“ย่าาาาห์ ยังไงก็เถอะ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชีวิตนี้ผมจะได้ทำเรื่องแบบนี้กับเอลฟ์สาว”
ในโลกเดิมของผม ถึงแม้จะร่ำรวยเงินทองแค่ไหนก็ไม่มีทางได้เข้าใกล้เอลฟ์หรอก
แล้วตอนนี้เป็นยังไง
คุณนักรบสาวคาร์ล่าก็อ้าขาให้ผมรับเอาความบริสุทธิ์ไป
คุณเอลฟ์ไอริสก็จับผมแน่นแล้วยังทั้งดูดทั้งอมดุ้นของผม
โลกที่จำนวนผู้ชายน้อยและค่านิยมของความงามยังสลับกัน
ตอนแรกผมกังวลใจสุดๆเลยกับการที่ถูกย้ายมาโลกที่กลับด้านแบบนี้
แต่ตอนนี้ไม่เลย—โลกนี้แม่มของโคตรดีย์เลยฟ่ะ
“เพียงแค่ใช้เวลากับทั้งสองคนนี้ทั้งคืน ก็แทบจะรู้สึกเหมือนได้รับการตอบแทนน้ำใจที่โอริออนดีลมอบให้อย่างเต็มที่ เจอกันครั้งหน้าสงสัยต้องขอบคุณซะแล้วมั้ง? อ่า ไม่สิ แบบนั้นมันอันตรายแฮะ”
ในตอนที่ผมมายังโลกนี้ เป็นเหมือนการถูกบังคับย้ายมาเลย ในช่วงจังหวะที่ตอนนั้นผมพูดกับเธอว่า “ได้โปรดหยุดทีเท้ออออ”
ถ้าไปขอบคุณโอริออนดีลก็ไม่รู้เลยว่าครั้งหน้าจะเจออะไรอีก
แถมยัง “ช่างเป็นคนที่ถ่อมตัวอะไรแบบนี้…! ฉันจะช่วยสนับสนุนคุณเองค่ะ!” แล้วก็ลงท้ายด้วยการเรียก ‘คุณผู้มีพระคุณ’
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เวลาสงบสุขแบบนี้ดีที่สุด ผมจึงต้องพยายามรักษาสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ให้ได้นานที่สุดก็พอ
ต่อให้ผมจะทำอะไรผิดพลาดก็ตาม ยกเว้นแค่เรื่องเดียวที่ผมจะไม่พลาดท่าก็คือผมจะไม่พูดอะไรพล่อยๆต่อหน้าภูติตนนั้นเด็ดขาดเลย!
“หืม เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?”
ในตอนที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่คนเดียวและนั่งจิบชาไปด้วยในห้องนั่งเล่น ผมก็ได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลังผม และผมก็หันหลังกลับไป
ผมมองไปที่ตรงนั้น ผมก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนนึงที่เปลือยอยู่พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่งพันรอบร่างกายที่เปล่งประกายราวไข่มุกนั่น
แน่นอนว่า นั่นคือคุณไอริส
ดวงตาที่งดงามดั่งทะเลจ้องมาที่ผลด้วยสายตาเป็นกังวล
หลังจากที่เธอใช้ปากทำให้ผมจนเสร็จ ผมได้บอกให้คุณไอริสไปทำความสะอาดร่างกายและปากของเธอ
ผมจึงให้เธอไปอาบน้ำ นั่นเป็นผลให้ตอนนี้มีไอน้ำอยู่รอบตัวคุณไอริสเต็มไปหมด
“โทษที พอดีคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”
“อย่างงั้นเหรอคะ…..”
หลังจากที่ผมพูดไปแบบนั่งเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆผมด้วยความโล่งใจ
อะไรน่ะ? คุณไอริสเอียงคอแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ไม่สิ คือว่า…..ก็รู้สึกกังวลนิดหน่อยน่ะค่ะ เรื่องที่คุณเรียวเคยบอกว่าค่านิยมกลับกันกับคนอื่นตั้งแต่เกิดนั่นน่ะค่ะ ก็รู้แล้วล่ะค่ะว่านั่นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ก็อย่างที่คิด ที่ไหนสักแห่งในใจของฉันยังคิดว่า’เรื่องเพ้อฝันแบบนั้นมันจะเป็นจริงได้จริงหรอก’ น่ะค่ะ”
“?”
อืม? ไม่รู้จริงๆว่าหมายความว่าไง
ผมเอียงคอเล็กน้อย และคุณไอริสก็พูดต่ออย่างช้าๆ
“พูดใช้ชัดก็คือ….แบบว่า….ฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่าบางทีคุณอาจจะกลัวและวิ่งหนีฉันไปก็ได้….”
“ไม่หนีไปไหนทั้งนั้นแหละน่า ที่นี่มันบ้านของฉันนะ?”
ผมตอบคำถามของคุณไอริสด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
แต่คุณไอริสกลับมีท่าทางจริงจังมาก
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเป็นบ้านใครหรอกค่ะ ถ้าเป็นตามปกติล่ะก็ ต่อให้ฉันเป็นที่บ้านฉัน ก็จะคงมีผู้หญิงคอยดักโจมตีฉันแล้วก็พูดกับฉันว่า ‘นี่เธอบังอาจแกล้งผู้ชายของฉันด้วยการแสดงใบหน้าที่น่ารังเกียจนั่นให้ดูเพื่อจะไถตังอย่างงั้นเหรอ’ เลยล่ะค่ะ”
“อะ โอ้…”
ว่าไงดี พูดซะผมเห็นภาพเลย
รู้สึกว่าไม่ทำให้บรรยากาศมันแย่ไปกว่านี้น่าจะดีกว่า ผมพยักหน้าหงึกๆ
อะไรฟะนั่น สิ่งที่เรียกว่าเมืองหลวงมันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ…..
ผมอาศัยอยู่ที่เมืองคาสซานดร้ามาตลอด เท่าที่จำได้ผมไม่เคยไปที่เมืองหลวงเลยสักครั้ง
ผมก็มีความชื่นชมเมืองหลวงอยู่บ้าง ผมเคยคิดว่าถ้าผมมีเงินเก็บแล้วก็อยากจะลองไปที่นั่นดูสักครั้ง
ดูเหมือนจะต้องคิดใหม่ซะแล้วสิ
“เอ่อ คือ แบบว่า..”
ผมพยายามปลอบใจคุณไอริสที่ทำท่าทางหดหู่
ในขณะที่ผมขยับตัวเข้าไปใกล้กับคุณไอริส ตาของผมก็จับจ้องไปที่หัวนมสีชมพูของคุณไอริส แล้วมือทั้งสองข้างของผมก็ยื่นออกไปโดยสัญชาตญาณ
“อ๊า….♡”
“ถ้าอย่างงั้น เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าฉันจะไม่หนีไปไหน คราวนี้เรามามีเซ็กส์กันดีมั้ย?”
“เอ๊ะ!?”
“เมื่อกี้คุณไอริสทำให้รู้สึกดีไปแล้วก็จริง แต่ตอนนี้ฉันได้พักนิดหน่อยและกลับมาฟิตปั๋งแล้วล่ะ”
“มะ ไม่ใช่แค่ให้ฉันใช้ปากอย่างเดียว แต่จะให้ฉันได้ทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ!? “
“ถ้าคุณไอริสไม่ว่าอะไร ฉันก็โอเคอยู่แล้ว”
“ทะ ทำค่ะ ดะ ได้โปรดให้ฉันทำด้วยเถอะค่ะ! พะ เพียงเท่านี้ฉันก็จะได้เสียความบริสุทธิ์ครั้งแรกในชีวิต 110 ปีนี่ซักที!”
อ๊ะ อายุ 110 ปีสินะครับเนี่ย สมกับเป็นเอลฟ์แลยแฮะ
ใขณะที่คุณไอริสกำลังขยับหน้าเข้ามาใกล้ผม เธอก็ทำแก้มป่อง
แต่ว่า ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงใครบางคนเคาะประตูบ้านของผม
อะไรน่ะ? นี่มันก็ 5 ทุ่มกว่าแล้วนะ ใครมาที่บ้านของผมในเวลานี้กันนะ?
หรือว่าแถวๆนี้มีไฟไหม้งั้นเหรอ?
ผมปล่อยคุณไอริสที่อยู่ในอ้อมแขนของผมออก จากนั้นก็เดินไปใส่เสื้อผ้าที่พาดอยู่บนเก้าอี้ห้องนั่งเล่น
แล้วจากนั้นก็เดินไปที่ประตู
ไม่รู้เพราะอะไรแต่คุณไอริสดูหน้าซีด แต่อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้มันมืด ผมเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
“ครับ มีอะไร……”
“ไง เรียว ผ่านไปวันนึงแล้วสินะ”
ทันทีที่ผมเปิดประตู คนที่พูดกับผม ไม่ใช่ใคร แต่คือคุณนักรบสาวแห่งปาร์ตี้ โรเซนครูเซอร์ คุณคาร์ล่านั่นเอง
“คุณคาร์ล่า!? ทำไมถึงรู้ที่อยู่ของฉันล่ะ….”
“ให้พวกพ้องใช้เวทย์มนต์ค้นหาดูน่ะ”
“อ่าา อย่างนี้นี่เอง”
ถ้าจำไม่ผิดคุณไอริสก็บอกว่ามีที่ผู้ใช้เวทย์ค้นหาอยู่ในปาร์ตี้ด้วยนี่นะ
“โทษทีนะเรียว ฉันก็ไม่ได้อยากจะมารบกวนหรอกนะ…”
คุณคาร์ล่าพูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด ผมเลยตอบเธอไปว่า “ไม่เป็นไรครับ”
แต่อยู่ๆท่าทางของคุณคาร์ล่าก็เปลี่ยนไป
จากตอนแรกที่เธอขอโทษและมองมาที่ผม สายตาของเธอเปลี่ยนไปมองที่ด้านหลังของผมด้วยสายตาเหมือนสัตว์ป่า
“ในเวลาดึกดื่นแบบนี้ เห็นไอริสไม่กลับมาซักทีก็เลยเป็นห่วง ฉันถามจากสึกิคาเงะมาแล้วนะ เธอบอกมาว่าพนักงานต้อนรับกิลด์นักผจญภัยมีบางอย่างที่น่าสงสัย แล้วเธอก็ออกมาคนเดียวสินะ?”
สึกิคาเงะ….สึกิคาเงะ นั่นคือชื่อของมนุษย์สัตว์หญิงจากประเทศทางตะวันออกสินะ
พูดให้ถูก คุณสึกิคาเงะก็คือนักเวทย์หูจิ้งจอกที่ผมเห็นในกิลด์เมื่อตอนนั้นนั่นเอง
แต่ว่า จะว่าไงดีล่ะแบบนี้
คุณคาร์ล่าโกรธอยู่อย่างงั้นเหรอ?
ผมเหลือบมองไปข้างหลัง
คุณไอริสดูเหมือนจะซ่อนอยู่ที่ห้องนอน เหมือนเธอจะรู้ว่าคุณคาร์ล่ากำลังมา
จากที่ฟังมา เหมือนเวทย์ค้นหาของพวกพ้องของพวกเธอจะทำให้รู้ว่าเธออยู่ที่นี่นะ
เพราะงั้นถึงจะซ่อนไปก็คงความแตกอยู่ดี เธอเลยเดินออกมาอย่างเขินอาย
แล้วเธอก็ได้รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาแล้ว
“นี่ ไอริส? เธอน่ะ มาทำอะไรที่นี่กัน?”
คุณคาร์ล่ายืนยิ้มอยู่ข้างหลังของผม
รอยยิ้มนั่นช่างงดงามก็จริง แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบเลย