ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 852 อีกครั้งเหรอ

พลังงานของสายฟ้ากระจายออกไปกว้างมาก หลี่ว์ซู่มั่นใจว่าหากไม่ใช่องค์กรใหญ่ต่างๆ ช่วยสลายพลังของเนี่ยถิงออกไป ด้วยสภาพของเนี่ยถิงตอนนี้อาจต้านไม่อยู่เพราะเพิ่งทำลายรากฐานพลังตนเองไป  

 

 

และตอนนี้หลี่ว์ซู่กังวลใจมาก มีคนช่วยกระจายพลังสายฟ้ามากไป ความเร็วในการชาร์จพลังสายฟ้าของครรภ์กระบี่สายฟ้าช้าลงมาก!  

 

 

ดังนั้นในตอนที่คนอื่นๆ กำลังวิ่งหนีออกไป หลี่ว์ซู่ยังพุ่งเข้าใส่พลังสายฟ้าที่กระจายออกและยังเข้าใกล้เนี่ยถิงเรื่อยๆ พลังสายฟ้ายังแผ่กระจายออกไปอย่างไม่หยุด ทำให้สมาชิกมากกว่าหนึ่งในสามขององค์กรใหญ่ต่างๆ บาดเจ็บล้มตาย  

 

 

อาจนับจากวันนี้ โลกนี้ไม่มีขุมพลังใดสามารถงัดข้อกับเครือข่ายฟ้าดินได้อีกต่อไปแล้ว เหมือนทุกคนรวมตัวกันเพื่อถูกเนี่ยถิงกวาดล้างในทีเดียว ช่างน่าอนาถ  

 

 

ทันใดนั้นทหารเกราะทองแดงต่างตกใจ “ราชันฟ้าที่เก้ายังอยู่ข้างราชันฟ้าเนี่ยอยู่อีก! “  

 

 

“พระเจ้า เข้าใกล้ไปอีก! “  

 

 

เฉินจู่อานพูดเงียบๆ “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ไปช่วยผอ.เนี่ย ตอนนี้ข้างกายผอ.ยังมีใครข่มเขาได้อีก”  

 

 

สายฟ้าฟาดลงสู่พื้นต่อเนื่อง หลี่ว์ซู่ใช้เรี่ยวแรงไปเยอะมากกว่าจะชักมาจนอยู่ในระยะสองร้อยเมตรข้างๆ เนี่ยถิงและกำลังคิดอยู่เขาจะอยู่ตรงนี้คอยดูดซับพลังสายฟ้าไปเรื่อยๆ  

 

 

แต่เขายังไม่ทันได้ทำอะไร เนี่ยถิงก็ลุกขึ้นบินสู่ท้องฟ้า เขาเปลี่ยนไปที่ที่องค์กรใหญ่รวมตัวกันแน่นหนาเพื่อกระจายพลังสายฟ้า เพราะรอบตัวเขาล้มตายบาดเจ็บกันไปหมดแล้วแต่ยังองค์กรอื่นอีกมาก  

 

 

พริบตานั้น เนี่ยถิงก็ลอยลงมาอยู่ในฝูงชนของเดอะดังค์แอนด์เดอะเพลดจ์ พวกนั้นก็เตรียมตัวไม่ทัน ทำไมการลงทัณฑ์จากสวรรค์นี้เคลื่อนที่ได้ด้วย!  

 

 

เนี่ยถิงจัดการคนไปหนึ่งในสามแล้วจะละเว้นพวกเราไปไม่ได้เหรอ มันควรจะอยู่กับที่เวลาผ่านการลงทัณฑ์จากสวรรค์ไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณบินมาทางนี้ พวกเราจะต้านไม่ไหวนะ!  

 

 

หลี่ว์ซู่ยืนงุนงงอยู่กับที่จนเกือบหลุดปากด่าออกไป อุตส่าห์ทนไฟฟ้าช็อตจนมาถึงตรงนี้ ท่านกลับบินหนีไปอีก!  

 

 

ในครรภ์กระบี่ของเขายังมีกระบี่อีกสองร้อยกว่าด้ามที่ยังรอเติมพลังสายฟ้า ท่านก็มาบินหนีไปอีก ตัวเองบาดเจ็บหนักแค่ไหนไม่รู้เหรอแค่ยืนอยู่ตรงนั้นดีๆ ไม่ได้เหรอ!  

 

 

ทหารเกราะทองแดงเฝ้ามองจากด้านบนป้อมปราการ ราชันฟ้าที่เก้าวิ่งไปหาเนี่ยถิงอีกครั้ง…แต่พอเขาเข้าไปใกล้เนี่ยถิง เนี่ยถิงก็เปลี่ยนที่อีกครั้ง…  

 

 

การลงทัณฑ์จากสวรรค์ครั้งนี้กินเวลานานกว่าสิบนาที ส่วนหลี่ว์ซู่ทันรับพลังได้แค่ระลอกแรก ที่เหลือก็คือวิ่งไล่ตามเนี่ยถิง  

 

 

หลี่ว์ซู่สงสัยมากๆ ว่าเนี่ยถิงจงใจ!  

 

 

เนี่ยถิงบินไปข้างๆ หลี่ว์ซู่หลังจากการลงทัณฑ์จากสวรรค์จบลงและมองหลี่ว์ซู่ด้วยความประหลาดใจ “ทำไมนายลงมาด้วย”  

 

 

หลี่ว์ซู่ “…บางทีผมอยู่บนนั้นมันน่าเบื่อเกินไป เลยลงมาเดินเล่น”  

 

 

หลี่ว์ซู่เห็นสีหน้าเนี่ยถิงซีดเซียวลงไปมาก นี่คงเป็นพลังเฮือกสุดท้ายของเขาแล้ว  

 

 

แต่ความพยายามของเนี่ยถิงในการต่อสู้ครั้งนี้ก็ได้ผลตอบแทน องค์กรใหญ่ต่างๆ ตอนนี้กระจัดกระจายกันไปหมดและไม่สามารถจัดกระบวนทัพที่มีประสิทธิภาพได้อีก แน่นอนถึงต่อให้จัดกระบวนทัพได้ จำนวนคนของพวกเขาตอนนี้ก็มีน้อยกว่าเครือข่ายฟ้าดินแล้ว…  

 

 

หลี่ว์ซู่เห็นว่าได้รับแต้มอารมณ์มากกว่าที่คิดเอาไว้อย่างนึกไม่ถึง อย่าว่าจุดประกายดาวดวงที่สี่เลยต่อให้จุดประกายดวงที่หกก็ยังเหลืออีกเยอะ!  

 

 

หลี่ว์ซู่นึกสงสัย ที่แท้…แต้มอารมณ์หาได้ง่ายถ้าเขาฆ่าคนได้มากพออย่างนี้เลยหรือ  

 

 

เป็นเรื่องยากมากที่จะฆ่าผู้บำเพ็ญนับหมื่นคนและแต้มอารมณ์จากการฆ่าประชาชนเหมือนกับฆ่าผู้มีพลัง ความตายเท่ากับหนึ่งพันแต้ม!  

 

 

เขารู้สึกตื่นตัวขึ้นทันที ทำไมเขาคิดเรื่องการฆ่าประชาชนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หลี่ว์ซู่เห็นความแข็งแกร่งและพลังนั้นสำคัญแต่ก็ไม่ได้สำคัญถึงขนาดให้เขาหยิบดาบขึ้นมาฆ่าฟันชาวบ้านตาดำๆ ได้!  

 

 

นี่เป็นคำถามปรนัย ตัวเลือกแรกคือสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ทันที ตัวเลือกที่สองคือใช้ความพยายามระยะยาวแต่หลี่ว์ซู่เลือกอย่างหลังเพราะเขามีความพากเพียรของตัวเอง  

 

 

ตัวเลือกแรกมันน่าดึงดูดและเห็นผลทันตาแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่หลี่ว์ซู่ต้องการ  

 

 

จู่ๆ หลี่ว์ซู่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหมือนว่าโลกให้ความเป็นไปได้สองทางแก่เขามาตั้งแต่แรก ให้เขาเลือกได้ตามใจชอบและความเป็นไปได้ทั้งสองนี้เป็นเส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  

 

 

แต่หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าการพัฒนาของตนไม่ได้ช้าไป ตอนนี้ก็จุดประกายดาวดวงที่หกได้แล้ว  

 

 

แล้วหลี่ว์ซู่ก็หันไปเห็นจุดชี่ไห่ของตนและเห็นปราณกระบี่อีกสองร้อยกว่าเล่มที่ยังไม่ได้ชาร์จไฟฟ้า…  

 

 

ที่จริงหลี่ว์ซู่สามารถไปหาคอรัลได้อีกครั้ง สายฟ้าจากหอกกุงเนียร์ก็ไม่ใช่ของเด็กเล่นแต่ปัญหาคือตอนนี้คอรัลสูยเสียความทรงจำไปแล้วเขาจะวิ่งไปพูดกับเธอว่า “อย่าพูด ช็อตไฟฟ้าใส่ฉันเร็ว”  

 

 

มันก็จะแปลกๆ นะ…  

 

 

ดังนั้น เมื่อการลงทัณฑ์จากสวรรค์สลายตัวไปแล้ว เขาจะชาร์จไฟฟ้าใส่กระบี่พวกนั้นอย่างไรดีล่ะ  

 

 

ในตอนนี้ เนี่ยถิงมองหลี่ว์ซู่ด้วยสีหน้าปกติ เขาลังเลและพูดว่า “ขอบคุณที่ยอมมอบผลดวงดาวอันล้ำค่านั้นให้”  

 

 

หลี่ว์ซู่เงยหน้าขึ้นมองเนี่ยถิงอยู่สองวินาทีจากนั้นก็หยิบผลไม้สองผลออกมา “คืออย่างนี้ ถ้าท่านอยากขอบคุณ ช่วยรับการลงทัณฑ์จากสวรรค์อีกครั้ง… “  

 

 

เนี่ยถิง “???”  

 

 

[ได้แต้มจากเนี่ยถิง +999!]  

 

 

หลี่ว์ซู่เห็นสีหน้าของเนี่ยถิงไม่ค่อยดีนัก เขาจึงรีบหัวเราะกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาอยากได้สายฟ้ามาชาร์จใส่กระบี่ของตน “ฮ่าๆ ล้อเล่นนะ อย่าเอาจริงเอาจังนะ! “  

 

 

เนี่ยถิงเข้าใจและผลดวงดาวในมือของหลี่ว์ซู่…ยังมีอีก! แต่เนี่ยถิงไม่เข้าใจว่าของวิเศษแบบนี้ มาตกอยู่ในมือของหลี่ว์ซู่มากขนาดนี้ได้อย่างไร!  

 

 

สิ่งที่สามารถพัฒนาพลังเช่นนี้ ถ้ามีจำนวนมากพอก็สามารถสร้างกองทัพอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดได้เลย  

 

 

แล้วเนี่ยถิงก็ขมวดคิ้วและมองไปยังท้องฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หลี่ว์ซู่ถึงกับผงะไปชั่วขณะ “มีอะไรหรือ”  

 

 

“มีใครบางคนกำลังทำลายค่าบกลดาบ” เนี่ยถิงขมวดคิ้ว “ค่ายกลดาบยังหยุดเขาไม่ได้เหรอ! “  

 

 

หลี่ว์ซู่คิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “มีอะไรอยู่ภายใต้ค่ายกลดาบนั้น”  

 

 

“ใต้ค่ายกลดาบนั้น …” เนี่ยถิงพูด “เป็นสถานที่ที่พวกปรมาจารย์หุ่นเชิดปรากฏตัวในอดีต! “  

 

 

หลี่ว์ซู่เหลือบมองสีหน้าของเนี่ยถิง ในตอนนี้เนี่ยถิงดูอิดโรยมาก ส่วนเฉินไป๋หลี่บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับนักบุญ เขารู้ว่าเนี่ยถิงเป็นกังวลเรื่องอะไร ผู้ที่สามารถทำลายค่ายกลดาบนั้นจะมีพลังเหนือระดับ A ถ้าไม่ใช่ฟรานซิสโก ไม่ใช่นักบุญไม่ใช่หัวหน้าบาทหลวงแล้วจะเป็นใครกัน  

 

 

หลี่ว์ซู่สังหรณ์ว่าอาจไม่ใช่อวิ๋นอี่และพยัคฆ์จื๋อแต่เป็นผู้เดินหมากที่อยู่เบื้องหลังการเปิดเผยหลี่ว์เสี่ยวอวี๋!  

 

 

“พวกท่านไม่ต้องไป ท่านปู่เฉินและท่านล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาในตอนนี้ อย่ามาตายหลังจากเพิ่งได้รับพลังเสินฉังจิ้ง เครือข่ายฟ้าดินยังต้องการท่านอยู่” หลี่ว์ซู่พูดอย่างใจเย็น “ผมจะไปเอง”  

 

 

ทันใดนั้นเนี่ยถิงก็นึกถึงคำพูดของหัวหน้ากองย่อยหม่าโหย่วจินพูดถึงหลี่ว์ซู่ เขาจึงประทับใจ  

 

 

เด็กหนุ่มคนนี้ในที่สุดก็กลายเป็นราชันฟ้าแล้ว  

 

 

หลี่ว์ซู่มองขึ้นไปกลางอากาศและตะโกนบอกฮุ่นตุ้นที่กำลังหลบการลงทัณฑ์จากสวรรค์ว่า “ไปเถอะ ไปกำจัดพวกนั้นกัน! “  

 

 

ฮุ่นตุ้นบินลงมาและไม่ได้หยุดที่ข้างตัวหลี่ว์ซู่ ส่วนหลี่ว์ซู่ก็กระโดดขึ้นไปคว้าเขาของฮุ่นตุ้น ทั้งคู่มุ่งหน้าสู่ค่ายกลดาบ!  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset