นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 70

 

กลิ่นไอน้ำและกลิ่นหอมสดชื่นของต้นไซเปรส

 

“ฮู่ว…..”

 

ผมหายใจเข้าลึกๆในขณะที่นั่งแช่น้ำอยู่ในอ่างกลางแจ้งที่ทำจากไม้ไซเปรส

 

น้ำร้อนที่เติมลงในอ่างเป็นน้ำที่ขุ่นๆ ผิวน้ำมีไอระเหย  

ตอนแรกผมก็แอบกังวลกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำร้อนนี่อยู่หรอก

แต่พอชินแล้วก็ไม่เป็นไร

 

“นี่คือน้ำพุร้อนสินะ….อ่าาา ถ้าได้มาเที่ยวพักผ่อนก็คงจะดีแฮะ”

 

ผมได้ผ่านเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มาโดยบอกกับทุกคนก่อนว่าขอเวลาคิดซักพัก

[เดี๋ยวจะเก็บเอาไปคิดทีหลังครับ] ผมมักใช้คำนี้ในการจัดการกับพวกนักผจญภัยที่มาที่กิลด์

แต่ผมไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้คำนั้นที่นี่

 

ถึงตามจริงแล้วผมควรจะบอกไปตามตรงว่าจริงๆแล้วผมไม่ใช่ผู้สืบทอดของควอนดร้าอยู่หรอก

แต่บอกตรงๆคือในตอนนั้นผมคิดอะไรมาแถไม่ออกจริงๆ

 

พอพวกเธอเห็นผมพูดแบบนั้นแล้ว จึงหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

และพวกเธอก็ให้ผมกับคุณซิลเวียไปที่โรงอาบน้ำ

โดนลักมาตัวมาแต่กลับถูกปฏิบัติซะอย่างกับVIP

 

แล้วพอผมถามเมย์ฟาว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน

เธอก็ได้บอกกับผมคร่าวๆว่าที่นี่คือหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

ที่ซ่อนอยู่ในภูเขาที่ห่างไกลจากเมืองคาสซานดร้าและเมืองหลวง

 

ดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้จะเป็นสมาชิกของกิลด์แห่งความมืด

และที่นี่ก็คือฐานทัพหลักของกิลด์แห่งความมืดนั่นเอง 

(ความหมายเดียวกับสำนักงานใหญ่กิลด์นักผจญภัย)

เหมือนว่าจะมีประชากรที่ตั้งหลักอยู่ที่นี่ประมาณ 300 กว่าคน

 

ถ้าจะให้พูดก็คือต่อให้ผมกับคุณซิลเวียคิดจะหนีกันจริงๆก็คงหนีไม่รอด

เพราะต้องหลบหนีจากมือสังหารประมาณ 300 คนในหมู่บ้านนี้

 

….คงไม่ไหวจริงๆนั่นแหละ

แถมรอบหมู่บ้านยังเป็นภูเขา ถ้าจะออกไปก็ต้องข้ามภูเขาอีกสินะ

 

แล้วก็อีกเรื่องที่เมย์ฟาบอกมา ผมยังได้รู้อีกด้วยว่า

มีมอนสเตอร์แรงค์ B เป็นอย่างน้อยอยู่รอบๆภูเขาด้วย

 

ไม่มีเมจิคไอเทมที่จะใช้หลบเลี่ยงพวกมอนสเตอร์ด้วย

การจะข้ามภูเขานี้ไปโดยไม่มีไอเทมที่เหมาะสมก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายนั่นแหละ

 

อย่างนี้้นี่เองนะ เพราะแบบนี้เองเมย์ฟากับคนอื่นๆถึงพูดกันอย่างมั่นใจว่า

‘อย่าคิดว่าจะหนีออกไปจากที่นี่ได้เชียว’

ก็ใช่สิ ใครจะไปหนีได้กัน!

 

“แต่ว่า…จะเอาไงดีหว่า……ขืนยังอยู่ที่นี่ต่อ ผมคงได้กลายเป็นกิลด์มาสเตอร์รุ่นสองของกิลด์แห่งความมืดแน่ๆ…..เอ๋? แต่จะว่าไป ควอนดร้าตายไปตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนแล้วนี่นา? ทั้งอย่างงั้นแต่ผมยังจะได้เป็นรุ่นที่สองงั้นเหรอ?”

 

“ใช่แล้วค่ะ หลังจากท่านรุ่นแรกตายไป ก็ไม่มีใครเป็นกิลด์มาสเตอร์อีกเลยค่ะ”

 

พอผมได้ยินเสียง ผมจึงหันไป แต่กลับไม่เจอใครเลย

 

“เอ๋….? เมื่อกี้มัน เสียงของเมย์ฟานี่นา…..”

 

“ต้องขอประทานโทษด้วยค่ะท่านเรียว เพื่อจะปกป้องคุณ เราจึงจำเป็นต้องอยู่ข้างๆคุณค่ะ ถึงท่านเรียวจะเป็นผู้สืบทอดของท่านควอนดร้าก็ตาม แต่ก็ยังมีคนคิดจะจู่โจมอยู่ค่ะ แถมคำร้องของจากท่านบารอนคนนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วย…..”

(เปลี่ยนไปเรียกเป็นท่านบารอนแทนนะครับ เพราะนางเรียกด้วยยศ)

 

อีกแล้วเหรอ

พอผมมองไปรอบตัวก็เห็นแต่ดงไผ่ที่ห้อมล้อมโรงอาบน้ำ กับแสงที่มาจากตะเกียง

หรือว่าชุดสูทนั้นจะมีสกิลในการซ่อนกายอยู่ด้วยงั้นเหรอ?

 

“เอ่อ…ท่านเรียว…..? ต้อขออภัยด้วยนะคะ คุณคงจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ…..”

 

“ไม่เป็นไรหรอก แต่ก็นะ เธอน่ะช่วยเปลี่ยนวิธีพูดหน่อยได้มั้ย?”

 

“วิธีพูดเหรอคะ?”

 

“ผมไม่ได้เป็นสมาชิกของกิลด์แห่งความมืดด้วยซ้ำนะ กลับไปใช้วิธีพูดแบบเดิมของเธอเถอะ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ…..ถ้านั่นเป็นคำสั่งล่ะก็ เราก็จะขอทำตามนั้นค่ะ”

 

หลังจากที่สูดหายใจเข้าไป เสียงของเมย์ฟาก็สะท้อนออกมาจากความมืดอีกครั้งหนึ่ง

 

“ถ้างั้น เอ่อ….เรื่องที่พวกเราคุยกันเมื่อกี้น่ะ เราเองก็เตือนทุกคนไปแล้วล่ะว่าอย่าจู่โจมท่านเรียวน่ะ เพราะว่าหมู่บ้านเรามีแต่พวกผู้หญิงบ้าผู้ชายน่ะนะ! ถึงจะฟังดูไม่แย่ไปหน่อย แต่นี่ก็ถือว่าเผื่อไว้ก่อนน่ะ……นะ? อ๊ะ แน่นอนว่าเราจะไม่ให้พวกนั้นเห็นท่านเรียวเปลือยเด็ดขาดเลยล่ะ!”

(ผู้หญิงในหมู่บ้านอยากเซ็ตหย่อพระเอก แต่นางกำชับไปแล้วว่าอย่าแม้แต่จะแอบดู นางเลยเข้ามาคุ้มกันเรียวที่โรงอาบน้ำ)

 

“น่า ไม่เป็นไรหรอก มีอะไรเกิดขึ้นตั้งเยอะแยะนี่นะ”

 

การกระทำของเธอคือการคุ้มกันและเฝ้าระวัง และเธอก็ไม่ได้พยายามเข้ามาก้าวก่ายข้างในนี้แม้แต่น้อย

ผมก็ไม่อยากจะไล่งูออกมาจากพุ่มไม้ซะด้วยสิ

(เปรียบเทียบว่า ให้ซ่อนเธอตัวต่อไปดีกว่า)

 

“แล้วก็ อีกเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้น่ะ ทำไมผมถึงเป็นรุ่นที่สองล่ะ? ไม่มีใครสืบทอดตำแหน่งกิลด์มาสเตอร์ต่อจากควอนดร้าเลยงั้นเหรอ?”

 

“จากการสูญเสียท่านรุ่นแรกไป ตำแหน่งกิลด์มาสเตอร์จึงว่างมาตลอด ตอนนี้ก็มีคนที่เป็นตัวแทนกิลด์มาสเตอร์อยู่หรอกค่ะ แต่ก็มีคนคัดค้านว่า ถ้าไม่ใช้ผู้สืบทอด(ทายาท)ของท่านควอนดร้าและไม่มีแหวนนั้น ก็ถือว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นกิลด์มาสเตอร์ เพราะฉะนั้นคนที่ทำหน้าที่คล้ายกับกิลด์มาสเตอร์จึงให้นั่งเป็นตัวแทนกิลด์มาสเตอร์ อ๊ะ แล้วก็ตอนนี้รองกิลด์มาสเตอร์ก็คือเราเองค่า”

 

“หื้ม…..อย่าบอกนะว่าเมย์ฟาเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ค้านเรื่องนั้นด้วยน่ะ?”

 

“เอะเฮะเฮะ….♡”

 

ผมได้ยินเสียงหัวเราะน่ารักๆ แต่เนื้อหาที่คุยไม่น่ารักเอาซะเลย

 

“งั้นเรื่องที่ว่าคำขอจากบารอนคนนั้นยังดำเนินต่อไปนี่มันหมายความว่ายังไงน่ะ? เมย์ฟาบอกว่าฉันคือผู้สืบทอดของควอนดร้านี่นา คำขอนั่นน่ะยกเลิกไปไม่ได้เหรอ?”

 

คำขอของบารอนคางคกคนนั้นจ้างกิลด์แห่งความมืดคือการทำให้คุณซิลเวียตกลงแต่งงานใหม่

โดยที่จะให้พวกผู้หญิงในกิลด์แห่งความมืดมารุมข่มขืนผมจะยังดำเนินต่อไป

แต่ว่านะ…..จะพูดให้ชัดๆก็เป็นคำขอที่โคตรจะไร้สาระจริงๆ!

 

“อืม เรื่องนั้นมันก็ค่อนข้างจะยากนะ….กิลด์แห่งความมืดน่ะมีกฎเหล็กคือจะต้องทำตามคำขอให้สำเร็จน่ะสิ อ๊ะ แต่ถ้าผู้ว่าจ้างยกเลิกเองล่ะก็ถือว่าโอเคล่ะนะ”

 

“อ๊ะ จะว่าไปแล้วที่กิลด์นักผจญภัยก็เหมือนกันนี่นะ”

 

“แต่สำหรับสังคมโลกมืดแล้ว ความน่าเชื่อถือนั้นสำคัญกว่าสังคมธรรมดามาก เพราะพวกเราไม่ถูกผูกมัดด้วยกฎเกณฑ์ของสังคมทั่วไป จึงให้ความสำคัญกับคำสาบานและคำสัญญามากกว่าสิ่งใด ถ้าเรายกเลิกคำขอของผู้จ้างล่ะก็ เราก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือไป”

 

“ถึงแม้ว่าผมจะยอมรับเป็นผู้สืบทอดของควอนดร้าก็ตามเหรอ…..?”

 

“ใช่แล้วล่ะ ต่อให้ท่านเรียวจะกลายเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แห่งความมืดหรือไม่ก็ตาม แต่การยกเลิกขอนั้นมันก็คนละเรื่องกัน…..แต่แน่นอนว่าความปลอดภัยของท่านเรียวนั้นต้องมาก่อน เพราะงั้นเราเลยคิดว่าจะยกเลิกคำขอนั่นเดี๋ยวนี้แหละ! แต่ว่าการจะยกเลิกคำไหว้วานนั้นมันจำเป็นที่จะต้องได้รับการอนุมัติจากรองกิลด์มาสเตอร์และตัวแทนกิลด์มาสเตอร์ทั้งสองคนก่อน แต่เจ้าเด็กเหลือขอนั่นมันจะว่ายังไงกันนะ….”

 

ดูเหมือนว่ากิลด์แห่งความมืดจะไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันซักเท่าไหร่แฮะ

จากที่คุยกัน ดูเหมือนว่าสมาชิกฝ่ายรองกิลด์มาสเตอร์ที่นำโดยเมย์ฟา

จะสนับสนุนผมที่มีแหวนให้เป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แห่งความมืด

 

ในทางกลับกัน คนที่เป็นตัวแทนกิลด์มาสเตอร์คงจะไม่ชอบผมแน่ๆ

เพราะถ้าผมปรากฎตัวขึ้นมา ตำแหน่งของเขาก็จะสั่นคลอน  

 

ดังนั้นตัวแทนกิลด์มาสเตอร์ ก็น่าจะไม่ยกเลิกคำไหว้วานของขุนนางนั่น

และก็จะดำเนินคำขอนั้นต่อไป……เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากซะจริง!

ผมไม่ได้อยากจะเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แห่งความมืดซักหน่อย!

 

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา แต่จู่ๆก็มีเสียงดังออกมาจากความมืด

 

“แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะท่านเรียว! เมื่อกี้ก็บอกไปแล้วนี่นา ถึงพวกเราจะยกเลิกคำขอไม่ได้ แต่ถ้าท่านบารอนคนนั้นยกเลิกคำไหว้วานนั้นเองก็ไม่เป็นไรนะ”

 

“ให้บารอนยกเลิกคำขอ….?”

 

มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ?

ถ้าบารอนคนนั้นเลิกยึดติดกับคุณซิลเวียมันก็อาจจะเป็นยกเลิกได้อยู่หรอก….

 

“จริงๆแล้วเมื่อกี้นี้ เราก็พูดกับซิลเวียจังในทำนองเดียวกันมาน่ะ แล้วก็ได้รับการเสนอแผนจากซิลเวียจังมาล่ะ!”

 

“จากคุณซิลเวีย?”

 

“เอาจริงๆเราก็แอบกังวลอยู่หน่อยๆหรอกนะ แต่ว่า ต่อให้แผนของซิลเวียจังล้มเหลว กิลด์แห่งความมืดก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วล่ะ แถมมันก็ยังเป็นไปตามคำขอของบารอนด้วย เพราะงั้นเลยคิดว่าคงไม่เป็นไรน่ะ”

 

“หืม? เอาเถอะ ถ้าคุณซิลเวียว่างั้นก็ลองทำดูละกัน”

 

ถ้าคุณซิลเวียแนะนำมาผมก็คิดว่ามันก็มีค่าที่จะเดิมพัน

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วลองไปถามคุณซิลเวียดูดีกว่า

 

ผมเดินออกมาจากอ่างและนั่งลงตรงขอบอ่าง โดยที่เท้ายังจุ่มน้ำ

มองไปบนฟ้าจะเห็นดาวส่องแสงระยิบระยับ

แล้วผมก็สะดุ้งกับเสียงที่ดังมาจากความมืด

 

“อุหวา หวาๆ! ทะ ท่านเรียว ถ้าจะขึ้นมาอย่างน้อยก็บอกกันหน่อยสิ! เราเกือบเห็นร่างเปลือยของคุณแล้วนะ!”

 

“? เห็นร่างเปลือยเนี่ย ต่อให้จะเห็นร่างเปลือยของผู้ชายมันก็ไม่เป็น…..อ๊ะ จริงสิ”

 

ในโลกฝั่งนี้แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ของชายหญิงมันกลับกันสินะ

เมย์ฟาที่ดูร้อนรนทำให้ผมแอบขำออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

 

เมย์ฟาในตอนนี้เชื่อฟังผม แต่พอคิดถึงตอนที่เจอกับเธอที่บ้านผมตอนนั้นแล้ว

ก็ค่อนข้างจะเป็นประสบการณ์ที่แย่ผมสมควรเลยแฮะ

แถมเธอยังเป็นคนที่ลักพาตัวผมกับคุณซิลเวียอีกด้วย

 

ถ้างั้น จะแก้แค้นเธอที่นี่ตอนนี้เลยซักนิดดีมั้ยนะ?

 

“เมย์ฟา มาทางนี้หน่อยสิ”

 

“เอ๊ะ”

 

“ตอนนี้มันมืดแล้ว ผมมองไม่ค่อยจะเห็นทางน่ะ เพราะงั้นช่วยมานำทางให้ผมหน่อยได้มั้ย?”

 

“ถะ ถ้าท่านเรียวพูดอย่างงั้นล่ะก็……”

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น เมย์ฟาก็ค่อยๆปรากฎตัวขึ้นมาจากความมืด

ก็เหมือนกับทุกที เธอมาในชุดสูทสีดำแนบเนื้อเหมือนเดิม…..

แต่แปลกจริงแฮะ ผมมองหาหูกระต่ายสีขาวของเธอไม่เจอเลย

นี่ก็เป็นสกิลซ่อนเร้นงั้นเหรอ?

 

ผมกวักมือเรียกเมย์ฟาด้วยมือข้างหนึ่ง

เมย์ฟาค่อยๆย่องเข้ามาหาผมช้าๆพร้อมแอบดูหน้าอกกับหว่างขาของผม

 

“ท่านเรียว…..”

 

“ควอนดร้าน่ะ ช่วยกอดกับผู้หญิงในกิลด์แห่งความมืดทุกคนเลยสินะ?”

 

พอผมถามแบบนั้น เมย์ฟาก็พยักหน้าให้ผม

 

“งั้น ถ้าเกิดว่าผมกลายเป็นรุ่นที่สองขึ้นมา เรื่องแบบนั้นเมย์ฟาก็คงโอเคสินะ?”

 

เมย์ฟาจ้องมาที่ผมด้วยสีหน้าที่ดูประหลาดใจ

ดวงตาสีชมพูของเธอจ้องมาที่ผมนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง

มากกว่าที่จะเป็นความแปลกใจหรือรู้สึกรังเกียจซะอีก

 

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset