“เรียว แต่งงานกับฉันมั้ย?”
“เอ๊ะ?”
ผมไม่สามารถทำความเข้าใจกับคำพูดที่จู่ๆก็พูดขึ้นมานั่นได้เลย
ผมนั่งมองหน้าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมด้วยสีหน้างุนงง
คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมตอนนี้ก็คือดาร์กเอลฟ์ คุณซิลเวียนั่นเอง
ก่อนหน้านี้คุณซิลเวียเคยเป็นนักดาบแนวหน้าของ [เฮียกกะเรียวรัน]
ปาร์ตี้นักผจญภัยระดับ S ที่อยู่เมืองหลวงมาก่อน
แต่แล้วเธอก็ได้ออกจากเฮียกกะเรียวรันและย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าแห่งนี้
ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่เมืองคาสซานดร้าเป็นหลัก
โดยไปลุยดันเจี้ยนหมาป่าพร้อมกับรับทำคำร้องตามปกติไปด้วย
“มะ หมายความว่ายังไงน่ะ คุณซิลเวีย….?”
ผมถามคุณซิลเวียกลับไปด้วยความกระสับกระส่าย
คุณซิลเวียน่ะ นอกจากจะเป็นนักผจญภัยมากความสามารถแล้ว
เธอก็ยังเป็นสาวสวยอีกต่างหาก
ผิวสีน้ำตาลเป็นประกาย ผมสีเงินยาวถึงประมาณช่วงเอวและดวงตาสีแดงอมม่วง
ตาคู่นั้นของเธอที่จ้องมาที่ผมนั่นมันช่างน่าดึงดูดเอามากๆ
ตามปกติแล้วพนักงานกิลด์บ้านนอกธรรมดาๆอย่างผมนั้นไม่มีทางอยู่ในสายตาเธอหรอก
ใช่แล้ว ถ้าตามปกติล่ะก็นะ
จริงๆแล้วโลกนี้น่ะคือโลกที่มีสามัญสำนึกแตกต่างจากโลกที่ผมเคยอยู่น่ะนะ
จะว่าไงดีล่ะ คือที่นี่น่ะเป็นที่ที่ค่านิยมในเรื่องความงามกลับด้านล่ะ
แถมผู้ชายในโลกนี้ก็ยังนั้นมีจำนวนน้อยอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
เพราะแบบนั้น เลยทำให้แนวคิดเรื่องเพศของชายและหญิงกลับกันไปด้วย
ถ้าตามปกติแล้วล่ะก็ ผมคงไม่สามารถเข้าใกล้
นักผจญภัยสาวงามแรงค์ S อย่างคุณซิลเวียได้แม้แต่น้อยเลยด้วยซ้ำ
แต่ก็เพราะโลกกลับด้านแบบนี้นี่แหละ
ที่ทำให้ผมได้เจอกับเหตุการณ์ต่างๆ
ที่ทำให้คุณซิลเวียกับผมได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันแบบนี้
ถ้าจะให้พูดแบบเจาะจงเลยก็คือพวกเราตอนนี้
อยู่ในความสัมพันธ์แบบที่มีความสัมพันธ์กันทางกายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนน่ะนะ
แต่ถึงอย่างงั้นผมกับคุณซิลเวียก็ไม่ใช่คนรักกันแต่อย่างใด
เอาจริงผมมีความรู้สึกดีๆต่อเธอนะ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าเธอรักผมน่ะ…..
แต่ทำไมจู่ๆ เธอถึงพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมาล่ะ?
“อา ขอโทษที่ทำให้สับสนนะ ถึงจะพูดว่าแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้แต่งงานกันจริงๆหรอก อืม จะเริ่มจากอธิบายจากตรงไหนก่อนดีล่ะ….”
คุณซิลเวียส่งเสียงอยู่ในลำคอออกมาเบาๆและเริ่มครุ่นคิด
ในจังหวะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูห้องที่พวกเราอยู่กันตอนนี้
หลังจากนั้นพนักงานคนหนึ่งก็ได้เข้ามาในห้อง
พนักงานคนนั้นเป็นสาวหูสุนัข เธอเสิร์ฟจานอาหารอย่างสุภาพพร้อมยิ้มให้ผม
แต่คุณซิลเวียกลับไม่ยิ้มด้วยเลยซักนิด
ใช่แล้ว นี่ก็เป็นผลจากแนวคิดเรื่องเพศรวมไปถึงความงามที่กลับด้านกันยังไงล่ะ
คุณซิลเวียที่ดูเป็นสาวสวยขนาดนี้น่ะ สำหรับคนในโลกนี้แล้ว
เธอถือเป็นคนที่ดูน่าเกลียดเอามากๆเลยล่ะ
เพราะดูเหมือนว่าเผ่าเอลฟ์จะถูกขนานนามว่าเป็นเผ่าที่น่าเกลียดที่สุดในโลกน่ะนะ
แล้วก็จากที่ผมได้ยินมาคือหน้าตาธรรมดาๆของผม
พอกลับด้านแล้วก็จะยังหน้าตาธรรมดาๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปล่ะ
“กินไปพร้อมคุยกันต่อทั้งๆแบบนี้เลยคงไม่ว่าอะไรนะเรียว?”
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าปล่อยเนื้อดีๆแบบนี้ทิ้งไว้เฉยๆ จะพูดอะไรกันก็คงไม่เข้าหัวอยู่ดีนั่นล่ะนะ”
“ฮึฮึ นั่นก็จริงนะ”
คุณซิลเวียพยักหน้าให้กับคำพูดของผมด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเธอก็ยื่นมือไปหยิบจานที่อยู่บนโต๊ะ
ที่ที่พวกเราอยู่ในตอนนี้คือร้านอาหารที่เปิดใหม่
ในเมืองคาสซานดร้าเมื่อเดือนที่แล้วชื่อร้านว่า”คินกิวเต”
(ชื่อร้านมีคำว่าทองกับเนื้อ ไม่แน่ใจว่าแปลว่าอะไรแต่จะทับศัพท์ไปเลย คือมันเป็นคล้ายๆร้านยากินิกุ)
ช่วงนี้ที่เมืองคาสซานดร้ามีนักผจญภัยกับคนทั่วไป
ย้ายเข้ามาที่เมืองคาสซานดร้ามากขึ้นเรื่อยๆ
เลยทำให้ที่นี่มีร้านมาเปิดใหม่ที่นี่มากขึ้นด้วย
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเมื่อหกเดือนที่ก่อน
มีการค้นพบชั้นใหม่ของดันเจี้ยนหมาป่าในเมืองคาสซานดร้า
ช่วงแรกๆที่ค้นพบชั้นใหม่นั้น สร้างความแตกตื่นมากมาย
ว่าอาจเกิดการปะทุของมอนสเตอร์ได้
แต่ความแตกตื่นนั้นเริ่มสงบลงแล้ว ผู้คนในเมืองคาสซานดร้าก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น
นั่นก็เพราะมีการค้นพบว่าวัตถุดิบจากมอนสเตอร์ใหม่ๆนั้น
สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำยารักษาโรคที่รักษายากในปัจจุบันได้ล่ะ
ราคาวัตถุดิบนั้นก็เลยพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว
[พอมีการค้นพบว่าวัตถุดิบนั้นมีราคาที่สูงมากพวกนักผจญภัยก็เลยแห่มารวมกัน]
[และพอนักผจญภัยแห่มารวมกันพวกพ่อค้าแม้ค้าก็แห่มารวมตัวกันตาม]
[แล้วพอพ่อค้าแม่ค้ามารวมตัวกันผู้คนก็จะแห่กันตามมาด้วยเหมือนกัน]
เพราะแบบนั้น เมืองคาสซานดร้าจึงเติบโตได้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซึ่งร้านคินกิวเตนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
นอกจากนี้นี่ถือเป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมได้มาที่ร้านนี้
วันแรกที่เป็นวันเปิดร้าน ผู้จัดการร้านก็ได้เชิญนักผจญภัย
และพนักงานของกิลด์นักผจญภัยมาด้วย
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้พนักงานกิลด์นักผจญภัย
มักจะได้รับคำเชิญให้ไปร้านค้าหรูๆแบบนี้ล่ะ
ครั้งก่อนที่มาที่นี่เป็นห้องอาหารใหญ่
แต่คราวนี้มากับคุณซิลเวียที่ห้องแยกส่วนตัวล่ะ
ที่ผมถูกเรียกตัวมาที่นี่ก็เพราะคุณซิลเวียพูดว่า
[มีเรื่องจะที่อยากจะคุยกันตามลำพังอยู่น่ะ] น่ะนะ
“ถ้างั้นเรามาย่างเนื้อกันเถอะ”
คุณซิลเวียกับผมเริ่มที่จะคีบเนื้อลงไปบนแผ่นเหล็ก
ที่ร้านคินกิวเตนี่จะแตกต่างกับร้านอื่นๆตรงที่ว่า
ร้านอื่นจะเสิร์ฟอาหารที่ปรุงมาเสร็จแล้วให้
แต่ที่นี่คือพวกเขาจะนำเนื้อดิบและผักมาให้เราย่างเอาเองบนแผ่นเหล็กที่โต๊ะ
ตอนแรกผมก็คิดอยู่หรอกว่าการจะย่างเองมันคงจะยุ่งยากมาก…
แต่พอลองทำดูแล้วมันกลับง่ายมากเลยทีเดียว
การที่ได้กลิ่นหอมและได้เห็นไขมันไหลซึม
ออกมาจากเนื้อที่วางอยู่บนแผ่นเหล็กนั่น ความคาดหวังมันก็ยิ่งมากขึ้นตาม
พอวางเนื้อสีแดงชมพูนี่ลงไปบนแผ่นเหล็กร้อนๆ ก็จะเกิดเสียงที่ฟังดูดีสุดๆ
เนื้อที่ผมกำลังย่างอยู่ตอนนี้ก็มีเนื้อแก้มออร์คคิง
เนื้อสันนอก เนื้อสันในและลิ้นของวัวเขาโลหิต
แล้วก็ยังมีเนื้อลูกวัวเขาโลหิตด้วยล่ะ
(Blood Horn Bull)
ลูกวัวเขาโลหิตก็คือลูกวัวที่อายุน้อยกว่า 3 สัปดาห์และต้องเลี้ยงด้วยนมแม่วัวเท่านั้น
ทั้งออร์คคิงและวัวเขาโลหิตต่างก็เป็นมอนสเตอร์แรงค์ S
ที่สามารถพบได้ในดันเจี้ยนของประเทศนี้เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพูดถึงลูกวัวเขาโลหิตแล้ว
มันเป็นของที่ไม่ได้มีให้เห็นในตลาดมากนัก
ถึงขนาดพวกขุนนางกับพวกเชื้อพระวงศ์ยังได้กินกันแค่ปีละครั้งเท่านั้นเอง
ถ้าถามว่าทำไมถึงมีเนื้อที่หายากขนาดนั้นอยู่นี่น่ะเหรอ
นั่นก็เพราะว่าเนื้อนี่เป็นของที่คุณซิลเวียเอามาเองยังไงล่ะ
คุณซิลเวียบอกผมกับว่า
[ได้ยินมาว่าที่เมืองหลวงจะมีการประมูลเกิดขึ้นน่ะนะ แล้วฉันก็อยากกินด้วยกันกับนายน่ะ ก็เลยขอให้ตัวแทนไปเสนอราคาประมูลมาจนสำเร็จน่ะนะ]
แล้วถ้าถามว่าทำไมเนื้อที่คุณซิลเวียประมูลได้มาถึงเอาเข้ามาที่คินกิวเตได้น่ะเหรอ
นั่นก็เพราะว่าถ้าจ่ายเงินให้กับทางร้านก็จะสามารถนำเนื้อจากข้างนอกเข้ามาได้ยังไงล่ะ
เพียงแต่ว่า จะเอามอนส์เตอร์เข้ามาทั้งแบบนั้นเลยไม่ได้
ต้องเอาไปแยกส่วนที่กิลด์นักผจญภัยก่อนถึงจะนำเข้ามาได้น่ะนะ
และเนื้อลูกวัวเขาโลหิตนั่นก็….
“อุก…..!”
“โอ้ นี่มัน….!”
คุณซิลเวียกับผมหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความสุข
“นะ นี่มันสุดยอดไปเลยนะเนี่ย แค่เข้าไปก็ละลายในปากเลย….!”
“อา อร่อยจังนะ! อร่อยจนไม่รู้จะบรรยายยังไงเลย!”
คุณซิลเวียอร่อยจนลืมคำพูดไปเลยทีเดียว
แต่ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นนะ นั่นก็เพราะว่าเนื้อนี่มันโคตรอร่อยเลยยังไงล่ะ
ทันทีที่เนื้อสัมผัสกับลิ้น เนื้อก็ละลายในปากทันที แทบจะไม่ต้องเคี้ยวเลย
คงเพราะเป็นลูกวัว กล้ามเนื้อจึงไม่ค่อยจะพัฒนาไปมากสินะ
ถึงแม้จะไม่ค่อยมีไขมันก็เถอะ….แต่เนื้อก็ยังถือว่าอร่อยอยู่ดี
นี่แหละคือรสชาติเนื้อของสัตว์ของสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม….!
“ว้าววว เพราะอร่อยแบบนี้ถึงต้องแย่งกันประมูลสินะ….! ให้เนื้อดีๆแบบนี้กับผมมันจะดีจริงๆอย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่ต้องใส่ใจหรอกน่า ที่ฉันได้มาแบบนี้ก็เพราะฉันอยากจะเห็นใบหน้าที่มีความสุขของนายนะ ถ้ามีแค่ฉันคงเดียวคงจะไม่มีทางได้มันมาหรอก”
(คนแปล:อู้วววหล่อมาก)
“คุณซิลเวีย…ขอบคุณนะ”
คุณซิลเวียพูดแบบนั้นพร้อมกับหยิบแก้วมาขึ้นมาด้วย
วันนี้เธอไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดนักผจญภัยเหมือนที่ใส่ปกติ
เธอสวมชุดสีดำที่พอดีกับร่างกายของเธอ
เธอที่สวมชุดนั้นพร้อมยิ้มให้กับผมแถมยังพูดประโยคแมนๆแบบนั้น
มันทำให้ผมใจเต้นเลยล่ะ ไหนจะประโยคที่ถามว่า [แต่งงานกันมั้ย] เมื่อกี้นั่นอีก
แต่จะว่าไปแล้ว…ผมก็อยากจะถามอยู่นะว่าจ่ายเงินกับเนื้อนี่ไปเท่าไหร่น่ะ…
แต่ไม่ถามคงจะดีกว่า
ถ้าคนธรรมดาอย่างผมได้รู้ว่ามันราคาเท่าไหร่แล้วล่ะก็
อาจจะไม่รู้สึกอร่อยอีกต่อไปแล้วก็ได้ล่ะนะ…