ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 837 ฮุ่นตุ้นตื่นแล้ว

หลี่ว์ซู่อยู่นิ่งๆ ในร่องลึกใต้มหาสมุทร ความมืดในส่วนลึกของทะเลมอบปราการปกป้องตามธรรมชาติให้เขา แม้หลี่ว์ซู่จะเชื่อว่าฟรานเชสโกจะไม่เสี่ยงไล่ตามเขามาตลอดทางจนถึงที่นี่ แต่เขาก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าปลอดภัยพอจะออกไปได้หรือยัง  

 

 

ในขณะเดียวกันฮุ่นตุ้นยังคงหลับลึกอยู่ในตราแผ่นดินของเขา หลี่ซู่จ้องมองมันอย่างเคืองๆ เขาจะไม่มีทางต้องลำบากขนาดนี้ถ้าเจ้านี่ตื่น!  

 

 

อย่างไรก็ตาม หลี่ว์ซู่มั่นใจว่าการขึ้นสู่ระดับ A ของฟรานเชสโกต้องเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และเขาต้องใช้วิธีการที่ไม่ปกติ เป็นผลให้ฟรานเชสโกและหัวหน้าบาทหลวงค่อนข้างอ่อนแอกว่าระดับ A คนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะได้เปรียบมากกว่าพวกระดับ B ก็ตาม  

 

 

ดังนั้นหากฮุ่นตุ้นตื่นขึ้น หลี่ว์ซู่ก็มั่นใจที่ว่าจะสู้กับฟรานเชสโกได้  

 

 

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะเนี่ยถิงระดับ A ได้ แต่เขาก็อาจมีโอกาสเอาชนะฟรานเชสโกระดับ A ได้!  

 

 

จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็เริ่มจัดการตรวจดูของที่เขาขโมยมาจากเรือบรรทุกสินค้า มันเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยม เพราะนอกจากทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์แล้วยังมีอาวุธมาตรฐานอีกกว่าสามหมื่นชิ้น แม้ว่าคุณภาพของพวกมันอาจจะดีกว่าของพวกกลุ่มแก่นความเชื่อ แต่ก็ไม่สามารถเรียกว่าดีได้เช่นกัน  

 

 

หลี่ว์ซู่ครุ่นคิดว่า หรือนี่จะเป็นเสบียงสนับสนุนที่อาณาจักรมืดจัดเตรียมไว้ให้กับองค์กรอื่นๆ หลังจากที่เขาตัดเสบียงอาหารของพวกนั้น อาณาจักรมืดจึงได้ส่งเสบียงสำรองไป  

 

 

สิ่งนี้ยืนยันการคาดเดาของหลี่ว์ซู่ที่ว่าอาณาจักรมืดมีบทบาทสำคัญในสงครามครั้งนี้  

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญที่หลี่ว์ซู่ว่ายน้ำไปเจอเรือบรรทุกสินค้าทั้งสามลำเข้า  

 

 

อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าเขามักจะปรากฏตัวพร้อมกับอุปกรณ์ขนส่งขององค์กรอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะบ่งบอกว่าเขาเป็นคนโลภ ซึ่งนั่นทำให้หลี่ว์ซู่ค่อนข้างจะรู้สึกผิด …  

 

 

แต่ครั้งนี้เขาไม่ผิด แม้ว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่เรือเหล่านั้นแล่นเข้ามาหาเขาด้วยตัวเอง!  

 

 

จะว่าไปแล้ว เขาคงต้องขอบคุณฟรานเชสโกเป็นการส่วนตัวในครั้งหน้าที่พวกเขาได้พบกัน เพราะ ฟรานเชสโกมีส่วนช่วยทางอ้อมในการทำกำไรครั้งใหญ่ของหลี่ว์ซู่  

 

 

หลี่ว์ซู่มองไปที่ตราแผ่นดินของเขา ภายในมีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่สามลำจอดอยู่ข้างๆ รถบรรทุกสามสิบเอ็ดคันอย่างเงียบๆ หลี่ว์ซู่รู้ว่ามีคนอยู่บนเรือ แต่ไม่ใช่ในรถบรรทุก ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบผู้คนบนเรือด้วยความอยากรู้อยากเห็น  

 

 

จากนั้นเขาจึงรู้ว่าทุกคนบนเรือหายใจไม่ออก ใบหน้าและริมฝีปากของพวกเขามีสีฟ้าอมม่วงซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพวกเขาเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจน นั่นอาจเป็นเพราะตราแผ่นดินอยู่ในสภาพสุญญากาศ?  

 

 

นั่นหมายความว่าสิ่งมีชีวิตจะสามารถมีชีวิตอยู่ข้างในได้หากมีอากาศ? หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เท่ากับว่าฮุ่นตุ้นไม่จำเป็นต้องหายใจ? หลี่ว์ซู่ครุ่นคิดจนเข้าใจ  

 

 

ในความเป็นจริง เขาเคยประสบกับการต่อต้านเมื่อเขายัดเรือเข้าไปในตราแผ่นดิน เนื่องจากการปะทะกันระหว่างคลื่นพลังจิตวิญญาณและแสงดวงดาว หลี่ว์ซู่คาดเดาว่าอาจเป็นเพราะคนบนเรือต่อต้านการถูกดึงเข้าตราแผ่นดิน ในทำนองเดียวกัน เขาก็ไม่สามารถบังคับให้เลือดไหลออกจากร่างกายของคนอื่นด้วยความสามารถธาตุน้ำของเขาได้ เนื่องจากแรงต้าน  

 

 

นี่หมายความว่าตราแผ่นดินของเขาไม่ได้รับรองว่าเขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาพอใจได้ตามใจตนเอง หากการดึงสิ่งมีชีวิตเข้าตราแผ่นดินของเขาไม่อาจต้านทานได้ เขาก็จะสามารถผลักศัตรูทั้งหมดของเขาเข้าไปในนั้นและรอจนคนทั้งหมดตาย ช่างง่ายเสียจริง!  

 

 

ดังนั้นเขาจะวางโต๊ะไพ่นกกระจอกไว้ในตราแผ่นดินให้คนในนั้นได้เล่นกัน…ไม่สิ โต๊ะไพ่นกกระจอกแค่โต๊ะเดียวอาจไม่พอสำหรับทุกคน จากจำนวนศัตรูของเขาในขณะนี้ อย่างน้อยเขาก็ต้องมีคาสิโนเพื่อรองรับคนพวกนี้ทั้งหมด  

 

 

อย่างไรก็ตาม หลี่ว์ซู่ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสาเหตุของการต่อต้านนั้นมาจากการที่ผู้คนต่อสู้กับความตั้งใจของตราแผ่นดินจริงหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่มีเวลาตัดสินพลังของแต่ละคน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติม…เขาสามารถทดสอบกับเฉินจู่อานได้ไหมนะ? เจ้านั่นคงรอดจากการหายใจไม่ออกได้อยู่ดี  

 

 

เดี๋ยวนะ มีผู้รอดชีวิตสามคนบนเรือ! เมื่อจิตหยั่งรู้ของหลี่ว์ซู่สำรวจลึกเข้าไปในเรือ เขาเห็นคนสามคนซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสารซึ่งมีถังออกซิเจนอยู่ตรงกลาง พวกเขาทั้งสามคนผลัดกันใช้ถังออกซิเจนนั้น…  

 

 

เรือบรรทุกสินค้าที่ลำใหญ่ขนาดนี้น่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเหตุฉุกเฉินอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามทั้งสามคนนี้เห็นแก่ตัวมากเสียจนพวกเขาสามารถยืนดูลูกเรือหลายร้อยคนเสียชีวิตลงได้ หลี่ว์ซู่รู้สึกพูดไม่ออก เขาครุ่นคิดถึงวิธีการลงโทษคนพวกนี้ ในความเป็นจริงเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อใครในอาณาจักรมืด เขาจะไม่แม้แต่กะพริบตาด้วยซ้ำหากมีใครสักคนต้องตาย  

 

 

จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็มองเข้าไปในพื้นที่ว่างอันกว้างใหญ่ในตราแผ่นดินของเขา หลี่ว์ซู่สงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่หากเขาจะสร้างโลกใหม่ที่นั่น หลังจากที่เขาใส่ออกซิเจน ดิน และแม่น้ำ เขาสามารถหาวิธีสร้างวัฏจักรของน้ำและระบบนิเวศที่สมบูรณ์ได้ ด้วยวิธีนี้ ดินแดนแห่งนี้จะกลายเป็นอาณาจักรที่เป็นอิสระจากผู้อื่น นี่จะกลายเป็นอาณาจักรของหลี่ว์ซู่!  

 

 

ด้วยสัญชาตญาณจิตหยั่งรู้ของเขา หลี่ว์ซู่บังคับให้ทั้งสามคนออกจากเรือ แต่เขาก็พบกับการต่อต้านของคลื่นพลังจิตวิญญาณแบบเดิมอีกครั้ง คนทั้งสามจับถังออกซิเจนไว้แน่นขณะลอยออกจากเรือ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาพวกเขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า…  

 

 

รถบรรทุกสามสิบเอ็ดคันจอดนิ่งอยู่บนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหมอก มีทองคำแท่งจำนวนนับไม่ถ้วน ธนบัตรเงินสด และหอกสามง่ามกองอยู่ข้างๆ และยังมีมังกรดำที่มีความยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตร  

 

 

มังกรดำดูเคร่งขรึมราวกับโทเทม หนวดของมันแกว่งไปมาในอากาศที่ไม่มีอยู่จริง และเกล็ดสีดำสนิทก็ดูแข็งจนไม่สามารถทำลายได้  

 

 

ทั้งสามคนกลั้นหายใจ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?! แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าขยับ เพราะกลัวว่าอาจจะทำให้มังกรตื่นขึ้น  

 

 

ในขณะเดียวกัน หลี่ว์ซู่ก็กำลังคิดหาวิธีโน้มน้าวให้ทั้งสามคนยอมมาเป็นเกษตรกรของเขา และมันคงจะดีมากถ้าหากใครคนใดคนหนึ่งในพวกเขาเป็นสายพืช หรือธาตุดิน หรือธาตุน้ำ  

 

 

แต่ก่อนที่เขาจะคิดหาวิธีทำได้ ฮุ่นตุ้นก็ทำให้เขาตกใจ มันลืมตาขึ้นและกลืนกินคนทั้งสามไปทั้งอย่างนั้น…  

 

 

หลี่ว์ซู่เซ็ง “…ออกมา!”  

 

 

ทำไมแกไม่ยอมตื่นตอนที่ฉันต้องการ แล้วใครบอกให้แกกินคนพวกนี้  

 

 

ทันทีที่หลี่ว์ซู่ดึงฮุ่นตุ้นออกจากตราแผ่นดิน ฮุ่นตุ้นก็ทำให้น้ำทะเลปั่นป่วนอย่างสนุกสนาน จนทำให้ฝุ่นตะกอนสีเทาในทะเลปั่นป่วนตามไปด้วย  

 

 

หลี่ว์ซู่มองไปที่ฮุ้นตุ้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า เขาพยายามระงับความโกรธของตัวเอง หลังจากฮุ่นตุ้นสนุกพอแล้วมันก็หันกลับมาและเอาตัวถูกับหลี่ว์ซู่ “หงิงหงิงหงิง!”  

 

 

ไม่แน่ใจว่ามันคือพรสวรรค์หรือเหตุผลอื่นๆ พยางค์เหล่านั้นถูกเปล่งออกมาได้อย่างชัดเจนในมหาสมุทรลึก…  

 

 

หลังจากที่หลี่ว์ซู่บังคับให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวสงบนิ่งลงอีกครั้ง เขาจึงกล่าวว่า “อย่าซน ออกไปฆ่าคนกันเถอะ ครั้งนี้ห้ามหลับอีกเข้าใจไหม ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะยึดหอกสามง่ามของนายจนหมด!”  

 

 

ฮุ่นตุ้นพึมพำเป็นคำว่า “หงิงหงิงหงิง?”  

 

 

“ฆ่าใคร?” หลี่ว์ซู่แปล เขาเข้าใจภาษามังกรได้! จากนั้นเขาก็พูดว่า “ฆ่าใครก็ได้ที่นายต้องการ”  

 

 

“หงิงหงิงหงิง!”  

 

 

ดวงตาของหลี่ว์ซู่เบิกกว้าง “นายพาฉันบินไปได้เหรอ”  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน! เขารู้ว่าฮุ่นตุ้นบินได้ แต่เขาไม่เคยคิดว่าฮุ่นตุ้นจะยอมให้เขาขี่มัน!  

 

 

นั่นหมายความว่าเขาจะได้มีประสบการณ์และได้รู้ความรู้สึกของการเป็นระดับ A เร็วกว่าที่คิด?!  

 

 

ในความเป็นจริงมนุษย์ทุกคนคงมีช่วงเวลาที่อยากจะบินได้โดยเฉพาะในช่วงที่รถติดอย่างหนัก…  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกกระตือรือร้นที่จะได้ลองบิน เขายืนอยู่บนกะโหลกศีรษะขนาดใหญ่ของฮุ่นตุ้นและจับเขาของมันไว้ จากนั้นเขาจึงย้ำอีกครั้งอย่างอดทน “ศัตรูของเราไม่ธรรมดา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่อาจจะกินเวลายาวนาน แต่ไม่ว่ายังไงคนคนนั้นก็ต้องตาย!”  

 

 

“หงิงหงิงหงิง!”  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset