ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 888 เส้นทางแห่งมังกรระห่ำ

เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่หัวหน้าโจรป่าทั้ง 10 กว่าก๊กจะมารวมตัวประชุมกัน สถานที่ประชุมห่างจากเมืองอวิ๋นอานไป15 กิโลเมตร ที่นั่นธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สวยงามและมีศาลาหลังเล็กอยู่หลังหนึ่ง  

 

 

บรรดาหัวหน้านั่งอยู่ในศาลาและมีเหล่าลูกสมุนรออยู่ข้างนอก โจรแต่ละก๊กไม่ได้ปรองดองกันและในตอนนี้ทุกคนต่างเป็นพ่อค้ากันหมด คนค้าขายให้ความสำคัญกับน้ำใจและการหาเงิน…  

 

 

ดังนั้นหลายปีมานี้ พวกเขาจึงต่างฝ่ายต่างไม่ก้าวก่ายกันเอง เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้บัญชาการทัพอู่เว่ย เยี่ยเสี่ยวหมิง ถ้าไม่ได้เขาควบคุมสถานการณ์มันอาจจะวุ่นวายกว่านี้  

 

 

มีคนถามขึ้นว่า “พวกนายมีใครรู้ไหมว่า…ธงหลุดพ้นความยากจนมุ่งสู่ความรวยมาจากไหน”  

 

 

“พรุ่งนี้ถูกเปลี่ยนเพื่อบอกอะไรพวกเราใช่ไหม” มีคนถามอย่างสงสัย “จากตัวอักษร…มันบอกว่าอีกฝ่ายมาเพื่อหาเงิน”  

 

 

“ใครมันจะไปรู้” ชายคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าหม่นหมอง “หลุดพ้นความยากจนมุ่งสู่ความรวยเป็นธงจากก๊กไหน ไม่รู้ว่าศัตรูคนไหนมาขุดทองที่นี่ แต่กำลังจะต้องส่งมา ถ้าไม่ใช่ระดับ 3 ก็ต้องระดับ 2 ไม่เช่นนั้นไม่มีทางยึดหมู่บ้านชิงหลงได้ง่ายๆ “  

 

 

ที่จริงทุกคนไม่มีใครคิดว่าศัตรูจะเป็นระดับ 1 ระดับ 1 คืออะไร นั่นคือบุคคลที่ไปไหนก็สามารถปั่นป่วนฟ้าฝน ลอยบนฟ้า เขาจะมาสนใจพื้นที่เล็กๆ แบบนี้ทำไม”  

 

 

“ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินว่ารองหัวหน้าหมู่บ้านเลื่อนพลังเป็นระดับ 3 หรือว่าเขาเป็นไส้ศึกให้กับคนนอก” มีคนพยายามวิเคราะห์ “เรื่องนี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครอยากเป็นเบี้ยล่าง ใช่ไหม”  

 

 

“ฮ่าๆ ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันก็คงพูดได้ว่าคนที่ตายในหมู่บ้านชิงหลงคงโง่เหลือเกิน ฉันไม่มีทางยอมให้ลูกสมุนทำเรื่องเช่นนี้เด็ดขาด ถ้ามีโอกาสแม้แต่น้อยก็ต้องกำจัดมันทิ้งเสีย”  

 

 

“ท่านเย่พูดอะไรหน่อยเถอะ” มีคนพูดขึ้น “ตอนนี้ทุกคนต่างสุขสบายต้องขอบคุณท่าน แต่พวกเราก็ได้ส่วนแบ่งเพียงน้อยนิดจากการค้าแต่ละครั้ง ไม่มีเหตุผลที่ท่านจะไม่ออกมาทำอะไรเลยในตอนนี้”  

 

 

ผู้บัญชาการทัพอู่เว่ยเยี่ยเสี่ยวหมิงนั่งเป็นประธาน รูปร่างใหญ่โตหน้าตาดุดัน  

 

 

หลายปีก่อนเขาเป็นผู้ติดตามขุนนางท่านหนึ่งแต่แล้วขุนนางอันนั้นก็ได้ตายในสงครามกับทหารเสื้อขนดำส่วนเขากลับรอดชีวิตมาได้ ต่อมาได้มาเข้าร่วมทัพอู่เว่ย เขาใช้พลังและความสามารถที่เหนือกว่าและขับไล่ผู้บัญชาการทัพคนเก่าออกไปดื้อๆ  

 

 

แน่นอนว่าเหนือกว่าเยี่ยเสี่ยวหมิงมีนายเหนือหัวซึ่งมีความสัมพันธ์กับขุนนางที่เขาถวายชีวิตให้ในอดีต เมื่อเขาไปเยี่ยมคารวะ เขาสัญญาว่าจะแบ่งผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งให้กับอีกฝ่ายเพื่อให้เขาได้มานั่งในตำแหน่งผู้บัญชาการทัพอู่เว่ย  

 

 

ตอนนี้เยี่ยเสี่ยวหมิงเป็นผู้ปกครองเบ็ดเสร็จของเมืองอวิ๋นอาน จัดการถูกเรื่องในเมืองอย่างละเอียด แต่แล้วยังไม่ทันได้กอบโกยเงินก็ดันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาเสียก่อน  

 

 

เยี่ยเสี่ยวหมิงมองไปรอบๆ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทุกท่านสามารถหาเงินได้อย่างปลอดภัยบนดินแดนนี้ก็เพราะอะไร ในกระเพาะพวกเรารู้จักธรรมเนียม ไม่ก่อเรื่องวุ่นวาย! แปลตอนนี้มีคนนอกมาสร้างเรื่องวุ่นวาย ฉันไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่นอน เอาอย่างนี้ พวกนายไประดมกำลังพลมา ทับอู่เว่ยจะส่งม้าฉันยอด 2 ตัว เราจะร่วมมือกันกวาดล้างหมู่บ้านชิงหลง”  

 

 

“ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาก่อกวนหรือจะมาหาเงิน หากไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเราก็ต้องรับผลที่ตามมา” เยี่ยเสี่ยวหมิงพูดจบก็จ้องทุกคน “ที่นี่เป็นถิ่นของพวกเรา”  

 

 

ที่จริงทุกคนต่างเข้าใจความหมายนี้ เมืองนี้เยี่ยเสี่ยวหมิงเป็นผู้ตัดสินทุกสิ่ง  

 

 

และทุกคนต่างเข้าใจว่าพวกเขาต้องการเยี่ยเสี่ยวหมิงจัดการคนต่างถิ่นคนนั้น ตระกูลอื่นระดมพลนิดๆ หน่อยๆ ก็สามารถปราบหมู่บ้านชิงหลงให้ราบเป็นหน้ากลองได้  

 

 

ก่อนนี้หมู่บ้านชิงหลงเป็นแหล่งทำเงิน ต่างรู้ว่าหมู่บ้านนี้มีเงินมากแค่ไหน หากยึดได้ก็จะได้เป็น เจ้านาย เงินนั้น  

 

 

เมื่อก่อนมีหลายสิบตระกูลแบ่งเค้กก้อนนี้ ถ้ามีตัวแบ่งน้อยลงใครๆ ก็ยินดี  

 

 

“งั้นคราวนี้ก็ลบชื่อหมู่บ้านนี้ออกไปเลยไหม” มีคนพูดขึ้นมา  

 

 

“ฉันเห็นด้วย! “  

 

 

“ฉันก็เห็นด้วย! “  

 

 

“เมื่อโอกาสมาแล้วก็คว้ามัน” เยี่ยเสี่ยวหมิงพูด “หมู่บ้านชิงหลงอยู่บนภูเขาอานห่างออกไป 11 ลี้ พวกเราเคลื่อนพลตอนนี้เลยดีไหม ให้มันรู้ว่าอย่ามาหือกับพวกเรา”  

 

 

หากตัดความเป็นไปได้ที่ผู้มีพลังระดับ 1 มาก่อกวน เยี่ยเสี่ยวหมิงก็ไม่กลัวใคร  

 

 

ส่วนผู้มีพลังระดับ 1… คงจะจนน่าดูถึงมาขุดทองที่นี่!  

 

 

หลี่ว์ซู่นั่งแกว่งเท้าอยู่บนป้อมปราการอันใหม่ของหมู่บ้านชิงหลง ถูกต้อง เขาจนไส้แห้ง… ตอนนี้กำลังรอทัพใหญ่มาบุกโจมตี  

 

 

เยี่ยเสี่ยวหมิงคงไม่รู้ว่าที่เขาทำทั้งหมดเป็นการเปิดประตูบานใหม่ให้กับหลี่ว์ซู่…  

 

 

ตอนแรกหลี่ว์ซู่คิดจะตั้งตนเป็น เจ้าของที่ นี่แล้วค่อยเข้าร่วมทัพอู่เว่ย จากนั้นเขาก็จะทำสบู่ขายไปเรื่อยๆ  

 

 

แต่แล้วโลกแห่งความจริงช่างลำบากเหลือเกิน เขาไม่มีทางเลือกจึงต้องมาเป็นโจรป่า  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่มีทางยอมรับว่าเขาอยากสัมผัสความรู้สึกของการเป็นหัวหน้ากองโจร เขาแค่ถูกชีวิตบีบคั้น  

 

 

ถ้าในอนาคต เพื่อนจากเครือข่ายฟ้าดินถามเรื่องนี้ ราชันฟ้าที่ 9 เป็นโจร มันคงไม่เข้ากับค่านิยมองค์กร หลี่ว์ซู่ก็จะพูดว่าเขาถูกบีบบังคับ!  

 

 

ในตอนนี้เอง หลี่ว์ซู่มองเห็นป่าข้างล่างบนถนนได้ภูเขาห่างไปไกลๆ เกิดการสั่นไหวและเหมือนมีเงาขนาดใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ใต้ต้นไม้นั้น  

 

 

หลี่เฮยทั่นและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ต่างหวาดกลัว “หัวหน้าเกรงว่าคนที่จะมาโจมตีเราจะมาถึงแล้ว! “  

 

 

หลี่ว์ซู่หัวเราะชอบใจ “มาก็ดีแล้ว! “  

 

 

กองทัพยาวต่อเนื่องเกือบ 2 กิโลเมตร น่าจะมีกำลังพลถึงหลายพันคน หลี่ว์ซู่ถาม “รวมก๊กอื่นแล้วมีทั้งหมดกี่คน”  

 

 

หลี่เฮยทั่นนับนิ้วอยู่นาน “4 พันกว่าคนน่าจะได้”  

 

 

“กำจัดพวกนั้นให้หมด” หลี่ว์ซู่มองเสี่ยวอวี๋ “เก็บคนที่ใส่ชุดเกราะทัพอู่เว่ยไว้”  

 

 

ตอนนี้แอนโทนี่ได้พาจอห์นสันดักซุ่มอยู่ใต้ดิน ส่วนหัวหน้าบาทหลวงใส่ผ้าพันคอยืนอยู่ข้างหลังหลี่ว์ซู่ เหมือนกับนายบ่าว  

 

 

หลี่ว์ซู่แค่ต้องการจงใจสร้างบรรยากาศที่ลึกลับ ไม่เช่นนั้นแผนการภายหลังจะไปต่อไม่สะดวก  

 

 

ทันใดนั้นเองก็มีหอกยาวเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาใส่หลี่ว์ซู่ แต่ยังไม่ถึงตัวเขา หัวหน้าบาทหลวงก็ใช้แสงสีเงินทำลายหอกนั้นจนกระจุย  

 

 

เยี่ยเสี่ยวหมิงนำโจรป่า 10 กว่าก๊กบุกขึ้นมา เขาลังเลอยู่บ้านเมื่อเห็นกำแพงอันใหม่ หมู่บ้านเชียงหลงสร้างกำแพงเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!  

 

 

ไม่ใช่เวลามาห่วง เยี่ยเสี่ยวหมิงบุกเข้าใส่หลี่ว์ซู่และหัวเราะ “นายคือหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ละสิ ใช้สมองน้อยไปหน่อยนะ…”  

 

 

พูดยังไม่ทันจบ เยี่ยเสี่ยวหมิงเห็นหัวหน้าบาทหลวงที่ยืนนิ่งๆ อยู่ข้างหลังหลี่ว์ซู่พุ่งขึ้นบนท้องฟ้า จากนั้นปล่อยแสงสีเงินและเปลี่ยนเป็นตาข่ายคลุมทุกคนเอาไว้ พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนและตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของกองทัพด้านล่าง  

 

 

เยี่ยเสี่ยวหมิงตะลึงงันไปเลย!  

 

 

ผู้มีพลังระดับ 1! ของแท้!  

 

 

บ่าวที่อยู่ข้างหลังวัยรุ่นคนนี้คือผู้มีพลังระดับ 1 แล้ววัยรุ่นคนนี้จะมีพลังระดับไหนกัน คงมีเบื้องหลังไม่ธรรมดา  

 

 

ในจักรวาลจักรวาลหลี่ว์จะมีสักกี่คนที่มีบ่าวเป็นผู้มีพลังระดับ 1  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset