ตอนที่ 24 พอใจ
ตอนนี้หยางเหอต้องการใช้เงินเพื่อที่จะเอาไปลงทุนที่เซินเจิ้นในอีกสองสามวันข้างหน้าจึงเอ่ยถามฮัวเหวินหัวอย่างใจร้อน
“คุณฮัวครับ คุณยังจะซื้อต้นไม้ต้นนี้อยู่หรือป่าวครับ?”
“แน่นอนว่าผมต้องการซื้อมันถ้าคุณพอใจกับราคาที่เราตกลงกันไว้ ผมจะจ่ายเงินให้คุณก่อน จากนั้นผมจะเรียกให้คนมาตัดเพื่อที่จะนำมันไปทีหลัง”
ฮัวเหวินหัวกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปยังต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ตรงหน้าขณะที่นึกถึงบิดาของตนเอง ทำให้ความเศร้าโศกในหัวใจกลับมาอีกครั้ง
ทันใดนั้นหยางซือเหมยก็กล่าวกับหยางเหอว่า
“เดี๋ยวก่อน!”
“อาเหอ! ต้นไม้นี้เป็นต้นไม้โบราณซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีค่ามากและสมัยก่อนเชื้อพระวงศ์มักจะใช้สำหรับทำโลงศพ”
เมื่อเด็กน้อยกล่าวเช่นนั้น หยางเหอก็กลัวว่าคำกล่าวของหยางซือเหมยจะทำให้ผู้มีฐานะที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกตกใจจึงรีบดึงร่างของเด็กน้อยเข้ามาใกล้เพื่อที่จะกระซิบว่า
“ตัวเล็ก! หนูพูดเรื่องไร้สาระอะไร เงินหนึ่งพันเหรียญไม่ใช่น้อย ๆ นะ เพราะปกติแล้วอาเคยขายต้นไม้แบบนี้ก็ได้เงินไม่กี่สิบเหรียญเท่านั้น!”
“อาเชื่อหนูเถอะ ราคาของต้นไม้นี้อย่างน้อยก็ต้องได้หมื่นเหรียญ”
อันที่จริงแล้วหยางซือเหมยไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าต้นไม้โบราณนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ โดยจำได้แค่ว่าในชาติก่อนเธอเคยได้ยินใครบางคนกล่าวว่าต้นไม้โบราณชนิดนี้มีมูลค่ามากเกือบจะเทียบเท่ากับราคาทองคำเลยทีเดียว
และนี่เป็นต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุมากกว่าร้อยปี ดังนั้นหากจะคำนวณราคาวัสดุโดยใช้ราคากลางในปีพ.ศ.2535 เป็นพื้นฐานก็น่าจะมีราคาประมาณหนึ่งหมื่นเหรียญเป็นอย่างต่ำ
เมื่อได้ยินดังนั้นหยางเหอก็รู้สึกตกใจมากและคิดว่าหยางซือเหมยเรียกร้องราคาที่สูงเกินไป เพราะในเวลานั้นการจะสร้างบ้านในหมู่บ้านนั้นเสียค่าใช้จ่ายไม่เกินหนึ่งหมื่นเหรียญด้วยซ้ำ ขณะที่เงินจำนวนนี้อาจจะสามารถซื้ออพาร์ทเมนต์หนึ่งร้อยตารางเมตรในเมืองได้
แล้วต้นไม้ต้นเดียวมันจะมีราคามากถึงหนึ่งหมื่นเหรียญได้อย่างไร?
เมื่อฮัวเหวินหัวและเฮาจ้าวกวงได้ยินเด็กน้อยกล่าวเช่นนั้นทั้งคู่ก็หันกลับไปมองหน้ากัน เนื่องจากต้นไม้โบราณชนิดนี้มีคุณค่ามาก
เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความคงทนและหรูหรา ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่สามารถหาได้ในตลาดทั่วไป ดังนั้นการได้พบมันที่นี่จึงเป็นเหมือนเรื่องปาฏิหาริย์
แน่นอนว่าฮัวเหวินหัวเป็นนักธุรกิจที่มีความฉลาด ในตอนแรกเมื่อเขาเห็นว่าหยางเหอไม่รู้มูลค่าที่แท้จริงของต้นไม้นี้จึงเสนอให้เจ้าของต้นไม้หนึ่งพันเหรียญ โดยเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบคนนี้จะรู้มูลค่าที่แท้จริงของต้นไม้โบราณที่อยู่ตรงหน้า
จากนั้นหยางซือเหมยก็ได้กล่าวอย่างจริงจังว่า
“คุณฮัวคะ สิ่งนี้เหมาะสมที่สุดที่จะสร้างโลงศพที่ดีให้กับพ่อของคุณ นอกจากนี้ฮวงจุ้ยที่เหมาะสมคือมีลมและพลังงานที่ดีจะช่วยอวยพรให้ตระกูลฮัวของคุณมีความมั่งคั่ง
และจะทำให้คุณกลายเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในรุ่นต่อไป ดังนั้นหากไม่ได้หนึ่งหมื่นห้าพันเหรียญเราจะไม่ขายต้นไม้นี้ให้กับคุณ”
“หนูรู้จักฮวงจุ้ยด้วยเหรอ?” ฮัวเหวินฮัวกล่าวด้วยดวงตาที่มีประกายสว่างขึ้น
เพราะในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เขาและเฮาจ้าวกวงได้ไปยังสถานที่ต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ไม่พบสถานที่ที่เหมาะสม
หยางซือเหมยพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า
“อืม! ท่านอาจารย์ของหนูบอกว่าหนูมีดวงตาที่สามารถเห็นฮวงจุ้ยมาตั้งแต่กำเนิด”
ปัจจุบันเธออายุเพียงแค่ห้าขวบแต่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากของครอบครัวโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร? และในตอนนี้ได้เห็นฮัวเหวินหัวแล้ว เธอก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากคนที่ร่ำรวยคนนี้เด็ดขาด
อย่างไรก็ตามเขามีเฮาจ้าวกวงอยู่เคียงข้าง ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าตนเองดูด้อยกว่ามาก ซึ่งมันเป็นไปได้ยากว่าเขาจะเชื่อถือเธอ และด้วยเหตุผลนี้เธอจึงจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยพลังเหนือธรรมชาติของตนเอง เพื่อที่เขาจะได้ขอร้องให้เธอช่วยค้นหาตำแหน่งฮวงจุ้ยด้วยตัวเอง
“ดวงตาที่สามารถเห็นฮวงจุ้ยโดยกำเนิดเหรอ? ฮึ!” เฮาจ้าวกวงตะคอกอย่างเย็นชาและยังดูหมิ่นอีกว่า
“ตัวแค่นี้ทำเป็นมาอวดรู้ ถ้าโตขึ้นไปคงจะกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่ชอบต้มตุ๋นคนสินะ”
ในชาติที่แล้วเธอมักจะถูกดูแคลนว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ ดังนั้นเมื่อหยางซือเหมยได้ยินคำว่าเจ้าเล่ห์มันก็ทำให้เธอเกิดความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาในทันที
และเมื่อหยางเหอเห็นว่าหัวข้อในการสนทนาของฮัวเหวินหัวและหยางซือเหมยกำลังถูกเบี่ยงเบนไปยังประเด็นอื่น เขาจึงกังวลว่ามันจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงของตนเองจึงรีบขัดจังหวะขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไอ้หยา! หลานรักหุบปากแป๊บนึงนะ! ขออาขายต้นไม้ต้นนี้ก่อนนะหลานนะ!
แฮ่..แฮ่..คุณฮัวคุณมีความคิดว่ายังไงบ้างครับ?”
ฮัวเหวินหัวมองไปที่เด็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าพลางกล่าวว่า
“โอเค! ตกลงตามนั้น..หนึ่งหมื่นห้าพันเหรียญก็ได้”
“ห๊า..หนึ่ง…หมื่น…ห้า…พัน?”
หยางเหอรู้สึกว่าลิ้นของเขาเริ่มแข็งขึ้นด้วยความตื่นเต้นสุดขีด จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า
“…จริงเหรอ?”
“หากคุณยังไม่พอใจอีก เราสามารถพูดคุยกันได้อีกครั้ง…” ฮัวเหวินหัวกล่าว
หยางเหอกังวลว่าฮัวเหวินฮัวจะเปลี่ยนใจจึงรีบพยักหน้าด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกล่าวว่า
“พอใจ..พอใจ…พอใจมากครับ”