นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 44

 

หลังจากที่ผมเข้ามาในห้อง ผมก็นั่งลงบนเตียงพร้อมให้คุณซึกิคาเงะนั่งลงบนตักของผม

แต่น่าเสียดายที่บรรยากาศมันดูไม่น่าทำอะไรลามกซักเท่าไหร่

 

“อึก ฮึก…ฮึก……..อย่างที่คิดว่าแม้แต่ท่านเรียวเองก็ชอบแบบนั้นมากกว่าสินะ…..อึก ฮึก….กะแล้วเชียว สำหรับท่านเรียวแล้วยังไงมนุษย์สัตว์แบบนั้นก็ดีกว่ามนุษย์สัตว์แบบเราสินะ….ฮึก ฮึก…..”

 

“อย่าร้องไห้ไปเลยนะครับคุณซึกิคาเงะ เอาล่ะ ดื่มนี่สิครับ”

 

ผมเทน้ำลงในแก้วให้คุณซึกิคาเงะที่กำลังร้องไห้อยู่

 

“….อึก….ท่านเรียว…..”

 

“กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องสาวมนุษย์สัตว์ในโรงเตี๊ยมคนนั้นอยู่งั้นเหรอครับ? ผมให้แค่เธอจัดเตียงให้เฉยๆจริงๆนะครับ”

 

“…แต่ว่า สายตาที่เด็กคนนั้นมองมาที่ท่านเรียวน่ะ เหมือนกับที่เรามองท่านเรียวเลยน่ะสิ อีกทั้งท่านเรียวยังดูไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับเธอเลยด้วย…..”

 

อึก อย่างเฉียบ!

นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าสัญชาติญาณผู้หญิงน่ะ!?

 

เอาจริงๆมันก็น่าสนใจจริงๆนั่นแหละ หน้าอกของเธอคนนั้นมีขนปุยนุ่มๆ

แต่ก็คงจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับทุกคนหรอกนะ

แต่ถ้าพูดไปคุณซึกิคาเงะต้องร้องไห้นะ เพราะงั้นเงียบไว้ดีกว่า

 

“ถ้าว่าแบบนั้นแล้ว วันนี้ชุดของคุณก็ดูน่ารักมากๆเลยนะครับ ปกติแล้วคุณจะใส่ชุดที่ดูเหมือนคุณหนูแบบนี้อยู่ตลอดเลยงั้นเหรอครับ?”

 

ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงแย่แน่ๆ ผมจึงต้องรีบเปลี่ยนหัวข้อไปคุยเรื่องชุดของคุณซึกิคาเงะ

ผมไม่ได้ยอเกินจริงแต่อย่างใด เพราะผมคิดว่าชุดของคุณซึกิคาเงะวันนี้น่ารักจริงๆ

 

ปกติชุดกิโมโนของเธอก็ดูน่ารักอยู่แล้วก็เถอะ แต่ชุดแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน    ดี!

พอผมชมเธอแบบนั้น หูของเธอก็ตั้งขึ้น

 

 

“ยะ อย่างงั้นเหรอ? แต่ปกติฉันไม่ได้ใส่ชุดน่ารักแบบนี้หรอกนะ เพียงแต่…นั่น….คือ….”

 

คุณซึกิคาเงะที่กำลังนั่งอยู่บนตักของผมพันนิ้วไปมาด้วยความเขินอาย

ในขณะเดียวกันหูของคุณซึกิคาเงะก็ขยับๆไปมาอย่างรวดเร็ว

 

“เพราะว่า…..ทั้งไอริสจังและลิซล็อตเต้จังทั้งสองคนนั้นบอกว่า ‘คุณเรียวชมว่าฉันน่ารักด้วยล่ะ ชุดของฉันน่ะ♡’ ‘เอะเฮะเฮะ จริงๆแล้วฉันก็ถูกเรียวคุงชมว่าชุดนี้ดูเหมาะดีเหมือนกันเพราะอยู่ด้วยกันกับเรียวคุง เลยสามารถเดินไปบนถนนได้โดยไม่ต้องสวมฮู้ดเลยล่ะ…♡’ ตอนที่ได้ยินสองคนนั้นเล่ามาให้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกอิจฉามากเลยล่ะ…. “

 

เห….ทุกคนในโรเซนครูเซอร์พูดแบบนั้นเองเหรอเนี่ย 

รู้สึกอายนิดหน่อยเหมือนกันนะเนี่ยที่ได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดกันในตอนที่ไม่มีผม

 

“เพราะงั้น เอ่อ….เราก็เลยอยากลองแต่งชุดเล่นแบบนี้ดูซักครั้งน่ะ เพราะงั้นเลยเป็นเหตุผลที่วันนี้เราแต่งตัวแบบนี้ เราอยากให้ท่านเรียวพอใจ แล้วก็อยากให้ท่านเรียวชมเราด้วย”

 

“เอ๊ะ ซักครั้งงั้นเหรอครับ?”

 

ทั้งที่น่ารักขนาดนี้แท้ๆนะ

จะว่าไปแล้วหางนุ่มฟูนั่นออกมาจากทางไหนกันแน่นะ?

 

“คะ แค่ครั้งเดียวก็พอแล้วล่ะ! ท่านรู้รึเปล่าว่าชุดน่ารักๆแบบนี้มันไม่เหมาะกับผู้หญิงน่าเกลียดแบบเรา! แต่ว่าวันนี้มีท่านเรียวอยู่ด้วย….เราก็เลยคิดอยากจะใส่ดูซักครั้งน่ะ”

 

“เอ๊ะ? น่าเสียดายนะครับนั่น ทั้งที่ดูเหมาะดีแท้ๆ”

 

“ยะ อย่าพูดบ้าๆสิ พูดอย่างงี้ก็เหมือนประจบกันน่ะสิท่านเรียว”

 

“ไม่ได้ประจบนะครับ ก็น่ารักจริงนี่ครับ”

 

“อึก…! ฮึฮึ ให้ตายสิ…..ท่านเรียวนี่จะทำให้เราหลงไปถึงไหนกันนะ?”

 

ผมยื่นมือไปจับไหล่เล็กๆของคุณซึกิคาเงะ

ไหล่เล็กๆของเธอพอดีกับมือของผมเลย

 

“อืม….ท่านเรียว….♡”

 

ผมจับไหล่ของคุณซึกิคาเงะมาพิงตัวผม

ไหล่ของคุณซึกิคาเงะทั้งเล็กและเบามากจนไม่รู้สึกถึงความหนักเลยแม้แต่น้อย

ผมยกร่างเล็กๆของเธอวางลงบนเตียง

 

แล้วจากนั้นผมก็ถอดเสื้อออก  

มาถึงขั้นนี้แล้วพวกผมจึงสามารถสื่อถึงกันได้โดยไม่ต้องพูดอะไร

 

แต่พอผมถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเหลือแค่ชั้นในด้านล่าง

คุณซึกิคาเงะก็เปิดปากพูดขึเนมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้

 

“จะว่าไปแล้วท่านเรียวก็พูดเป็นกันเองกับแค่ไอริสจังนี่”

 

“เอ๊ะ เป็นอย่างงั้นหรอกหรอ?”

 

“ใช่แล้วล่ะ เวลาพูดกับพวกเรา ทั้งคาร์ล่าจัง ลิซล็อตเต้จัง แล้วก็เราด้วย ก็พูดแบบให้เกียรติ แต่มีเพียงแค่ไอริสจังเท่านั้นที่พูดกันอย่างเป็นกันเอง”

 

ที่คุณซึกิคาเงะ ผมถึงลองนึกดูถึงสิ่งที่ผมเคยพูดตามปกติ

จะว่าไปแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วยสินะ

 

“คุณไอริสน่ะให้ความรู้สึกที่ดูเด็กกว่าน่ะสิครับ….แถมนอกจากนี้มันยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในตอนแรกที่เจอกันด้วย ความเป็นทางการนั้นมันเลยเริ่มหายไปน่ะสิครับ”

 

ถูกดันเข้าไปในบ้านของตัวเองพร้อมถูกเธอบังคับใช้ปาก

แต่เอาเถอะ ผมชินแล้ว ก็เลยไม่เป็นไร

 

ผลกระทบในตอนนั้นมันใหญ่หลวงมาก เลยทำให้ความเป็นทางการของผมมันพังลงไป

แถมภาพลักษณ์ต่อเผ่าเอลฟ์ที่ผมเคยมีนั่นก็พังทลายไปด้วยเลยนี่นะ….

 

“ขอโทษด้วยนะครับ ตามจริงแล้วถึงแม้จะเป็นคุณไอริส แต่ก็ยังเป็นนักผจญภัยแรงค์ S สินะครับ สงสัยคงต้องใช้คำพูดให้เหมาะสมแล้วสินะครับเนี่ย คราวหน้าจะปรับปรุงนะครับ”

 

“มะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น! สิ่งที่เราต้องการน่ะมันตรงกันข้ามเลยล่ะ”

 

คุณซึกิคาเงะส่ายหัวไปมา

 

“แถมดูเหมือนไอริสจังจะชอบแบบนั้นซะด้วยสิ ปล่อยไว้แบบนั้นก็ไม่น่าเป็นอะไรหรอก”

 

“จะดีเหรอครับ?”

 

“อืม! เพราะงั้นสิ่งที่เราจะพูดก็คือ….ถ้าไม่ว่าอะไรล่ะก็นะ เราอยากให้ท่านพูดกับเราแบบเป็นกันเองด้วยน่ะ”

 

“พูดเป็นกันเองกับคุณซึกิคาเงะ?”

 

“อืม…อยู่ๆจะให้พูดเลยก็คงจะยากสินะ….คิดว่าไงบ้างล่ะ?”

 

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ซักครู่ ผมก็ได้ให้คำตอบกับเธอ

 

“ได้สิครับ ช่วงแรกอาจจะยังไม่ชินก็จริงนะครับ….ไม่สิ อาจจะไม่ชินเลยก็ได้ งั้น ถ้าอยู่ในกิลด์หรืออยู่ต่อหน้ากิลด์มาสเตอร์จะขอพูดแบบให้เกียรติเหมือนเดิม ถ้าโอเคล่ะก็”

 

“โอ้! อืม อืม! แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ!”

 

คุณซึกิคาเงะจ้องผมกระพริบตาปริบๆ หางและหูของเธอกระดิกไปมา  

หางเธอสะบัดแรงเกินจนกระโปรงเธอม้วนขึ้น

 

“ใช่แล้ว! ไม่ใช่แค่วิธีการพูด แต่ช่วยเรียกชื่อเราแบบเป็นกันเองด้วยได้ไหม?”

 

“เรียกแบบเป็นกันเอง?”

 

คุณซึกิคาเงะกระพริบตาปิ๊งๆราวกับว่านึกไอเดียดีๆขึ้นมาได้

แต่ว่า เป็นกันเองนี่หมายความว่าไง? คุณซึกิคาเงะ…ไม่ใช่สิ

ซึกิคาเงะจัง หรือ ซึกิคาเงะ จะให้พูดประมาณนี้อย่างงั้นเหรอ?

ถ้าเป็นงั้นจริง นี่มันยิ่งยากกว่าการพูดเป็นการเองอีกนะเนี่ย

 

“ใช่แล้ว….หลังจากนี้จะเรียกเราอย่างเป็นกันเองว่าพี่สาวก็ได้นะหรือไม่ก็ท่านพี่(สาว)ก็ได้นะ”

 

“นั่นเป็นรสนิยมของคุณซึกิคาเงะงั้นเหรอ!?”

 

เรียกท่านพี่ยิ่งดูห่างไกลจากความเป็นมิตรไปอีกนะนั่น!

จะมีโลกไหนที่จะมีพนักงานกิลด์พูดว่า”เหนื่อยหน่อยนะครับพี่สาว♡” อยู่กันเล่าเฮ้ย!

กิลด์นักผจญภัยไม่ใช่ร้านเล่นสวมบทบาทซักหน่อย!

 

“มูมูมูมู….ความแตกซะแล้วงั้นเหรอ…..คึก….อุตส่าห์หวังอยากให้ท่านเรียวลองเรียกเราว่าพี่สาว♡ดูซักครั้งแท้ๆ”

(-3-)

 

“แล้วทำไมถึงคิดว่าความจะไม่แตกล่ะ…..”

 

แต่ว่า ถ้ามีผู้ใหญ่มาเรียกสาวหูจิ้งจอกชุดกะลาสีว่าพี่สาวเนี่ยคงเป็นประเด็นแน่

ถ้าที่นี่ไม่ใช่โลกคู่ขนานล่ะก็ผมโดนแจ้งจับแล้วนะเฮ้ย

 

อ๊ะ งี้เอง กลับกันนี่เอง

ถ้าลองมองมุมกลับแล้วล่ะก็พอจะเข้าใจมุมมองของคุณซึกิคาเงะแล้วล่ะนะ

ก็ถ้ามีสาวหูจิ้งจอกไร้เดียงสาอย่างคุณซึกิคาเงะมาเรียกว่าพี่ชาย♡ ก็คงจะรู้สึกดีมากแน่ๆ

 

อย่างงี้นี่เองนะ อืม….เข้าใจความรู้สึกของคุณซึกิคาเงะแล้วด้วยสิ

ถ้างั้น แค่ครั้งเดียวก็คงไม่เป็นไรหรอกนะ

 

“อา….ถ้างั้นจะเรียกแค่ครั้งเดียวนะ”

 

“หือ!?”

 

“พี่สาว”

 

“ฮ้าาาาา♡♡♡♡!!!!”

 

คุณซึกิคาเงะล้มพรวดลงไป

 

“คุณซึกิคาเงะ!?”

 

คุณซึกิคาเงะหายไปจากสายตาผมอย่างรวดเร็ว

ผมตกใจมากเพราะเห็นเธอล้มลงไปอย่างรวดเร็วเลย

แต่ว่าความกังวลของผมใจของผมก็หายไปไหนไม่รู้

คุณซึกิคาเงะลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น

 

“คะ คุณซึกิคาเงะ?”

 

“ดะ ดีจัง….♡!กะ เกินต้านจริงๆเลยน้อ♡!หนุ่มน้อยอายุ20กว่าๆมาเรียกฉันว่าพี่สาว♡ แบบนี้เนี่ย♡♡♡!”

 

“สำหรับคุณซึกิคาเงะแล้ว หนุ่มน้อยนี่อายุถึงเท่าไหร่กันล่ะ….?”

 

ผมที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง จ้องลงไปหาเธอที่นอนอยู่บนพื้น

ชุดกะลาสีเปิดออกหมดเสน่ห์หายไปไม่เหลือเลย

 

….ในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดว่าจะให้คุณอาเน็ตมาสลับห้องกับผมดีมั้ยนั่นเอง

คุณซึกิคาเงะก็ปีนขึ้นมาบนเตียง

 

“ท่านเรียว ขอร้องล่ะ! ขออีกแค่ครั้งเดียว! ครั้งเดียวเท่านั้น ช่วยเรียกเราว่าพี่สาว♡อีกครั้งจะได้ไหม!?”  

 

“ขอปฏิเสธครับ มันค่อนข้างจะน่าอายเกินไป”

 

“ยะ อย่าพูดอย่างงั้นสิท่านเรียว! คราวนี้ฉันจะจดจำภาพที่ท่านเรียวเรียกเราว่าพี่สาวไว้ในสมองอย่างดีเลยล่ะ มาทำให้เสียงนั่นเป็นเครื่องเคียงมื้อหลักที่ดีสำหรับค่ำคืนนี้กันเถอะ!”

 

“ได้ยินแบบนั้นยิ่งไม่อยากทำเลย!?”

 

“อะ อะไรกัน….!”

 

หูของคุณซึกิคาเงะตกลงมา

ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีแบบนั้นกันเล่า ฝ่ายที่รู้สึกแบบนั้นน่ะมันทางนี้ต่างหาก….

 

พอเห็นคุณซึกิคาเงะห่อเหี่ยวอยู่มุมเตียง ผมเลยบ่น’ให้ตายสิ’ออกมาแล้วก็เข้าไปกอดเธอ

 

“แทนที่จะใช้เสียงของผมเป็นเครื่องเคียงกับมื้อหลักที่ดีแบบนั้น มามีเซ็กส์กับแบบธรรมดาเป็นจานหลักกันดีกว่านะ”

 

“ฮิย้า…….♡!?”

 

ผมผลักร่างกายเล็กๆของคุณซึกิคาเงะลงบนเตียงอีกครั้ง

กระโปรงของเธอแผ่ไปทั่วเตียงเลยทีเดียว

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset