ตอนที่10 หนังสือที่ต้องการ
“จากนี้ต่อไปเจ้าจะต้องฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง เพราะเจ้ามีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก ซึ่งบางทีอาจเป็นไปได้ว่าเจ้าอาจจะเหนือกว่าผู้ก่อตั้ง”
นักบวชหยูชิงกล่าวอย่างคาดหวังขณะที่เขามองไปยังเด็กน้อย โดยกล่าวอีกว่า
“ขอบคุณสวรรค์ที่ทรงประทานศิษย์อย่างเจ้ามาให้กับลัทธิของเรา”
“หนูก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มาเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์”
และนี่คือคำกล่าวที่จริงใจของหยางซือเหมย
หยูชิงยิ้มจาง ๆ และสั่งให้เด็กน้อยไปหยิบหนังสือจากชั้นหนังสือเพื่อนำกลับไปศึกษาที่บ้าน
หยางซือเหมยมองดูหนังสือที่ชื่อ <จื่อคัง> ที่ตนเองหยิบมันออกมา
เมื่อเห็นเธอหยิบหนังสือเล่มนี้ออกมาดวงตาที่วาววับของหยูชิงก็สั่นไหว แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรมากแต่กลับกล่าวกล่าวเบา ๆ แทนว่า
“เจ้าจงนำกลับไปศึกษาให้ละเอียด!”
หยางซือเหมยพยักหน้าและเตรียมพร้อมที่จะเดินทางลงจากภูเขา
นักบวชหยูชิงกังวลว่าเด็กน้อยจะต้องเผชิญกับอันตรายเนื่องจากเธอเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็ก ๆ เท่านั้น เขาจึงต้องการเดินลงเขาเพื่อไปเป็นเพื่อนเธอ
ระหว่างทางเขาอธิบายให้เธอฟังว่าทักษะเชิงตัวเลขคืออะไรโดยกล่าวว่าเป็นทฤษฎีที่ได้มาจากหยินและหยางและความเชี่ยวชาญทั้งห้าองค์ประกอบ
กล่าวโดยสรุปคือสิ่งเหล่านั้นหมายถึงสังคมและการเกิดขึ้นของความโชคดีกับความโชคร้ายของมนุษย์ ซึ่งมันเป็นหมวดหมู่หนึ่งของขอบเขตการศึกษาในตำราจื่อคังเล่มนี้
อีกทั้งยังมีในกลุ่มที่ใหญ่กว่า ได้แก่ ดาราศาสตร์ ระบบปฏิทิน คณิตศาสตร์ โหราศาสตร์การทำนายดวง ทำนายโหงวเฮ้งธรณีศาสตร์ ยันต์ การคำนวณวันมงคล การรักษาสุขภาพอนามัยการเจริญพันธุ์และอื่น ๆ
โดยทั่วไปแล้วในหนังสือเล่มนี้มีหลักการพื้นฐานของทักษะเกี่ยวกับตัวเลขคือการใช้ทฤษฎีที่เรียบง่ายคือหยินและหยางกับองค์ประกอบทั้งห้า
อีกทั้งยังมีการทำนายธรณีศาสตร์ โหราศาสตร์ โหงวเฮ้ง การคำนวณวันมงคลและวิธีการทำนายประเภทอื่น ๆ จะต้องนำกฎการใช้ประโยชน์ของหยินและหยางควบคู่ไปกับความเชี่ยวชาญทั้งห้าองค์ประกอบผสมผสานการใช้กฎการคำนวณเพื่อสรุปความโชคดีและความเลวร้ายของมนุษย์
และเมื่อนำมารวมกับปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดเจนในขอบเขตธรรมชาติก็จะสามารถคำนวณได้เกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์สิ่งของ ครอบครัว หลุมฝังศพของบรรพบุรุษ โชคแห่งความพยายามโชคลาภของประเทศและอื่น ๆ
ทักษะเกี่ยวกับเรื่องตัวเลขเป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน โดยในสมัยโบราณ การเมือง การทหารอารยธรรมและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางด้ายต่าง ๆ ในอดีต
อีกทั้งเบื้องหลังบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หรือเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มักจะมีเงามืดของทักษะทางด้านตัวเลขและหลักการบางอย่างผสมผสานเข้าด้วยกัน
อาจกล่าวได้ว่าการวิจัยทักษะเชิงตัวเลขเพื่อความเข้าใจที่สมบูรณ์ และเข้าใจวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนเพื่อทำการศึกษาประวัติศาสตร์และวรรณกรรมโดยรวมเป็นสาขาวิชาสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้
เมื่อได้ยินว่าหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับทักษะการคิดเลข รวมถึงวิธีที่เธอต้องการมากที่สุดในการกระตุ้นโชคลาภและหลีกเลี่ยงความหายนะ และการจัดฮวงจุ้ยเพื่อโชคลาภกับความหายนะ หยางซือเหมยก็รู้สึกดีใจมาก ขณะที่ยกย่องในความฉลาดของตัวเองที่สามารถหาหนังสือที่เธอต้องการมากที่สุดได้ในทันใด
***
หยางชิงกลับมาหลังจากเรียนด้วยใบหน้าหงิกงอและหัวที่เสียกำลังใจ หลังเดิมที่โค้งงอเล็กน้อยของเขาก็ยิ่งค่อมมากขึ้นไม่กระสับกระส่ายเหมือนมะเขือที่โดนน้ำค้างแข็ง
หยางซือเหมยรู้ว่าเป็นเพราะเขาถูกบังคับให้ยอมรับการกระทำผิดที่โรงเรียน
เธอวางหนังสือลงด้วยความเสียใจวิ่งไปหาเขาจับมือเขากระพริบตาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“พ่อไม่ต้องเสียใจ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน พวกเขาจะทำกับเราแบบนี้ได้อีกไม่นาน”
จากนั้นเธอก็เพียงแค่มองไปยังหนังสือที่ชื่อ <ซูคัง> โดยเนื้อหาในนั้นกล่าวว่า ในฐานะนักทำนายโหงวเฮ้ง พวกเขาสามารถใช้การจัดวางฮวงจุ้ยเพื่อกระตุ้นให้เกิดภัยพิบัติและหลีกเลี่ยงโชคลาภได้
นอกจากนี้ยังสามารถทำให้โชคลาภของคน ๆ หนึ่งเสื่อมลง ซึ่งเปรียบเสมือนการลอบฆ่าจากระยะไกลโดยไม่มีใครเห็น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอได้เรียนรู้และเข้าใจในตอนนี้ยังไม่มากนัก แต่ซือเหมยเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์นี้ตนเองจะสามารถก้าวข้ามขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่เด็กน้อยกำลังจ่อมจมอยู่ในห้วงของความคิดคำนึงหยางชิงที่กำลังจ้องมองบุตรสาวก็ถอนหายใจยาวแล้วนั่งบนเก้าอี้ใกล้ ๆ เพื่อสูบบุหรี่
เมื่อเห็นควันบาง ๆ ที่คดเคี้ยวและใบหน้าที่บ่งบอกว่าหนักใจของบิดาแล้ว ความร้อนรุ่มของหยางซือเหมยก็หวนกลับคืนมาอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงรีบหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อโดยไม่รีรอ และแม้ในช่วงเวลารับประทานอาหารเธอก็ยังอ่านหนังสือขณะรับประทานอาหาร
เวลาที่ครอบครัวของเธอต้องประสบกับหายนะคืออีกหนึ่งปีข้างหน้า ดังนั้นเธอจะต้องรีบเร่งวิเคราะห์ทักษะตัวเลขเหล่านี้ให้เสร็จสิ้นก่อนเวลานั้นจะมาถึง
และสิ่งแรกที่จะทำคือเธอจะจัดวางผังฮวงจุ้ยสำหรับเผด็จการที่เน่าเฟะของครอบครัวผู้ใหญ่บ้านเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่สามารถมาเหยียดหยามและรังแกครอบครัวของตนเองได้