[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก – ตอนที่ 86 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (9) / ตอนที่ 87 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (10)

ตอนที่ 86 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (9)

 

 

ตันหวายนั่งลงบนขั้นบันไดหัวมุมถนน หยิบกระดาษที่ไม่รู้ว่าล้วงออกมาจากตรงไหนยื่นให้กับซวงหร่าน บอกเป็นเชิงให้เขาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตนเอง

 

 

ซวงหร่านร้องไห้สะอึกสะอื้น ราวกับได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง

 

 

ตันหวายมองเขาร่ำไห้จนหัวแทบล้านอยู่แล้ว ก่อนคว้าจับบ่าของซวงหร่านเอาไว้ ตันหวายกล่าวอย่างสติแตกว่า “พี่ชาย ข้าแย่งชายคนรักของท่านหรือฆ่าล้างตระกูลท่านกันแน่ ท่านบอกกล่าวกันสักหน่อยได้หรือไม่”

 

 

เขาตันหวายเกิดมายี่สิบกว่าปี เพิ่งได้รู้เป็นครั้งแรกว่าที่แท้ผู้ชายทั้งตัวมีแต่น้ำ!

 

 

ซวงหร่านกัดริมฝีปาก กล่าวอย่างชิงชังว่า “ชาติที่แล้วเจ้าแย่งชายคนรักของข้าก็เท่านั้นล่ะ ชาตินี้เจ้ายัง…เขายังปกป้องเจ้าอีก…”

 

 

ตันหวาย “…”

 

 

ตันหวายรู้สึกว่าภารกิจที่ระบบจัดสรรให้เขาช่างไว้ใจไม่ได้เลย ตกลงนี่คือผู้ชายที่โผล่มากล่าวหากันปาวๆ ว่าชาติที่แล้วแย่งผู้ชายของเขาจากที่ไหนกันแน่! สมัยนี้ผู้ชายชอบผู้ชายกันหมดแล้วหรือไง? มีเขาเป็นเกย์คนเดียวยังไม่พออีกเหรอ?

 

 

พูดถึงชาติที่แล้ว…ตันหวายมองไปยังซวงหร่านอย่างระแวดระวังทันที ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าก็ชอบเริ่นตงหลิวหรือ? บอกมา เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

 

 

ตันหวายฉุนโกรธขึ้นมา ยังจะมีศัตรูหัวใจตามมาโลกนี้อีก เยี่ยมไปเลย!

 

 

ซวงหร่านชะงักไป ลืมแม้กระทั่งร้องไห้ ถามว่า “เริ่นตงหลิวคือใคร?”

 

 

ตันหวาย “…ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ชอบจวินเฉิง?”

 

 

“จวินเฉิงคือใคร?”

 

 

“หรือว่าเจ้าจะชอบไป่เยว่?” หยั่งเชิงอย่างต่อเนื่อง

 

 

“ไป๋เยว่คือใครเล่า?” ซวงหร่านถูกตันหวายซักถามจนงุนงง

 

 

ตอนนี้ตันหวายงุนงงยิ่งกว่า เบิกตามองซวงหร่านไม่กล่าววาจา ข้าเคยชอบผู้ชายแค่สามคนที่แท้จริงแล้วเป็นคนคนเดียวกัน เอ็งโผล่มาจากไหนถึงกล่าวหาข้าว่าแย่งผู้ชายเฮงซวยอะไรของเอ็ง?

 

 

ซวงหร่านตกตะลึง “เจ้าจำไม่ได้แล้วรึ?”

 

 

ตันหวายเลิกคิ้วขึ้น สายตาที่จ้องมองซวงหร่านเต็มไปด้วยแววฉงนฉงาย

 

 

ซวงหร่านเม้มริมฝีปาก กล่าวว่า “ข้าคือกระต่ายที่อวี๋ฉือเลี้ยงดู”

 

 

อวี๋ฉือก็คือคนผู้นั้นที่เจ้าของร่างเดิมถวายชีวิตเพื่อตอบแทนบุญคุณ ยามที่เจ้าของร่างเดิมได้พบเขาครานั้น อวี๋ฉือกำลังหามตะกร้าหนังสือ ใบหน้าเต็มไปด้วยคำว่าข้าคือหนอนหนังสือ

 

 

ตอนที่ตันหวายรู้จักชื่อนี้เป็นครั้งแรกยังแอบแขวะอยู่เงียบๆ คนอะไรชื่อคล้ายก้างปลา?

 

 

กระต่ายที่อวี๋ฉือเลี้ยงดู? ตันหวายเบิ่งตาโต อวี๋ฉือยังเลี้ยงกระต่ายอีกเรอะ? ตันหวายขอสาบาน เขารับรู้จากในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมว่าตอนนั้นนายก้างปลาอยู่ตัวคนเดียวอย่างแน่นอน ไม่ได้เลี้ยงดูกระต่ายตัวอื่นไว้ข้างกาย

 

 

พอเห็นตันหวายไม่เชื่อ ซวงหร่านก็เริ่มร้อนรน แต่ไม่ร้องไห้อีกแล้ว เช็ดใบหน้าพลางกล่าว “ตอนนั้นเขาอุ้มข้าอยู่ พอเห็นเจ้าใกล้จะถูกจิ้งจอกจับกินก็วางข้าลง จากนั้นข้าก็ถูกคนอื่นจับไปจนพลัดพรากกับเขา”

 

 

น้ำเน่า! น้ำเน่าที่สุด! ตันหวายกุมขมับ นี่นายก้างปลามีแฟนเก่าอยู่ทั้งคนเชียวเหรอเนี่ย!

 

 

ซวงหร่าน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าตามหาเขามาโดยตลอด ระหว่างทางที่ตามหาเขาก็ได้พบกระต่ายอีกมากมายตามมาทดแทนบุญคุณเขา ข้าจึงรู้สึกสับสน เขาช่วยเอาไว้กี่ตัวกันแน่! ข้าต้องต่อสู้กับกระต่ายพวกนั้นตลอดทางกว่าจะฝ่าฟันมาถึง!”

 

 

ซวงหร่านกล่าวอย่างปวดร้าว ก่อนถกแขนเสื้อขึ้นให้ตันหวายดูรอยแผลที่เขาได้รับจากการต่อสู้

 

 

ตันหวายอดหลั่งน้ำตานองหน้าไม่ได้เช่นกัน นี่มันพล็อตละครน้ำเน่าเรื่องไหนวะเนี่ย ต้องมีศัตรูคู่แค้นเยอะแยะขนาดนี้เชียว?

 

 

“ช่างน่าเวทนานัก เจ้ากลับพบเขาก่อนเสียแล้ว” ขณะที่ซวงหร่านพูดไปพลาง ความโศกเศร้าก็ผุดขึ้นในใจ เม็ดถั่วทองคำบนใบหน้าร่วงหล่นออกมาข้างนอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

ตันหวายมองเขาร้องไห้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วจึงเอ่ยปากอย่างเย็นชาว่า “เจ้ารู้แต่แรกแล้วหรือว่าโหลวชิงอันเป็นก้างปลา?”

 

 

หรือว่าระหว่างเจ้านายกับสัตว์เลี้ยงจะมีจิตสัมผัสบางอย่าง?

 

 

ซวงหร่านพลันนิ่งอึ้ง “ในเมื่อเจ้าอยู่ด้วยกันกับเขา เช่นนั้นเขาก็ย่อมเป็นอวี๋ฉือน่ะสิ! เจ้าบอกว่าต้องแต่งงานกับเขาให้ได้มิใช่หรือ? ฝูงกระต่ายรู้ข่าวลือกันหมดแล้ว!”

 

 

ตันหวาย “???”

 

 

อย่างนี้ก็ได้เหรอ? มั่วกว่านี้ยังมีอีกไหมครับลูกพี่?

 

 

ตันหวายสูดหายใจลึกแล้วแย้มยิ้ม คว้าจับมือของซวงหร่านเอาไว้ กล้ำกลืนฝืนทนบีบน้ำตาตนเองออกมาสองเม็ด “ท่านพี่ขอรับ แต่ก่อนข้ายังไม่รู้ประสา หลงคิดว่าความซาบซึ้งนั้นคือความรัก แต่นับจากรู้จักกับโหลวชิงอันข้าก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งใดคือรักแท้ ท่านโปรดวางใจ ข้าไม่แย่งชิงกับท่านหรอก ท่านจงออกตามหาอย่างกล้าหาญเถิด ชั่วชีวิตนี้ของข้า ขอรักเพียงโหลวชิงอันคนเดียว (โกหกทั้งเพ!!! ตันหวายทำหน้าเย็นชา) ”

 

 

ตันหวายคิดว่าตนทำได้ทุกอย่างเพื่อภารกิจจริงๆ ข้าก็ไม่อยากหลอกท่านหรอกนะพี่ชาย ใครใช้ให้โหลวชิงอันเป็นพวกบ้าคนหน้าตาดีล่ะ ท่านหน้าตางดงามถึงเพียงนี้ ข้าสู้ท่านไม่ได้หรอก!

 

 

ซวงหร่านหยุดเสียงร่ำไห้ กล่าวอย่างแคลงใจว่า “จริงหรือ?”

 

 

ตันหวายพยักหน้ารัว “จริงสิ จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก”

 

 

จริงเสียจนตอนนี้เขาอดน้ำตานองหน้าไม่ได้ จริงเสียงจนเขานึกอยากตัดระบบระบายความแค้น

 

 

ระบบที่ดูทีวีมาราธอนอยู่พลันสั่นสะท้าน จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ…

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 87 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (10)

 

 

มีระบบประเภทหนึ่งเป็นพวกขี้แพ้ในหมู่ระบบ นอกจากทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศกับพ่อค้าออนไลน์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เป็นสวะไร้ค่าที่สุดในกองทัพระบบสวมร่าง

 

 

ช่างไม่น่าบังเอิญ ตันหวายรู้สึกว่าระบบของตนเป็นเช่นนั้น

 

 

ตันหวายเกาะอยู่มุมกำแพง มองดูโหลวชิงอันที่นั่งครุ่นคิดใคร่ครวญอยู่ในร้านบะหมี่ฝั่งตรงข้าม จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทุกคนรอบข้างล้วนกลายเป็นตัวประกอบภายใต้รัศมีอันโดดเด่นของโหลวชิงอัน

 

 

บนโลกนี้มักมีคนประเภทหนึ่ง ไม่ว่าปรากฏตัวอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็นนกกระเรียนงามสง่าท่ามกลางฝูงไก่

 

 

คนประเภทนี้เยื้องกรายลงจุติบนโลกมนุษย์ด้วยความรักเมตตาจากสรวงสรรค์ ทำให้ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนต้องละอายในความอัปลักษณ์ของตน

 

 

“ระบบ” ตันหวายเอ่ยถาม “คุณจะไม่เตรียมดัชนีทองคำ หรือพลังพิเศษของพระเอกอะไรทำนองนั้นให้ผมบ้างเลยเหรอ?”

 

 

(ท่านเจ้าของร่าง ท่านคือผู้สืบทอดแนวคิดสังคมนิยมที่มีความสามารถและเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ท่านไม่จำเป็นต้องใช้ดัชนีทองคำ ยิ่งไม่จำเป็นต้องใช้พลังพิเศษของพระเอก!)

 

 

ตันหวายทำหน้าเย็นชา “…มีความสามารถและเด็ดเดี่ยวแน่วแน่กับน้องเอ็งสิ ข้าจะเอาพลังพิเศษของพระเอกโว้ย”

 

 

(ท่านเจ้าของร่างตื่นสักที! อย่างแรก ท่านมายังที่นี่เพราะว่าตายแล้ว เนื่องจากยามท่านมีชีวิตไม่ได้ก่อกรรมทำเข็ญ ดังนั้นจึงให้โอกาสเกิดใหม่อีกครั้งแก่ท่าน จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง มีดัชนีทองคำอะไรให้ท่านที่ไหนกัน!) ระบบกลอกตาเงียบๆ ถึงแม้มันจะไม่มีอวัยวะอย่างดวงตาก็ตาม

 

 

ตันหวายไตร่ตรองสักครู่ คิดว่าพูดถูกอยู่เหมือนกันนะ

 

 

ปัดเศษฝุ่นดินที่เปรอะเปื้อนเพราะว่านั่งอยู่บนขั้นบันได ตันหวายจัดทรงหมวกของตนให้เรียบร้อยแล้วมุดออกมาจากมุมกำแพง

 

 

เดินเต๊ะท่าวางมาดไปจนถึงร้านบะหมี่กลางแจ้ง ตันหวายฉุดแขนของโหลวชิงอันเอาไว้ “ไปกันเถอะ”

 

 

โหลวชิงอันที่ได้ยินทุกอย่างโดยไม่บังเอิญเอาเสียเลยเพราะหูดีเป็นพิเศษผงกศีรษะโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แสร้งถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “คนผู้นั้นไปแล้วหรือ?”

 

 

ตันหวาย “ไปแล้ว!”

 

 

โหลวชิงอันพยักหน้า ผุดยิ้มออกมาราวกับจิ้งจอกตะปบไก่ได้คามือ

 

 

ตันหวายรู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างหมุนเร็วยิ่งนัก อย่างเช่นเมื่อคืนนี้เขาเพิ่งจะมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง วันถัดมาตื่นขึ้นก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของโหลวชิงอันแล้ว ทั้งยังมาถึงสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

 

 

ตันหวายขยี้ตา ไม่รับรู้แม้แต่น้อยว่าใบหูนุ่มปุกปุยบนศีรษะของตนตั้งโด่ขึ้นมาแล้ว

 

 

กระโดดลงมาจากอ้อมกอดของโหลวชิงอัน ตันหวายมองสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบจนทั่ว พบว่าทิวทัศน์ของที่นี่ดูแปลกตาอย่างยิ่ง

 

 

หันหน้าไปมองโหลวชิงอัน ตันหวายกระดิกใบหู ถามด้วยสีหน้ามึนงงว่า “ที่นี่ที่ไหน?”

 

 

“ซีโจว”

 

 

“ซีโจว?” ตันหวายกะพริบตาปริบ งุนงงเล็กน้อย

 

 

ระบบทนดูต่อไปไม่ไหว เจ้าของร่างที่เพิ่งจะตื่นนอนไอคิวแทบเป็นศูนย์

 

 

(ซีโจวคือเขตชายแดนของแคว้นจิ่วเทียนแห่งอาณาจักรเทียนจี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองทัพอาณาจักรเทียนจี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ของผู้ที่ท่านต้องตอบแทนบุญคุณ)

 

 

“แต่ว่าผมหาเขาเจอแล้ว ทำไมถึงต้องมาที่นี่อีก?” ตันหวายเปล่งเสียงออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

 

 

โหลวชิงอันขมวดคิ้ว เห็นชัดว่าไม่มีใครอยู่รอบข้าง เหตุใดเขาจึงเอาแต่พูดคุยกับตนเอง?

 

 

ได้ยินว่ามนุษย์หากถูกฟ้าผ่าจะกลายเป็นคนทึ่ม เจ้ากระต่ายน้อยคงไม่ได้หลงเหลืออาการข้างเคียงอะไรหรอกกระมัง

 

 

ตันหวายไม่รู้เลยว่าตนถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนทึ่มไปเสียแล้ว ทั้งกำลังโต้เถียงกับระบบอย่างเอาเรื่อง

 

 

ระบบงงงวย (คุณหาเจอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?)

 

 

ตันหวายงงงวยยิ่งกว่า “โหลวชิงอันไม่ใช่หรือ?”

 

 

โหลวชิงอันที่ถูกเอ่ยถึงชื่อแซ่มองไปทางตันหวายโดยไม่กล่าววาจา จ้องมองตันหวายพูดเองเออเองราวเสียสติ

 

 

(ใครบอกท่านว่าโหลวชิงอันคือเป้าหมายที่ท่านต้องตอบแทนบุญคุณ ท่านดูเขาสิ เหมือนบัณฑิตผู้สุภาพเรียบร้อยคนนั้นตรงไหนกัน)

 

 

ตันหวายชะงักไป พอมองดูโหลวชิงอันก็พบว่าระบบดูจะพูดมีเหตุผลมากทีเดียว ฉะนั้นหมายความว่าเขาเข้าใจผิดหรือ?

 

 

ตันหวายที่ไม่ยอมหลงเชื่อว่าตนจำคนผิดพยายามหลอกตัวเอง ระบบมั่วซั่วอย่างแน่นอน ไอ้ระบบขยะเอ๊ย ทำลายความรักฉันพินาศหมดแล้ว!

 

 

ระบบแค่นเสียงเหอะๆ แล้วปิดปากเงียบ เจ้าของร่างไม่ยอมฟังก็ไม่มีทางเลือก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ภารกิจของมัน

 

 

ตันหวายเบะปากคว่ำ พอเงยหน้าก็มองเห็นสายตาแปลกๆ ของโหลวชิงอัน

 

 

ตันหวายเม้มริมฝีปาก ก่อนอ้าปากหัวเราะเหอะๆ “พอดีข้าเพิ่งจะตื่นนอน ก็เลยพูดเพ้อเจ้อ”

 

 

โหลวชิงอันสำรวจใบหน้าเขาอย่างพินิจพิเคราะห์รอบหนึ่ง สายตาหยุดลงที่หูกระต่ายเหนือศีรษะเขาสักครู่ จากนั้นก็พยักหน้ายิ้มๆ

 

 

ตันหวายเขินอาย รู้ดีว่าโหลวชิงอันไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ล่ะ ตีให้ตายโหลวชิงอันก็คงคิดไม่ถึงว่ามีระบบอยู่

 

 

สายตาที่สบกับโหลวชิงอัน ตันหวายมักจะรู้สึกว่าตนถูกคนตรงหน้ามองทะลุปรุโปร่ง

 

 

ศีรษะคันยุบยิบ ตันหวายขมวดคิ้ว หัวใจเต้นระรัว ไม่ใช่ว่าใบหูของตนโผล่ออกมาอีกแล้วหรอกนะ

 

 

เอื้อมมือไปลูบคลำ เมื่อคลำไม่เจออะไรตันหวายก็ได้แต่วางมืออย่างขวยเขิน

 

 

โหลวชิงอัน “หัวเป็นเหาต้องรีบหาหมอรักษาโดยเร็วที่สุด”

 

 

ตันหวาย “…”

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

ตันหวาย นักศึกษาคณะศิลปะที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเพราะช่วยชีวิต ไป๋เยว่ รุ่นพี่ที่ตนแอบชอบให้พ้นจากอันตรายจนตัวเองตายแทน วิญญาณจึงทะลุมิติมาอยู่ในระบบ H3883 ซึ่งบีบให้เขาต้องออกเดินทางไปยังโลกต่างๆ เพื่อสวมร่างผู้อื่น และทำภารกิจเพื่อสะสางความแค้นและทำความปรารถนาของเจ้าของร่างเดิมให้เป็นจริง ในชาติแรกมาเขาทะลุมิติมาอยู่ร่างบุตรชายอัครเสนาบดี ชาติที่สองเป็นเรื่องระหว่างภูติกระต่ายและภูติจิ้งจอก ชาติที่สาม ตันหวายมาอยู่ในร่างดาราหนุ่มแห่งโลกโอเมก้าเวิร์ส และในชาติสุดท้ายต้องมาย้ายอยู่ในร่างประมุขสำนักเซียนที่ต้องทำภารกิจคลายปมในใจของศิษย์น้อย หากทำสำเร็จ เขาก็จะฟื้นคืนชีพกลับไปโลกเดิมได้ แต่หากไม่สำเร็จ เขาจะต้องกลายเป็นระบบแทนและติดแหง็กอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!

Options

not work with dark mode
Reset