ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 13 ย้ายหลุมฝังศพ

ตอนที่ 13 ย้ายหลุมฝังศพ

 

นักบวชหยูชิงไม่ได้ใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกหรือความคิดของเธอและยังคงเดินนำเด็กน้อยไปข้างหน้า

 

เมื่อพวกเขามาถึงหลุมศพอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนดินแดนที่แห้งแล้งโดยบริเวณนั้นล้อมรอบไปด้วยหญ้าแห้ง

 

ปรากฎว่าหลุมฝังศพนี้หยางซือเหมยก็คุ้นเคยเช่นกัน เนื่องจากมันเป็นหลุมฝังศพของปู่ทวดเธอเอง และเมื่อปีที่แล้วในวันที่อากาศแจ่มใสเธอได้ติดตามคุณปู่และคุณพ่อของเธอมาเก็บกวาดหลุมศพนี้

 

***

 

“ตรวจสอบหลุมฝังศพนี้อย่างละเอียดสิ!”

 

“ค่ะอาจารย์”

 

จากนั้นหยางซือเหมยได้จ้องมองไปที่หลุมศพตรงหน้าด้วยการเพ่งที่จริงจัง

 

และภายในไม่กี่อึดใจเท่านั้นมุมมองเบื้องหน้าเธอก็ค่อย ๆเปลี่ยนไป โดยเธอเห็นกลุ่มหมอกควันสีแดงเหมือนเลือดลอยอยู่เหนือหลุมศพนั้น ยิ่งไปกว่านั้นมันยังกลายเป็นใบมีดที่แหลมคมพุ่งตรงไปยังหลุมศพของปู่ทวดเธอ

 

“อา…”

 

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างจุกอยู่ที่อกจนทำให้เด็กน้อยสำลักออกมา จากนั้นก็นั่งลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

หยูชิงเห็นเธอหน้าซีดเซียวและกระอักเลือดจึงรีบเข้าไปตรวจชีพจรของเธอและพบว่ามันไม่เสถียร ราวกับว่าเธอได้รับบาดเจ็บภายใน

 

อยู่ดี ๆ เธอจะได้รับบาดเจ็บภายในอย่างไร?

 

ในความรู้สึกของนักบวชหยูชิงเต็มไปด้วยความสงสัยขณะมองไปที่ใบหน้าบอบบางอันซีดเซียวของหยางซือเหมยพลางจับมือเล็ก ๆ ของเด็กน้อยและส่งพลังภายในบางส่วนไปให้เธอ

 

การได้รับพลังภายในของเจ้านายของเธอทำให้หยางชือเหมยผ่อนคลายลงเล็กน้อยในขณะที่เธอหายใจ

 

และเมื่อเธอหันไปทางหลุมศพอีกครั้งก็พบว่าใบมีดแหลมคมที่เกิดจากหมอกควันสีแดงเลือดก็ได้จางหายไปหมดแล้ว โดยตอนนี้เห็นอย่างชัดเจนว่า มันเป็นเพียงหลุมฝังศพที่แห้งแล้งและเงียบเหงาภายใต้แสงแดดจ้าอันร้อนแรงเท่านั้น

 

แม้ว่าเธอจะไม่เคยศึกษาเรื่องฮวงจุ้ยหรือธรณีศาสตร์มาก่อน แต่ก็ยังคงรู้ว่าภาพก่อนหน้านี้จะต้องเป็นลางร้ายอย่างแน่นอน

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่อีกหนึ่งปีต่อมา ครอบครัวของเธอจะต้องเผชิญกับความพินาศ มันคงเป็นเพราะฮวงจุ้ยหลุมศพบรรพบุรุษของเธอมีปัญหาเหล่านี้นี่เอง

 

“หนูน้อย อยู่ดี ๆ ทำไมเธอถึงได้รับบาดเจ็บภายใน?”

 

“อาจารย์คะ นั่น…เป็นหลุมฝังศพของครอบครัวหนูเองค่ะ”

 

น้ำเสียงของหยางชือเหมยยังคงแสดงถึงความอ่อนแอ

 

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?”

 

สีหน้าของหยูชิงเปลี่ยนไปอย่างจริงจัง

 

“พื้นที่รอบ ๆ ที่นี่เป็นแห้งแล้งและกันดาร ซึ่งพืชไม่สามารถเติบโตได้สถานที่ที่ไม่มีพลังเช่นนี้ดังนั้นจึงไม่ควรใช้เป็นที่ฝังศพ

 

อีกทั้งบริเวณนี้อิทธิพลของภูเขายังส่งมาไม่ถึง ซึ่งมันเป็นความมีชีวิตชีวาที่ไหลเวียนอยู่ภายในเส้นเลือดของโลก และเมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกตัดขาด มันก็จะส่งผลให้ชีวิตของลูกหลานขาดพลังมาหล่อเลี้ยงเช่นเดียวกัน

 

นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นหน้าผาสูงตระหง่านที่มีโขดหินยื่นออกมาในลักษณะที่แปลกประหลาด ก่อให้เกิดความขุ่นเคืองและกระหายเลือด ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นสถานที่ที่เป็นลางร้าย

 

ดังนั้นสามารถทำนายได้เลยว่า มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของลูกหลานโดยจะต้องมีคนตายก่อนวัยอันควร และไม่มีทางที่จะได้พบกับความสงบสุข และพวกเขาจะ…”

 

จากนั้นเขาก็ไม่ได้กล่าวต่อ แต่กลับจ้องมองไปที่หยางซือเหมยด้วยสีหน้าเศร้าใจ ราวกับว่ากำลังคาดการณ์อนาคตของเธอว่าจะเศร้าและโชคร้ายเพียงใด

 

ขณะนี้อย่างน้อยหยางซือเหมยก็เข้าใจว่าคมมีดสีแดงนั้นเป็นลางร้ายอย่างแน่นอน

 

“อาจารย์คะ หนูควรจะทำอย่างไรดี? เราจะทำลายความโชคร้ายนี้ได้หรือเปล่าคะ?”

 

“ความร้ายกาจนั้นหนักหนาเกินไปเพราะนักบวชผู้นี้ไม่แข็งแกร่งพอ และตอนนี้มีเพียงทางออกเดียวเท่านั้นคือการย้ายหลุมศพ เจ้าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวอาจารย์จะลงเขาไปพร้อมกับเจ้าเพื่อโน้มน้าวให้ครอบครัวของเจ้าย้ายหลุมฝังศพเอง”

 

“ขอบคุณอาจารย์!”

 

“อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเรามาแสวงหาสถานที่แห่งโชคลาภกันก่อน”

 

เมื่อนักบวชหยูชิงสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างพิจารณาแล้ว จากนั้นก็ได้หันไปหาหยางซือเหมยพลางกล่าวว่า

 

“ตอนนี้เจ้าคุ้นเคยกับทฤษฎีฮวงจุ้ยและธรณีศาสตร์แล้ว ลองนำไปปฏิบัติดู และมาดูกันว่าเจ้าจะสามารถหาจุดฝังมังกรซึ่งเป็นจุดเสริมโชคลาภให้กับครอบครัวของเจ้าได้หรือไม่?”

 

หยางซือเหมยพยักหน้าและพยายามใช้ทักษะการสร้างสมาธิสำหรับควบคุมการหายใจของตนเอง เพื่อประคองอาการบาดเจ็บภายในของเธอ จากนั้นเด็กน้อยก็ยืนและเริ่มค้นหาจุดที่ดีเยี่ยมที่สุดรอบ ๆ บริเวณภูเขาแห่งนี้

 

นักบวชหยูชิงเดินตามมาข้างหลังโดยไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว

 

และในที่สุดหยางชือเหมยก็มาหยุดอยู่ที่บริเวณหนึ่งของภูเขา

 

ณ สถานที่นี้ทางด้านทิศเหนือมีภูเขาสูงชันต่อเนื่องกันมากมาย และทิศใต้มีภูเขาที่ไม่สูงมากนัก โดยมีเนินเล็ก ๆ อยู่ทั้งในบริเวณใกล้เคียงและบริเวณที่ไกลออกไป

 

ส่วนทางด้านซ้ายและขวาโอบล้อมด้วยวงแหวนของภูเขา ซึ่งมันปกป้องทุกด้าน อีกทั้งพื้นที่ส่วนกลางยังมีลักษณะภูมิประเทศที่กว้างขวาง และมีแม่น้ำคดเคี้ยวล้อมรอบ

ท้าทายลิขิตสวรรค์

ท้าทายลิขิตสวรรค์

ในชาติที่แล้วครอบครัวของเธอต้องพังพินาศและจบลงด้วยการกลายเป็นคนเร่ร่อนจรจัด ซึ่งสิ่งนี้หล่อหลอมให้เธอเป็นคนเจ้าเล่ห์เพื่อความอยู่รอด เพราะเธอไม่มีการศึกษาและไม่มีความสามารถทางด้านใดเลย สุดท้ายเธอต้องถูกทำร้ายจนตายแต่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งหนึ่งจึงพบว่าตนเองได้ย้อนกลับไปในตอนที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบ ขณะที่มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับเธอ นั่นคือหญิงสาวมีดวงตาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถมองเห็นอดีตของผู้อื่น และยังสามารถช่วยแก้ไขภัยพิบัติให้คนผู้นั้นได้ ไม่เพียงแค่นั้น! เธอยังมีทักษะพิเศษในการมอบโชคลาภให้แก่ผู้คน อีกทั้งยังล่วงรู้แม้กระทั่งวันตายของคนอื่น ในชีวิตนี้เธอจะท้าทายสวรรค์เพื่อเปลี่ยนชะตากรรมและเอาความสุขกลับคืนมา ในชีวิตที่แล้วเธอไม่มีอะไรเลย ไม่มีการศึกษาหรือทักษะ จึงทำให้คนอื่นดูหมิ่นและถูกมองด้วยสายตาแห่งความเหยียดหยาม ในชีวิตนี้เธอพยายามที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหยั่งรู้ฟ้าดินที่แท้จริง เพื่อต้องการยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลก ซึ่งมันจะกลายเป็นตำนานที่โลกต้องจดจำไปชั่วกัลปาวสาน… ผู้ที่เป็นหนี้เธอทุกคนจะต้องชดใช้ให้สาสม!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset