตัวได้ แต่การทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกเท่าไหร่ ถึงอย่างไรตัวตนของเขาตอนนี้ก็ยังพอมั่นคงอยู่
หลี่ว์ซู่มองเกราะสีดำบนตัวเขา ขนาดมีแค่สิบชุดยังสร้างพลังที่หลอมรวมกันออกมาได้ขนาดนี้ แล้วถ้ามีร้อยชุดล่ะ
หากต้องปะทะกับระดับ C ที่มีพลังพอๆ กันแล้ว พวกระดับ C พวกนั้นก็คงจะแพ้ราบคาบไปในไม่กี่วินาทีเท่านั้น
หลี่ว์ซู่คิดไปถึงตอนที่ทหารจากทะเลในชุดเกราะสีทองแดงถอยทัพกลับไป ตอนแรกหลี่ว์ซู่คิดว่ามันน่าจะกลัวกลุ่มระลอกทองแดง แต่พอคิดอีกครั้งแล้วมันน่าจะกลัวว่าระลอกทองแดงทำมันเสียเวลาบนเกาะมากกว่า ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่มันกลัวที่สุดคือเฉินไป่หลี่ที่อยู่บนเกาะต่างหาก
หลี่ว์ซู่ตื่นเต้นมาก เขาอยากลองสัมผัสเกราะสีดำพวกนี้จะแย่แล้ว
เขาเดินทางกลับไปที่ปราสาท แล้วแอนโธนี่ก็โผล่ขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เขาถึงกับถือปลาสีเงินหนึ่งตัวไว้ในมือแล้วยื่นให้หลี่ว์ซู่ และเอาทรายขาวทะเลลึกขียนไว้ด้านหลังว่า ‘เอานี่เก็บไว้ในที่เก็บของล่องหนสิ’
หลี่ว์ซู่เงียบไปก่อนตอบกลับ “เธอควบคุมแอนโธนี่ให้ไปจับปลาอยู่งั้นสินะ”
“ใช่เลย! แล้วปลานี่ก็อร่อยมากด้วยนะ!”
[ได้แต้มอารมณ์จากหลี่ว์ซู่ +666!]