“……”
“……”
“…..เอ่อคือ จะดื่มอะไรหน่อยมั้ยครับ?”
ถึงผมจะบอกว่าดื่มชาก็เถอะ แต่ผมก็ไม่มีเครื่องดื่มหรือถ้วยชาสำหรับต้อนรับแขกเลย
ทั้งทีรู้แบบนั้น แต่ผมก็ทนต่อบรรยากาศอันเงียบงันแบบนี้ไม่ได้
“……”
“……”
นักรบสาวผมแดงคุณคาร์ล่าจ้องไปที่คุณไอริสที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะด้วยสายตาที่ต้องบอกได้ว่าสมกับเป็นนักผจญภัยระดับ S แล้วล่ะนะ
แววตาจิตสังหารนั่นของเธอ ถ้าเป็นมอนสเตอร์ธรรมดาๆก็คงจะหนีเผ่นป่าราบไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน คุณไอริสก็ทำแก้มป่อง เบนหน้าไปทางอื่น ท่าทางของเธอนั้นแน่วแน่มาก เหมือนจะบอกว่า’ฉันไม่ผิดซักหน่อย’ ยังไงยังงั้น
“จะว่าไปแล้ว ทำไมไอริสถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“นั่นมัน…”
“ที่คุณไอริสมาหาผมก็เป็นเพราะว่าเธอเป็นห่วงว่าคุณคาร์ล่าจะถูกผู้ชายเลวๆหลอกใช้รึเปล่าก็แค่นั้นเองครับ”
(พูดสุภาพเชียวนะพ่อหนุ่ม)
ผมรีบเปิดปาดพูดให้คุณคาร์ล่าที่กำลังจ้องคุณไอริสอยู่ฟัง
เมื่อเธอได้ยินคำตอบของผม สายตาของเธอก็ดุร้ายน้อยลงนิดหน่อย
“ปะ เป็นอย่างงั้นเองเหรอ? นี่เพราะเป็นห่วงเรื่องฉันเองงั้นเหรอ?….ไม่สิ แต่เดี๋ยวก่อนนะ! ถ้างั้นแล้วไอริสกับเรียวมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำเรื่องลามกกันด้วยล่ะ!?”
“ไม่ๆ คือนั่นน่ะก็เพื่อที่จะอธิบายเรื่องค่านิยมของผมไงล่ะ”
“ค่านิยมของเรียว?”
ผมพยายามอธิบายเรื่องที่ทำกับคุณไอริสให้คุณคาร์ล่าฟัง แต่ถึงอย่างงั้นคุณคาร์ล่าก็ยังคงทำตาขรึมอยู่
“เป็นอย่างงั้นเองเหรอ แต่นั่นมันก็เป็นแค่การแก้ตัวให้ไอริสนี่นา ตามปกติแล้วก็คงต้องเรียกสึกิคาเงะมาแล้วใช้เวทย์อ่านใจซะก็จะได้รู้ว่าเรียวพูดโกหกรึเปล่า”
“อึก….!”
คุณไอริสหมดคำจะพูดหลังจากที่ได้ยินคุณคาร์ล่าพูดแบบนั้น
สำหรับผมแล้ว ผมถึงกับเอียงคอเพราะเหมือนจะได้ยินเรื่องสุดจะเหลือเชื่อเข้าซะแล้ว
“เวทย์อ่านใจ? นี่จะสามารถอ่านใจได้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดอะไรอยู่แบบนี้หรอครับ?”
“ก็ไม่ได้ละเอียดขนาดว่าอ่านความคิดได้ขนาดนั้นเลยหรอก แต่สามารถบอกได้แน่นอนว่าใครกำลังพูดโกหกน่ะ”
“สุดยอด มีเวทย์มนต์ที่สุดยอดแบบนั้นอยู่ด้วยสินะครับ”
“นั่นน่ะเป็นเวทย์หายากที่มีเพียงแค่ไม่กี่คนในประเทศตะวันออกที่ใช้ได้ด้วยซ้ำนะ ไอริส นี่เธอเก็บเงียบเรื่องเวทย์มนต์ของสึกิคาเงะไว้เป็นความลับไม่ให้เรียวรู้งั้นเหรอ?”
“อึก กะ..ก็เพราะ ถ้าพูดเรื่องน้ันออกไปล่ะก็ คือว่า…..”
เอ๋? จะว่าไปถ้าพูดถึงเวทย์มนต์แล้วล่ะก็
“คุณคาร์ล่าก็ใช้เวทย์ค้นหาของพวกพ้องเพื่อตามหาคุณไอริสแล้วก็มาที่บ้านของผมเหมือนกันงั้นหรอครับ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“เวทย์ค้นหาเนี่ย สามารถรู้ได้ถึงขั้นว่าเป้าหมายทำอะไรอยู่เลยเหรอครับ?”
แรกเริ่มเดิมทีเลย ทำไมคุณคาร์ล่าถึงรู้กันล่ะว่าผมกำลังทำเรื่องอย่างว่ากันอยู่ในบ้านหลังนี้?
เวทย์ค้นหาก็ตามชื่อ คือค้นหาตำแหน่งของสมาชิกในปาร์ตึ้และมอนสเตอร์
แต่ว่า พวกเขาไม่น่าจะรู้ว่าเป้าหมายกำลังทำอไรอยู่นี่นา
“นะ นั่นมัน…”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอยู่ๆคุณคาร์ล่าก็หน้าแดงแล้วหลับตาลง
“…คาร์ล่า อย่างที่คิด นี่เธอแอบฟังที่ฉันกับคุณเรียวคุยกันอยู่ใช่มั้ยคะ?”
“เอ๊ะ!?”
“กะ ก็เพราะไอริสไม่กลับมาซักที ฉันรู้สึกเป็นห่วงก็เลยขอให้สึกิคาเงะค้นหาตัวเธอด้วยเวทย์คนหาน่ะสิ แต่ไม่รู้ทำไมถึงเห็นไอริสถึงอยู่กับเรียว! แล้วพอตามทั้งสองคนไปก็เห็นว่าเดินเข้าไปในบ้านไปด้วยกัน ก็เลย….”
“นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านั่นจะเอามาใช้เป็นเหตุผลในการดักฟังคนอื่นได้นะคะ ถึงจะเป็นพวกพ้องกันก็เถอะ แต่นี่มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคุณเรียวเขานะคะ!”
“ถะ ถึงจะเป็นงั้นก็เถอะ! งั้นจะบอกว่าที่เธอเข้าบ้านไปด้วยกันนี่มันได้อย่างงั้นเหรอ!? ถ้าจะพูดถึงฝ่ายที่เป็นปัญหาแล้วล่ะก็มันคือทางนั้นไม่ใช่รึไง”
“อึก ถึงแม้มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆก็เถอะ แต่….”
“เพราะฉะนั้น สรุปแล้วฝ่ายที่ผิดไม่ใช่ฉันซะหน่อย”
ยะ ยังไงก็ตาม ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าคุณคาร์ล่าจะแอบฟังจริงๆสินะ แต่ทำไมล่ะ?
“แรกเริ่มเดิมทีเลย ทำไมไอริสถึงเข้าหาเรียวล่ะ! ฉะ ฉันเป็นคนเข้าหาเขาคนแรกแท้ๆ ทั้งที่ตอนอยู่ที่บาร์นั่นเธอยังคอยพยายามจะหยุดฉันอยู่เลยแท้ๆ!”
“กะ ก็ตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่าคุณเรียวเป็นคนยังไงนี่นา”
“ถ้าอย่างงั้นสัญญาสิว่าจะไม่เข้ามายุ่งกับเรียวอีก!?”
“นะ นั่นมัน….”
ในตอนนั้นเอง คุณไอริสไก็ไม่พูดอะไรซักคำ ได้แต่ก้มหน้าลงแบบเงียบๆ
เมื่อเห็นคุณไอริสเป็นแบบนั้น คุณคาร์ล่าก็ได้พูดออกมาด้วยความสงสัย
“ไอริส?”
“….โกง….ค่ะ”
“เอ๊ะ?”
“นั่นน่ะ มีแค่คาร์ล่าคนเดียว มันขี้โกงนี่คะ”
คุณไอริสเงยหน้าขึ้นมาพร้อมน้ำตา เธอจ้องกลับไปหาคุณคาร์ล่า
“พวกเรา ‘โรเซนครูเซอร์น่ะ’สาบานกันไว้ว่าจะซัพพอร์ตซึ่งกันและกันและแสวงหาผลประโยชน์ไปด้วยกันในฐานะนักผจญภัยไม่ใช่รึไงคะ? ฉันรู้ว่าเรื่องที่จะได้แต่งงานเอย ทั้งเรื่องที่จะมีคนรักเอยนั่นน่ะ อย่างพวกเรามันคงเป็นไปไม่ได้ตลอดชีวิต นั่นเลยทำให้พวกเราสี่คนกลายเป็นนักผจญภัยที่ใช้ชีวิตโสดอย่างโดดเดี่ยวมาตลอด!”
ครึ่งแรกเหมือนจะดีนะ แต่ครึ่งหลังนี่ไม่น่าพูดเลย!
“ทั้งที่เป็นอย่างนั้น เธอเสียความบริสุทธิ์ไปคนเดียวแล้ว กลับพูดแบบนี้งั้นหรอคะ!?”
“อึก”
“ก็จริงอยู่ที่ฉันใช้ข้ออ้างเพื่อที่จะทำเรื่องลากมกกับคุณเรียว! แล้วก็จริงอยู่ที่ฉันไปหาเขาโดยมีจุดประสงค์แอบแฝง! แต่ว่าคาร์ล่าน่ะเป็นคนแรกที่ทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลังแล้วเสียความบริสุทธิ์ไปคนเดียวเลยไม่ใช่รึไงคะ??”
“ถะ ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ…”
ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร คำพูดนั้นของคุณไอริสทำให้คุณคาร์ล่าต้องถึงกับรู้สึกผิด เพราะอะไรกันนะ?
“นอกจากนี้ ฉันเองก็คิดว่าคุณเรียวเป็นคนดีตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่กิลด์นักผจญภัยนั่นแล้วล่ะค่ะ! ทั้งที่เห็นหน้าพวกเราแต่เขากลับไม่ขมวดคิ้วใส่เลย
แถมยังพูดแบบใจดีกับพวกเราอีกด้วย แต่ว่า ตอนที่ได้เจอกันที่บาร์ตอนนั้น กลับไม่มีความกล้าที่จะพูดคุยด้วยเลย”
เอ๊ะ กิลด์นักผจญภัยที่เมืองหลวงเป็นแบบนั้นเรอะ? ไม่ใช่ว่าตอนที่เจอพนักงานต้อนรับ มันมีแมลงไปโผล่แถวนั้นพอดีอะไรแบบนี้หรอกนะ ถึงจะเป็นอย่างงั้นก็ไม่ควรจะปฏิบัติกับนักผจญภัยแบบนั้นไม่ใช่รึไงฟะ
“ถึงฉันจะมาช้ากว่าคาร์ล่า แต่การที่คาร์ล่าจะฮุบคุณเรียวเอาไว้คนเดียวมันก็ขี้โกงไปหน่อยนะคะ! ตอนนี้ฉันได้แค่ใช้ปากอมของเขาเท่านั้นเองค่ะ! ฉันเองก็อยากจะเสียความบริสุทธิ์เหมือนกันนะคะ!”
“เอ๊ะ ใช้ปากไปแล้วงั้นเหรอ? ถ้างั้นไอริสก็ขี้โกงเหมือนกันน่ะสิ แม้แต่ฉันก็ยังไม่ได้ทำแบบนั้นเลยนะ!”
“เอ่อคือ ยังไงก่อนอื่นก็เลิกเถียงกันเสียงดังว่าใครจะอมใครจะเสียความบริสุทธิ์ก่อนจะได้มั้ยครับ??”
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พรุ่งนี้เพื่อนบ้านจะมองผมเป็นคนยังไง!
โถ่เว้ย ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปถ้าผมเจอเพื่อนบ้านผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดีล่ะเนี่ย!?
ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆล่ะก็ มั่นใจเลยว่าผมคงถูกประนามไปทั่วเมืองคาสซ่านดร้าว่าเป็นไอ้ระยำที่สุดในเมืองแน่ๆ!
อืม มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเลย!
อืม…? ไม่สิ โลกคู่ขนานนี่ ไม่น่าจะเป็นคนสารเลวหรอกมั้ง?
ถ้าจะให้พูดก็คือในมุมมองของโลกนี้ ก็เหมือนผู้หญิเลวคนหนึ่ง ซึ่งก็คงไม่ถูกประนามหรอกมั้ง
(อารมณ์แบบ ถ้าเป็นผู้ชายโลกเดิมพระเอกน่าจะโดนรุมประนามเลย แต่ผู้หญิงก็จะถูกหาว่าแค่สำส่อน)
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ก็ไม่ควรให้ทั้งสองคนพูดกันต่อไปเรื่อยๆแบบนี้เด็ดขาด!
หากการทะเลาะกันของคุณไอริสกับคุณคาร์ล่ายังคงดำเนินต่อไปแบบนี้เรื่อยๆล่ะก็ มันอาจจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการสำรวจดันเจี้ยนหมาป่า ของโรเซนครูเซอร์ก็ได้
เพราะอย่างงั้นแหละ ถ้าโรเซนครูเซอร์ต้องมาหยุดสำรวจดันเจี้ยนเพียงเพราะเรื่องนี้เป็นเหตุละก็คงแย่แน่!
ถ้ากิลด์มาสเตอร์รู้ว่าผมเป็นต้นเหตุล่ะก็ ผมคงถูกลงโทษแน่ๆ อย่างเบาที่สุดก็คงต้องบอกลาเงินโบนัสไปได้เลย
ยะ ยังไงก็ตาม ผมต้องเจรจากับทั้งสองคนให้ได้!
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แล้วจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?
สถานการณ์ตอนนี้ คุณคาร์ล่ากับคุณไอริสน่ะ เหมือนผมกำลังต่อสู้กับทั้งสองคนอยู่เลย
หรือก็คือ ถ้าเปรียบเทียบตามมาตรฐานโลกเดิมของผม สถานการณ์ตอนนี้เปรียบเทียบก็คงเหมือนผู้ชายที่ไม่เป็นที่นิยม 2 คน กำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งผู้หญิงเลวๆคนนึง
ในสถานการณ์แบบนี้ ต้องคิดให้ดี….
ร่าน…ใช่แล้ว! ยัยร่านไงล่ะ!
“….คือว่า”
ผมกลืนน้ำลายเอื้อก แล้วมองไปหาคุณคาร์ล่า
“อะ อะไรหรอเรียว?”
“เมื่อกี้ทั้งสองคนพูดอะไรกันตามใจชอบเลยนะ แค่ทำกันครั้งเดียวแค่นี้ก็อย่าเพิ่งข้าใจผิดกันไปเองสิครับ”
“เอ๊ะ”
คะ โคตรรู้สึกผิดเลยเว้ยยย!!
ตอนเห็นใบหน้าคุณคาร์ล่าตกตะลึง ผมนี่แทบอยากจะพูดออกไปทันทีว่า ‘ผมขอโทษ เมื่อกี้แค่ล้อเล่นครับ’
แต่ผมจะทำแบบนั้นไม่ได้ การที่ผมจะหยุดยั้งเหตุการณ์นี้ได้ มีแต่ผมจะต้องเป็นคนเลวเองเท่านั้น
“เอ๊ะ ตะ แต่ว่า ทั้งที่เรียวใจดีกับฉันมากขนาดนั้นแท้ๆ….”
“เหมือนกับการบริการด้วยปากไงครับ ผมน่ะ ไม่ได้มีความคิดที่จะคบกับคุณคาร์ล่าหรอกนะครับ ถ้าคิดแบบนั้นผมก็ลำบากสิครับ”
“อ๊ะ….”
“ทั้งคุณคาร์ล่าและคุณไอริสเองต่างก็เป็นนักผจญภัยแรงค์ S ที่นานๆทีจะมาถึงเมืองนี้ ผมก็เลยบริการให้พวกคุณทั้งสองคนเล็กน้อยยังไงล่ะครับ
ทีนี้ก็เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ ทั้งสองคนจะกลับบ้านกันเร็วมั้ยครับ? แต่ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำกับคุณไอริสอยู่นะ
ถ้าไม่อย่างนั้นผมก็หมดธุระแล้วล่ะครับ”
ใช่แล้ว เพื่อที่จะทำให้ทั้งสองคนที่กำลังทะเลาะกันร่วมมือกัน สิ่งที่จำเป็นจะต้องสร้างมือที่สามเข้ามาเป็นศัตรูร่วมของทั้งสองฝ่าย
เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูร่วมนั้น ซึ่งนั่นก็คือตัวผมเอง
ผมมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าลำบากใจ
ทั้งสองคนทำหน้ายังกับตาลุงในโลกเดิมของผมที่โดนผู้หญิงเล่นกับความรู้สึกเลย
จากนั้นผมก็ลุกไปที่หน้าประตูแล้วเปิดประตูออก จากนั้นจึงชี้ไปที่ประตู
ทั้งสองคนเดินออกไป
จนถึงตอนนี้คุณคาร์ล่าก็มองมาที่ผมด้วยสายตาที่แบบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
แต่หลังจากที่เห็นว่าผมไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนไปเลย น้ำตาของพวกเธอก็เริ่มไหลออกมา
“ฮึก….”
และจากนั้นน้ำตาก็ไหลอาบแก้มของคุณคาร์ล่า แล้วเธอก็ก้มหน้ารีบวิ่งออกจากบ้านของผม
“คะ คาร์ล่า!”
คุณไอริสมองมาที่หน้าของผม แล้วก็มองไปยังแผ่นหลังของคุณคาร์ล่าที่กำลังวิ่งจากไป
เธอลังเล็กน้อยแล้วจากนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจเดินตามคุณคาร์ล่าไป
ระหว่างที่เธอเดินผ่านตัวผมไป เธอก็กระซิบบอกผมเบาๆ “คุณเรียว ขอบคุณมากนะคะ” หลังจากนั้นเธอก็เดินออกจากบ้านไป
อา อย่างที่คิด คุณไอริสรู้สินะว่าสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้มันเป็นแค่การแสดง
เพราะในตอนที่ผมคุยกับเธออยู่ในซอยตอนนั้นผมพูดกับเธอว่า ‘ผมไม่รังเกียจที่จะเป็นคนรักของคุณคาร์ล่า’ สินะ
เอาเถอะ ผมก็ทำเท่าที่ทำได้ไปแล้ว
แบบนี้แหละ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณคาร์ล่ากับคุณไอริสจะได้ไม่ตึงเครียดต่อกัน
ยังไงผมก็ดีใจนะ ที่ปาร์ตี้แรงค์ S จากเมืองหลวงจะไม่ต้องมาแตกกันเพราะผม
“เฮ้อ การเป็นยัยร่านนี่มันยากจริงๆเลย….”
ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นยัยร่านของโลกเดิมเขาจะทำยังไงกันนะ?
เมื่อไม่นานมานี้ผมยังคิดว่าโลกนี้สุดยอดที่สุดอยู่เลยแท้ๆ…..