“ว่าแต่ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ…..?”
ผมวิ่งมาตามทางเดินเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกกันแน่
แล้วผมก็ได้ยินเสียงดาบปะทะกันอย่างรุนแรง
พร้อมได้ยินเสียงใครบางคนกำลังโกรธอยู่ด้วย
“……..”
แต่ก็นะ ไม่คิดเลยว่าเมย์ฟาเธอจะยึดติดกับผู้สืบทอดของท่านรุ่นแรกขนาดนั้น
ถึงผมจะหนีออกมาแต่ผมว่าเธอคงไม่ยอมล้มเลิกง่ายๆหรอก
ถ้าพวกเธอจะทำร้ายคุณซิลเวียจริงๆแล้วล่ะก็
ผมน่ะ…..ไม่สิ จะยังไงผมก็ไม่ได้อยากจะเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์แห่งความมืดอยู่ดี
แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ตัวแทนกิลด์มาสเตอร์จะทำยังไงกับผมด้วย
“ว้อยยยย ให้ตายเถอะ! มันจะยุ่งยากน่ารำคาญอะไรขนาดนี้ฟะเนี่ย…..โอ๊ะ!?”
ผมอุทานออกมาในขณะที่กำลังเดินอยู่
ผมเดินชนกับผู้หญิงสามคน
แต่ที่แย่คือผู้หญิงสามคนนี้ดันเป็นคนที่ผมรู้จัก
“เมี้ยว? ทำไมเรียวถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะเมี้ยว?”
“ซึสึ….!”
ซึสึกับผู้หญิงอีกสองคนใส่ชุดมือสังหารสีดำ
แต่ละคนก็มีอาวุธอยู่ในมือ ส่วนซึสึก็ถือ(โชโซ)หอกยาวอยู่ในมือ
“มะ ไม่มีอะไรหรอก พอดีว่าเหมือนจะเกิดเหตุวุ่นวายข้างนอก เมย์ฟาก็เลยบอกให้ผมไปหลบในที่ปลอดภัยน่ะ”
“อ๊ะ ยังงี้นี่เองเมี้ยว”
ซึสึที่กำลังเอียงคออยู่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจและพยักหน้าให้กับคำพูดของผม
จากนั้นพวกเธอก็เปิดทางให้กับผม
โล่งอกไปที เหมือนจะหลอกได้สำเร็จสินะ….!
“ถ้าเป็นงั้นก็ดีแล้วล่ะ แล้วรู้มั้ยล่ะว่าที่ปลอดภัยมันอยู่ที่ไหนน่ะเมี้ยว?”
“ไม่เป็นไรหรอก เมย์ฟาบอกผมมาแล้วน่ะ”
ในขณะที่ผมกำลังรู้สึกโล่งอก ผมก็ได้เดินไปตามทางเดิน
แต่จู่ๆซึสึก็จับแขนของผมล็อคไว้ข้างหลัง
“นะ…..! นะ นี่ ซึสึ?”
“…..ในสถานการณ์วุ่นวายแบบนี้ เมย์ฟาจังไม่มีทางปล่อยให้นายอยู่ตามลำพังแน่เมี้ยว นายน่ะ ฉวยโอกาสเมย์ฟาจังหนีออกมาใช่มั้ย?”
“มะ ไม่ใช่นะ ก็นั่นไง เมย์ฟาก็กำลังยุ่งอยู่พอดีน่ะ เพราะงั้นก็เลย…..โอ๊ยๆๆ!?”
เหมือนว่าเธอจะจับโกหกผมได้ง่ายๆเลย
บ้าจริง! ดันเป็นแขนข้างที่ใส่แหวนซะด้วย ผมเลยยิงหนามออกไปไม่ได้
เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าผมจะทำแบบนั้น เธอเลยแกล้งปล่อยให้ผมผ่านไปสินะ
“นี่ พวกเธอ พาหมอนี่ไปที่ห้องใต้ดินซะเมี้ยว ต้องให้เกียรติเขาด้วยเมี้ยว….และที่สำคัญ ห้ามแตะต้องเขาเด็ดขาดนะเมี้ยว”
“เข้าใจแล้วค่ะ ท่านซึสึ”
“……..”
ซึสึมัดแขนของผมด้วยเชือกอย่างรวดเร็ว และส่งตัวผมให้กับผู้หญิงอีกสองคน
ทั้งสองคนใส่ชุดดำเหมือนกับซึสึ เพราะงั้นผมจึงเห็นรูปร่างของพวกเธอชัดเจนเลย
แต่พวกเธอทั้งสองคนดันใส่หน้ากากสีดำ ผมจึงมองไม่เห็นหน้าพวกเธอ
คนที่จับแขนผมไว้แน่นเหมือนจะเป็นเอลฟ์ เธอมีผมสีเงิน มัดผมหางม้า รูปร่างดูผอมเพรียว
ส่วนอีกคนนั้นตัวเล็กๆผมมีสีทอง มัดผมเปียคู่ มีหางจิ้งจอกโผล่ออกมาจากชุดที่หลังด้วย
ร่างกายของคนที่สองนี่ดูจะแบนราบกว่าเอลฟ์อีกคน
ให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงไร้เดียงสามากๆ
สาวหูจิ้งจอกคนนั้นไม่พูดเลยซักคำ
แต่หลังจากที่ซึสึส่งตัวผมให้พวกเธอแล้ว ผมก็แทบไม่มองหน้าพวกเธอเลย
แต่ทั้งที่ผมไม่มองพวกเธอ จู่ๆสาวจิ้งจอกคนนั้นก็เริ่มเข้ามาใกล้ผมและกระดิกหางไปมา
ราวกับหมาน้อยที่ได้กินข้าวแสนอร่อยที่ไม่ได้กินมานานเลย
“……..”
“……..”
“……..”
ซึสึจ้องไปที่หางของสาวจิ้งจอกคนนั้นที่กระดิกไปด้วยความสงสัย
แต่สาวเอลฟ์อีกคนก็ได้คว้าหางของเธอคนนั้นไว้
แต่ก็หยุดหางของสาวจิ้งจอกคนนั้นไม่อยู่อยู่ดี
“เดี๋ยวก่อนนะ…..พวกเธอน่ะ ถอดหน้ากากนั้นออกหน่อยเมี้ยว”
“เอ๊ะ? มะ มีอะไรเหรอคะท่านซึสึ?”
“เอาเถอะน่า ถอดหน้ากากออกซะเมี้ยว”
“……..”
สาวเอลฟ์คนนั้นจับมือของผมไว้ แล้วก็ใช้มือจับหน้ากากของเธอ
ในจังหวะเดียวกันนั้นซึสึก็รีบย่นระยะห่างเข้ามาทันที
แต่ตอนนั้นเอลฟ์สาวคนนั้นก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
เธอผลักผมออกไป
พร้อมกันนั้นเธอก็หยิบดาบสั้นที่คาดไว้ที่เอวออกมาและพยายามแทงไปตรงอกของซึสึ
“อึก….วะ ว่าแล้วเชียวพวกเธอ…..!?”
“โคลด์สลีป!”
(Cold sleep)
ซึสึหลบดาบนั้นในวินาทีสุดท้าย
ดูเหมือนว่าหอกยาวของเธอจะเสียเปรียบในพื้นที่แคบๆแบบนี้
ในทางเดินแคบๆแบบนี้หอกจะแกว่งไปมาได้ยาก
เพราะตั้งแต่แรกเธอกำลังจะออกไปสู้ที่ข้างนอกที่กำลังมีการต่อสู้กันอยู่
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่เกินคาดที่ลูกน้องของเธอจะโจมตีเธอซะเอง
“เมี้ยว….อะ….มะ เมย์ฟาจัง….ขอโทษนะเมี้ยว…..”
ในขณะเดียวกันนั้นเองสาวหูจิ้งจอกก็ได้ใช้เวทย์ใส่ซึสึโดยไม่พลาดเป้า
และซึสึก็เริ่มสติเลือนราง โคลด์สลีปเป็นเวทย์โจมตีทางจิตที่จะทำให้คู่ต่อสู้หลับไป
ซึสึน่าจะไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีกซักพัก
ผมค่อยๆละสายตาจากซึสึและหันไปหาผู้หญิงสองคนนั้นด้วยเสียงที่สั่นเทา
“คุณไอริส….คุณซิกิคา….”
“ซึ – กิ – คา – เงะ!? ทำอะไรของคุณกันคะเนี่ย!? เกือบเสียแผนเลยรู้มั้ยคะ!?”
“มะ มั่นช่วยไม่ได้นี่ หางของมนุษย์สัตว์มันไม่ใช่อะไรที่จะควบคุมได้ดั่งใจซักหน่อยนี่นา เพราะอุตส่าห์ได้เจอท่านเรียวที่ไม่ได้เจอกันนานทั้งที…..”
“ไม่ต้องมา’ช่วยไม่ได้’เลยนะคะ! เราจัดการเธอได้ก็จริง แต่ถ้าเกิดมีคนอื่นอีกเราจะแย่เอานะคะ!?”
“คะ คือว่า คุณไอริส? คุณซึกิคาเงะ?”
ความรู้สึกมันท่วมท้นอยู่ในใจของผม
ผมเกาแก้มพร้อมเรียกทั้งสองคนแบบเขินๆ
พอผมเรียกทั้งสองคนนั้น พวกเธอก็หันมามองผมด้วยท่าทางประหลาดใจ
“คะ คุณเรียว……”
แล้วสองสาวก็ถอดหน้ากากออกและสิ่งที่มาปรากฎตรงหน้าผมก็คือ
ใบหน้าของคุณไอริสและคุณซึกิคาเงะที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี
ในจังหวะนั้น ดวงตาสีมรกตของคุณไอริสก็เต็มไปด้วยน้ำตา
และน้ำตาของเธอก็ไหลอาบแก้มของเธออย่างรวดเร็ว
“คุณเรีย…..!”
“ท่านเรียว!”
“เหวอ!?”
คุณไอริสกับคุณซึกิคาเงะวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมน้ำตา
คุณซึกิคาเงะก็ได้เข้ามากอดผมด้วยพลังมหาศาล
คุณไอริสที่กำลังจะเข้ามาหาผมก็ได้แค่ยืนนิ่งเฉยๆ
“ไม่เจอกันนานเลยท่านเรียว! ท่านเรียว ท่านเรียว~~~! อาาา ว่าแล้วกลิ่นของชายหนุ่มนี่มันเกินต้านจริงๆเลยน้า♡ หอมมากซะจนพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ♡”
“คะ คุณซึกิคาเงะ…..คือ…..”
“อา ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ ถูกพวกผู้หญิงลักพาตัวมาแบบนี้ คงกลัวมากสินะ….แต่เราอยู่ที่นี่แล้ว เพราะงั้นวางใจเถอะ”
คุณซึกิคาเงะแนบหน้าของเธอบนท้องของผม
พร้อมพูดแบบนั้นออกมาเหมือนการปลอบเด็กหลงทาง
ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สังเกตเห็นคุณไอริสที่กำลังทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างหลังเธอเลย
“ซึกิคาเงะ~~! คนอย่างคุณนี่มัน….จริงๆเลยนะ! ตอนนี้ฉันกำลังคุยกับคุณเรียวอยู่นะคะ”
“หืม? อา โทษที โทษที พอดีลืมตัวไปหน่อยน่ะ”
“ไม่ต้องมา’ลืมตัวไปหน่อยน่ะ’เลยนะคะ!”
คุณซึกิคาเงะแลบลิ้นพร้อมส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์(เอะเฮะ)
ไปให้คุณไอริสที่กำลังทำแก้มป่อง
“จริงๆเลย….! อย่ามัวแต่มาเกาะแกะคุณเรียวแบบนั้นสิคะ พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่กันแล้วนะคะ คุณเรียวเองก็ช่วยหยุดเอาอกเอาใจซึกิคาเงะด้วยค่ะ”
“ขะ ขอโทษที”
คุณไอริสเดินเข้ามาดึงคุณซึกิคาเงะที่กำลังกอดเอวผมอยู่ออกไป
แล้วคุณไอริสก็จ้องมาที่ผมพร้อมทำแก้มป่อง
“ฉันเองก็…..เป็นห่วงเรื่องของคุณเรียวมาตลอดเลยนะคะ”
“คุณไอริส…..”
“ถ้าจะเอาอกเอาใจล่ะก็ เอาอกเอาใจฉันด้วยสิคะ”
คุณไอริสบ่นออกมา และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง
ถึงแม้เธอจะใช้มือเช็ดน้ำตาก็น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาไม่หยุด
พอผมโอบไหล่ของคุณไอริส คุณไอริสก็กระโดดเข้ามาในอ้อมอกของผมทันที
“อึก….คุณเรียว….คุณเรียว…..”
“โทษที…..คงทำให้เป็นห่วงมากเลยสินะ”
“เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างเถอะค่ะ….แค่ได้เห็นว่าคุณปลอดภัยดีแค่นี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ….!”
เธอโอบกอดผมด้วยแขนที่สั่นเทาไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้ผมไปไหนอีกแล้ว
ผมจึงกอดคุณไอริสที่ร่างกายสั่นเทากลับไปเช่นกัน