หลังจากที่ผมเข้ามาในห้อง ผมก็นั่งลงบนเตียงพร้อมให้คุณซึกิคาเงะนั่งลงบนตักของผม
แต่น่าเสียดายที่บรรยากาศมันดูไม่น่าทำอะไรลามกซักเท่าไหร่
“อึก ฮึก…ฮึก……..อย่างที่คิดว่าแม้แต่ท่านเรียวเองก็ชอบแบบนั้นมากกว่าสินะ…..อึก ฮึก….กะแล้วเชียว สำหรับท่านเรียวแล้วยังไงมนุษย์สัตว์แบบนั้นก็ดีกว่ามนุษย์สัตว์แบบเราสินะ….ฮึก ฮึก…..”
“อย่าร้องไห้ไปเลยนะครับคุณซึกิคาเงะ เอาล่ะ ดื่มนี่สิครับ”
ผมเทน้ำลงในแก้วให้คุณซึกิคาเงะที่กำลังร้องไห้อยู่
“….อึก….ท่านเรียว…..”
“กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องสาวมนุษย์สัตว์ในโรงเตี๊ยมคนนั้นอยู่งั้นเหรอครับ? ผมให้แค่เธอจัดเตียงให้เฉยๆจริงๆนะครับ”
“…แต่ว่า สายตาที่เด็กคนนั้นมองมาที่ท่านเรียวน่ะ เหมือนกับที่เรามองท่านเรียวเลยน่ะสิ อีกทั้งท่านเรียวยังดูไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับเธอเลยด้วย…..”
อึก อย่างเฉียบ!
นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าสัญชาติญาณผู้หญิงน่ะ!?
เอาจริงๆมันก็น่าสนใจจริงๆนั่นแหละ หน้าอกของเธอคนนั้นมีขนปุยนุ่มๆ
แต่ก็คงจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับทุกคนหรอกนะ
แต่ถ้าพูดไปคุณซึกิคาเงะต้องร้องไห้นะ เพราะงั้นเงียบไว้ดีกว่า
“ถ้าว่าแบบนั้นแล้ว วันนี้ชุดของคุณก็ดูน่ารักมากๆเลยนะครับ ปกติแล้วคุณจะใส่ชุดที่ดูเหมือนคุณหนูแบบนี้อยู่ตลอดเลยงั้นเหรอครับ?”
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงแย่แน่ๆ ผมจึงต้องรีบเปลี่ยนหัวข้อไปคุยเรื่องชุดของคุณซึกิคาเงะ
ผมไม่ได้ยอเกินจริงแต่อย่างใด เพราะผมคิดว่าชุดของคุณซึกิคาเงะวันนี้น่ารักจริงๆ
ปกติชุดกิโมโนของเธอก็ดูน่ารักอยู่แล้วก็เถอะ แต่ชุดแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน ดี!
พอผมชมเธอแบบนั้น หูของเธอก็ตั้งขึ้น
“ยะ อย่างงั้นเหรอ? แต่ปกติฉันไม่ได้ใส่ชุดน่ารักแบบนี้หรอกนะ เพียงแต่…นั่น….คือ….”
คุณซึกิคาเงะที่กำลังนั่งอยู่บนตักของผมพันนิ้วไปมาด้วยความเขินอาย
ในขณะเดียวกันหูของคุณซึกิคาเงะก็ขยับๆไปมาอย่างรวดเร็ว
“เพราะว่า…..ทั้งไอริสจังและลิซล็อตเต้จังทั้งสองคนนั้นบอกว่า ‘คุณเรียวชมว่าฉันน่ารักด้วยล่ะ ชุดของฉันน่ะ♡’ ‘เอะเฮะเฮะ จริงๆแล้วฉันก็ถูกเรียวคุงชมว่าชุดนี้ดูเหมาะดีเหมือนกันเพราะอยู่ด้วยกันกับเรียวคุง เลยสามารถเดินไปบนถนนได้โดยไม่ต้องสวมฮู้ดเลยล่ะ…♡’ ตอนที่ได้ยินสองคนนั้นเล่ามาให้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกอิจฉามากเลยล่ะ…. “
เห….ทุกคนในโรเซนครูเซอร์พูดแบบนั้นเองเหรอเนี่ย
รู้สึกอายนิดหน่อยเหมือนกันนะเนี่ยที่ได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดกันในตอนที่ไม่มีผม
“เพราะงั้น เอ่อ….เราก็เลยอยากลองแต่งชุดเล่นแบบนี้ดูซักครั้งน่ะ เพราะงั้นเลยเป็นเหตุผลที่วันนี้เราแต่งตัวแบบนี้ เราอยากให้ท่านเรียวพอใจ แล้วก็อยากให้ท่านเรียวชมเราด้วย”
“เอ๊ะ ซักครั้งงั้นเหรอครับ?”
ทั้งที่น่ารักขนาดนี้แท้ๆนะ
จะว่าไปแล้วหางนุ่มฟูนั่นออกมาจากทางไหนกันแน่นะ?
“คะ แค่ครั้งเดียวก็พอแล้วล่ะ! ท่านรู้รึเปล่าว่าชุดน่ารักๆแบบนี้มันไม่เหมาะกับผู้หญิงน่าเกลียดแบบเรา! แต่ว่าวันนี้มีท่านเรียวอยู่ด้วย….เราก็เลยคิดอยากจะใส่ดูซักครั้งน่ะ”
“เอ๊ะ? น่าเสียดายนะครับนั่น ทั้งที่ดูเหมาะดีแท้ๆ”
“ยะ อย่าพูดบ้าๆสิ พูดอย่างงี้ก็เหมือนประจบกันน่ะสิท่านเรียว”
“ไม่ได้ประจบนะครับ ก็น่ารักจริงนี่ครับ”
“อึก…! ฮึฮึ ให้ตายสิ…..ท่านเรียวนี่จะทำให้เราหลงไปถึงไหนกันนะ?”
ผมยื่นมือไปจับไหล่เล็กๆของคุณซึกิคาเงะ
ไหล่เล็กๆของเธอพอดีกับมือของผมเลย
“อืม….ท่านเรียว….♡”
ผมจับไหล่ของคุณซึกิคาเงะมาพิงตัวผม
ไหล่ของคุณซึกิคาเงะทั้งเล็กและเบามากจนไม่รู้สึกถึงความหนักเลยแม้แต่น้อย
ผมยกร่างเล็กๆของเธอวางลงบนเตียง
แล้วจากนั้นผมก็ถอดเสื้อออก
มาถึงขั้นนี้แล้วพวกผมจึงสามารถสื่อถึงกันได้โดยไม่ต้องพูดอะไร
แต่พอผมถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเหลือแค่ชั้นในด้านล่าง
คุณซึกิคาเงะก็เปิดปากพูดขึเนมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้
“จะว่าไปแล้วท่านเรียวก็พูดเป็นกันเองกับแค่ไอริสจังนี่”
“เอ๊ะ เป็นอย่างงั้นหรอกหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ เวลาพูดกับพวกเรา ทั้งคาร์ล่าจัง ลิซล็อตเต้จัง แล้วก็เราด้วย ก็พูดแบบให้เกียรติ แต่มีเพียงแค่ไอริสจังเท่านั้นที่พูดกันอย่างเป็นกันเอง”
ที่คุณซึกิคาเงะ ผมถึงลองนึกดูถึงสิ่งที่ผมเคยพูดตามปกติ
จะว่าไปแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วยสินะ
“คุณไอริสน่ะให้ความรู้สึกที่ดูเด็กกว่าน่ะสิครับ….แถมนอกจากนี้มันยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในตอนแรกที่เจอกันด้วย ความเป็นทางการนั้นมันเลยเริ่มหายไปน่ะสิครับ”
ถูกดันเข้าไปในบ้านของตัวเองพร้อมถูกเธอบังคับใช้ปาก
แต่เอาเถอะ ผมชินแล้ว ก็เลยไม่เป็นไร
ผลกระทบในตอนนั้นมันใหญ่หลวงมาก เลยทำให้ความเป็นทางการของผมมันพังลงไป
แถมภาพลักษณ์ต่อเผ่าเอลฟ์ที่ผมเคยมีนั่นก็พังทลายไปด้วยเลยนี่นะ….
“ขอโทษด้วยนะครับ ตามจริงแล้วถึงแม้จะเป็นคุณไอริส แต่ก็ยังเป็นนักผจญภัยแรงค์ S สินะครับ สงสัยคงต้องใช้คำพูดให้เหมาะสมแล้วสินะครับเนี่ย คราวหน้าจะปรับปรุงนะครับ”
“มะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น! สิ่งที่เราต้องการน่ะมันตรงกันข้ามเลยล่ะ”
คุณซึกิคาเงะส่ายหัวไปมา
“แถมดูเหมือนไอริสจังจะชอบแบบนั้นซะด้วยสิ ปล่อยไว้แบบนั้นก็ไม่น่าเป็นอะไรหรอก”
“จะดีเหรอครับ?”
“อืม! เพราะงั้นสิ่งที่เราจะพูดก็คือ….ถ้าไม่ว่าอะไรล่ะก็นะ เราอยากให้ท่านพูดกับเราแบบเป็นกันเองด้วยน่ะ”
“พูดเป็นกันเองกับคุณซึกิคาเงะ?”
“อืม…อยู่ๆจะให้พูดเลยก็คงจะยากสินะ….คิดว่าไงบ้างล่ะ?”
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ซักครู่ ผมก็ได้ให้คำตอบกับเธอ
“ได้สิครับ ช่วงแรกอาจจะยังไม่ชินก็จริงนะครับ….ไม่สิ อาจจะไม่ชินเลยก็ได้ งั้น ถ้าอยู่ในกิลด์หรืออยู่ต่อหน้ากิลด์มาสเตอร์จะขอพูดแบบให้เกียรติเหมือนเดิม ถ้าโอเคล่ะก็”
“โอ้! อืม อืม! แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ!”
คุณซึกิคาเงะจ้องผมกระพริบตาปริบๆ หางและหูของเธอกระดิกไปมา
หางเธอสะบัดแรงเกินจนกระโปรงเธอม้วนขึ้น
“ใช่แล้ว! ไม่ใช่แค่วิธีการพูด แต่ช่วยเรียกชื่อเราแบบเป็นกันเองด้วยได้ไหม?”
“เรียกแบบเป็นกันเอง?”
คุณซึกิคาเงะกระพริบตาปิ๊งๆราวกับว่านึกไอเดียดีๆขึ้นมาได้
แต่ว่า เป็นกันเองนี่หมายความว่าไง? คุณซึกิคาเงะ…ไม่ใช่สิ
ซึกิคาเงะจัง หรือ ซึกิคาเงะ จะให้พูดประมาณนี้อย่างงั้นเหรอ?
ถ้าเป็นงั้นจริง นี่มันยิ่งยากกว่าการพูดเป็นการเองอีกนะเนี่ย
“ใช่แล้ว….หลังจากนี้จะเรียกเราอย่างเป็นกันเองว่าพี่สาวก็ได้นะหรือไม่ก็ท่านพี่(สาว)ก็ได้นะ”
“นั่นเป็นรสนิยมของคุณซึกิคาเงะงั้นเหรอ!?”
เรียกท่านพี่ยิ่งดูห่างไกลจากความเป็นมิตรไปอีกนะนั่น!
จะมีโลกไหนที่จะมีพนักงานกิลด์พูดว่า”เหนื่อยหน่อยนะครับพี่สาว♡” อยู่กันเล่าเฮ้ย!
กิลด์นักผจญภัยไม่ใช่ร้านเล่นสวมบทบาทซักหน่อย!
“มูมูมูมู….ความแตกซะแล้วงั้นเหรอ…..คึก….อุตส่าห์หวังอยากให้ท่านเรียวลองเรียกเราว่าพี่สาว♡ดูซักครั้งแท้ๆ”
(-3-)
“แล้วทำไมถึงคิดว่าความจะไม่แตกล่ะ…..”
แต่ว่า ถ้ามีผู้ใหญ่มาเรียกสาวหูจิ้งจอกชุดกะลาสีว่าพี่สาวเนี่ยคงเป็นประเด็นแน่
ถ้าที่นี่ไม่ใช่โลกคู่ขนานล่ะก็ผมโดนแจ้งจับแล้วนะเฮ้ย
อ๊ะ งี้เอง กลับกันนี่เอง
ถ้าลองมองมุมกลับแล้วล่ะก็พอจะเข้าใจมุมมองของคุณซึกิคาเงะแล้วล่ะนะ
ก็ถ้ามีสาวหูจิ้งจอกไร้เดียงสาอย่างคุณซึกิคาเงะมาเรียกว่าพี่ชาย♡ ก็คงจะรู้สึกดีมากแน่ๆ
อย่างงี้นี่เองนะ อืม….เข้าใจความรู้สึกของคุณซึกิคาเงะแล้วด้วยสิ
ถ้างั้น แค่ครั้งเดียวก็คงไม่เป็นไรหรอกนะ
“อา….ถ้างั้นจะเรียกแค่ครั้งเดียวนะ”
“หือ!?”
“พี่สาว”
“ฮ้าาาาา♡♡♡♡!!!!”
คุณซึกิคาเงะล้มพรวดลงไป
“คุณซึกิคาเงะ!?”
คุณซึกิคาเงะหายไปจากสายตาผมอย่างรวดเร็ว
ผมตกใจมากเพราะเห็นเธอล้มลงไปอย่างรวดเร็วเลย
แต่ว่าความกังวลของผมใจของผมก็หายไปไหนไม่รู้
คุณซึกิคาเงะลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น
“คะ คุณซึกิคาเงะ?”
“ดะ ดีจัง….♡!กะ เกินต้านจริงๆเลยน้อ♡!หนุ่มน้อยอายุ20กว่าๆมาเรียกฉันว่าพี่สาว♡ แบบนี้เนี่ย♡♡♡!”
“สำหรับคุณซึกิคาเงะแล้ว หนุ่มน้อยนี่อายุถึงเท่าไหร่กันล่ะ….?”
ผมที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง จ้องลงไปหาเธอที่นอนอยู่บนพื้น
ชุดกะลาสีเปิดออกหมดเสน่ห์หายไปไม่เหลือเลย
….ในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดว่าจะให้คุณอาเน็ตมาสลับห้องกับผมดีมั้ยนั่นเอง
คุณซึกิคาเงะก็ปีนขึ้นมาบนเตียง
“ท่านเรียว ขอร้องล่ะ! ขออีกแค่ครั้งเดียว! ครั้งเดียวเท่านั้น ช่วยเรียกเราว่าพี่สาว♡อีกครั้งจะได้ไหม!?”
“ขอปฏิเสธครับ มันค่อนข้างจะน่าอายเกินไป”
“ยะ อย่าพูดอย่างงั้นสิท่านเรียว! คราวนี้ฉันจะจดจำภาพที่ท่านเรียวเรียกเราว่าพี่สาวไว้ในสมองอย่างดีเลยล่ะ มาทำให้เสียงนั่นเป็นเครื่องเคียงมื้อหลักที่ดีสำหรับค่ำคืนนี้กันเถอะ!”
“ได้ยินแบบนั้นยิ่งไม่อยากทำเลย!?”
“อะ อะไรกัน….!”
หูของคุณซึกิคาเงะตกลงมา
ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีแบบนั้นกันเล่า ฝ่ายที่รู้สึกแบบนั้นน่ะมันทางนี้ต่างหาก….
พอเห็นคุณซึกิคาเงะห่อเหี่ยวอยู่มุมเตียง ผมเลยบ่น’ให้ตายสิ’ออกมาแล้วก็เข้าไปกอดเธอ
“แทนที่จะใช้เสียงของผมเป็นเครื่องเคียงกับมื้อหลักที่ดีแบบนั้น มามีเซ็กส์กับแบบธรรมดาเป็นจานหลักกันดีกว่านะ”
“ฮิย้า…….♡!?”
ผมผลักร่างกายเล็กๆของคุณซึกิคาเงะลงบนเตียงอีกครั้ง
กระโปรงของเธอแผ่ไปทั่วเตียงเลยทีเดียว