นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 10

“ย่าาาาห์ ยังไงก็เถอะ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชีวิตนี้ผมจะได้ทำเรื่องแบบนี้กับเอลฟ์สาว”

ในโลกเดิมของผม ถึงแม้จะร่ำรวยเงินทองแค่ไหนก็ไม่มีทางได้เข้าใกล้เอลฟ์หรอก

แล้วตอนนี้เป็นยังไง

คุณนักรบสาวคาร์ล่าก็อ้าขาให้ผมรับเอาความบริสุทธิ์ไป

คุณเอลฟ์ไอริสก็จับผมแน่นแล้วยังทั้งดูดทั้งอมดุ้นของผม

 

โลกที่จำนวนผู้ชายน้อยและค่านิยมของความงามยังสลับกัน

ตอนแรกผมกังวลใจสุดๆเลยกับการที่ถูกย้ายมาโลกที่กลับด้านแบบนี้

แต่ตอนนี้ไม่เลย—โลกนี้แม่มของโคตรดีย์เลยฟ่ะ

 

“เพียงแค่ใช้เวลากับทั้งสองคนนี้ทั้งคืน ก็แทบจะรู้สึกเหมือนได้รับการตอบแทนน้ำใจที่โอริออนดีลมอบให้อย่างเต็มที่ เจอกันครั้งหน้าสงสัยต้องขอบคุณซะแล้วมั้ง? อ่า ไม่สิ แบบนั้นมันอันตรายแฮะ”

ในตอนที่ผมมายังโลกนี้ เป็นเหมือนการถูกบังคับย้ายมาเลย ในช่วงจังหวะที่ตอนนั้นผมพูดกับเธอว่า “ได้โปรดหยุดทีเท้ออออ”

ถ้าไปขอบคุณโอริออนดีลก็ไม่รู้เลยว่าครั้งหน้าจะเจออะไรอีก

 

แถมยัง “ช่างเป็นคนที่ถ่อมตัวอะไรแบบนี้…! ฉันจะช่วยสนับสนุนคุณเองค่ะ!” แล้วก็ลงท้ายด้วยการเรียก ‘คุณผู้มีพระคุณ’

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เวลาสงบสุขแบบนี้ดีที่สุด ผมจึงต้องพยายามรักษาสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ให้ได้นานที่สุดก็พอ

ต่อให้ผมจะทำอะไรผิดพลาดก็ตาม ยกเว้นแค่เรื่องเดียวที่ผมจะไม่พลาดท่าก็คือผมจะไม่พูดอะไรพล่อยๆต่อหน้าภูติตนนั้นเด็ดขาดเลย!

 

“หืม เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?”

 

ในตอนที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่คนเดียวและนั่งจิบชาไปด้วยในห้องนั่งเล่น ผมก็ได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลังผม และผมก็หันหลังกลับไป

ผมมองไปที่ตรงนั้น ผมก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนนึงที่เปลือยอยู่พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่งพันรอบร่างกายที่เปล่งประกายราวไข่มุกนั่น

แน่นอนว่า นั่นคือคุณไอริส

ดวงตาที่งดงามดั่งทะเลจ้องมาที่ผลด้วยสายตาเป็นกังวล

 

หลังจากที่เธอใช้ปากทำให้ผมจนเสร็จ ผมได้บอกให้คุณไอริสไปทำความสะอาดร่างกายและปากของเธอ 

ผมจึงให้เธอไปอาบน้ำ นั่นเป็นผลให้ตอนนี้มีไอน้ำอยู่รอบตัวคุณไอริสเต็มไปหมด

 

“โทษที พอดีคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”

“อย่างงั้นเหรอคะ…..”

 

หลังจากที่ผมพูดไปแบบนั่งเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆผมด้วยความโล่งใจ

อะไรน่ะ? คุณไอริสเอียงคอแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

 

“ไม่สิ คือว่า…..ก็รู้สึกกังวลนิดหน่อยน่ะค่ะ เรื่องที่คุณเรียวเคยบอกว่าค่านิยมกลับกันกับคนอื่นตั้งแต่เกิดนั่นน่ะค่ะ ก็รู้แล้วล่ะค่ะว่านั่นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ก็อย่างที่คิด ที่ไหนสักแห่งในใจของฉันยังคิดว่า’เรื่องเพ้อฝันแบบนั้นมันจะเป็นจริงได้จริงหรอก’ น่ะค่ะ”

“?”

 

อืม? ไม่รู้จริงๆว่าหมายความว่าไง

ผมเอียงคอเล็กน้อย และคุณไอริสก็พูดต่ออย่างช้าๆ

 

“พูดใช้ชัดก็คือ….แบบว่า….ฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่าบางทีคุณอาจจะกลัวและวิ่งหนีฉันไปก็ได้….”

“ไม่หนีไปไหนทั้งนั้นแหละน่า ที่นี่มันบ้านของฉันนะ?”

 

ผมตอบคำถามของคุณไอริสด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

แต่คุณไอริสกลับมีท่าทางจริงจังมาก

 

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเป็นบ้านใครหรอกค่ะ ถ้าเป็นตามปกติล่ะก็ ต่อให้ฉันเป็นที่บ้านฉัน ก็จะคงมีผู้หญิงคอยดักโจมตีฉันแล้วก็พูดกับฉันว่า ‘นี่เธอบังอาจแกล้งผู้ชายของฉันด้วยการแสดงใบหน้าที่น่ารังเกียจนั่นให้ดูเพื่อจะไถตังอย่างงั้นเหรอ’ เลยล่ะค่ะ”

“อะ โอ้…”

 

ว่าไงดี พูดซะผมเห็นภาพเลย

รู้สึกว่าไม่ทำให้บรรยากาศมันแย่ไปกว่านี้น่าจะดีกว่า ผมพยักหน้าหงึกๆ

อะไรฟะนั่น สิ่งที่เรียกว่าเมืองหลวงมันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ…..

ผมอาศัยอยู่ที่เมืองคาสซานดร้ามาตลอด เท่าที่จำได้ผมไม่เคยไปที่เมืองหลวงเลยสักครั้ง

ผมก็มีความชื่นชมเมืองหลวงอยู่บ้าง ผมเคยคิดว่าถ้าผมมีเงินเก็บแล้วก็อยากจะลองไปที่นั่นดูสักครั้ง

ดูเหมือนจะต้องคิดใหม่ซะแล้วสิ

 

“เอ่อ คือ แบบว่า..”

ผมพยายามปลอบใจคุณไอริสที่ทำท่าทางหดหู่

ในขณะที่ผมขยับตัวเข้าไปใกล้กับคุณไอริส ตาของผมก็จับจ้องไปที่หัวนมสีชมพูของคุณไอริส แล้วมือทั้งสองข้างของผมก็ยื่นออกไปโดยสัญชาตญาณ

 

“อ๊า….♡”

“ถ้าอย่างงั้น เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าฉันจะไม่หนีไปไหน คราวนี้เรามามีเซ็กส์กันดีมั้ย?”

“เอ๊ะ!?”

“เมื่อกี้คุณไอริสทำให้รู้สึกดีไปแล้วก็จริง แต่ตอนนี้ฉันได้พักนิดหน่อยและกลับมาฟิตปั๋งแล้วล่ะ”

“มะ ไม่ใช่แค่ให้ฉันใช้ปากอย่างเดียว แต่จะให้ฉันได้ทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ!? “

“ถ้าคุณไอริสไม่ว่าอะไร ฉันก็โอเคอยู่แล้ว”

“ทะ ทำค่ะ ดะ ได้โปรดให้ฉันทำด้วยเถอะค่ะ! พะ เพียงเท่านี้ฉันก็จะได้เสียความบริสุทธิ์ครั้งแรกในชีวิต 110 ปีนี่ซักที!”

 

อ๊ะ อายุ 110 ปีสินะครับเนี่ย สมกับเป็นเอลฟ์แลยแฮะ

ใขณะที่คุณไอริสกำลังขยับหน้าเข้ามาใกล้ผม เธอก็ทำแก้มป่อง

 

แต่ว่า ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงใครบางคนเคาะประตูบ้านของผม

อะไรน่ะ? นี่มันก็ 5 ทุ่มกว่าแล้วนะ ใครมาที่บ้านของผมในเวลานี้กันนะ?

หรือว่าแถวๆนี้มีไฟไหม้งั้นเหรอ?

 

ผมปล่อยคุณไอริสที่อยู่ในอ้อมแขนของผมออก จากนั้นก็เดินไปใส่เสื้อผ้าที่พาดอยู่บนเก้าอี้ห้องนั่งเล่น

แล้วจากนั้นก็เดินไปที่ประตู

ไม่รู้เพราะอะไรแต่คุณไอริสดูหน้าซีด แต่อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้มันมืด ผมเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร

 

“ครับ มีอะไร……”

“ไง เรียว ผ่านไปวันนึงแล้วสินะ”

 

ทันทีที่ผมเปิดประตู คนที่พูดกับผม ไม่ใช่ใคร แต่คือคุณนักรบสาวแห่งปาร์ตี้ โรเซนครูเซอร์ คุณคาร์ล่านั่นเอง

 

“คุณคาร์ล่า!? ทำไมถึงรู้ที่อยู่ของฉันล่ะ….”

“ให้พวกพ้องใช้เวทย์มนต์ค้นหาดูน่ะ”

“อ่าา อย่างนี้นี่เอง”

 

ถ้าจำไม่ผิดคุณไอริสก็บอกว่ามีที่ผู้ใช้เวทย์ค้นหาอยู่ในปาร์ตี้ด้วยนี่นะ

 

“โทษทีนะเรียว ฉันก็ไม่ได้อยากจะมารบกวนหรอกนะ…”

 

คุณคาร์ล่าพูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด ผมเลยตอบเธอไปว่า “ไม่เป็นไรครับ”

แต่อยู่ๆท่าทางของคุณคาร์ล่าก็เปลี่ยนไป

จากตอนแรกที่เธอขอโทษและมองมาที่ผม สายตาของเธอเปลี่ยนไปมองที่ด้านหลังของผมด้วยสายตาเหมือนสัตว์ป่า

 

“ในเวลาดึกดื่นแบบนี้ เห็นไอริสไม่กลับมาซักทีก็เลยเป็นห่วง ฉันถามจากสึกิคาเงะมาแล้วนะ เธอบอกมาว่าพนักงานต้อนรับกิลด์นักผจญภัยมีบางอย่างที่น่าสงสัย แล้วเธอก็ออกมาคนเดียวสินะ?”

 

สึกิคาเงะ….สึกิคาเงะ นั่นคือชื่อของมนุษย์สัตว์หญิงจากประเทศทางตะวันออกสินะ

พูดให้ถูก คุณสึกิคาเงะก็คือนักเวทย์หูจิ้งจอกที่ผมเห็นในกิลด์เมื่อตอนนั้นนั่นเอง

แต่ว่า จะว่าไงดีล่ะแบบนี้

คุณคาร์ล่าโกรธอยู่อย่างงั้นเหรอ?

ผมเหลือบมองไปข้างหลัง

คุณไอริสดูเหมือนจะซ่อนอยู่ที่ห้องนอน เหมือนเธอจะรู้ว่าคุณคาร์ล่ากำลังมา

จากที่ฟังมา เหมือนเวทย์ค้นหาของพวกพ้องของพวกเธอจะทำให้รู้ว่าเธออยู่ที่นี่นะ

เพราะงั้นถึงจะซ่อนไปก็คงความแตกอยู่ดี เธอเลยเดินออกมาอย่างเขินอาย

แล้วเธอก็ได้รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาแล้ว

 

“นี่ ไอริส? เธอน่ะ มาทำอะไรที่นี่กัน?”

คุณคาร์ล่ายืนยิ้มอยู่ข้างหลังของผม

รอยยิ้มนั่นช่างงดงามก็จริง แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบเลย

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset