เมย์ฟายิ้มให้กับผม
ตรงกันข้ามกับรอยยิ้มน่ารักๆของเธอคือคำถามอันทรงอำนาจของเธอในตอนนี้
ที่ต้องการแค่คำตอบจากผมแค่ว่า ใช่ หรือ ไม่ ก็เท่านั้น
ถึงจะตัวจะพูดว่า ‘ได้โปรด’ ก็ตาม แต่นี่มันเป็นการข่มขู่ชัดๆ
เธอบอกว่าถ้าผมไม่ยอมขึ้นเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แห่งความมืด
คุณซิลเวียก็อาจจะไม่ปลอดภัย ถ้าไม่เรียกข่มขู่แล้วจะให้เรียกอะไร
แต่นั่นยิ่งเป็นเหตุผลที่ผมจะไม่เป็นกิลด์มาสเตอร์เลยแหละ
เท่าที่คุยกันก่อนหน้านี้ เหมือนปัจจุบันนี้ที่กิลด์แห่งความมืดจะมีคนที่ถูกเรียกว่า
‘ตัวแทนกิลด์มาสเตอร์’ ที่ก็ทำหน้าที่คล้ายๆกับกิลด์มาสเตอร์อยู่สินะ
เหตุผลที่เขาถูกเรียกว่า ‘ตัวแทน’ นั่นก็เป็นเพราะว่ากลุ่มของฝั่งเมย์ฟาค้าน
ไม่ให้คนที่ไม่ใช่ผู้สืบทอดเพราะไม่มีแหวนเป็นกิลด์มาสเตอร์
ถ้าผมออกไปจากที่นี่จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวแทนกิลด์มาสเตอร์กันแน่นะ
“แล้ว….คนที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนกิลด์มาสเตอร์อยู่ตอนนี้ล่ะ? ผมไม่คิดว่าเขาจะมอบตำแหน่งกิลด์มาสเตอร์ให้กับผมหรอกนะ”
“หืม? เรื่องนั้นท่านเรียวไม่ต้องกังวลไปหรอก♡ ถ้าเกิดว่าเจ้าเด็กนั่นทำแบบนั้นล่ะก็ เราก็จะทำให้มันหายไปจากโลกนี้เอง♡”
“ตอนนี้กิลด์แห่งความมืดแบ่งเป็นสองฝ่ายระหว่างฝ่ายของตัวแทนกับฝ่ายของเมย์ฟาสินะ? ถ้าทำงั้นมันกิลด์แห่งความมืดก็จะต้องเกิดการหลั่งเลือดเป็นจำนวนมากนะ”
“ฮิฮิ แบบนั้นอาจจะดีก็ได้นะ♡”
เมย์ฟาหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน
“ยังไงตอนนี้กิลด์แห่งความมืดในปัจจุบันก็เป็นแค่กลุ่มที่มีแต่คนออนแอ เราคิดว่าการจัดระเบียบใหม่แล้วก็กำจัดบุคลากรบางส่วนภายใต้ความขัดแย้งนี้ออกไปก็ดีเหมือนกัน♡”
“กลุ่มคนอ่อนแอ?”
ผมรู้สึกสับสนกับคำพูดเหล่านั้นของเธอ
เมย์ฟามองขึ้นมาหาผมพร้อมกับลูบดุ้นของผมไปด้วย
บอกตามตรงแบบนี้ฟังลำบากแฮะ
จะเล่นดุ้นหรือจะพูดก็เอาซักอย่างสิ
“ท่านเรียวน่ะ…..จริงๆแล้วก็แอบสงสัยใช่มั้ยล่ะ? ไม่ว่าจะมองยังไง การที่พวกเรารับคำขอของท่านบารอนคนนั้นน่ะ มันก็ไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิด”
“จะว่าไปแล้วก็….”
“ใช่มั้ยล่ะ? คำขอของท่านบารอนคนนั้นน่ะเห็นแก่ตัวเกินไป ตัวเองเป็นคนละเลยซิลเวียจังเองแท้ๆ แต่เขากลับกังวลอยากรีบแต่งงานใหม่เพราะเงินสนับสนุนที่หายไปเนี่ยนะ”
“ก็จริงนะ”
“ต่อให้ซิลเวียจังจะเชื่อฟังและยอมแต่งงานใหม่ แต่พ่อแม่ของเธอก็คงจะไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้นหรอกใช่มั้ยล่ะ? เอาจริงๆแล้วบ้านซิลเวียจังน่ะรวยกว่าท่านบารอนคนนั้นไม่รู้ตั้งเท่าไหร่”
“งั้น….ทำไมถึงรับคำขอของเขาล่ะ?”
“ก็บอกไปแล้วนี่นา? กิลด์แห่งความมืดในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ากลุ่มผู้หญิงอ่อนแอที่มารวมตัวกันเท่านั้น พวกเธอไม่มีความภาคภูมิใจหรือความยึดมั่นอะไรเลย”
ยิ่งพูดก็ยิ่งสับสนกับคำพูดของเมย์ฟา
“แต่ดูไม่เห็นจะเป็นแบบนั้นเลยนะ….”
“นั่นก็เพราะ….หลังจากการที่กิลด์แห่งความมืดเสียผู้นำอย่างท่านรุ่นแรกไป การเสียผู้นำที่มีเสน่ห์ดึงดูดแบบนั้นทำให้สมาชิกของเราและเงินทุนของเราค่อยๆหายไปเรื่อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงรับคำขอแม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องความแค้นส่วนตัวของท่านบารอนยังไงล่ะ ถ้าเป็นกิลด์แห่งความมืดในสมัยก่อนก็คงจะปฏิเสธคำขอพรรค์นี้ไปแล้วล่ะ…”
พอพูดเสร็จ ประกายที่ดวงตาของเมย์ฟาหายไป
“สุดท้ายแล้ว พวกที่มารวมตัวกันที่กิลด์แห่งความมืดนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพวกผู้หญิงที่ถูกครอบครัวรังเกียจเพราะหน้าตาทั้งนั้น ตั้งแต่ที่ท่านรุ่นแรกตายไป กิลด์แห่งความมืดก็ยิ่งเสียพลังอำนาจมากขึ้นไปเรื่อยๆ…..เราจึงต้องยอมรับคำขอที่จะทำให้ซิลเวียจังรู้สึกอัปยศแบบนี้ยังไงล่ะ….”
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป กิลด์แห่งความมืดก็จะต้องหายไป…..กิลด์ที่ท่านยายและท่านแม่พยายามปกป้องไว้ ก็จะกลายเป็นแค่องค์กรที่ทำเพื่อเงินเท่านั้น…!”
“เมย์ฟา……”
“แต่ว่า…….เพราะแบบนั้นแหละเราถึงรู้สึกว่าการที่เราได้พบกับท่านเรียวที่นี่มันคือโชคชะตา!”
เมย์ฟาเงยหน้าขึ้นมามองผมและยิ้มอย่างสดใสให้ผม
แต่รอยยิ้มของเธอมันกลับดูบิดเบี้ยว
“นี่ รู้ใช่มั้ย? ว่าถ้าเป็นท่านเรียวล่ะก็คงเข้าใจใช่มั้ย?….ถ้าท่านเรียวบอกว่าอยากกลับไปที่เมืองคาสซานดร้าล่ะก็ ถ้าเกิดว่าท่านเรียวกลับไปล่ะก็ คงจะรู้สินะว่าเราจะต้องรู้สึกยังไง? คราวรู้สึกที่อยากจะปกป้องบ้านเกิดของตัวเองน่ะ คุณเองก็คงเข้าใจใช่มั้ย?”
“เมย์ฟา โทษทีนะ แต่ผมน่ะ”
“ถ้ากังวลเรื่องฝ่ายตัวแทนล่ะก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าพวกเขาได้รู้เรื่องของท่านเรียว พวกเขาจะต้องติดตามท่านเรียวแน่นอน ถ้ามีท่านเรียวที่จะสามารถรักเด็กๆเหล่านั้นได้อยู่ล่ะก็♡ ต่อให้กิลด์แห่งความมืดนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายก็ตามเราก็จะไม่มีวันทำให้ท่านเรียวตกอยู่ในอันตรายเด็ดขาด ไม่ว่าอะไรที่ท่านเรียวอยากได้ ทั้งอัญมณี เสื้อผ้า หรืออาหาร เราก็จะหามาให้ เพราะงั้น….”
รอยยิ้มที่แตกสลายของเมย์ฟาที่ยึดติดกับตัวตนของผมนั้นช่างดูสิ้นหวัง
แต่มันได้เวลาที่จะสลัดเธอออกไปแล้วล่ะ
ทันใดนั้นเอง จู่ๆข้างนอกก็มีเสียงดังเกิดขึ้น
แล้วก็มีเสียงที่เหมือนกับจะเป็นเสียงเพื่อแจ้งเตือนดังขึ้นมา
หรือนี่มันคือเสียงเตือนกันนะ ทันทีที่เมย์ฟาได้ยินเสียงนั้น
สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที
เธอลุกออกจากตัวผมอย่างรวดเร็วและรีบไปดูที่หน้าต่างห้อง
“เสียงนี้……ผู้บุกรุกงั้นเหรอ!? เป็นไปไม่ได้…..ก็ตลอดเวลา 100 ปีที่ผ่านมาฐานทัพนี้ไม่เคยถูกใครหาเจอเลยนี่นา….! บ้าจริง!”
หลังจากนั้นเมย์ฟาก็หันมามองหน้าผม
“ท่านเรียว อยู่เฉยๆที่นี่นะ! ไม่แน่บางทีพวกฝั่งตัวแทนอาจจะรู้ถึงตัวตนของท่านเรียวแล้วก็ได้—เอ๊ะ?”
ดวงตาสีชมพูของเมย์ฟาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
และจากนั้นเธอก็คุกเข่าลงบนพื้นช้าๆ
ผมค่อยๆลดมือที่หันไปทางเธอลง
ผมใช้แหวนทองยิงหนามอัมพาตออกไป
ผมยิงไปที่เธอตอนที่เธอกำลังหันหลังให้ผม
หนามโดนตัวเธออย่างจังและมันก็ทำให้เธอขยับตัวไม่ได้
“ทะ ทำไมกัน…..ท่านเรียว……”
เมย์ฟาที่ล้มลงกับพื้นมองมาที่ผมด้วยหน้าเศร้า
แต่ผมก็ส่ายหัวให้เธอ
“โทษทีนะแต่ผมไม่ได้อยากที่จะเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แห่งความมืดหรอก เพราะว่าบ้านเกิดของผมมันไม่ได้อยู่ที่นี่ไงล่ะ บ้านเกิดของผมคือเมืองคาสซานดร้าต่างหาก….แล้วก็นะ ผมคิดว่าควอนดร้าจะต้องเสียใจอยู่แน่ที่พวกเธอมาสู้กันเองแบบนี้น่ะ”
“ทะ….ท่านเรียว…..”
แม้ว่าเมย์ฟาจะเป็นอัมพาตแต่เธอก็ยังพยายามยื่นมือที่อ่อนแรงมาหาผม
แต่ผมก็ไม่ได้จับมือนั้นของเธอ
ผมหันหลังให้เธอและออกจากห้องไปโดยที่ไม่พูดอะไร
แต่พอผมเดินออกจากห้อง
ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าดุ้นของผมตอนนี้มันกำลังตั้งโด่อยู่ข้างนอก
ผมเลยรีบยัดมันกลับเข้าไปในกางเกงของผมและวิ่งออกไปจากหน้าห้อง