พวกคนที่อยู่รอบ ๆ โรงแรมกำลังเดินเข้าเดินออก พวกเขาสวมชุดแบบแปลกตาและพูดคุยกันเสียงดัง ทรงผมของแต่ละคนก็เจ๋งไปเลย มีทั้งทำทรงเดรดล็อกหรือตัดเท่ๆ แบบอันเดอร์คัต
พวกเขาดูเหมือนจะเป็นศิลปิน ถ้ามีคนไม่รู้เรื่องเดินผ่านมาแล้วอาจจะคิดว่าที่นี่กำลังจัดคอนเสิร์ตหรือเทศกาลอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ ผ่านไปสักพักก็มีพวกผู้มีพลังมาสมทบ บางคนก็ใส่ไม้ต่อขา บ้างก็แต่งตัวเหมือนตัวตลก มีบางคนที่เอาลิงมาด้วย อย่างกับเพิ่งจัดละครสัตว์กันมาแน่ะ!
หลี่ว์ซู่มองดูพวกเขาอย่างละสายตาไปไม่ได้ เขาแค่ไปหาอะไรกินมา พอกลับมาแล้วเกิดอะไรขึ้นเนี่ย หรือว่าพวกมีผู้มีพลังพวกนี้จะมาจากคาร์เทลงั้นเหรอ
องค์กรนี้ทำให้ความเชื่อที่เขาเคยมีเปลี่ยนไปเลย!
พวกคาร์เทลมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ และพวกสมาชิกของคาร์เทลก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาไม่กลัวพวกเขาเลย
แต่เรื่องมันไม่เหมือนเดิมแล้ว มีผู้มีพลังคนหนึ่งที่ไว้ผมเดรดล็อกและใส่โซ่ทองอันใหญ่ออกมาพูดกับทุกคน “ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลและไม่ต้องกลัวนะครับ พวกนี้เป็นพวกหัตถ์ดำ เราจะไม่รบกวนพวกคุณมาก เราจะสู้กับมันแล้วกลับไปอย่างเงียบๆ …”
แพทริคก็อยู่บนเกาะนี้เหมือนกัน แต่พวกเขาจะไม่ไปสู้กับแพทริคหรอกเพราะเขานั้นเป็นระดับ B ถ้าพวกเขาตัดสินใจต่อสู้กับเขาแล้วเดี๋ยวเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่
และที่สำคัญ หัวหน้าของคาร์เทลตอนนี้ยังอยู่ทางตอนเหนือของซาร์ดิเนียเพื่อจัดงานดนตรี พวกเขาไม่อยากเสียเวลาจัดการกับแพทริคหรอก
ทุกคนไม่ชอบใจนักที่แพทริคมาที่ชาร์ดิเนีย แต่ตอนนี้พวกเขามีโอกาสจะได้จับคนจากหัตถ์ดำทั้งหกคน น่าสนใจมากจริง ๆ
เมื่อชาวบ้านในซาร์ดิเนียได้ยินแบบนั้นก็สนใจขึ้นมาและไม่อยากหลบออกไป พวกเขาอยากรอดูการต่อสู้ระหว่างผู้มีพลังน่ะสิ มีคนกำลังเริ่มขายบุหรี่ไปทั่วแล้วด้วย
จากนั้นพวกคนของหัตถ์ดำและกลุ่มแก่นความเชื่อก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา สมาชิกคนหนึ่งของหัตถ์ดำพูดขึ้นมาว่า “พวกคาร์เทลหาเรื่องสู้กับคนอื่นก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“สู้งั้นเหรอ” ใครคนหนึ่งตอบกลับ “นี่มันไม่ใช่การต่อสู้เลยนะ เราอยากจะอัดพวกแกให้เละ ทำไมพวกถึงจะไปสู้กับลูกชายของผู้หญิงคนนี้ล่ะ”
ผู้มีพลังของคาร์เทลชี้ไปที่ผู้หญิงข้างหลังเขา แล้วผู้มีพลังที่ดูแข็งแรงก็ดูลังเลไป
“ฉันอยากจะไปสู้กับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่ได้มีงานอดิเรกหาเรื่องคนนะ!”
ผู้หญิงคนนี้พาพวกเขาซวยเสียแล้ว แถมพวกเขาก็หนีไปไหนไม่ได้ด้วย ตอนแรกผู้หญิงคนนี้อยากจะโทรหาให้ใครบางคนมาจัดการพวกหัตถ์ดำก็เท่านั้น แต่เธอไม่ได้คิดว่าจะมีคนมามากขนาดนี้นี่! เธอเองยังตกใจเลย
แล้วพอคนมากเยอะขนาดนี้เธอก็ไม่สามารถยอมรับได้ว่าตัวเองโกหกไป เพราะฉะนั้นเธอเลยพูดออกมา
“มีผู้ชายหกคนมาขอห้องพัก แล้วฉันเองก็ได้ยินพวกเขาพูดว่าลูกชายฉันหล่อ”
ผู้มีพลังที่ดูแข็งแรงงงไปหมด
แล้วพวกเขาไปเกี่ยวอะไรด้วยวะ!
เขามองดูผู้คนที่เดินไปมาและรู้แล้วว่าพวกคาร์เทลแค่จะหาเหตุผลมาอัดพวกเขาเท่านั้น พวกคาร์เทลเป็นพวกรักสงบมาก และกลุ่มหัตถ์ดำก็จะไม่ไปหาเรื่องพวกเขาก่อนหรอก คงจะดีกว่าถ้าไม่สร้างปัญหาในซาร์ดิเนีย ที่คาร์เทลมาที่นี่ก็แค่อยากจะมาช่วยผู้หญิงคนนี้เท่านั้น
แต่ตอนนี้หัตถ์ดำก็กลัวที่จะโดนคาร์เทลอัดจะตายอยู่แล้ว!
เขาตัดสินใจกัดฟันอธิบายออกไป แต่ผู้มีพลังจากคาร์เทลไม่อยากจะฟังเขา พวกเขามาเพื่อจะอัดให้เละแล้ว
แล้วทันใดนั้นสมาชิกของกลุ่มแก่นความเชื่อก็คิดออกว่าตัวเองไม่ได้เป็นเป้าหมายในสถานการณ์ครั้งนี้ และนี่เป็นข้อขัดแย้งของคาร์เทลและหัตถ์ดำเท่านั้น พวกเขากระแอมก่อนพูดออกไป “เราสามคนไม่ได้มาจากหัตถ์ดำครับ เรากลับไปได้ไหม”
“อ้าว พวกแกไม่ได้มาจากหัตถ์ดำเหรอ” คนจากคาร์เทลสับสน
“ถ้าไม่เชื่อเรา ถามเขาก็ได้ครับ” ไอแซคยักไหล่
แล้วทุกคนก็จับจ้องไปที่ผู้มีพลังที่ดูแข็งแรงคนนั้น
“พวกมันก็มาจากหัตถ์ดำนั่นแหละ” คนมีพลังที่ดูแข็งแรงตอบอย่างจริงจัง ไอแซคงงไปเลย
“พี่ชาย ทำไมทิ้งกันแบบนี้ล่ะ ถ้าฉันกลับไปได้ ฉันจะเอาไปบอกให้ทุกคนรู้!” ชายที่ดูแข็งแรงตัดพ้อ
“อะไรของมันวะ อย่าไปฟังพวกมันนะ!” ไอแซคและคนอื่นๆ เริ่มลุกลี้ลุกลนแล้ว!
[ได้แต้มจากจากไอแซค มาริโน่ +666!]
[ได้แต้มจากจาก…+…]
[ได้แต้มจากจาก…+…]
หลี่ว์ซู่ดีใจจนมึนหัวไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพวกแก่นความเชื่อก็ดี หรือกลุ่มหัตถ์ดำก็ดี เขาได้แต้มอารมณ์อย่างมากจากพวกนี้เลย แล้วเขาเองนี่แหละที่เป็นต้นเหตุของปัญหา!
ผู้มีพลังที่ดูแข็งแรงคิดอยู่แล้วว่าตัวเองจะโดนอัดแน่ๆ แต่ก็เรื่องก็หักมุมมาแบบนี้จนได้เมื่อเขาเอาพวกแก่นความเชื่อเข้าไปเอี่ยวด้วย
ไม่อย่างนั้นพวกเขาสามคนก็โดนคนตั้งห้าสิบคนรุมน่ะสิ แต่ถ้าพวกเขาหกคนสู้ด้วยกันแล้ว พวกเขาสามคนก็จะสู้แค่กับ 20 คนเท่านั้น ตัวเลขพวกนี้ก็ไม่แย่เท่าไหร่นี่
ดูความสามารถทางคณิตศาตร์ของเขาสิ! ความรู้เปลี่ยนโชคชะตาได้จริงๆ!
เริ่มแรกเลยเขาต้องเปลี่ยนโชคชะตาของไอแซคและสมาชิกอีกสองคนจากแก่นความเขื่อก่อน…
พวกหัตถ์ดำไม่เคยปรานีใครอยู่แล้ว พวกเขาใช้วิธีโกงและหักหลังคนอื่นมานักต่อนัก พวกเขาไม่รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นด้วย
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็พร้อมจะขัดแย้งกันเต็มทีแล้ว หลายๆ คนจากคาร์เทลยังอยากจะรักษาภาพพจน์ศิลปินอยู่ แต่พอมีใครคนหนึ่งทำขวดเบียร์เปล่าๆ ตกลงบนพื้นเท่านั้นแหละ…การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นทันที!
หลังจากที่โยนขวดเบียร์เปล่าลงบนพื้นแล้ว หลี่ว์ซู่ก็เข้าไปหลบอยู่ในมุมมืดเพื่อรอรับแต้มอารมณ์ เขาเอาผลชี่ไห่ออกมาจากกระเป๋า เขาเห็นแล้วว่าจุดชี่ไห่เสวี่ยซานที่เป็นภูเขาหิมะเกือบจะก่อตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาจะขุดและถล่มภูเขานี้ลงเพื่อเอาวิญญาณกระบี่ดวงที่สองมา!
หลังจากที่ได้กระบี่เฉวียอินมาแล้ว เขาก็ก้าวหน้าในภูเขาหิมะมาก ถ้านับกันแล้ว หลี่ว์ซู่ก็มีกระบี่บินอยู่สามเล่มด้วยกัน แต่กระบี่เฉวียอินนั้นสามารถกระจายออกเป็นสามสิบหกเล่มได้!
ถ้ากระบี่ซือโก่วและกระบี่ฝูฉื่อนั้นโดดเด่นเรื่องความเร็ว กระบี่เฉวียอินก็โดดเด่นในเรื่องของปริมาณ
หลี่ว์ซู่หลบอยู่ในเงามืดและกำลังจะกินผลชี่ไห่เข้าไปเพื่อสร้างภูเขาหิมะให้เสร็จ แต่แล้วเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป เขาหันกลับแล้วเจอคอรัลจ้องมาที่เขา
พอคอรัลเห็นเขาแล้วเธอก็ระเบิดร้องไห้ออกมาทันที “ทำไมนายไม่เคยโทรหากันบ้างเลย”
หลี่ว์ซู่จ้องเธอกลับอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร และผลชี่ไห่ยังอยู่ในมือเขาอยู่เลย แต่แล้วเขาก็เอาผลล้างไขกระดูกแปดผลออกมาจากกระเป๋ายัดเข้าไปในมือของคอรัล “อันนี้ดีนะ เอาไปกินสิ”
“ตอบฉันมานะ อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ” เธอโมโหหนัก
คอรัลทนอายมามาก เธอคิดว่าหลี่ว์ซู่จะไม่สนใจอะไรเธออีกแล้ว เธอต้องสร้างเรื่องหลอกตัวเองมาตลอด แต่พอเธอเห็นหลี่ว์ซู่แล้วทุกอย่างก็สลายไปหมดเลย เธออยากจะปาผลพวกนี้ใส่หลี่ว์ซู่แทบตาย แต่ใจบาง ๆ ของเธอทำเรื่องแบบนั้นไม่ลง
“ไม่ต้องถามต่อหรอก ผลพวกนี้อร่อยนะ รีบกินเข้าไปเร็ว” หลี่ว์ซู่ไม่ได้อธิบายว่าผลพวกนี้คืออะไร แต่เขารู้สึกว่าผลล้างไขกระดูกพวกนี้คงจะช่วยคอรัลได้ เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่คิดมากเรื่องจะเป็นข่าวอะไรแล้ว เขาแค่อยากให้คอรัลรีบๆ กินผลพวกนี้เข้าไปเร็วๆ