ตอนที่ 86 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (9)
ตันหวายนั่งลงบนขั้นบันไดหัวมุมถนน หยิบกระดาษที่ไม่รู้ว่าล้วงออกมาจากตรงไหนยื่นให้กับซวงหร่าน บอกเป็นเชิงให้เขาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตนเอง
ซวงหร่านร้องไห้สะอึกสะอื้น ราวกับได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง
ตันหวายมองเขาร่ำไห้จนหัวแทบล้านอยู่แล้ว ก่อนคว้าจับบ่าของซวงหร่านเอาไว้ ตันหวายกล่าวอย่างสติแตกว่า “พี่ชาย ข้าแย่งชายคนรักของท่านหรือฆ่าล้างตระกูลท่านกันแน่ ท่านบอกกล่าวกันสักหน่อยได้หรือไม่”
เขาตันหวายเกิดมายี่สิบกว่าปี เพิ่งได้รู้เป็นครั้งแรกว่าที่แท้ผู้ชายทั้งตัวมีแต่น้ำ!
ซวงหร่านกัดริมฝีปาก กล่าวอย่างชิงชังว่า “ชาติที่แล้วเจ้าแย่งชายคนรักของข้าก็เท่านั้นล่ะ ชาตินี้เจ้ายัง…เขายังปกป้องเจ้าอีก…”
ตันหวาย “…”
ตันหวายรู้สึกว่าภารกิจที่ระบบจัดสรรให้เขาช่างไว้ใจไม่ได้เลย ตกลงนี่คือผู้ชายที่โผล่มากล่าวหากันปาวๆ ว่าชาติที่แล้วแย่งผู้ชายของเขาจากที่ไหนกันแน่! สมัยนี้ผู้ชายชอบผู้ชายกันหมดแล้วหรือไง? มีเขาเป็นเกย์คนเดียวยังไม่พออีกเหรอ?
พูดถึงชาติที่แล้ว…ตันหวายมองไปยังซวงหร่านอย่างระแวดระวังทันที ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าก็ชอบเริ่นตงหลิวหรือ? บอกมา เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
ตันหวายฉุนโกรธขึ้นมา ยังจะมีศัตรูหัวใจตามมาโลกนี้อีก เยี่ยมไปเลย!
ซวงหร่านชะงักไป ลืมแม้กระทั่งร้องไห้ ถามว่า “เริ่นตงหลิวคือใคร?”
ตันหวาย “…ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ชอบจวินเฉิง?”
“จวินเฉิงคือใคร?”
“หรือว่าเจ้าจะชอบไป่เยว่?” หยั่งเชิงอย่างต่อเนื่อง
“ไป๋เยว่คือใครเล่า?” ซวงหร่านถูกตันหวายซักถามจนงุนงง
ตอนนี้ตันหวายงุนงงยิ่งกว่า เบิกตามองซวงหร่านไม่กล่าววาจา ข้าเคยชอบผู้ชายแค่สามคนที่แท้จริงแล้วเป็นคนคนเดียวกัน เอ็งโผล่มาจากไหนถึงกล่าวหาข้าว่าแย่งผู้ชายเฮงซวยอะไรของเอ็ง?
ซวงหร่านตกตะลึง “เจ้าจำไม่ได้แล้วรึ?”
ตันหวายเลิกคิ้วขึ้น สายตาที่จ้องมองซวงหร่านเต็มไปด้วยแววฉงนฉงาย
ซวงหร่านเม้มริมฝีปาก กล่าวว่า “ข้าคือกระต่ายที่อวี๋ฉือเลี้ยงดู”
อวี๋ฉือก็คือคนผู้นั้นที่เจ้าของร่างเดิมถวายชีวิตเพื่อตอบแทนบุญคุณ ยามที่เจ้าของร่างเดิมได้พบเขาครานั้น อวี๋ฉือกำลังหามตะกร้าหนังสือ ใบหน้าเต็มไปด้วยคำว่าข้าคือหนอนหนังสือ
ตอนที่ตันหวายรู้จักชื่อนี้เป็นครั้งแรกยังแอบแขวะอยู่เงียบๆ คนอะไรชื่อคล้ายก้างปลา?
กระต่ายที่อวี๋ฉือเลี้ยงดู? ตันหวายเบิ่งตาโต อวี๋ฉือยังเลี้ยงกระต่ายอีกเรอะ? ตันหวายขอสาบาน เขารับรู้จากในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมว่าตอนนั้นนายก้างปลาอยู่ตัวคนเดียวอย่างแน่นอน ไม่ได้เลี้ยงดูกระต่ายตัวอื่นไว้ข้างกาย
พอเห็นตันหวายไม่เชื่อ ซวงหร่านก็เริ่มร้อนรน แต่ไม่ร้องไห้อีกแล้ว เช็ดใบหน้าพลางกล่าว “ตอนนั้นเขาอุ้มข้าอยู่ พอเห็นเจ้าใกล้จะถูกจิ้งจอกจับกินก็วางข้าลง จากนั้นข้าก็ถูกคนอื่นจับไปจนพลัดพรากกับเขา”
น้ำเน่า! น้ำเน่าที่สุด! ตันหวายกุมขมับ นี่นายก้างปลามีแฟนเก่าอยู่ทั้งคนเชียวเหรอเนี่ย!
ซวงหร่าน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าตามหาเขามาโดยตลอด ระหว่างทางที่ตามหาเขาก็ได้พบกระต่ายอีกมากมายตามมาทดแทนบุญคุณเขา ข้าจึงรู้สึกสับสน เขาช่วยเอาไว้กี่ตัวกันแน่! ข้าต้องต่อสู้กับกระต่ายพวกนั้นตลอดทางกว่าจะฝ่าฟันมาถึง!”
ซวงหร่านกล่าวอย่างปวดร้าว ก่อนถกแขนเสื้อขึ้นให้ตันหวายดูรอยแผลที่เขาได้รับจากการต่อสู้
ตันหวายอดหลั่งน้ำตานองหน้าไม่ได้เช่นกัน นี่มันพล็อตละครน้ำเน่าเรื่องไหนวะเนี่ย ต้องมีศัตรูคู่แค้นเยอะแยะขนาดนี้เชียว?
“ช่างน่าเวทนานัก เจ้ากลับพบเขาก่อนเสียแล้ว” ขณะที่ซวงหร่านพูดไปพลาง ความโศกเศร้าก็ผุดขึ้นในใจ เม็ดถั่วทองคำบนใบหน้าร่วงหล่นออกมาข้างนอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตันหวายมองเขาร้องไห้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วจึงเอ่ยปากอย่างเย็นชาว่า “เจ้ารู้แต่แรกแล้วหรือว่าโหลวชิงอันเป็นก้างปลา?”
หรือว่าระหว่างเจ้านายกับสัตว์เลี้ยงจะมีจิตสัมผัสบางอย่าง?
ซวงหร่านพลันนิ่งอึ้ง “ในเมื่อเจ้าอยู่ด้วยกันกับเขา เช่นนั้นเขาก็ย่อมเป็นอวี๋ฉือน่ะสิ! เจ้าบอกว่าต้องแต่งงานกับเขาให้ได้มิใช่หรือ? ฝูงกระต่ายรู้ข่าวลือกันหมดแล้ว!”
ตันหวาย “???”
อย่างนี้ก็ได้เหรอ? มั่วกว่านี้ยังมีอีกไหมครับลูกพี่?
ตันหวายสูดหายใจลึกแล้วแย้มยิ้ม คว้าจับมือของซวงหร่านเอาไว้ กล้ำกลืนฝืนทนบีบน้ำตาตนเองออกมาสองเม็ด “ท่านพี่ขอรับ แต่ก่อนข้ายังไม่รู้ประสา หลงคิดว่าความซาบซึ้งนั้นคือความรัก แต่นับจากรู้จักกับโหลวชิงอันข้าก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งใดคือรักแท้ ท่านโปรดวางใจ ข้าไม่แย่งชิงกับท่านหรอก ท่านจงออกตามหาอย่างกล้าหาญเถิด ชั่วชีวิตนี้ของข้า ขอรักเพียงโหลวชิงอันคนเดียว (โกหกทั้งเพ!!! ตันหวายทำหน้าเย็นชา) ”
ตันหวายคิดว่าตนทำได้ทุกอย่างเพื่อภารกิจจริงๆ ข้าก็ไม่อยากหลอกท่านหรอกนะพี่ชาย ใครใช้ให้โหลวชิงอันเป็นพวกบ้าคนหน้าตาดีล่ะ ท่านหน้าตางดงามถึงเพียงนี้ ข้าสู้ท่านไม่ได้หรอก!
ซวงหร่านหยุดเสียงร่ำไห้ กล่าวอย่างแคลงใจว่า “จริงหรือ?”
ตันหวายพยักหน้ารัว “จริงสิ จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก”
จริงเสียจนตอนนี้เขาอดน้ำตานองหน้าไม่ได้ จริงเสียงจนเขานึกอยากตัดระบบระบายความแค้น
ระบบที่ดูทีวีมาราธอนอยู่พลันสั่นสะท้าน จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ…
ตอนที่ 87 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (10)
มีระบบประเภทหนึ่งเป็นพวกขี้แพ้ในหมู่ระบบ นอกจากทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศกับพ่อค้าออนไลน์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เป็นสวะไร้ค่าที่สุดในกองทัพระบบสวมร่าง
ช่างไม่น่าบังเอิญ ตันหวายรู้สึกว่าระบบของตนเป็นเช่นนั้น
ตันหวายเกาะอยู่มุมกำแพง มองดูโหลวชิงอันที่นั่งครุ่นคิดใคร่ครวญอยู่ในร้านบะหมี่ฝั่งตรงข้าม จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทุกคนรอบข้างล้วนกลายเป็นตัวประกอบภายใต้รัศมีอันโดดเด่นของโหลวชิงอัน
บนโลกนี้มักมีคนประเภทหนึ่ง ไม่ว่าปรากฏตัวอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็นนกกระเรียนงามสง่าท่ามกลางฝูงไก่
คนประเภทนี้เยื้องกรายลงจุติบนโลกมนุษย์ด้วยความรักเมตตาจากสรวงสรรค์ ทำให้ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนต้องละอายในความอัปลักษณ์ของตน
“ระบบ” ตันหวายเอ่ยถาม “คุณจะไม่เตรียมดัชนีทองคำ หรือพลังพิเศษของพระเอกอะไรทำนองนั้นให้ผมบ้างเลยเหรอ?”
(ท่านเจ้าของร่าง ท่านคือผู้สืบทอดแนวคิดสังคมนิยมที่มีความสามารถและเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ท่านไม่จำเป็นต้องใช้ดัชนีทองคำ ยิ่งไม่จำเป็นต้องใช้พลังพิเศษของพระเอก!)
ตันหวายทำหน้าเย็นชา “…มีความสามารถและเด็ดเดี่ยวแน่วแน่กับน้องเอ็งสิ ข้าจะเอาพลังพิเศษของพระเอกโว้ย”
(ท่านเจ้าของร่างตื่นสักที! อย่างแรก ท่านมายังที่นี่เพราะว่าตายแล้ว เนื่องจากยามท่านมีชีวิตไม่ได้ก่อกรรมทำเข็ญ ดังนั้นจึงให้โอกาสเกิดใหม่อีกครั้งแก่ท่าน จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง มีดัชนีทองคำอะไรให้ท่านที่ไหนกัน!) ระบบกลอกตาเงียบๆ ถึงแม้มันจะไม่มีอวัยวะอย่างดวงตาก็ตาม
ตันหวายไตร่ตรองสักครู่ คิดว่าพูดถูกอยู่เหมือนกันนะ
ปัดเศษฝุ่นดินที่เปรอะเปื้อนเพราะว่านั่งอยู่บนขั้นบันได ตันหวายจัดทรงหมวกของตนให้เรียบร้อยแล้วมุดออกมาจากมุมกำแพง
เดินเต๊ะท่าวางมาดไปจนถึงร้านบะหมี่กลางแจ้ง ตันหวายฉุดแขนของโหลวชิงอันเอาไว้ “ไปกันเถอะ”
โหลวชิงอันที่ได้ยินทุกอย่างโดยไม่บังเอิญเอาเสียเลยเพราะหูดีเป็นพิเศษผงกศีรษะโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แสร้งถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “คนผู้นั้นไปแล้วหรือ?”
ตันหวาย “ไปแล้ว!”
โหลวชิงอันพยักหน้า ผุดยิ้มออกมาราวกับจิ้งจอกตะปบไก่ได้คามือ
ตันหวายรู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างหมุนเร็วยิ่งนัก อย่างเช่นเมื่อคืนนี้เขาเพิ่งจะมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง วันถัดมาตื่นขึ้นก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของโหลวชิงอันแล้ว ทั้งยังมาถึงสถานที่อีกแห่งหนึ่ง
ตันหวายขยี้ตา ไม่รับรู้แม้แต่น้อยว่าใบหูนุ่มปุกปุยบนศีรษะของตนตั้งโด่ขึ้นมาแล้ว
กระโดดลงมาจากอ้อมกอดของโหลวชิงอัน ตันหวายมองสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบจนทั่ว พบว่าทิวทัศน์ของที่นี่ดูแปลกตาอย่างยิ่ง
หันหน้าไปมองโหลวชิงอัน ตันหวายกระดิกใบหู ถามด้วยสีหน้ามึนงงว่า “ที่นี่ที่ไหน?”
“ซีโจว”
“ซีโจว?” ตันหวายกะพริบตาปริบ งุนงงเล็กน้อย
ระบบทนดูต่อไปไม่ไหว เจ้าของร่างที่เพิ่งจะตื่นนอนไอคิวแทบเป็นศูนย์
(ซีโจวคือเขตชายแดนของแคว้นจิ่วเทียนแห่งอาณาจักรเทียนจี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองทัพอาณาจักรเทียนจี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ของผู้ที่ท่านต้องตอบแทนบุญคุณ)
“แต่ว่าผมหาเขาเจอแล้ว ทำไมถึงต้องมาที่นี่อีก?” ตันหวายเปล่งเสียงออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
โหลวชิงอันขมวดคิ้ว เห็นชัดว่าไม่มีใครอยู่รอบข้าง เหตุใดเขาจึงเอาแต่พูดคุยกับตนเอง?
ได้ยินว่ามนุษย์หากถูกฟ้าผ่าจะกลายเป็นคนทึ่ม เจ้ากระต่ายน้อยคงไม่ได้หลงเหลืออาการข้างเคียงอะไรหรอกกระมัง
ตันหวายไม่รู้เลยว่าตนถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนทึ่มไปเสียแล้ว ทั้งกำลังโต้เถียงกับระบบอย่างเอาเรื่อง
ระบบงงงวย (คุณหาเจอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?)
ตันหวายงงงวยยิ่งกว่า “โหลวชิงอันไม่ใช่หรือ?”
โหลวชิงอันที่ถูกเอ่ยถึงชื่อแซ่มองไปทางตันหวายโดยไม่กล่าววาจา จ้องมองตันหวายพูดเองเออเองราวเสียสติ
(ใครบอกท่านว่าโหลวชิงอันคือเป้าหมายที่ท่านต้องตอบแทนบุญคุณ ท่านดูเขาสิ เหมือนบัณฑิตผู้สุภาพเรียบร้อยคนนั้นตรงไหนกัน)
ตันหวายชะงักไป พอมองดูโหลวชิงอันก็พบว่าระบบดูจะพูดมีเหตุผลมากทีเดียว ฉะนั้นหมายความว่าเขาเข้าใจผิดหรือ?
ตันหวายที่ไม่ยอมหลงเชื่อว่าตนจำคนผิดพยายามหลอกตัวเอง ระบบมั่วซั่วอย่างแน่นอน ไอ้ระบบขยะเอ๊ย ทำลายความรักฉันพินาศหมดแล้ว!
ระบบแค่นเสียงเหอะๆ แล้วปิดปากเงียบ เจ้าของร่างไม่ยอมฟังก็ไม่มีทางเลือก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ภารกิจของมัน
ตันหวายเบะปากคว่ำ พอเงยหน้าก็มองเห็นสายตาแปลกๆ ของโหลวชิงอัน
ตันหวายเม้มริมฝีปาก ก่อนอ้าปากหัวเราะเหอะๆ “พอดีข้าเพิ่งจะตื่นนอน ก็เลยพูดเพ้อเจ้อ”
โหลวชิงอันสำรวจใบหน้าเขาอย่างพินิจพิเคราะห์รอบหนึ่ง สายตาหยุดลงที่หูกระต่ายเหนือศีรษะเขาสักครู่ จากนั้นก็พยักหน้ายิ้มๆ
ตันหวายเขินอาย รู้ดีว่าโหลวชิงอันไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ล่ะ ตีให้ตายโหลวชิงอันก็คงคิดไม่ถึงว่ามีระบบอยู่
สายตาที่สบกับโหลวชิงอัน ตันหวายมักจะรู้สึกว่าตนถูกคนตรงหน้ามองทะลุปรุโปร่ง
ศีรษะคันยุบยิบ ตันหวายขมวดคิ้ว หัวใจเต้นระรัว ไม่ใช่ว่าใบหูของตนโผล่ออกมาอีกแล้วหรอกนะ
เอื้อมมือไปลูบคลำ เมื่อคลำไม่เจออะไรตันหวายก็ได้แต่วางมืออย่างขวยเขิน
โหลวชิงอัน “หัวเป็นเหาต้องรีบหาหมอรักษาโดยเร็วที่สุด”
ตันหวาย “…”