นายน้อยเจ้าสำราญ – ตอนที่ 526 มอบปืนให้

ตอนที่ 526 มอบปืนให้

ฟู่เสี่ยวกวนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เหตุใด อยู่ ๆ ท่านลุงถึงวิ่งเข้ามาแล้วทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ เช่นนี้กัน ?

แม้การที่สองลุงหลานมาอยู่ในห้องเดียวกันมิใช่เรื่องแปลก แต่ฟู่เสี่ยวกวนกลับรู้สึกอึดอัดใจ ดังนั้นเขาจึงมองไปทางเยียนเหลียงเจ๋อ ซึ่งเยียนเหลียงเจ๋อเองก็กำลังมองมาทางเขาเช่นกัน

ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจ สบสายตากันไปมา ล้วนสงสัยแต่ก็มิมีผู้ใดรู้ว่าสวี่หวยซู่กำลังหลบคนอยู่ เหตุใดจึงพรวดพราดเข้ามาเช่นนี้

สวี่หวยซู่เองก็ทำตัวมิถูก

ให้ตายเถอะ ! กว่าจะหนีออกมาหาความสำราญได้แต่ละครามิใช่เรื่องง่าย เหตุใดจึงมิราบรื่นเอาเสียเลย ?

ที่สำคัญ ฟู่เสี่ยวกวนยังพาสวี่ซินเหยียนมาด้วย มิว่าเยี่ยงไร แม่นางผู้นี้ก็คือบุตรสาวในนามของตน พ่อลูกพบกันในสถานที่แบบนี้ มิรู้ว่าควรจะอธิบายเยี่ยงไรดี

เขาอยากหันหลังเดินจากไป ทำราวกับมิมีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่ทว่าด้านนอกยังมีฉินโม่เหวินอยู่อีกคน

หนีเสือปะจระเข้แท้ ๆ สวี่หวยซู่ตกตะลึงงันยืนอยู่กับที่ เขาทำตัวมิถูกเอาเสียเลย

ฟู่เสี่ยวกวนลุกขึ้นยืนแล้วหัวเราะเสียงดัง เขามองแล้วเดินไปทางสวี่หวยซู่ ทันใดนั้นเอง แม่นางฝ่ายต้อนรับก็ได้เปิดประตูแล้วทำหน้าซีดเผือด

ลุงท่านนี้ช่างมิรู้กฎเอาเสียเลย นี่คือห้องของแม่นางยิงฮวา หากทำให้แขกด้านในมิพอใจ นางจะต้องถูกตำหนิเป็นแน่

นางเดินเข้ามาแล้วยิ้มอย่างเขินอาย เอื้อมมือไปดึงเสื้อของสวี่หวยซู่เอาไว้ “ท่านลุงเจ้าคะ ท่านเข้ามาผิดห้องเสียแล้ว เชิญตามข้าน้อยออกมาก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

ฟู่เสี่ยวกวนเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าสวี่หวยซู่ ทันใดนั้นพวกฉินโม่เหวินก็เดินมาถึงพอดิบพอดี ฉินโม่เหวินได้หันกลับมามอง

ให้ตายเถอะ !

ฟู่เสี่ยวกวนก็อยู่ที่นี่ด้วย !

วันพรุ่งนี้ เขาจะออกเดินทางไปรับหน้าที่ยังกวนซีเต้า เขาจึงเดินทางไปยังจวนฟู่หมายพบปะสังสรรค์กับฟู่เสี่ยวกวน คาดมิถึงว่าบ่าวรับใช้ในจวนจะเอ่ยว่าเจ้าหมอนี่มิอยู่ที่จวน แต่ก็มิรู้เช่นกันว่าไปที่ใด

ส่งผลให้ฉินโม่เหวินรู้สึกเสียใจมากยิ่งนัก เดิมทีเขาต้องการให้ฟู่เสี่ยวกวนช่วยชี้แนะวิธีดำรงชีวิตของผู้คนและกลยุทธ์ทางการค้าเสียหน่อย คาดว่าคงต้องรอถึงปีหน้าเสียแล้ว

โชคดีที่ได้มาพบเจอกันในที่แห่งนี้ ดังนั้น ฉินโม่เหวินจึงเดินนำกลุ่มของตนเข้ามา

ในใจของสวี่หวยซู่รู้สึกสิ้นหวังกว่าผู้ใด จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายปีนี้ การต้องพบเจอปัญหาและแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ทำให้ได้สติขึ้นมา

เขายืดตัวตรง ยกมือขึ้นลูบเครา จากนั้นก็ดึงมือของแม่นางฝ่ายต้อนรับออก แล้วยิ้มให้กับฟู่เสี่ยวกวนพร้อมหันไปคารวะองค์หญิงสาม “วรรณกรรมและมารยาทคือแก่นแท้ของราชวงศ์หยู วันนี้ข้ามิมีธุระอันใดจึงตั้งใจเดินทางมาตรวจดูที่นี่เสียหน่อย เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ ช่างรู้สึกดียิ่ง ! ”

ฉินโม่เหวินและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันตกตะลึง ท่านเสนาบดีสวี่หมายความว่าเยี่ยงไร ?

อ่า… เขาดูแลกรมพิธีการ ดังนั้นจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวรรณกรรมบ้าง ต้องรับรู้ถึงธรรมเนียมที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ท่านสวี่ช่างเอาใจใส่มากยิ่งนัก เหมาะสมที่จะเป็นแบบอย่างให้กับทุกคนยิ่ง

ดังนั้น ฉินโม่เหวินจึงคำนับสวี่หวยซู่แล้วกล่าวว่า “ใต้เท้าสวี่ช่างใส่ใจราษฎรเสียจริง โม่เหวินนับถือยิ่ง”

ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของสวี่หวยซู่แดงก่ำขึ้นมาทันพลัน โชคดีที่ปกปิดไว้ได้ทัน จึงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านฉินเอ่ยชมเกินไปแล้ว ข้ารับเบี้ยหวัดจากฝ่าบาท ก็เพื่อคอยดูแลความเป็นอยู่ของราษฎร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าควรกระทำอยู่แล้ว… เชิญพวกท่านตามสบายเถิด ข้ามิรบกวนแล้ว”

เมื่อกล่าวจบ เขาก็มองไปที่ฟู่เสี่ยวกวน จากนั้นก็แสดงท่าทางจริงจังออกมา “เสี่ยวกวนเอ๋ย อย่าดื่มเสียจนเมามายล่ะ อย่าพาซินเหยียนกลับจวนดึกดื่นจนเกินไปล่ะ”

เขาหันหลังแล้วเดินจากไปอย่างรีบร้อน ฟู่เสี่ยวกวนมองตามหลังสวี่หวยซู่ด้วยท่าทางตกตะลึง พลางคิดในใจว่าท่านลุงผู้นี้ช่างประหลาดเสียจริง ข้ายังมิทันได้เอ่ยกับเขาสักคำ เยี่ยงนั้นเขาพรวดพราดเข้ามาในห้องนี้เพื่ออันใดกัน ?

พอสวี่หวยซู่จากไปแล้ว ภายในห้องก็พลันครึกครื้นขึ้นมา

ฟู่เสี่ยวกวนเชิญคนกลุ่มใหม่เข้ามานั่งล้อมโต๊ะกลม ด้านแม่นางยิงฮวากำชับสาวใช้ให้เปิดสุราเทียนฉุน 1 ขวด แล้วรินให้แก่ทุกคน จากนั้นก็ยืนรับใช้อยู่ด้านข้าง

ฟู่เสี่ยวกวนแนะนำฉินโม่เหวินและคนอื่น ๆ ต่อเยียนเหลียงเจ๋อ ทั้งสองฝ่ายดื่มเพื่อทำความรู้จักกัน

เพียงแต่ฉินโม่เหวินรู้สึกแปลกใจยิ่ง ผลการเจรจานั้นทุกคนทราบดี ว่าฟู่เสี่ยวกวนได้ขูดเลือดขูดเนื้อแคว้นอี๋เยี่ยงไร ในสายตาของพวกตนเห็นว่าองค์รัชทายาทของแคว้นอี๋เสียเปรียบทุกทาง แน่นอนว่าต้องโกรธแค้นฟู่เสี่ยวกวนมากยิ่งนัก คาดมิถึงว่าในค่ำคืนนี้ องค์รัชทายาทจะทรงเชิญฟู่เสี่ยวกวนมาดื่มสังสรรค์ ช่างมิสมเหตุสมผลเอาเสียเลย !

หรือองค์รัชทายาทจะเป็นพวกโง่เง่ากัน ?

แน่นอนว่าพวกเขาล้วนมองข้ามเจ้าโง่นั้นไป แล้วพากันทักทาย ร่วมดื่มกับฟู่เสี่ยวกวนอย่างสนุกสนาน

ฟู่เสี่ยวกวนหันไปมองจึงพบว่าเยียนเหลียงเจ๋อมีท่าทางอึดอัดใจ ที่สำคัญคือตนมีเรื่องสำคัญต้องกำชับกับอีกฝ่าย ทว่ามีผู้คนอยู่มากมายเช่นนี้ จะกล่าวออกมาได้เยี่ยงไร ดังนั้น ตนจึงตบลงที่บ่าของเยียนเหลียงเจ๋อเบา ๆ แล้วกล่าวว่า

“พี่เยียนจะเดินทางกลับแคว้นเมื่อใด ? ”

“เช้าวันรุ่งขึ้น ! ”

“อ่า… เร็วไปหน่อย แต่รีบเดินทางก็ดี ท่านตามข้าออกมาสักหน่อยเถิด”

เมื่อกล่าวจบเขาก็ได้ลุกขึ้นแล้วเอ่ยกับฉินโม่เหวินว่า “พวกท่านเชิญดื่มกันตามสบาย ข้าขอตัวสนทนากับพี่เยียนสักครู่”

สวี่ซินเหยียนเองก็ลุกขึ้น เดินตามฟู่เสี่ยวกวนไปติด ๆ เช่นกัน

หนิงหยู่ชุนมองดูแล้วก็หัวเราะขึ้นมา “แม่นางผู้นี้ พวกท่านรู้จักหรือไม่ ? นางมีนามว่าสวี่ซินเหยียน เป็นบุตรสาวของเสนาบดีสวี่ ลูกพี่ลูกน้องของฟู่เสี่ยวกวน…จากที่ข้าเห็นเกรงว่าเจ้าหมอนี่ได้ลงมือกับลูกพี่ลูกน้องของตนเสียแล้ว”

ฉินโม่เหวินสูดหายใจเข้า “แม่นางที่งดงามเหล่านี้ แต่ละคนล้วนถูกเจ้าหมอนั่นจัดการเสียหมด น่าสงสารตัวข้าอย่างแท้จริง อายุใกล้จะสามสิบเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ตัวคนเดียว เอาเถอะ ! มา ๆ ๆ ดื่ม ! อย่ามัวสนทนาเรื่องเศร้าใจเหล่านี้เลย”

ฟู่เสี่ยวกวนพาเยียนเหลียงเจ๋อออกมาจากประตู ยืนพิงราวระเบียงแล้วมองเยียนเหลียงเจ๋ออย่างจริงจัง “พี่เยียน ท่านจ่ายเงินแล้วจงกลับไปพักผ่อนเถิด อ่า… ข้ามีของดีจะมอบให้ ! ”

เขาหยิบปืนคาบศิลาและกระสุนหนึ่งถุงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “ของสิ่งนี้ดาดว่าท่านคงเคยเห็นมันมาก่อน ข้าขอมอบให้ท่าน 1 กระบอก มันสามารถใช้ป้องกันตัวจากศัตรูได้”

เยียนเหลียงเจ๋อรู้สึกดีใจมากยิ่งนัก นี่คืออาวุธที่น่าเกรงขาม !

เขารับไปแล้วเอ่ยถามว่า “เจ้ามิกลัวว่าแคว้นอี๋จะนำไปศึกษาแล้วทำเลียนแบบหรือ ? ”

“ท่านกล่าวเช่นนี้มิถูก บัดนี้ทั้งสองแคว้นได้ลงนามในสัญญาเป็นพันธมิตรกันแล้ว สิ่งนี้เชิญท่านนำไปศึกษาได้ตามใจชอบ เพียงแต่ต้องจำเอาไว้ว่า…ท่านต้องขึ้นเป็นจักรพรรดิให้ได้เสียก่อน”

เยียนเหลียงเจ๋อเก็บปืนและกระสุนเอาไว้ เขาคำนับฟู่เสี่ยวกวนด้วยความเคารพจากใจจริง “ข้าเคยเข้าใจท่านฟู่ผิด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ข้ามีอาวุธในมือแล้ว ขอให้ท่านฟู่รอฟังข่าวดีได้ในไม่ช้า ! ”

เขาหยิบเงินออกจากกระเป๋าเสื้อหนึ่งปึกแล้วยื่นให้กับฟู่เสี่ยวกวน “ข้ามิร่วมดื่มต่อแล้ว ไว้พบกันใหม่ ! ”

“ไว้พบกันใหม่ หวังว่าข้าจะได้ฟังข่าวดีของพี่เยียนในเร็ววัน ! ”

“รอให้ข้าได้ขึ้นครองบัลลังก์ แล้วจะเชิญท่านฟู่มาดื่มด้วยกันให้หนำใจ ! ”

“อย่าลืมสตรีของแคว้นอี๋ที่กล่าวไว้ด้วย ! ”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ! เมื่อถึงเวลา ข้าย่อมจัดหาสาวงามมากมายมาให้ท่านได้ตามใจชอบ เกรงว่าท่านฟู่จะปวดเอวเสียก่อน”

ฟู่เสี่ยวกวนเก็บเงินนั้นไว้ แล้วจับมือเยียนเหลียงเจ๋อ “เรื่องนี้ข้ามีความมั่นใจยิ่ง”

“เช่นนั้นก็ดี เอาล่ะ ข้าขอตัวก่อน ! ”

“ข้าขอส่งท่านเพียงเท่านี้ ขอให้เดินทางปลอดภัย ! ”

นายน้อยเจ้าสำราญ

นายน้อยเจ้าสำราญ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง นายน้อยเจ้าสำราญโชคดีที่ได้ทะลุมิติมา ทั้งยังได้เกิดในตระกูลเศรษฐีที่ดิน ชีวิตนี้ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้าแต่ก็ไม่อยากจะเอาแต่กินจนตายไปทั้งอย่างนั้น ดังนั้นฟู่เซี่ยวกวนจึงได้กระทำเรื่องบางอย่างตามอำเภอใจ โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเกิดผล กระทบที่ใหญ่หลวงตามมาเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้ต้องการให้เขาเป็นขุนนางชั้นหนึ่ง องค์หญิงต้องการแต่งตั้งให้เขาเป็นราชบุตรเขย บุตรีแห่งจวนเสนาบดีสำนักตรวจการต้องการแต่งกับเขา คนป่าต้องการหัวของเขา รัฐอี๋ต้องการชีวิตของเขา ส่วนรัฐฝานต้องการเงินของเขา… แต่เขา.. ฟู่เซี่ยวกวนนั้นต้องการเป็นเศรษฐีที่ดินผู้ยิ่งใหญ่ต่างหากเล่า !

Comment

Options

not work with dark mode
Reset