“……”
“……”
มะ ไม่คุยอะไรกันซักคำเลยแฮะ…..!
หลังจากที่ออกมาจากกิลด์นักผจญภัย ผมก็พาคุณซิลเวียไปเดินรอบๆเมือง
ถึงจะว่างั้นก็เถอะ แต่เมืองคาสซานดร้าน่ะมันเป็นเมืองบ้านนอก ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวหรอกนะ
ก่อนอื่นก็ถนนสายหลักที่ผ่านใจกลางเมือง และรอบๆของถนนสายหลักก็จะมีพวกร้านค้า
ที่ขายของที่ไว้ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น ยา อาหาร กับเสื้อผ้า
ถ้าเดินไปทางทิศเหนือของถนนสายหลักก็จะเห็นอาคารหลักของเมือง(ศาลากลาง)
ซึ่งเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้
ถ้าไปทางทิศตะวันตกจะเป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนทั่วไปในเมืองคาสซานดร้า
ส่วนที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้กับศาลากลางที่อยู่ทิศเหนือ
ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีฐานะ
ยิ่งใกล้ทางเข้าเมืองเท่าไหร่ค่าเช่าหรือราคาบ้านก็ยิ่งถูกลง
ตอนนี้พวกเราเลยกำลังเดินเที่ยวชมร้านค้ารอบๆอยู่บนถนนเส้นหลัก
พร้อมกับตามหาเหล่านักผจญภัยรอบๆนี้ไปด้วย
ถึงจะบอกว่าเป็นถนนสายหลักก็เถอะ
แต่ถนนสายหลักของเมืองนี้ถ้าเทียบกับเมืองหลวงแล้วก็แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ร้านขายยาเล็กๆ ที่ดูแลโดยคุณยายฮาล์ฟเอลฟ์ ร้านขายเหล้าของสาวคนแคระ
ร้านขนมปังแสนอร่อยที่บริหารจัดการโดยพี่น้องที่เป็นมนุษย์ธรรมดาสี่คน…..
ซึ่งสำหรับผมแล้วนี่ก็ถือเป็นบ้านเกิดอันเป็นที่รักของผม
แต่สำหรับคุณซิลเวียแล้วอาจจะดูไม่น่าสนใจก็ได้มั้ง
พวกเราถึงไม่ได้พูดอะไรกันเลยทั้งที่เดินไปบนถนนด้วยกัน
“……”
“……”
…..แต่ถ้าจะให้เงียบแล้วเดินไปด้วยกันแบบนี้ต่อไปก็รู้สึกอึดอัด
อะ เอาล่ะ หาเรื่องคุยกับเธอดูดีกว่า!
ยังไงก็ลองถามถึงเหตุผลที่คุณซิลเวียมาที่เมืองนี้ก่อนดีกว่า…..!
“เอ่อ….คุณซิลเวีย”
“นี่ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ วิธีการพูดแบบนั้นมันอะไรกันน่ะ?”
จู่ๆก็โดนติเรื่องการพูดซะงั้น!?
“ขะ ขอโทษครับ ถ้างั้นหรือผมควรเรียกว่าท่านซิลเวียจะดีกว่าล่ะครับ….?”
“พูดอะไรของนายน่ะ? กลับกันเลยต่างหากล่ะกลับกันเลย ตอนที่เจอกันที่โรงเตี๊ยมตอนนั้น พูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ….รู้สึกจะ….รุนแรงกว่านี้ หรือเรียกว่าหยาบคายกว่านี้ดีล่ะ…..”
อ๊ะ อย่างงั้นเรอะ
“นั่นก็เพราะว่าสถานะที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้มันทำแบบนั้นไม่ได้น่ะสิ ตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่กิลด์กำลังแนะนำนักผจญภัยแรงค์ S ชมเมืองอยู่ด้วยสิ เพราะงั้นคงไม่สามารถพูดแบบนั้นได้หรอกนะครับ”
“หืม? เป็นอย่างงั้นเองเหรอ……กะแล้วเชียวพวกเผ่าที่มีอายุขัยสั้นนี้ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆกันจริงๆเลยนะ รู้สึกไม่เคยชินกับอะไรแบบนี้เอาซะเลย”
คุณซิลเวียยักไหล่เหมือนกับจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
“งั้นก็แปลว่า ถ้าไม่มีคนก็คงไม่เป็นไรสินะ? ถ้างั้นก็เปลี่ยนที่กันเถอะ อยู่กันสองต่อสองแล้วนายต้องพูดแบบปกติด้วย เข้าใจนะ?”
“เอ๊ะ? ไม่สิ เดี๋ยวก่อนนะครับ เปลี่ยนที่เนี่ย…..”
“มีหลายๆเรื่องจะถามฉันไม่ใช่รึไง? นายทำหน้าตาสงสัยแบบนั้นมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
“……..”
“งั้นไปที่ๆไม่ค่อยมีคนรู้จักก็คงได้สินะ? ถ้าตัดสินใจได้ไดแล้ว ก็ไปกันเลยก็แล้วกัน”
พอพูดอย่างงั้นเสร็จคุณซิลเวียก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า ผมถอยออกมานิดหน่อยแล้วเดินตามเธอโดยเว้นระยะห่างหนึ่งก้าวเท้า
ผมไม่รู้สึกถึงความลังเลในการเดินของคุณซิลเวียเลยซักนิด
ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถจำเส้นทางในเมืองได้แล้ว
เส้นทางเมืองนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้นด้วยล่ะนะ
…..หรือว่าจริงๆแล้วที่เธอบอกอยากจะให้พาชมเมืองนั่นจะเป็นแค่ข้ออ้าง?
จุดประสงค์จริงๆอาจจะเป็นการพาผมออกมาจากกิลด์เพื่อที่จะได้มาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง….?
พอคิดแบบนั่นได้ผมก็เริ่มที่จะตัวสั่น
….ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้คิดผิดซะด้วย น่ากลัวอะ….
“หื้ม…..ที่นี่มันบ้านเดี่ยวนี่นา? แล้วบ้านหลังใหญ่(บ้านหลังหลัก)อยู่ไหนกันล่ะ?”
พอพูดแบบนั้นแล้วคุณซิลเวียก็มองไปรอบๆ
เธอเดินต่อไปโดยไม่ลังเล แต่น่าแปลกใจมาก เพราะที่ที่เธอเดินมาหยุดอยู่ก็คือหน้าบ้านของผม
หน้าบ้านชั้นเดียวหลังเก่าๆ คุณซิลเวียมองไปรอบๆด้วยความสงสัย
….เอ่อ…คุณซิลเวีย?
ผมจำไม่ได้ว่าเคยบอกที่อยู่ของผมให้เธอรู้นะ แล้วเธอรู้ที่อยู่ของผมได้ยังไงเนี่ย!?
ผมอยากจะถามแบบนั้นแต่ผมก็กลัวเกินไปที่จะถาม
แปลว่าแบบนี้ผมก็หมดทางหนีแล้วอะดิ?
เธอรู้ทั้งที่ทำงานและบ้านของผมเลยงั้นเหรอ?
เอ๊ะ แบบนี้ก็ทางตันเลยสิเนี่ย?
“เรียว ที่อยู่ของนายที่อยู่ของนายอยู่คือที่นี่แน่ๆใช่มั้ย? นายมีบ้านหลังหลักอยู่รึเปล่า?”
“….ไม่มีหรอกครับ บ้านของผมมีแค่หลังเดียวคือที่นี่ครับ สำหรับประชาชนทั่วไปบางคนอาจจะไม่มีบ้านซะด้วยซ้ำครับ”
(ก็คือบางคนก็เช่าอยู่)
ผมตอบคำถามของคุณซิลเวียที่ทำท่าทางที่หมือนกับยอมแพ้ไปแล้ว
เห็นที่อยู่ซอมซ่อแบบนี้แล้ว จะอยู่ยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปก็คงไม่มีความหมายหรอกมั้ง
จะว่าไปแล้วคนคนนี้เนี่ยเป็นคุณหนูลูกเศรษฐีจริงๆสินะ…..
“อะไรนะ ที่นี่น่ะเหรอ?…..ทั้งๆที่คิดว่า ถ้าเป็นผู้ชายอย่างนายน่าจะได้รับเงินมาจากผู้หญิงพวกนั้นมามากมายแท้ๆ ฉันคิดว่ายัยหนูโรเซนครูเซอร์พวกนั้นน่ะ ถ้าเพื่อนายแล้วล่ก็จะยอมทำทุกอย่างซะอีก”
“ผมถึงได้บอกไงครับว่าผมไม่เคยรับเงินมาจากพวกเธอเลยน่ะ นอกจากนี้ สำหรับพนักงานกิลด์บ้านนอกจะพักอยู่ที่แบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ”
“ถ้าเป็นพวกพนักงานทั่วไปมันก็อาจจะใช่อยู่หรอก แต่ให้ผู้ชายพักอยู่ที่แบบนี้คนเดียวมันก็รู้สึกไม่ค่อยจะน่าไว้วางใจเท่าไหร่นะ”
พอพูดแบบนั้นคุณซิลเวียก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและหยิบบางอย่างออกมา
มันคือกุญแจโลหะสีเงินเล็กๆที่ดูแวววาวที่หน้าตาดูคุ้นๆ
แล้วจู่ๆคุณซิลเวียก็ค่อยๆสอดกุญแจรูปนั่นเข้าไปในรูกุญแจประตูบ้านของผม
แล้วพอเธอบิดกุญแจ ประตูก็ถูกเปิดดังแกร๊ก
“หืม…..กะแล้วเชียวว่าไม่ปลอดภัยจริงๆเลยนะ ลองเพิ่มการตรวจสอบตัวตนด้วยเวทย์ดูเป็นไงล่ะ? เดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบติดต่อผู้รับเหมาให้มาจัดการให้….”
“เดี๋ยว เดี๋ยวๆ รอซักครู่นะครับ!? ทำไมคุณซิลเวียถึงมีกุญแจบ้านของผมได้ล่ะ!?”
ผมคิดว่ากุญแจของผมอาจจะถูกขโมยไปรึเปล่าผมจึงลองล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของผม
แต่ผมก็เจอกับกุญแจบ้านของผมอยู่ในกระเป๋าเหมือนกัน
ก็แปลว่า กุญแจที่คุณซิลเวียมีนั้นไม่ใช่กุญแจของผม
ตรงกันข้ามกับผมที่ร้อนรน คุณซิลเวียกลับมีท่าทีที่สงบนิ่ง
“อา ไม่เป็นไรหรอกน่า นี่ไม่ใช่ของที่มันผิดกฎหมายอะไรหรอก เพราะงั้นไม่ต้องกังวล มันเป็นสิ่งที่ได้มาจากการจ่ายเงินอย่างถูกกฎหมายน่ะ”
“กุญแจบ้านที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของบ้านมันจะถูกได้ยังไงล่ะครับ!?”
“ถ้าจะให้อธิบายล่ะก็ ที่บ้านฉันเป็นผู้รับเหมาในการสร้างกุญแจแบบนี้น่ะ ถึงแม้จะไม่มีกุญแจจริงๆ แต่ถ้าหากรู้ประเภทของตัวล็อคที่อยู่ตรงประตูล่ะก็ จะสามารถใช้กุญแจที่มีหน้าตาเหมือนกันไขได้”
“นะ นั่นมันไม่ผิดกฎหมายรึไงครับ!?”
“เดิมทีมันก็เป็นกุญแจที่ผลิตมาหลายดอกในโรงงานของบ้านฉันอยู่แล้ว และมันก็บังเอิญว่ากุญแจดอกนั้นมันตรงกับตัวล็อคของบ้านนายพอดี แถมยังเป็นกุญแจที่ผลิตออกมาอย่างถูกกฎหมายของราชอาณาจักรด้วย เพราะงั้นจึงไม่มีปัญหา”
คุณซิลเวียพูดแบบนั้นพร้อมยักไหล่
“เพรางั้นฉันถึงบอกว่าไม่ปลอดภัยยังไงล่ะ ให้ตายสิ……เป็นผู้ชายที่อยู่คนเดียวทั้งที อย่างน้อยก็ควรจะมีการยืนยันตัวตนด้วยเวทย์ซักหน่อยนะ”
“เอ๋….นี่ตอนนี้ผมกำลังถูกเทศนาเรื่องความปลอยภัยจากคนที่ใช้กุญแจที่เหมือนกันไขเข้าบ้านผมเนี่ยนะ…..”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ผู้รับเหมามาติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยให้มันถูกต้องก็แล้วกัน ก่อนจะถึงเวลานั้นก็มาอยู่ที่บ้านของฉัน….อ่า ไม่สิ ต้องทำอะไรกับหน้าต่างนี่ด้วยสินะ? ไม่มีแม้กระทั่งระบบตรวจจับเวทย์มนตร์เลยเหรอ? ชิ ประมาทกันซะจริงเลยนะ….”
พอพูดแบบนั้น คุณซิลเวียก็เดินเข้าไปในบ้านของผมแล้วก็ทำอะไรบางอย่าง
แล้วตัวผมที่ตอนนี้กำลังรู้สึกถึงความว่างเปล่าก็ถูกทิ้งไว้หน้าบ้านคนเดียว
เอ๋………?
ถ้าผมได้ยินไม่ผิด….คุณซิลเวียบอกให้ผมไปอยู่ที่บ้านของเธองั้นเหรอ?