[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก – ตอนที่ 114 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 2) / ตอนที่ 115 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 3)

ตอนที่ 114 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 2)

 

 

พอเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย ตันหวายก็หาชุดลำลองของเจ้าของร่างเดิมสักชุดหนึ่งมาสวมใส่ ก่อนจะเดินลงมายังสวนหย่อมเล็กๆ ด้านล่าง ตันหวายเหลือบไปเห็นเจี่ยงหลี่นั่งสูบบุหรี่อยู่ในรถ

 

 

ที่นี่คือคฤหาสน์ที่มีสวนหย่อมขนาดเล็ก เจ้าของร่างเดิมใช้รายได้ตลอดหลายปีของตนซื้อไว้เป็นเรือนหอ

 

 

เจ้าของร่างเดิมไม่ได้ชื่นชอบดอกกุหลาบ สาเหตุที่ปลูกดอกไม้ชนิดนี้ล้วนเป็นเพราะเจี่ยงหลีชื่นชอบ แต่น่าเสียดายที่เจี่ยงหลีไม่ค่อยกลับบ้าน มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในออฟฟิศของบริษัท

 

 

เดิมทีเจ้าของร่างเดิมคิดว่าต่อให้เป็นก้อนหินตนก็น่าจะอุ่นให้ร้อนได้ แต่เจี่ยงหลียังคงเฉยชากับเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

 

 

เจ้าของร่างเดิมเคยถามเจี่ยงหลีว่า ทำไมตนทำไปมากมายถึงขนาดนั้นแล้วเขาถึงยังชอบตนไม่ได้

 

 

เจี่ยงหลี่ให้คำตอบที่ทำเอากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาบอกว่าเขาไม่ชอบกลิ่นฟีโรโมนของเจ้าของร่างเดิม

 

 

กลิ่นฟีโรโมนของเจ้าของร่างเดิมคือกลิ่นชาเขียว คนที่ชื่นชอบกลิ่นแบบนี้จะติดใจจนขาดไม่ได้ ส่วนคนที่ไม่ชื่นชอบกลับจะถอยห่างให้ไกลจากกลิ่นอายแบบนี้ เจ้าของร่างเดิมช่างโชคไม่ดี อัลฟ่าของเขาไม่ชื่นชอบกลิ่นนี้เลยแม้แต่น้อย

 

 

ตันหวายเปิดประตูรถแล้วนั่งลงบนเบาะหลังทันที

 

 

เจี่ยงหลีชะงักไป ดับบุหรี่พลางเอ่ยถามเสียงเบา “ทำไมอยู่ๆ ไปนั่งข้างหลังเสียล่ะ?”

 

 

ทุกครั้งก่อนหน้านี้ ฮั่วหมิงเยว่มักจะเข้ามานั่งลงข้างคนขับเองและบอกกับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าออกรถได้แล้ว

 

 

ตันหวายเม้มริมฝีปาก “บนตัวผมยังมีกลิ่นฟีโรโมน ไม่ไปรบกวนคุณแล้วกัน”

 

 

เจี่ยงหลีชะงักงัน ตอบรับคำหนึ่งโดยไม่กล่าวอะไรอีก

 

 

สายตาของตันหวายวนเวียนอยู่บนแผ่นหลังของเจี่ยงหลีชั่วครู่ จากนั้นก็มองรอยจูบด้านหลังต้นคอของเจี่ยงหลีแล้วกล่าว “ข้างหลังคอคุณเป็นแผลเหรอ?”

 

 

พวงมาลัยในมือเจี่ยงหลีเกือบจะถูกเขาเหวี่ยงออกไป ก่อนทำทีสงบเยือกเย็นถามว่า “ทำไมอยู่ๆ ถึงถามแบบนี้?”

 

 

“ข้างหลังคอคุณมีรอยแผลอยู่ ดูแล้วเหมือนกับรอยจูบ แต่ผมมองเห็นไม่ชัด”

 

 

เจี่ยงหลีผ่อนลมหายใจแผ่วเบาจนแทบไม่สังเกตเห็น ค่อยๆ อธิบายว่า “เมื่อคืนนี้นอนตกหมอนน่ะ ผมเอามือนวดเอง อาจจะทิ้งรอยเอาไว้ก็ได้”

 

 

ตันหวายเหยียดยิ้มเย้ยหยัน ไม่กล่าวอะไรต่ออีก

 

 

เจี่ยงหลีจอดรถในลานจอดชั้นใต้ดินแถวย่านหรูแห่งหนึ่ง ก่อนเปิดประตูให้ตันหวายแล้วยื่นมือมาหาเขาด้วยตนเอง

 

 

พอเห็นสายตาไม่เข้าใจของตันหวาย เจี่ยงหลีก็กล่าวอย่างแปลกใจ “ทุกครั้งที่มาก็ทำอย่างนี้ตลอดไม่ใช่หรือ?”

 

 

ตันหวายเข้าใจกระจ่างแจ้งทันใด ทว่าไม่ได้ยื่นมือออกไปจับ กลับก้าวลงจากรถเองเสร็จสรรพ ทำเหมือนว่าเจี่ยงหลีไร้ตัวตนโดยสิ้นเชิง

 

 

เจ้าของร่างเดิมกลัวว่าพ่อแม่จะเป็นห่วง ทุกครั้งเมื่อกลับมาพร้อมกับเจี่ยงหลีจึงมักจะขอให้เขาเล่นละครตบตาเป็นเพื่อนตนเพื่อให้พ่อแม่สบายใจ ทว่าตอนนี้ จู่ๆ ตันหวายก็รู้สึกหมดอารมณ์จะเสแสร้งแกล้งทำแล้ว

 

 

แรกเริ่มเดิมที พ่อแม่ตระกูลฮั่วไม่เห็นด้วยที่ลูกชายของตนจะแต่งงานกับเจี่ยงหลี คิดว่าเจี่ยงหลีคนนี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเกินไป ไม่เหมาะกับครอบครัวปัญญาชนเช่นพวกเขา ภายหลังเพราะฮั่วหมิงเยว่เอาแต่ยืนกรานท่าเดียว พ่อแม่ตระกูลฮั่วจึงประนีประนอมยอมรับการแต่งงานของพวกเขา แต่ยังคงเป็นห่วงกังวลลูกชายของตนเอง

 

 

เจี่ยงหลีที่คว้าน้ำเหลวพลันตัวแข็งทื่อ จ้องมองแผ่นหลังของตันหวายอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรฮั่วหมิงเยว่ถึงแสดงท่าทีเช่นนี้กับเขา

 

 

บ้านของพ่อแม่ตระกูลฮั่วอยู่ห่างจากลานจอดรถใต้ดินพอสมควร ตันหวายอาศัยความทรงจำเจ้าของร่างเดิมเดินตรงเข้าไปข้างใน ไม่สนใจเจี่ยงหลีที่ถูกเขาทิ้งไว้แม้แต่น้อย

 

 

ในย่านนี้มีคนรวยมากมาย โดยทั่วไปมักจะเป็นพวกหน้าตาดีมีชาติตระกูลจากวงการต่างๆ

 

 

ตันหวายเดินเลียบไปตามแนวแปลงดอกไม้ริมถนน รถยนต์สีดำโหลดต่ำคันหนึ่งขับผ่านมาจากที่ไกลๆ ก่อนจะแล่นสวนทางกับตันหวาย

 

 

ตันหวายชะงักฝีเท้า หันหน้าไปมองรถยนต์ที่เคลื่อนห่างไปแล้วคันนั้นด้วยความประหลาดใจ หัวใจเริ่มเต้นระรัวแรงจนเขาแข้งขาอ่อนปวกเปียก

 

 

หากไม่ใช่เพราะอยู่ในระยะพิเศษ ตันหวายจะต้องไล่ตามไปโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 115 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 3)

 

 

เจี่ยงหลีรีบสาวเท้าตามมาอยู่ข้างๆ ตันหวายแล้วเดินเคียงไหล่กับเขา ก่อนล้วงหยิบเข็มฉีดยาแท่งหนึ่งในกระเป๋าถือติดตัวส่งให้ตันหวาย

 

 

ตันหวายมองยาทดลองตรงหน้าอย่างหวาดระแวง จากนั้นก็เม้มปากคลำหายาคุมกำเนิดที่ยังอยู่ในแขนเสื้อโดยไม่พูดไม่จา

 

 

เจี่ยงหลีดูไม่ออกถึงอาการผิดปกติของตันหวาย ทั้งยังยื่นเข็มฉีดยาเข้าไปใกล้ตันหวายมากกว่าเดิม กล่าวว่า “คุณลงรถเดินมาเร็วเกินไป ผมเลยไม่ทันบอกว่าคุณลืมฉีดยากักเก็บกลิ่น”

 

 

ตันหวายตะลึงงัน ค่อยๆ รับเข็มฉีดยาในมือของเจี่ยงหลีไว้อย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

 

 

(ท่านเจ้าของร่าง ยาตัวนี้ไม่มีปัญหา ต่อให้เจี่ยงหลีคิดทำร้ายท่านก็คงไม่ใจกล้าถึงขนาดวางยาพิษท่านกลางถนนหรอก)

 

 

ตันหวายพยักหน้า หยิบเข็มฉีดยาขึ้นมาเจาะใส่แขนของตนเอง

 

 

บนท่อนแขนของฮั่วหมิงเยว่เต็มไปด้วยรูเข็ม ล้วนเกิดจากการฉีดยาคุมกำเนิดตลอดหลายปีมานี้ รูเข็มเหล่านี้แลดูน่าสยดสยอง ใครไม่รู้มาเห็นเข้าย่อมจะคิดว่าเขาถูกกระทำทารุณ

 

 

เจี่ยงหลี่สังเกตเห็นรูเข็มบนแขนตันหวายอย่างชัดเจนเช่นกัน พลางเม้มริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร

 

 

ตันหวายฉีดยากักเก็บกลิ่นจนหมดกระบอก จากนั้นค่อยยื่นเข็มฉีดยาส่งคืนให้เจียงหลี

 

 

ยากักเก็บกลิ่นเป็นยาทดลองที่คิดค้นขึ้นใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาคุมกำเนิด ไม่รบกวนการขับหลั่งฮอร์โมนโดยปกติ เพียงแค่ทำให้กลิ่นฟีโรโมนไม่สามารถแผ่กระจายออกมาเท่านั้น

 

 

เจ้าของร่างเดิมชอบใช้ยารูปแบบใหม่ขนิดนี้มาก อย่างนี้เขาก็ไม่ต้องห่วงว่าจะออกจากบ้านไปทำงานไม่ได้เพราะฟีโรโมนฟุ้งกระจายอีกแล้ว

 

 

เดินมาจนถึงข้างในบ้านพ่อแม่ตระกูลฮั่ว พอตันหวายมาถึงก็ถูกคุณแม่ฮั่วลากตัวเข้าไป คุณแม่ฮั่วเมินเฉยใส่เจียงหลีที่เดินตามมาข้างหลัง จ้องมองตันหวายด้วยสีหน้าเจ็บปวดใจ เอาแต่พูดว่าเขาผอมลงตลอดเวลา

 

 

เจียงหลีคุ้นชินกับการถูกมองข้ามเช่นนี้อย่างเห็นได้ชัด ยังคงรอคอยอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 

 

พ่อแม่ย่อมเข้าใจลูกของตนเองดีที่สุด ตันหวายกลัวความลับเปิดเผย พอทานอาหารมื้อหนึ่งอย่างรีบๆ แล้วก็จะพาเจี่ยงหลีลากลับ

 

 

คุณแม่ฮั่วบ่นอุบอย่างน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ ปล่อยให้พวกเขาลากลับอย่างตามอกตามใจ

 

 

หลังจากเจี่ยงหลีส่งตันหวายกลับบ้านโดยปลอดภัยก็รับโทรศัพท์แล้วรีบร้อนจากไป บอกว่ามีงานด่วนที่บริษัท แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องอะไร ตันหวายรู้อยู่แก่ใจ และขี้เกียจจะไปยุ่งเกี่ยว

 

 

“ระบบ คุณยังไม่บอกผมเลยว่าปณิธานของเจ้าของร่างเดิมคืออะไร” เมื่อตันหวายเห็นว่าในบ้านเหลือแต่ตนเองแล้วก็ปล่อยตัวตามสบาย

 

 

(เจ้าของร่างเดิมเสียชีวิตอย่างผิดธรรมดา ท่านเจ้าของร่างคงทราบแล้วเช่นกัน)

 

 

ตันหวายผงกศีรษะ ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้แล้วกล่าว “เขาคงไม่คิดจะให้ผมช่วยเขาหาคนร้ายตัวจริงหรอกนะ”

 

 

(นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง) ระบบกล่าวตอบ

 

 

ตันหวายเอ่ยปากแย้ง “แต่ว่าผมเรียนเอกจิตรกรรม ไม่ได้เรียนสืบสวนคดีเสียหน่อย”

 

 

ระบบกล่าวต่อว่า (เจ้าของร่างเดิมรู้สึกผิดต่อพ่อแม่ จึงหวังว่าท่านจะสามารถจัดการทุกอย่างแก่พวกท่านให้เรียบร้อย อีกทั้งตอนนี้เขากำลังวิจัยโครงการอย่างหนึ่ง เขาหวังว่าท่านจะสามารถหาเจอผู้สืบทอดที่เหมาะสม)

 

 

ตันหวายพยักหน้า โลกใบนี้ไม่มีความสัมพันธ์ซับซ้อนอะไรมากมาย แม้ว่าแต่ก่อนเจ้าของร่างเดิมจะรักเจี่ยงหลีอย่างลึกซึ้ง แต่บัดนี้เมื่อตายจากไปจึงปล่อยวางลงได้แล้ว

 

 

“ถ้าอย่างนั้นคราวนี้ผมต้องยึดครองใครกันล่ะ?” ตันหวายถามอย่างเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น

 

 

ทั้งสามโลกก่อนหน้านี้เขาล้วนต้องยึดครองภรร…คนรักของตน เอาเถอะ ตอนนี้เขาไม่มีหน้าไปเรียกหมอนั่นว่าเป็นภรรยาของเขาอีกแล้ว ในฐานะที่เป็นฝ่ายถูกกดขี่อยู่เรื่อยมา ตันหวายรู้สึกว่าตนเองชักจะแยกแยะความเป็นจริงไม่ออกมากขึ้นทุกที

 

 

เมื่อเห็นเจ้าของร่างรู้ตัวว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกกดในที่สุด ระบบก็ผ่อนลมหายใจ ไม่ง่ายเลยนะ ไม่ง่ายเลยจริงๆ

 

 

ต่อจากนั้นจึงกล่าวตอบว่า (จากการตรวจสอบระบบ ท่านไม่มีผู้ที่ต้องยึดครองในโลกนี้ เป็นอย่างไร ดีใจมากใช่หรือเปล่า ตื่นเต้นมากใช่หรือเปล่า?)

 

 

ตันหวายตีหน้านิ่งแค่นเสียงเหอะๆ ข้าอยากมีคนให้ยึดครองจะตายอยู่แล้วโว้ย!

 

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

ตันหวาย นักศึกษาคณะศิลปะที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเพราะช่วยชีวิต ไป๋เยว่ รุ่นพี่ที่ตนแอบชอบให้พ้นจากอันตรายจนตัวเองตายแทน วิญญาณจึงทะลุมิติมาอยู่ในระบบ H3883 ซึ่งบีบให้เขาต้องออกเดินทางไปยังโลกต่างๆ เพื่อสวมร่างผู้อื่น และทำภารกิจเพื่อสะสางความแค้นและทำความปรารถนาของเจ้าของร่างเดิมให้เป็นจริง ในชาติแรกมาเขาทะลุมิติมาอยู่ร่างบุตรชายอัครเสนาบดี ชาติที่สองเป็นเรื่องระหว่างภูติกระต่ายและภูติจิ้งจอก ชาติที่สาม ตันหวายมาอยู่ในร่างดาราหนุ่มแห่งโลกโอเมก้าเวิร์ส และในชาติสุดท้ายต้องมาย้ายอยู่ในร่างประมุขสำนักเซียนที่ต้องทำภารกิจคลายปมในใจของศิษย์น้อย หากทำสำเร็จ เขาก็จะฟื้นคืนชีพกลับไปโลกเดิมได้ แต่หากไม่สำเร็จ เขาจะต้องกลายเป็นระบบแทนและติดแหง็กอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!

Options

not work with dark mode
Reset