นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 106

 

 

(ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายของภาคพิเศษแล้วครับ แต่เดี๋ยวจะมีตอนไว้พูดคุยหลังจบกันด้วย เพราะงั้นอ่านตอนสุดท้ายให้จบก่อนแล้วมาคุยกันนะครับ พอดีผมมีเรื่องอยากพูด5555)

(แล้วก็มังงะเจอกันวันพรุ่งนี้ตอนเย็นนะครับ)

 

——————————————————————————–

 

หลังจากนั้นลิลิธจังก็ค่อยๆเล่าเรื่องของตัวเองให้ผมฟังทีละน้อย

เรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ของเธอ เรื่องของครอบครัวของเธอ

เรื่องที่ว่าในตระกูลนั้นมีเพียงแค่ท่านทวดเท่านั้นที่ใจดีกับเธอด้วย

 

จริงๆแล้วเองเธอก็อยากจะสนิทกับคุณซิลเวียอยู่เหมือนกัน

แต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดีที่จะต้องเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับคุณซิลเวีย

ที่มีพ่อแม่คอยมอบความรักให้

 

 

แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างหนักและเข้าเรียนสถาบันเวทย์มนตร์ที่ดีที่สุดได้

แต่คุณแม่ของเธอก็ไม่แม้แต่จะมาในพิธีเข้าเรียนเลย

การจะหาเพื่อนในสถาบันเวทย์มนตร์นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน

 

“โอคุงคนนั้นน่ะ เป็นเพื่อนร่วมชั้นน่ะนะ แต่ผลการเรียนของเขาไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ แล้วลิลิธก็ได้ยินข่าวลือมาว่าเขาอาจจะต้องถูกไล่ออก ลิลิธก็เลยไปติดต่อทำข้อตกลงกับเขาไว้ว่าถ้ามาที่หมู่บ้านด้วยกันในฐานะคู่หมั้นปลอมๆของลิลิธล่ะก็ ลิลิธก็จะเขียนวิทยานิพนธ์เพื่อใช้เลื่อนชั้นให้ แล้วพอบอกเขาไปด้วยว่าไม่จำเป็นที่จะต้องจดทะเบียนสมรสกันจริงๆ เขาก็ยอมรับข้อตกลงในทันทีเลยน่ะนะ”

 

“งี้นี่เอง ถ้างั้นก็แปลว่าการเลื่อนชั้นนี่มันก็เป็นเรื่องยากจริงๆล่ะสินะ”

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ซักพัก ผมก็ได้ถามลิลิธจังออกไปด้วยความระมัดระวัง

 

“เมื่อกี้นี้…ถึงจะบอกไปว่าจะเขียนวิทยานิพนธ์แทนให้ทั้ง 3 อย่างก็เถอะ แต่นั่นน่ะจะไหวแน่เหรอ?”

 

ผมคิดว่าผมมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนั้นด้วย  

แต่ก็แอบรู้สึกผิดนิดหน่อยนะเนี่ย 

ว่าถ้าทำให้ลิลิธจังต้องพยายามหนักมากเกินไปจะทำยังไงดีน่ะ

 

แต่ว่าลิลิธจังก็ได้ส่ายหัวด้วยใบหน้าที่ดูสดชื่น 

กลับกันกับความกังวลของผมเลยล่ะ

 

“อืม…สำหรับเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้น่ะ ถือว่าช่างมันไปก็แล้วกัน เพราะว่าลิลิธจะไปบอกกับท่านทวดว่าลิลิธกับโอคุงไม่ได้เป็นคู่หมั้นกันจริงๆ และก็จะไม่รับมรดกแล้วด้วยล่ะ”

 

“เอ๊ะ จะไม่รับงั้นเหรอ?”

 

ลิลิธจังเงยหน้าของมองมาที่ผม

สีหน้าของเธอดูสดใสมากราวกับว่าเธอได้สลัดอะไรบางอย่างออกไปแล้ว

 

“อื้ม ไม่เป็นไรหรอก พอได้คุยกับคุณพี่แล้วมันทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นแล้วล่ะ….ตอนนี้เลยอยากจะลองพยายามทั้งเรื่องของปะป๊า หม่าม๊าหรือเรื่องของตัวเองดูอีกซักครั้งแล้วล่ะ”

 

“งั้นเหรอ”

 

“เอาเถอะ แต่สัญญากับโอคุงก็ต้องเป็นสัญญาอยู่ดีล่ะนะ ยังไงตอนกลับไปก็ต้องเขียนแทนให้อยู่ดีแหละ แต่ก็นะ แรกเริ่มเดิมทีแล้วที่สถาบันน่ะถึงจะเขียนวิทยานิพนธ์ไป แต่ถ้าคะแนนสอบแต่ละครั้งไม่ตรงตามที่เกณฑ์กำหนดไว้ยังไงก็เลื่อนชั้นไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละนะ แต่ว่าโอคุงน่ะ จะตั้งใจเรียนให้สอบผ่านได้รึเปล่าน้า?”

 

“ถึงจะแค่เคยได้ยินมาบ้างก็เถอะ แต่ที่สถาบันเวทย์มนตร์นี่เข้มงวดจริงๆแฮะ ถ้าผมไปลงทะเบียนเรียนบ้างล่ะก็ คงจะได้เป็นนักเรียนใหม่ไปตลอดชาติแหงๆ”

 

ผมยิ้มอย่างมีเลศนัย

เพราะที่เมืองคาสซานดร้าน่ะไม่มีโรงเรียนอยู่เลย

ผมก็เลยสังสัยว่าที่สถาบันเวทย์มนตร์เป็นยังไงอยู่หรอกนะ…

แต่เท่าที่ดูแล้วที่นั่นคงจะกลายเป็นที่ที่ผมคงจะต้องอยู่ไปตลอดกาลแหงเลย

 

แต่พอลิลิธจังได้ยินคำพูดนั้นของผม  

ลิลิธจังหันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่เป็นประกาย

 

“อะ อะไรนะ? คุณพี่สนใจสถาบันเวทย์มนตร์งั้นเหรอ?”

 

“หืม? จะว่าสนใจมันก็สนใจอยู่หรอกนะ…”

 

“ถะ ถ้าคุณพี่สนใจล่ะก็ ให้ลิลิธเขียนจดหมายแนะนำให้เลยดีมั้ย? ถ้าเป็นคุณพี่ล่ะก็ ให้ลิลิธทำงานทุกอย่างให้แทน ตั้งแต่เลื่อนชั้นยันจบการศึกษาเลยดีมั้ยนะ? เดี๋ยวเรื่องการสอบลิลิธก็จะช่วยทำอะไรซักอย่างให้เองก็แล้วกันนะ?”

 

“เอ๊ะ ไม่ต้องหรอกๆ ผมเองก็ขอบคุณความรู้สึกนั้นอยู่หรอกนะ แต่อายุของผมน่ะมันไม่น่าจะเหมาะกับการเข้าไปเรียนแล้วใช่มั้ยล่ะ? แถมค่าใช้จ่ายตอนเข้าเรียนครั้งแรกก็สูงมากเลยด้วยนี่?”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ! พวกนักเรียนใหม่ที่อายุเยอะกว่าคุณพี่น่ะก็มีถมเถไปนะรู้มั้ย!? แล้วก็เรื่องค่าธรรมเนียมเข้าเรียนกับค่าเล่าเรียนน่ะ ลิลิธจะจ่ายให้เอง! …อ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อนนะ? ถ้าคุณพี่ลงทะเบียนเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ในปีนี้ ชั้นปีของลิลิธกับคุณพี่ก็จะไม่ตรงกันน่ะสิ….อ๊ะ! ถ้าอย่างงั้นก็แค่ให้ลิลิธซ้ำชั้นในปีนี้ก็พอแล้วนี่นา! ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็จะได้อยู่ชั้นเดียวกันแล้วสินะ?”

 

“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆก่อนสิ!?”

 

ผมพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเบรกลิลิธจัง

ที่กำลังพุ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วไว้

จะว่าไปแล้ว นี่มันใกล้กันเกินไปแล้วนะเนี่ย  

 

เพราะลิลิธจังพูดเสียงดังและขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ

ดังนั้นผมจึงต้องทำให้เธอสงบลงซะก่อน

ผมจึงใช้จังหวะนี้ถอยห่างออกไปที่ละน้อย

 

แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น

ผมกับลิลิธจังหันหน้าเข้าไปทางเสียงนั้น

 

“ฮุฮุฮุ…ทั้งสองคนเนี่ย ในระหว่างที่พวกเราไม่อยู่ก็สนิทกันขึ้นมากเลยน้า~♡ ถ้าซิลเวียมาเห็นก็คงหึงแย่เลยไม่ใช่รึไงเนี่ย?”

 

“คิยาโนต!”

 

ใช่แล้ว คนที่อยู่ตรงนั้นก็คือคุณคิยาโนตล่ะ

ลิลิธจังหน้าแดงจากคำพูดหยอกล้อนั้นของเธอและก็เรียกชื่อเธอออกไป

 

คุณคิยาโนตไม่ได้สวมชุดเจ้าสาว 

แต่สวมกางเกงสีดำและเสื้อหนัง ข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว

มีเศษใบไม้กับสิ่งสกปรกติดอยู่บ้าง แต่ดูจะไม่มีแผลอะไร

แล้วเธอก็คาดดาบยาวไว้ที่เอวด้วย

 

“คิยาโนต มาช้านะเนี่ย รีบมาช่วยให้เร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง”

 

“ฮุฮุ ขอโทษด้วยนะ พอดีว่าข้างบนนั้นมันค่อนข้างชุลมุนกันน่ะนะ…แต่เมื่อนี้ซิลเวียกับคนอื่นๆก็สามารถหยุดยั้งการโจมตีของหัตถ์พระเจ้าไว้ได้แล้วแหละนะ แต่จะว่าไปแล้ว ก็ไม่คิดเลยนะว่าผู้คุ้มกันนั่นจะเป็นโรเซนครูเซอร์ที่เขาลือกันน่ะ”

 

ผมลุกขึ้นยืนและเดินตามลิลิธจังที่กำลังเดินไปหาคุณคิยาโน้ต

 

“คงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใช่มั้ยครับคุณคิยาโนต?”

 

“ฮุฮุ สบายหายห่วงเลยล่ะ ก็นะ ถึงจะมีผู้บาดเจ็บอยู่บ้างก็เถอะ แต่คนรู้จักของเรียวคุงก็ยังไม่มีใครตายซักคนเลยล่ะนะ”

 

คุณคิยาโนตขยิบตาวิ้งออกมาในขณะที่พูดแบบนั้น

และผมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

 

ก็คิดอยู่หรอกนะว่าทุกคนจะไม่แพ้หัตถ์แห่งพระเจ้าน่ะ

แต่ก็ถือว่าโล่งอกไปทีที่ได้ยินว่าทุกคนยังปลอดภัย

แถมเหล่าดาร์กเอลฟ์ทุกคนเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้บาดเจ็บกันมากมายด้วย

 

“งั้นเหรอครับ…โล่งอกไปที”

 

“ดูเหมือนว่าแขนเรียวคุงจะได้รับบาดเจ็บนะ ฮุฮุ ทั้งที่เป็นเด็กผู้ชายแท้ๆ แต่กลับมีกล้าหาญผิดคาดเลยนี่? ไม่คิดเลยน้า ว่าเรียวคุงจะปกป้องลิลิธไว้ได้น่ะ”

 

“—-“

 

ตัวผมแข็งทื่อในทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น

และลิลิธจังที่อยู่ข้างผมก็มองมาทางผมด้วยสีหน้าแปลกใจ

 

“เป็นอะไรไปน่ะคุณพี่ชาย? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

 

“นั่นสิ เป็นอะไรไปงั้นเหรอเรียวคุง? มีอะไรคาใจอยู่งั้นเหรอ?”

 

ผมถามคำถามกับคุณคิยาโนตที่กำลังยิ้มแย้มอย่างเขินอายอยู่

 

“ทำไมคุณถึงรู้ว่าผมช่วยลิลิธจังไว้กันล่ะครับ?”

 

“หืม?”

 

“ในตอนที่เกิดเรื่องน่ะ….คุณคิยาโนตน่ะไม่ได้อยู่ใกล้พวกเราเลยสินะครับ แล้วคนที่มาโจมตีพวกเราตอนนั้นก็คือพวกหัตถ์พระเจ้าด้วย”

 

ถ้าลองดูดีๆแล้ว–ชุดของคุณคิยาโนตนั้นมันก็ดูดีเกินไปด้วย

ถ้าเธอมาตามหาผมกับลิลิธในป่าแบบนี้ล่ะก็  

เธอคงจะเปื้อนโคลนและเศษใบไม้มากกว่านี้แน่ๆ

 

ที่หาพวกเราเจอได้ง่าย ก็คงเป็นเพราะตามลงมา

ในจุดที่มีคนทำเครื่องหมายไว้ตรงจุดที่เราตกลงไปแน่ๆ…

นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

 

และคุณคิยาโนตก็ได้ยิ้มและตอบคำถามของผม

 

“แหมๆ พลาดไปซะแล้วสิเนี่ย♡ ทั้งที่จริงๆก็อยากจะฆ่าเธอโดยที่ไม่ทำให้ต้องทรมานแท้ๆ แต่เป็นแบบนี้แล้วก็คงช่วยไม่ได้นะ”

 

“อึก!”

 

ผมรีบยกมือซ้ายขึ้นมาและชี้แหวนไปที่คุณคิยาโนต

ถ้าทำให้ร่างกายของคุณคิยาโนตเป็นอัมพาตไปด้วยเข็มอัมพาตล่ะก็–

 

แต่ก่อนที่ผมจะทันได้โจมตี ลิลิธจังก็เข้ามาแทรกกลางระหว่างพวกเรา

จากนั้นเธอก็ได้ทำการเข้าไปล็อคตัวคุณคิยาโนตไว้ได้อย่างสวยงาม

และผลักเธอลงไปกับพื้น

 

“คย้า!?”

 

“คะ คุณพี่ชาย หนีไปซะ!”

 

ลิลิธจังตะโกนเสียงดังอย่างสิ้นหวังในขณะที่กำลังล็อคตัวของคุณคิยาโนตอยู่

ผมรู้สึกดีใจกับความรู้สึกนั้นของเธอนะ แต่ถ้าลิลิธจังไม่เข้ามาแทรกล่ะก็

คุณคิยาโนตก็คงกลายเป็นอัมพาตไปด้วยพลังของแหวนแล้ว…!

 

แต่จะว่าไปแล้ว 

ผมก็ยังไม่ได้อธิบายเรื่องพลังของแหวนให้ลิลิธจังฟังเลยด้วยนี่นะ

 

ผมเล็งแหวนไปที่คุณคิยาโนตอีกครั้ง

แต่ตอนนี้คุณคิยาโนตกับลิลิธจังที่เกาะกันอยู่ก็กลิ้งไปมาบนพื้น

มันเลยทำให้เล็งได้ยากมาก

 

“ชิ…! โธ่ คิดจะทำอะไรกันแน่น่ะลิลิธ!? ทำไมเธอถึงไปปกป้องผู้ชายของซิลเวียกันล่ะ? เขาไม่ใช่คนพิเศษของเธอซักหน่อยนี่นา~?”

 

“เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอซะหน่อย…คย้าาา!?”

 

ในขณะนั้น คุณคิยาโนตก็กระโดดออกจากตัวของลิลิธจังและเตะเธอกระเด็นออกไป

ร่างกายเล็กๆของเธอปลิวกระเด็น กลิ้งไปตามพื้น

ผมรู้สึกตื่นตระหนกมากและรีบวิ่งไปหาลิลิธจัง

 

“ลิลิธจัง เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

“อึก…มะ ไม่ต้องเป็นห่วงลิลิธหรอก คุณพี่น่ะหนีไปซะ…”

 

ผมยกร่างของลิลิธจังขึ้นและพยายามจะหนี

แต่ก่อนหน้านั้นคุณคิยาโนตก็ได้เดินเข้ามา

และชี้ดาบยาวมาที่หน้าของผม

 

“ฮุฮุ ทั้งสองคนนี่เข้ากันได้ดีซะจริงน้า หรือเป็นเพราะเป็นน้องสาวของซิลเวียก็เลยเข้ากันง่ายนะ?”

 

“…คุณคิยาโนตน่ะเป็นสมาชิกของกิลด์แห่งความมืดไม่ใช่เหรอครับ? นี่คุณไปเป็นพวกของหัตถ์แห่งพระเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะครับ?”

 

“ที่เข้าไปเป็นพวกของหัตถ์แห่งพระเจ้าก็คงจะเมื่อไม่นานมานี้นี่เองล่ะนะ พวกเขาบอกว่าถ้าฉันให้ข้อมูลของกิลด์แห่งความมืดพวกเขาก็จะยอมรับฟังคำขอของฉันน่ะและคำขอนั้นฉันก็ขอให้พวกเขาช่วยฆ่าผู้สืบทอดมรดกและคู่หมั้นของพวกเขาทุกคนน่ะนะ”

 

ก็แปลว่าคนที่ส่งคำขอลอบสังหารไปที่หัตถ์แห่งพระเจ้าในครั้งนี้

ก็คือคุณคิยาโนตนี่เองสินะ

 

อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เธออยู่ในจุดที่ได้เปรียบ

เธอก็เลยพูดอะไรที่เป็นข้อมูลออกมามากมาย

แต่ผมรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดจากคำพูดเหล่านั้นของเธออยู่

 

บางทีแล้วตอนนี้เธอคงจะกระวนกระวายใจอยู่ก็ได้

อาจจะเพราะการโจมตีของหัตถ์พระเจ้าที่อยู่ด้านบนนั้น

ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ก็ได้ล่ะนะ

 

“หรือก็คือ คุณอยากจะฮุบมรดกทั้งหมดไว้คนเดียวอย่างงั้นเหรอครับ?”

 

“เรื่องนั้นมันก็มีส่วนอยู่หรอก…แต่จุดประสงค์อีกอย่างก็คือฉันอยากจะทำลายรอยยิ้มของซิลเวียยังไงล่ะ ฉันไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ออกจากหมู่บ้านแล้วล่ะน้า~ ทั้งที่เป็นผู้หญิงน่าเกลียดแบบฉันแท้ๆ แต่เธอกลับมาทำตัวเท่ อยากให้ผู้ชายสนใจ”

 

คุณคิยาโนตหันมาและทำท่าทางเกลียดชังพร้อมพ่นคำพูดเหล่านั้นออกมา

 

“การแต่งงานที่พ่อแม่จัดให้ก็หย่าด้วยตัวเองด้วยนี่? อย่างกับคนบ้าเลย ถ้าฉันเป็นซิลเวียล่ะก็ ฉันจะทำตัวเป็นภรรยาที่แสนดีเลยล่ะ…อย่างครั้งนี้เอง ทั้งๆที่เธอเห็นว่าอดีตสามีกลายมาเป็นคู่หมั้นของฉันแท้ๆ แต่ทำไมเธอถึงไม่ทำสีหน้าแย่ๆออกมาให้ได้เห็นกันล่ะ?”

 

“……”

 

อืม จากที่ฟังมา การที่มาได้ยินว่าเหตุผลหลักคือความเกลียดที่มีต่อคุณซิลเวียแบบนี้

ขอได้ยินเป็นเหตุผลอย่างการจะฮุบมรดกไว้คนเดียวยังจะดีซะกว่าเลย

 

ในตอนที่ผมกำลังคิดแบบนั้น 

ลิลิธจังในอ้อมแขนของผมก็เริ่มเปิดปากบ้าง

 

“หื้ม ที่ดูเหมือนคนบ้าน่ะมันเธอมากกว่า….ยิ่งไปกว่านั้นนะ การมาทำแบบนี้น่ะ จุดยืนของเธอมันจะไม่แย่เอาเหรอ?”

 

“…หมายความว่ายังไง?”

 

ลิลิธจังหัวเราะเบาๆออกมา

 

“การโจมตีของหัตถ์แห่งพระเจ้าก็พังไม่เป็นชิ้นดีเลยใช่มั้ยล่ะ แถมที่ตรงนั้นก็ยังมีมีกิลด์แห่งความมืดรออยู่ด้วย ไม่ใช่ว่าตอนนี้เธออยู่ในจุดยืนที่แย่แล้วรึไง? พวกหัตถ์พระเจ้าเองก็คงคิดว่าเธอขายพวกเขาไปแล้วไม่ใช่รึไง?”

 

“นะ นั่นมัน…! ฉันคุยกับหัตถ์แห่งพระเจ้าไว้อย่างดีแล้วนะ! แต่ถึงอย่างงั้นเจ้าพวกนั้นก็คงไม่แพ้หรอกน่า!”

 

“เมื่อกี้พูดไว้สินะว่า[โรเซนครูเซอร์]น่ะ นั่นน่ะเป็นปาร์ตี้นักผจญภัยแรงค์ S เลยไม่ใช่รึไง? เธอก็ไม่ได้บอกพวกเขาไว้ด้วยนี่ ว่าจะมีสัตว์ประหลาดแบบนั้นอยู่ด้วยน่ะ”

 

“อึก…”

 

จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้คุณคิยาโนตน่ะเหมือนจะไม่รู้ว่าคุณคาร์ล่ากับคุณซึกิคาเงะ

เป็นสมาชิกในปาร์ตี้โรเซนครูเซอร์ที่เป็นแรงค์ S ด้วยนี่นา

บางทีแล้ว เมย์ฟาคงจะไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับเธอมากนักสินะ

 

ตอนที่เรามารวมตัวกันที่บ้านของคุณคิยาโนตในตอนนั้น  

พวกเราก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมาแนะนำตัวกันด้วยนี่นะ

 

คุณคาร์ล่าและคุณซึกิคาเงะที่อยู่ใน [โรเซนครูเซอร์] ปาร์นี้นักผจญภัยแรงค์ S น่ะ

คือเหล่าคนทรงพลังที่ครั้งหนึ่งเคยทำลายที่ซ่อนของกิลด์แห่งความมืดเพื่อมาช่วยผมล่ะ

 

พวกเธอและสมาชิกกิลด์แห่งความมืดอย่างเมย์ฟาและซึสึ ไหนจะยังมีคุณซิลเวียอีก

พวกหัตถ์แห่งพระเจ้าที่เข้ามาโจมตียังไงก็คงจะไม่ไหวแน่นอน

 

“อึก…ถ้าอย่างงั้นยังไงก็ต้องฆ่าพวกเธอให้ได้ซะแล้วล่ะนะ”

 

คุณคิยาโนตกัดฟันแน่นและเงยหน้าขึ้นมามองพวกเรา

ดูเหมือนว่าคำพูดของลิลิธจังจะถูกเผงเลยสินะเนี่ย

 

“หัตถ์แห่งพระเจ้า…จะต้องคิดว่าฉันเป็นคนทรยศแล้วแน่ๆ เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อที่จะขจัดความสงสัยนั้นออกไป ฉันคงจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำขอนั้นด้วยตัวของฉันเองแล้วล่ะ ตราบใดที่ยังมีมรดกของท่านทวด อย่างน้อยพวกหัตถ์แห่งพระเจ้าก็คงจะไม่ผิดหวังแน่ๆล่ะ…!”

 

ผมรีบยกมือซ้ายขึ้นและยิงเข็มออกไป

ซึ่งผมเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ตอนที่ลิลิธจังกำลังพูดอยู่แล้ว

จากนั้นเข็มอัมพาตที่ปล่อยออกมาจากแหวนนั้นก็พุ่งตรงไปที่คุณคิยาโนต

 

แต่ทว่าคุณคิยาโนตก็กลับใช้ดาบยาวปัดมันออกไปได้!

 

“ห๊ะ!?”

 

“ฮุฮุ…ฉันได้ยินมาจากสมาชิกของกิลด์แห่งความมืดแล้วล่ะนะ ว่าตอนที่เรียวคุงยกแหวนขึ้นมาและทำท่าแปลกๆก็จะทำให้ติดสถานะผิดปกติน่ะ ถึงฉันจะมองไม่เห็นเข็มนั่นก็เถอะ แต่แค่ได้เห็นการเคลื่อนไหวแบบมือสมัครเล่นของเรียวคุงแล้ว ก็สามารถที่จะรับมือมันได้ง่ายๆแล้วล่ะนะ♡”

 

เรื่องร่างกายติดสถานะผิดปกติ…

แปลว่านั่นมาจากผู้หญิงคนที่เข้ามาโจมตีในเต็นท์นั่นแน่ๆ!

 

ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพยายามรักษาระยะห่างจากคุณคิยาโนต

ในขณะที่ยังจับตัวลิลิธจังไว้

 

แต่ก่อนที่จะได้ทำแบบนั้นคุณคิยาโนตก็กระแทกไปที่ขาของผมและผลักผมลงไป

แรงนั้นมันทำให้ผมกับลิลิธจังล้มลงไปกับพื้นเลย

 

“อึก….!?”

 

“จริงๆเลย…ถ้าไม่มีเธอล่ะก็ แผนมันก็คงจะไปได้สวยกว่านี้แล้วล่ะ!”

 

คุณคิยาโนตขึ้นคร่อมบนร่างของผมและยกดาบยาวขึ้นมา

และดูเหมือนว่าเธอจะรู้จากเหตุการณ์ก่อนหน้าแล้ว

เธอจึงใช้เข่ากดทับมือซ้ายของผมไว้

 

ลิลิธจังรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งเข้ามาหาพวกเรา

แต่เท่าที่ดูแล้ว ยังไงก็คงจะเข้ามาไม่ทันแน่

 

“ตายซะ!”

 

เมื่อปลายดาบนั้นพุ่งตรงมาที่ผม ผมก็ได้หลับตาลงแน่นโดยอัตโนมัติ

แต่ว่า–ถึงจะผ่านไปซักพักแล้วดาบนั่นก็ยังไม่แทงลงมาถึงผม

 

ในขระที่ผมกำลังรู้สึกสงสัยอยู่นั้น ร่างกายของผมก็รู้สึกเบาขึ้นในทันที

และในขณะเดียวกันนั้นผมก็ได้ยินเสียงบางอย่างกระแทกอย่างรุนแรง

แล้วก็ได้ยินเสียงคนร้องครวญครางด้วย

 

ผมค่อยๆลืมตาขึ้นและพยุงตัวขึ้นมา–

แต่ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีบางอย่างนุ่มๆมาจับตัวผมไว้

 

สิ่งที่เข้ามาในสายตาของผมคือ 

ผมสีเงินเป็นประกายและดวงตาสีแดงอมม่วง

 

“คุณซิลเวีย…?”

 

“เรียว…ปลอดภัยดีสินะ โล่งอกไปที”

 

คุณซิลเวียยิ้มออกมาเบาๆก่อนที่น้ำตาจะไหล

และหลังจากนั้น อาจจะเพราะคุณซิลเวียไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เธอจึงเอาริมฝีปากมาประกบกับผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

“อืม…”

 

ข้างหลังของเธอนั้น ผมเห็นลิลิธจังที่กำลังหน้าแดงระเรื่อ

พร้อมกับจ้องมองพวกผมและคุณคิยาโนตที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นสลับกันไปมา

 

เอาเถอะ ก็คงต้องเป็นงั้นแหละนะ

การมาเห็นฉากเลิฟซีนของพี่สาวแบบนี้…

มันก็ต้องมีรู้สึกเขินๆกันบ้างแหละ

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset