[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก – ตอนที่ 24 สิงร่างลูกผู้ดี แล้วปรี่เข้าประจบท่านอ๋อง (24)

 

 

 

จวินเฉิงล่าสัตว์ป่าขนาดค่อนข้างใหญ่อีกหลายตัวอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งล้วนเป็นตันหวายที่รีบวิ่งเข้าไปขนย้ายเอาเหยื่อขึ้นมาแขวนไว้ข้างหลังม้า ระหว่างนั้นมีหลายครั้งที่เขาขนขึ้นมาเองไม่ไหว จวินเฉิงจึงต้องลงไปช่วย ทว่าตันหวายกลับมองเขาด้วยสีหน้าละอายใจ มองจนเขาก็พูดอะไรไม่ออก  

 

 

เหยื่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จวินเฉิงเห็นว่าพอสมควรแล้ว ก็เก็บคันธนูและลูกศรด้านหลังกลับลงไปทันที  

 

 

ตันหวายลองนับเหยื่อข้างหลังดู คิดว่าอันดับหนึ่งค่อนข้างน่าลุ้นเลยทีเดียว  

 

 

“นี่เป็นครั้งที่สามที่ข้าเข้าร่วมชิวเลี่ยของต้าโจว” จวินเฉิงพิงต้นไม้กล่าว “สองครั้งก่อนหน้านี้ ข้าไม่สนใจอันดับหนึ่ง ยิ่งไม่สนใจรางวัลพวกนั้น แต่มาคราวนี้ ข้าอยากชนะ”  

 

 

“เหตุใดคราวนี้ถึงอยากชนะเล่า?” ตันหวายนั่งลงข้างๆ จวินเฉิง หวังจะให้จวินเฉิงเอนซบอ้อมอกของตน แต่เพราะขยับบ่าจวินเฉิงไม่ได้ จึงจำใจต้องยอมแพ้  

 

 

จวินเฉิงหัวเราะ “เพราะข้าต้องการขอของบางอย่างจากเหอจินหมิง”  

 

 

ตันหวายกะพริบตาปริบๆ นึกอยากถามว่าเป็นของแบบไหนกัน ใครจะรู้ว่าพอหันหน้าไปก็ลืมสิ้นหมดทุกอย่าง จวินเฉิงกำลังจ้องมองเขาอย่างเอาจริงเอาจัง แววตาราวกับทอประกาย  

 

 

ตันหวายคิด เกรงว่าตั้งแต่เขาเกิดมาตลอดหลายปีมานี้ นี่คือประกายอันงดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอ ต่อจากนี้ไป เกรงว่าตลอดชั่วชีวิตคงไม่อาจหาสิ่งใดทดแทนได้อีกแล้ว  

 

 

_____________  

 

 

วันสุดท้ายของการล่าสัตว์ ตันหวายรวมกลุ่มกับเหอหรูกู้อีกครั้ง เหอหรูกู้ยังคงสวมชุดทหารที่ขาดรุ่งริ่งจนไม่เหลือเค้าเดิม เพียงแต่ว่าดูสภาพย่ำแย่ยิ่งกว่าก่อนหน้านี้  

 

 

เหอหรูกู้คล้ายมีบางอย่างจะกล่าวกับตันหวาย ทว่าตลอดทางมัวแต่อึกอักไม่ยอมพูดจาจนล้มเลิกไป  

 

 

ตันหวายเหลือบมองเหยื่อด้านหลังของเหอหรูกู้ ในใจอดเต้นระรัวขึ้นมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะเยอะกว่าของจวินเฉิงไม่น้อยเลยทีเดียว   

 

 

ย้ายตัวไปข้างหลังอย่างเงียบเชียบ ตันหวายนึกเอาเองว่าเทพไม่รู้ผีไม่เห็นพลางปลดตะขออันหนึ่งที่ใช้แขวนเหยื่อออก  

 

 

“เจ้าจะทำอะไร?” เหอหรูกู้อยู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงฟังดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก  

 

 

ตันหวายเอามือถูจมูกอย่างกระอักกระอ่วน แต่กลับปลดตะขอได้อีกหลายอัน  

 

 

เหอหรูกู้ “…”  

 

 

เหอหรูกู้มองตันหวายด้วยสายตาเย็นยะเยือก น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยอันตราย “เจ้าจะทำอะไร?”  

 

 

ปลดตะขอหลายอันออกอีกสักรอบ ตันหวายคิดว่าน่าจะพอสมควรแล้ว ก่อนกล่าวอ้อมๆ แอ้มๆ ว่า “จวินเฉิงอยากได้ที่หนึ่ง”  

 

 

แม้ว่าเขาจะพูดคลุมเครือ แต่เหอหรูกู้ยังคงเข้าใจว่าเขาหมายความอย่างไร พอเห็นตนมีเหยื่อเยอะเข้าหน่อย ก็กลัวว่าตนจะเหนือกว่าจวินเฉิง จึงได้จัดการเหยื่อที่เกินออกมาให้กับเขา  

 

 

เหอหรูกู้กระตุกยิ้มมุมปาก แทบอยากจะกุมขมับทอดถอนใจ ท่านลุงของตนไปหลงถูกใจคนพิลึกแบบไหนกันแน่  

 

 

แขวนตะขอใหม่อย่างแน่นหนาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เหอหรูกู้เอ่ยถามตันหวาย “เจ้าทนดูพวกมันตายเปล่าได้ลงคอหรือ?”  

 

 

“…”  

 

 

ไม่เลว คลุกคลีอยู่กับตันหวายมานาน เหอหรูกู้ก็เริ่มจะเอาอย่างบ้างแล้ว  

 

 

“เกิดที่นี่ตายที่นี่ ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ?” ตันหวายถามกลับ “เจ้าต้องการถกปรัชญาชีวิตกับข้าหรืออย่างไร?”  

 

 

เหอหรูกู้ “…”  

 

 

ผลสุดท้ายเป็นเหอหรูกู้ที่ชนะไป นำเหยื่อออกไปโดยไม่ขาดตกบกพร่องสักตัวเดียว ช่วยไม่ได้ ตันหวายสู้ไม่ไหว ในโลกใบนี้ ผู้แข็งแกร่งย่อมเหนือกว่าอยู่ดีสินะ ตันหวายถอนหายใจ  

 

 

การตัดสินแพ้ชนะครั้งสุดท้ายพิจารณาโดยไท่สื่อ[1] ผู้เฒ่าไทสื่อดูจะสูงอายุมากแล้ว หนวดเคราสีดอกเลาเข้ากับขนคิ้วสีดอกเลาอีกทั้งเส้นผมสีดอกเลา ทำเอาตันหวายแทบอยากจะขึ้นไปย้อมผมให้เขาเสียเดี๋ยวนั้น!  

 

 

กลับมาแล้วถึงรู้ว่า เหยื่อของเหอหรูกู้ไม่นับว่าเยอะเท่าไหร่นัก ไม่เพียงไม่เยอะ แต่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ เห็นซากศพสัตว์ที่กองพะเนินเทินทึกอยู่ตรงหน้าม้าของเหอจินหมิงแล้ว ตันหวายก็แทบจะสติแตก  

 

 

ฮ่องเต้อย่างแกอยากได้อะไรก็ต้องได้เรอะ! อยากได้อะไรแล้วไม่ได้บ้าง! จำเป็นต้องมาลงแข่งด้วยหรือไง?  

 

 

เหอจินหมิงเห็นตันหวายจ้องมองตนตลอดเวลา แววตาคล้ายยกย่องเลื่อมใส จึงยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ  

 

 

เป็นดังที่คาดไว้ ต้องยอมสยบให้เราผู้อาจหาญชาญชัยอีกตามเคย ไม่ว่าเจ้าจะความจำเสื่อมสักกี่ครั้ง ก็ยังต้องหลงรักเราเช่นเดิม  

 

 

ตันหวายมองเหอจินหมิงอย่างพรั่นพรึงสีหน้าแปลกประหลาดขึ้นทุกที พลางรู้สึกเสียดายว่าคนดีๆ คนหนึ่ง ทำไมจิตใจถึงมีปัญหาไปได้กัน  

 

 

เมื่อตรวจนับจำนวนเสร็จสิ้น ไทสื่อก็ประกาศผู้ชนะรางวัลสามอันดับแรกอันได้แก่จวินเฉิง เหอจินหมิง แล้วก็เหอหรูกู้  

 

 

!!!  

 

 

ตันหวายชำเลืองมองส่วนของจวินเฉิงที่น้อยจนน่าสงสาร แล้วชำเลืองมองกองภูเขาเล็กๆ ของเหอจินหมิง คิดว่าไอคิวของตนถูกสบประมาทเข้าแล้ว  

 

 

นี่! มัน! ไม่! มี! เบื้อง! หลัง! จริงๆ อ่ะ!  

 

 

จวินเฉิงกับเหอจินหมิงตกลงใครเป็นฮ่องเต้กันแน่เนี่ย!  

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] ไท่สื่อ (太史) คือตำแหน่งขุนนางผู้รับผิดชอบในการเขียนพงศาวดาร

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

ตันหวาย นักศึกษาคณะศิลปะที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเพราะช่วยชีวิต ไป๋เยว่ รุ่นพี่ที่ตนแอบชอบให้พ้นจากอันตรายจนตัวเองตายแทน วิญญาณจึงทะลุมิติมาอยู่ในระบบ H3883 ซึ่งบีบให้เขาต้องออกเดินทางไปยังโลกต่างๆ เพื่อสวมร่างผู้อื่น และทำภารกิจเพื่อสะสางความแค้นและทำความปรารถนาของเจ้าของร่างเดิมให้เป็นจริง ในชาติแรกมาเขาทะลุมิติมาอยู่ร่างบุตรชายอัครเสนาบดี ชาติที่สองเป็นเรื่องระหว่างภูติกระต่ายและภูติจิ้งจอก ชาติที่สาม ตันหวายมาอยู่ในร่างดาราหนุ่มแห่งโลกโอเมก้าเวิร์ส และในชาติสุดท้ายต้องมาย้ายอยู่ในร่างประมุขสำนักเซียนที่ต้องทำภารกิจคลายปมในใจของศิษย์น้อย หากทำสำเร็จ เขาก็จะฟื้นคืนชีพกลับไปโลกเดิมได้ แต่หากไม่สำเร็จ เขาจะต้องกลายเป็นระบบแทนและติดแหง็กอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!

Options

not work with dark mode
Reset