“นี่ เรียว! เป็นไรรึเปล่าน่ะ”
“ฮืม….”
ผมค่อยๆรู้สึกตัวช้าๆ หลังจากที่ผมลืมตาสิ่งที่ผมเห็นเป็นอย่างแรกคือหน้าตาลุงที่หน้าเข้มๆเถื่อนๆ ที่เห็นแล้วรู้สึกหยะแหยง
“เหวออออ”
“โว้ววว ตกใจหมดเลย”
ผมรีบลุกขึ้นอย่างไว
“อะ..อะไรกัน กิลด์มาสเตอร์เองหรอครับ อย่าทำให้ผมตกใจสิครับ”
“คนที่ต้องตกใจน่ะคือทางนี้ต่างหากเฟ้ย ว่าแต่….นายเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ เห็นนอนอยู่บนพื้นจนถึงเมื่อกี้เลยนี่”
ผมเนี่ยนะนอนอยู่บนพื้น?
อ๊ะ จริงสิ! จริงด้วย ถ้าผมจำไม่ผิด ผมถูกแสงวงเวทย์ของโอริออน ดีลเข้านี่นา
บ้าเอ๊ย จนถึงเมื่อกี้ จำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นซักนิด นี่ผมสลบไปงั้นหรอ?
“จริงสิ! แล้วขวดเล็กๆล่ะ? ภูติล่ะ?”
“มันอะไรน่ะ ไอ้ขวดหรือภูติอะไรนั่น”
“ก็การประเมินของวันนี้ยังไงล่ะครับ! จริงสิ ขอโทษด้วยนะครับกิลด์มาสเตอร์ผมเผลอทำขวดที่จะต้องประเมินแตกไปน่ะครับ แล้วจากนั้น ก็มีภูติที่ถูกปิดผนึกอยู่โผล่ออกมาครับ”
“….เรียว การประเมินงั้นหรอ นายพูดเรื่องอะไรน่ะ?”
“เอ๊ะ?”
“เฮ้ เฮ้ นี่นายละเมออยู่รึไง ไม่เป็นไรแน่นะนายน่ะ? วันนี้ไม่มีการประเมินเมจิคไอเทมซักหน่อยนี่นา”
“เอ๋…?”
ผมมองไปรอบๆห้องแล้วแต่กลับไม่เจอขวดแก้วที่แตกอยู่เลยซักชิ้นด้วยซ้ำแฮะ แล้วนับประสาอะไรกับภูติล่ะ
“เอ๊ะ แปลกจังเลยนะ แต่ว่าถ้าจำไม่ผิด ผม…”
“เรียว นายแน่ใจนะว่านายไม่เป็นไรน่ะ? ถ้านายไม่ไหว นายจะกลับก่อนก็ได้นะ ฉันอนุญาต”
“ขอโทษด้วยครับ ผมคิดว่าบางทีคงจะเผลอหลับไปน่ะครับ แต่ตอนนี้สบายดีแล้วครับ”
“ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนก็บอกได้เลยนะ โอเคมั้ย? ถ้านายจะออกก่อนเวลางานก็ออกก่อนได้เลยนะ”
แบบว่า…กิลด์มาสเตอร์ดูใจดีจังแฮะ แต่เอาจริงๆเลยนะโคตรรู้สึกขนลุกเลยฟ่ะ จะว่าไปสีหน้าผมตอนนี้นี่มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?
ยังไงก็เถอะ หลังจากที่ตื่นผมแล้วผมจึงเดินออกจากห้องประเมินเพื่อไปแผนกรับเควสต์ของกิลด์
หลังจากนั้นผมก็นั่งลงตรงที่นั่งของตัวเองและทำงานต่อ
“เฮ้ย เรียว นั่งตรงไหนของนายกันน่ะ”
“ครับ?”
ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่หว่า นี่มันก็ที่ของผมนี่นา
“นายเป็นพนักงานต้อนรับไม่ใช่เรอะ ผู้ชายในกิลด์นักผจญภัยแห่งนี้นอกจากฉันแล้ว ก็มีแค่นายเท่านั้นแหละ”
“ครับ?”
“นี่นายโอเคดีจริงๆใช่มั้ย? ฉันว่านายกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนไม่ดีกว่าหรอ?”
ไม่ใช่ละ ที่อยากถามว่าโอเคดีมั้ยน่ะมันทางนี้ต่างหาก นี่กิลด์มาสเตอร์พูดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย?
เอาผู้ชายไร้เสน่ห์อย่างผมเนี่ยนะจะมาเป็นพนักงานต้อนรับ?
แบบนั้นพวกนักผจญภัยหน้าโฉดนั่นคงจะไม่แฮปปี้กันแน่ๆ
แต่ก็นะ ไม่ว่าคำสั่งของกิลด์มาสเตอร์มันจะบ้าบอแค่ไหน ยังไงผมก็ต้องทำตามอย่างปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ถึงจะไม่เต็มใจ แต่ยังไงผมก็ต้องลุกออกจากที่ทำงานของผม
จากนั้นผมก็เดินไปยังแผนกต้อนรับ
–ผมถึงกับพูดไม่ออก
ผู้หญิง ผู้หญิง ผู้หญิง ผู้หญิง ผู้หญิง ผู้หญิง ผู้หญิง มีแต่สาวๆเต็มไปหมด!
——————————————————————————-
กิลด์นักผจญภัยที่จนถึงก่อนหน้านี้ที่มีแต่ผู้ชาย แถมยังเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นๆ ของพวกผู้ชายแท้ๆ
แต่ว่าตอนนี้กลับมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมด
นะ…นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? วันนี้มีเซอร์ไพรส์ปาร์ตี้งานวันเกิดของใครรึไงนะ?
ตัวผมที่กำลังหงุดหงิดได้มองไปรอบๆทั้งที่ยังอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น
หลังจากนั้นก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเปิดประตูกิลด์เข้ามา นั่นก็คือโรเซนครูเซอร์ ปาร์ตี้แรงค์ S ที่ผมเพิ่งเจอไปก่อนหน้านี้
คะ…คราวนี้อะไรอีกล่ะ? ทำไมพวกเธอถึงกลับมากันล่ะ? ก็เพิ่งเจอกันไปเมื่อกี้เองนี่นา? หรือว่ามาเอาของที่ลืมไว้อย่างนั้นหรอ?
จากนั้นผมได้ยินเสียงกระซิบจากนักผจญภัยหญิงรอบๆเข้า
“นั่นมัน….ปาร์ตี้แรงค์ S โรเซนครูเซอร์ ที่มาจากเมืองหลวงไม่ใช่รึเหรอ”
“อ๊ะ หรือว่าปาร์ตี้อันโด่งดังที่ถูกเรียกว่า ‘แรงค์ S ขึ้นคาน’ ที่ยังไม่แต่งงานซักทีรึเปล่า?”
“ห๊ะ? “
เดี๋ยวนะครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณผู้หญิงพูดอะไรออกมาน่ะครับ? นี่ผู้หญิงพวกนั้นอิจฉาพวกเธอจนเป็นบ้าไปแล้วรึไงนะ?
“รูปลักษณ์แบบนั้น คงไม่มีงานอื่นให้ทำนอกจากนักผจญภัยแล้วละมั้ง”
“ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าตาแล้วล่ะก็คงจะเป็นอย่างงั้นจริงๆล่ะนะ”
ดูเหมือนนักผจญภัยหญิงทุกคนนอกจากผมนั้นจะดูถูกและประเมินเหล่าโรเซนครูเซอร์ไปในทางที่แย่น่าดูเลยนะ
เมื่อกี้ยังชื่นชมพวกเธออยู่เลยแท้ๆนะ คำชมพวกนั้นมันหายไปไหนแล้วซะล่ะ?
ในตอนนี้ คำชมซักคำก็แทบจะไม่ได้ยินเลยทีเดียว ที่ได้ยินมีเพียงแต่เสียงหัวเราะคิกคักเยาะเย้ยพวกเธอเท่านั้น
จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ดูน่าแปลกใจยิ่งกว่าคือปฏิกิริยาของเหล่า โรเซนครูเซอร์ที่ได้ยินคำพูดพวกนั้นต่างหาก พวกเธอดูยังกับว่าอับอายกับคำพูด—ไม่สิ ดูเหมือนพวกเธอจะอับอายรูปร่างของตัวเองกันมากกว่านะ
ในขณะที่ผมกำลังอึ้งอยู่ เหล่าสมาชิกโรเซนครูเซอร์ก็ได้เดินตรงมายังหน้าแผนกต้อนรับ
ผมจึงรีบกลับมาประจำที่แผนกต้อนรับแล้วก็พูดออกไปว่า
“สวัสดีครับ มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่าครับ?”
“คือว่า…พวกเราคือปาร์ตี้ที่ชื่อว่า ‘โรเซนครูเซอร์’ น่ะ”
เหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้เลยแฮะ, นักรบสาวผมแดงนั่งลงตรงที่แผนกต้อนรับในฐานะตัวแทนปาร์ตี้และก็เริ่มพูดคุย เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ว่าแต่ จะแนะนำตัวอีกรอบตอนนี้ทำไมกันนะ?
พวกเราเคยคุยกันมาก่อนแล้ว เพราะงั้นผมจึงรู้ชื่อปาร์ตี้นี้อยู่แล้วล่ะ
“คือว่า….จริงๆแล้วตามปกติพวกเราจะทำงานอยู่ที่เมืองหลวงน่ะ แต่ที่พวกเรามาเมืองนี้เพราะภารกิจคุ้มกันสินค้าของบริษัทเมลด้า แล้วทีนี้ตอนขากลับพวกเขาก็บอกเราว่าไม่ต้องการคนคุ้มกันตอนกลับแล้วน่ะนะ พวกเราก็เลยตัดสินใจอยู่ที่นี่เพื่อจะท้าทายดันเจี้ยน Hungry Wolves ก่อนจะกลับเมืองหลวงน่ะ”
นักรบสาวคนนั้นพูดอธิบายเหมือนเดิมกับก่อนหน้านี้เลย
เอาจริงดิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย? นี่เธออธิบายให้ผมฟังเหมือนเดิมเป๊ะอีกครั้งเพราะเห็นผมเหมือนคนความจำไม่ดีรึไงนะ
อืม ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแบบนั้น
แต่ว่านะ ผมรู้สึกว่าการกระทำของนักรบสาวผมแดงคนนั้น มีบางอย่างที่แปลกไปจากก่อนหน้านี้
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอมีท่าทีที่ดูสง่างามไม่เกรงกลัวใครแท้ๆนะ
แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนสาวบริสุทธิ์ที่เพิ่งเคยคุยกับผู้ชายครั้งแรกยังไงยังงั้น
“อย่างนั้นเองหรือครับ เพราะว่าที่เมืองนี้นั้นไม่มีปาร์ตี้นักผจญภัยระดับสูงอยู่เลย ดังนั้นผมจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยครับที่ปาร์ตี้ระดับสูงอย่างโรเซนครูเซอร์อย่างพวกคุณจะเข้าไปสำรวจดันเจี้ยนให้พวกเรา”
เนื่องจากไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ผมจึงจบบทสนทนาด้วยรอยยิ้มแบบพนักงานต้อนรับ
หลังจากที่เธอเห็นผมทำแบบนั้น ไม่รู้ทำไมจู่ๆเธอก็ทำหน้าเหมือนแปลกใจออกมา
สงสัยจังว่าทำไมกันนะ?
“ขะ…ขอบคุณ….คือว่า…พวกเราอยากได้แผนที่ดันเจี้ยนน่ะ”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่รู้ทำไมนักรบสาวถึงถามหาแผนที่ดันเจี้ยนอีกครั้ง
นี่มันแปลกๆนะ แต่ผมเดาว่าก็คงเอาไว้สำรองนั่นแหละมั้ง
“ถ้าเช่นนั้น เชิญเลยครับ” ผมยื่นแผนที่ให้เธอ
หลังจากที่เธอรับแผนที่ไปเธอก็พูดกับผมว่า
“ไว้ถ้าพวกเราเจอมอนสเตอร์หรือพบสมบัติ พวกเราจะกลับมาใหม่นะ”
“จะรอการกลับมานะครับ แต่ว่า เหนือสิ่งอื่นใดเลย ‘ได้โปรดรักษาตัวด้วยนะครับ’ “
“อ๊ะ ขอบคุณ!” เธอตอบกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูมีความสุข ตอนที่เธอยิ้มนี่สวยจริงๆเลยน้า
ว่าไปแล้วก่อนหน้านี้เธอไม่เห็นจะยิ้มแบบนี้เลยนี่? มันเกิดอะไรขึ้นในช่วง10นาทีที่ผ่านมากันแน่นะ?
เอาเถอะ ยังไงก็ได้เห็นรอยยิ้มของสาวสวยแล้วด้วยสิ เรื่องหยุมหยิมน่ะจะเป็นยังไงก็ช่างมันก็แล้วกัน