นายน้อยเจ้าสำราญ – ตอนที่ 491 หุ้นซีซานขอต้อนรับพวกเจ้า

ตอนที่ 491 หุ้นซีซานขอต้อนรับพวกเจ้า

รัชสมัยเซวี่ยนลี่ปีที่ 9 เดือนสิบสอง วันที่ยี่สิบห้า

จินหลิงเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน สุริยาในฤดูหนาวสาดแสงทอประกาย

ฟู่เสี่ยวกวนทำตัวสบาย ๆ อยู่ในจวน เขาได้เผาถ่านและกำลังอ่านแบบร่าง ‘บัญญัติจรรยาบรรณการค้า’ ที่หลี่ฉายส่งมาให้ พร้อมกับครุ่นคิดเป็นครั้งครา และเติมแต่งเข้าไปเป็นบางจุด

โดยรวมแล้ว เขาค่อนข้างพอใจกับแบบร่างนี้ แน่นอนว่ามิสามารถเอามาตรฐานของชาติก่อนมาเปรียบเทียบได้ วิถีชีวิตมิเหมือนกัน ดังนั้นต้องจัดการอย่างยืดหยุ่น

ในตอนที่เขากำลังอ่านสิ่งนี้อยู่ หลี่เจิ้งก็ได้วิ่งตึงตังเข้ามา โน้มคำนับและกล่าวว่า “เรียนคุณชาย สามพี่น้องตระกูลหลี่มาเยี่ยมเยียนขอรับ”

ฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ทั้งสามคนมาได้จังหวะพอดิบพอดี “พาพวกเขาไปที่หลีเฉินซวน ประเดี๋ยวข้าจะตามไป”

หลี่เจิ้งวิ่งออกไป หยูเวิ่นหวินวางชุดเด็กเล็กที่กำลังเย็บในมือลง และบิดเอวอย่างเกียจคร้าน “เจ้าจะหว่านแหเอาทั้งตระกูลหลี่จริง ๆ เยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะน้อย ๆ “แล้วยังมีวิธีอื่นอยู่อีกเยี่ยงนั้นหรือ ? ในมือของข้าขาดคนที่มีความสามารถ ข้าขอกล่าวกับเจ้าอย่างมิปิดบัง หากฝ่าบาทมิใช่พ่อตาของข้า เกรงว่าข้าจะนำทั้งสามสิบกว่าคนของกรมการค้าไปไว้ที่อุตสาหกรรมซีซานเสียให้หมด พวกเขาต่างก็เป็นบุคคลที่มีความสามารถทั้งสิ้น”

หยูเวิ่นหวินถลึงตาใส่ฟู่เสี่ยวกวน “เจ้ามิกลัวพ่อตาของเจ้าจะเด็ดหัวเลยสินะ… ข้าจะไปตุ๋นซุปหูฉลามให้เจ้าสักถ้วย ของสิ่งนี้น้องสาวของเจ้าอู๋หลิงเอ๋อร์เป็นผู้ส่งมา ท่านหมอบอกว่านี่เป็นของดี น่าเสียดายที่ราชวงศ์หยูมิได้อยู่ติดทะเล… ทะเลหน้าตาเป็นเยี่ยงไรหรือ ? ”

“เจ้าลองคิดว่าทะเลสาบซวนอู่ที่อยู่ด้านหลังเรือนของเรานั้นใหญ่โดยไร้ที่เปรียบ ทะเลก็มีลักษณะเป็นเยี่ยงนั้นแหละ”

“ไอหยา…” เห็นได้ชัดว่าหยูเวิ่นหวินเพียงแค่เอ่ยปากถาม นางมิเคยเห็นทะเลมาก่อน แทบจะทุกคนในราชวงศ์หยูที่มิเคยเห็นทะเลมาก่อน มีเพียงฟู่เสี่ยวกวนผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ว่าทะเลสำคัญถึงเพียงใด

เมื่อหยูเวิ่นหวินเอ่ยถึงทะเล ฟู่เสี่ยวกวนจึงนึกถึงท่าเรือและอู่ต่อเรือที่เขตเหยา ท่าเรือนั้นสร้างได้ง่ายดายยิ่ง แต่อู่ต่อเรือ…บัดนี้ก็ยังมิมีแม้แต่เค้าโครง

ใช่แล้ว ! ราชวงศ์อู๋อยู่ใกล้กับทะเล คิดว่าต้องมีช่างต่อเรือเป็นแน่ เรื่องนี้ต้องขอความช่วยเหลือจากอู๋หลิงเอ๋อร์ เพื่อให้รับช่างมาจำนวนหนึ่ง

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขาจึงหยิบดินสอและเขียนจดหมายส่งไปให้แก่อู๋หลิงเอ๋อร์ทันที นอกจากคำทักทายแล้ว เขาก็ได้กล่าวว่าพี่ชายต้องการช่างต่อเรืออย่างน้อย 100 คน หวังว่าน้องสาวจะสามารถช่วยหาให้กันได้

เขาเก็บจดหมายฉบับนั้นลง พรุ่งนี้เมื่อไปยังราชสำนัก ค่อยหาโอกาสเอาให้ขันทีเจี่ย เขาต้องมีวิธีเอาจดหมายนี้ส่งไปให้กับโจวถงถงได้เป็นแน่ ส่วนโจวถงถงจะส่งไปให้ถึงอู๋หลิงเอ๋อร์เยี่ยงไรนั้น… เรื่องนี้คงจะต้องให้โจวถงถงคิดเสียจนปวดหัวแล้วล่ะ

เมื่อฟู่เสี่ยวกวนมาถึงหลีเฉินซวน สามพี่น้องตระกูลหลี่ได้ยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงและกำลังจะคำนับ แต่กลับถูกฟู่เสี่ยวกวนขัดเอาไว้

“ยังคงขอเอ่ยประโยคนั้นเหมือนเดิม มิต้องมีพิธีรีตองให้มากความ พวกเจ้าสามารถมาหาข้าถึงที่นี่ได้ ข้าก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแล้ว นั่งเถิด ๆ เพียงมาฟังข้าอธิบายสถานการณ์หุ้นซีซานในปัจจุบันให้ถี่ถ้วนรวมไปถึงแผนการสำหรับอนาคตของข้า”

สามพี่น้องต่างก็มองหน้ากัน ถึงแม้จะได้ยินบิดาหลี่จินโต้วและน้องชายหลี่ฉายของพวกเขาเอ่ยถึงเรื่องความเป็นกันเองกับคุณชายฟู่หลายคราแล้วก็ตาม แต่เป็นกันเองจนถึงขั้นมิต้องคำนับ นั่นถือว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขามากนัก

ทั้งสี่คนนั่งลง ฟู่เสี่ยวกวนต้มชา

“หุ้นซีซานในปัจจุบันนี้ได้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมจำนวนมาก อย่างเช่น โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานน้ำหอมและสบู่ โรงกลั่นสุรา โรงงานกระดาษ จนไปถึงการโรงงานผลิตเสื้อผ้า ทั้งยังมีของอย่างแป้งน้ำอีกด้วย นี่คือสินค้าที่หุ้นซีซานขายอยู่ในท้องตลาด ทั้งยังมีส่วนที่ยังมิได้ขายออกสู่ท้องตลาด อย่างเช่น ปืนคาบศิลารวมไปถึงเกราะและอื่น ๆ ที่กองกำลังดาบเทวะใช้กัน”

“แผงขายของหลักของหุ้นซีซานในตอนนี้มี 4 แห่ง แห่งที่หนึ่งคือหลินเจียงซีซานรวมไปถึงเขตเหยา สองสถานที่นี้อยู่ค่อนข้างใกล้กัน อีกที่คืออำเภอผิงหลิง อีกที่คืออำเภอชวูอี้ ทั้งยังมีภูเขาหนานซานที่อยู่ด้านนอกเมืองจินหลิงอีกด้วย”

“โรงงานของหลินเจียงซีซานและเขตเหยาได้สร้างผลกำไรเป็นปกติ โดยผลผลิตทั้งหมดจากเขตเหยาส่วนใหญ่จะส่งไปยังราชวงศ์อู๋ สินค้าของพวกเราค้าขายดีเป็นอย่างมากในราชวงศ์อู๋ ส่วนผลผลิตจากหลินเจียงซีซาน ส่วนหนึ่งส่งให้กับราชวงศ์ และอีกส่วนหนึ่งแทบจะขายในเมืองจินหลิงทั้งสิ้น กล่าวได้ว่า… กล่าวได้ว่าสินค้าของพวกเราในตอนนี้มิเพียงต่อความต้องการของตลาด”

“ในต้นปีหน้า ฝ่าบาทจะทรงเพิ่มมณฑลนำร่องอีก 10 แห่ง ดังนั้นข้าถึงได้สร้างธนาคารซื่อทงขึ้นมา และรวบรวมเงินได้ 8,000,000 ตำลึงด้วยวิธีการระดมทุน เงินจำนวน 8,000,000 ตำลึงนี้จะถูกแจกจ่ายไปยัง 13 มณฑลนำร่องพร้อมกันในต้นปีหน้า ขณะนี้ 3 แห่งนั้น ได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ทดลองแล้ว แต่ยังมิได้ใช้หุ้นซีซาน”

“ที่เชิญพวกเจ้ามาจวนฟู่ ก็เพราะหุ้นซีซานในยามนี้กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายตัว ข้าต้องการบุคคลมีความสามารถ และพวกเจ้าเองก็ต้องการเวทีการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้านี้”

ฟู่เสี่ยวกวนรินน้ำชาให้กับคนทั้งสาม น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย และมิได้มอบสิทธิ์ในการเลือกหนทางให้แก่สามพี่น้องเลย เขากล่าวไปตรง ๆ ว่า “ด้วยความสามารถของพวกเจ้า รวมเข้ากับเวทีการค้าของข้า จึงจะสามารถส่งเสริมและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันได้ เชื่อข้าเถอะ พวกเจ้าจะสามารถแสดงความมุ่งมาดได้ในหุ้นซีซาน และสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังได้ในที่สุด ! ”

หลังจากนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็ได้สนทนากับพวกเขาถึงแผนในอนาคตของตนเองโดยละเอียด ประกอบด้วยต้องจัดการโรงงานเยี่ยงไรจึงจะมีประสิทธิภาพ วิธีการนำวัตถุดิบมารวมกัน สินค้าจะนำไปขายออกสู่ท้องตลาดอย่างรวดเร็วได้เยี่ยงไร รวมไปถึงการเลือกและการตกแต่งหน้าร้านอย่างพิถีพิถันอื่น ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย

พอได้เอ่ยแล้วก็มิสามารถหยุดได้ ดังนั้นสามพี่น้องตระกูลหลี่จึงได้ทานมื้อกลางวันที่จวนฟู่ หลังจากทานเสร็จฟู่เสี่ยวกวนก็ได้กล่าวต่อไปอีก ราวกับว่าเขาต้องการนำทุกอย่างที่สร้างขึ้นในหัวมาอย่างยาวนานถ่ายทอดให้กับพวกเขา และสามพี่น้องตระกูลหลี่ที่ได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกตื่นตะลึงมากยิ่งขึ้น

นี่มันเวทีการค้าที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าคุณชายฟู่ต้องการสร้างอาณาจักรแห่งการค้าขึ้นมาต่างหากเล่า !

และตนเองก็กำลังจะกลายเป็นผู้ก่อตั้ง ผู้บุกเบิกของอาณาจักรการค้าที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงขั้นเป็นผู้คุมหางเสือเหมือนกับที่คุณชายฟู่ได้กล่าวเอาไว้ ช่างเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมยิ่ง !

มองดูพ่อค้าในใต้หล้านี้ ยังมีผู้ใดที่มีทัศนวิสัยกว้างไกลกว่าคุณชายฟู่อยู่อีกเยี่ยงนั้นหรือ ? ยังมีแผนการของผู้ใดที่ละเอียดเทียบเท่ากับคุณชายฟู่ได้อีกกัน ?

นึกไปถึงตนเองในอดีตที่อิ่มเอมใจกับการเป็นหลงจู๊ใหญ่ผู้หนึ่ง หลังจากที่ได้ฟังแผนการของคุณชายฟู่ถึงได้ทราบว่าตนเองนั้นยังมิได้แม้แต่เศษเสี้ยวของเขา

“พวกเจ้าจงจำเอาไว้ให้ดี พวกเราคือพ่อค้า พ่อค้าย่อมมองหาผลกำไรเป็นหลัก แต่ในที่นี้ข้าต้องเน้นบางประเด็นขึ้นมาเป็นพิเศษ ลำดับแรกคือคุณภาพของสินค้า มิว่าจะสินค้าชนิดใดก็ตามที่ซีซานผลิตออกมา คุณภาพต้องสูงกว่าสินค้าชนิดเดียวกันในท้องตลาด ! ”

“ต่อมาคือการบริการ พนักงานขายของพวกเราจำต้องมีคุณสมบัติที่สูงเป็นอย่างมาก ต้องดูแลแขกด้วยความอบอุ่นดั่งฤดูใบไม้ผลิ ต้องสะท้อนข้อเสนอแนะของลูกค้าได้ เพื่อสร้างกระบวนการที่มาตรฐาน จะต้องมีบุคคลที่คอยจัดการข้อคิดเห็นรวมถึงการร้องทุกข์ของลูกค้าโดยเฉพาะ มีเพียงแบบนี้เท่านั้น พวกเราจึงจะสามารถเข้าใจได้ว่าความต้องการของตลาดกลางนั้นเป็นแบบใด”

“ลำดับที่สามคือกระบวนการของโรงงานจะต้องสร้างมาตรฐานชุดหนึ่งขึ้นมา เมื่อมีมาตรฐานจึงจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้นได้ จึงจะสามารถรับประกันคุณภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้นได้…”

ความคิดที่สดใหม่นี้ได้โจมตีเส้นประสาทของสามพี่น้องตระกูลหลี่เข้าอย่างจัง สามพี่น้องตระกูลหลี่ถึงขั้นหยิบกระดาษกับพู่กันขึ้นมา และเริ่มจดบันทึกประเด็นหลักที่คุณชายฟู่กล่าวมาโดยละเอียด

พวกเขาคือพ่อค้า เพียงแค่ได้ฟังพวกเขาก็เข้าใจคำเอ่ยของคุณชายฟู่ทั้งหมดแล้ว นี่คือคำแนะนำชั้นเลิศของการดำเนินการค้าในอนาคต

เมื่อถึงเวลายามเซิน ฟู่เสี่ยวกวนถึงนึกขึ้นได้ว่าคืนนี้มีงานเลี้ยงที่หงซิ่วจาว ถึงได้หยุดลง และได้กล่าวกับทั้งสามว่า “หุ้นซีซานขอต้อนรับพวกเจ้า ข้า ฟู่เสี่ยวกวน ยินดีต้อนรับกับการเข้าร่วมของพวกเจ้า ! ”

สามพี่น้องจึงรีบลุกขึ้นและคำนับ “คุณชายโปรดวางใจ พวกข้าจะมิทำให้คุณชายต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ! ”

“ตอนนี้มีอยู่หนึ่งเรื่องที่จะมอบให้พวกเจ้าไปจัดการ”

“เชิญคุณชายกล่าวมาเถิด”

“เขตสลัมของเมืองจินหลิง พวกเจ้าจงไปซื้อโฉนดที่ดินตรงนั้นมาให้หมด เงินเบิกจากธนาคารเป่าหลง พวกเจ้ามิจำเป็นต้องออกหน้าด้วยตนเอง มิต้องทำให้เกินควร ให้ราคาขายที่เหมาะสม”

ซื้อที่ตรงนั้นเพื่ออันใดกัน ?

สามพี่น้องมองหน้ากันอย่างมิเข้าใจเท่าใดนัก

ฟู่เสี่ยวกวนยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยและมิได้อธิบายอันใดต่ออีก…

นายน้อยเจ้าสำราญ

นายน้อยเจ้าสำราญ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง นายน้อยเจ้าสำราญโชคดีที่ได้ทะลุมิติมา ทั้งยังได้เกิดในตระกูลเศรษฐีที่ดิน ชีวิตนี้ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้าแต่ก็ไม่อยากจะเอาแต่กินจนตายไปทั้งอย่างนั้น ดังนั้นฟู่เซี่ยวกวนจึงได้กระทำเรื่องบางอย่างตามอำเภอใจ โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเกิดผล กระทบที่ใหญ่หลวงตามมาเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้ต้องการให้เขาเป็นขุนนางชั้นหนึ่ง องค์หญิงต้องการแต่งตั้งให้เขาเป็นราชบุตรเขย บุตรีแห่งจวนเสนาบดีสำนักตรวจการต้องการแต่งกับเขา คนป่าต้องการหัวของเขา รัฐอี๋ต้องการชีวิตของเขา ส่วนรัฐฝานต้องการเงินของเขา… แต่เขา.. ฟู่เซี่ยวกวนนั้นต้องการเป็นเศรษฐีที่ดินผู้ยิ่งใหญ่ต่างหากเล่า !

Comment

Options

not work with dark mode
Reset