ตอนที่ 186 เดินไปก้าวหนึ่ง ดูไปก้าวหนึ่ง
สีหน้าชุยหังมืดดำลงในทันใด ก่อนจะตอบกลับไป [อันนี้ไม่ต้องพูดแล้ว แน่จริงนายก็พูดกับพวกเวินเผิงให้ได้ก่อนเถอะ]
[พูดก็พูดสิ ยังไงซะฉันอยู่ข้างบน ฉันจะกลัวอะไร] คำตอบของหลูจื้อทำให้ชุยหังหมดอาลัยตายอยากแล้ว
[พอเถอะ พี่ใหญ่ นายเป็นพี่ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันกากเอง ฉันไม่พูดแล้วยังไม่โอเคอีกหรือไง] ชุยหังรีบขอให้ยกโทษให้ทันที
แต่หลูจื้อกลับเอาจริง เขาส่งข้อความมาอีกว่า [เอางี้ฉันบอกพวกเวินเผิง นายบอกคนในห้องพักของพวกนาย เป็นยังไง]
[ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด] ชุยหังตอบกลับด้วยความเด็ดเดี่ยว
[ฉันก็ไม่ได้ตัดสินใจจะบอกหรอก เห็นนายตกใจซะขนาดนั้น]
[แกล้งฉัน?] ชุยหังส่งสองคำนี้ออกไป
เหมือนวันนี้หลูจื้อจะเอ็นจอยมากทีเดียว มาพูดคุยเล่นกับชุยหังได้อยู่เรื่อยๆ [เปล่า อยากเรียกร้องให้นายสนใจต่างหาก]
[ไม่ต้องเรียกร้อง คนก็เป็นของนายไปแล้ว]
[ไม่ได้ ยังต้องเรียกร้องความสนใจอยู่ ถ้าหากหนีไปกับคนอื่นขึ้นมาจะทำยังไง] หลูจื้อตอบกลับมา
ชุยหังตอบกลับไป [ไม่ได้หรอก ฉันขาสั้น]
[ไม่เป็นไร ถ้าหนีไป ฉันทำให้นายขาสั้นลงได้]
[นายเป็นพวกชอบความรุนแรงเหรอ] ชุยหังเอ่ยถาม
หลูจื้อตอบกลับ [ชอบ เดี๋ยวต่อไปนายก็จะค่อยๆ รู้เอง]
[ฉันรู้สึกว่าฉันขึ้นเรือผิดลำ] ชุยหังส่งข้อความเข้าไป
[อืม ลงไม่ได้แล้ว นายก็อยู่รอบนเรือลำนี้แหละ] หลูจื้อตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ชุยหังครุ่นคิด คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีอะไรที่พูดได้แล้ว
[นายไปอาบน้ำหรือยัง] หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังตอบกลับเขาไป [ยังหรอก เพิ่งจะกลับมาก็คุยกับพวกเขาสักพัก หลังจากนั้นกลุ่มคนที่ไปเป็นทีมเชียร์ก็กลับมาเลย ตอนนี้ในห้องน้ำมีแต่คนเต็มไปหมด ไม่สะดวก]
[กลัวพวกเขาเห็นเหรอ] ที่หลูจื้อถามคลุมเครืออยู่ไม่เบา
แต่ว่าชุยหังก็ยังเข้าใจได้
[นายว่าไงล่ะ]
[ฉันถามนาย นายจะมาให้ฉันพูดได้ยังไง] หลูจื้อเป็นฝ่ายคุมเกมชุยหังแล้ว
ชุยหังทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงตอบกลับไป [ไม่ชิน]
[งั้นที่นายอาบน้ำด้วยกันกับฉัน นายชินไหม] หลูจื้อถามอย่างรวดเร็ว
ชุยหังครุ่นคิด ในที่สุดก็ตอบกลับไป [ชินได้อยู่]
พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข คิดไม่ถึงว่าซ่งไข่จะส่งข้อความมาให้เขา
เพียงแต่ว่าทั้งสองคนใช้วิธีติดต่อไม่เหมือนกัน หลูจื้อส่งวีแชท ซ่งไข่ส่งเอสเอ็มเอส
[นายกับหลูจื้อ วันนี้ถึงจะถือว่าคบกันอย่างเป็นทางการแล้วใช่ไหม]
ชุยหังคิดดูแล้วจึงตอบกลับไปว่า [อืม ถือว่าใช่มั้ง]
[รักษาไว้ให้ดีล่ะ หลูจื้อคนนี้ใช้ได้อยู่นะ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่านายจะเปลี่ยนใจชายแท้ได้]
[ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ปาฏิหาริย์มากเลยทีเดียว] ชุยหังเองก็รู้สึกว่าที่ผ่านมานี้เหมือนกำลังฝันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
พรหมลิขิตนี้ราวกับอยู่ท่ามกลางความมืดมิด แล้วมีมือใหญ่ๆ มือหนึ่งมาออกแรงผลักตัวเองให้ไปอยู่ข้างกายหลูจื้อ หรือจะว่าออกแรงผลักหลูจื้อมาอยู่ข้างกายตัวเอง
มาพบเจอกันในช่วงเวลาแบบนั้น แล้วก็เกิดปฏิกิริยาต่อกันอย่างลึกซึ้ง ทำให้จิตใจของหลูจื้อเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น
[เกี่ยวกับเรื่องอนาคตของพวกนาย นายเคยคิดแล้วหรือยัง ขออภัยที่ฉันถามคำถามนี้ อาจจะทำให้หมดสนุกไปหน่อย] ราวกับว่าในตัวหนังสือของซ่งไข่แสดงความเป็นห่วงถึงอนาคตของชุยหังกับหลูจื้อ
ชุยหังเองก็รู้ ก่อนหน้านี้ซ่งไข่เคยพูดกับตัวเองเอาไว้ เรื่องที่ครอบครัวของหลูจื้อต้องให้เขาแต่งงานอย่างแน่นอน
‘เวลานั้นพวกเขาควรจะไปทางไหนดี’
[เคยคิด แต่อยากไม่เข้าใจ เดิมทีคิดว่าตัวเองวางแผนไว้ดีแล้ว แต่ก็สู้ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไม่ได้อยู่ดี] ชุยหังตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าเพราะอะไรตัวเองพอจะตรงไปตรงมากับซ่งไข่ได้อย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นคนในแวดวงนี้เหมือนกัน อีกอย่างซ่งไข่ก็หย่าร้างไปแล้ว คงจะมีประสบการณ์มากกว่าเขาล่ะมั้ง
[งั้นก็อย่าเพิ่งไปคิดมัน เดินไปก้าวหนึ่ง ดูไปก้าวหนึ่งก็แล้วกัน]
ตอนที่ 187 ขัดแย้ง
[อืม ทำได้เพียงเท่านี้แล้วครับ] ชุยหังเองก็ไม่มีอะไรจะพูดได้แล้ว
เขาจะบ่นจะโทษซ่งไข่ไม่ได้ ตัวเองตกเป็นของหลูจื้อแล้ว อีกอย่างในวันเดียวกันนั้นก็ตกเป็นของหลูจื้อไปสามครั้งเรียบร้อยแล้ว คิดจะเปลี่ยนก็อยากเปลี่ยนไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ
เรื่องพวกนี้ เขาไม่ควรพูดกับซ่งไข่
หลูจื้อทางนั้นยังคงถามต่อ [อาหารคืนนี้ กินแล้วคงจะสบายท้องอยู่ใช่ไหม]
[สบาย ดีมากเลย]
[เอ่อใช่ ของว่างพวกนั้นกินแล้วหรือยัง]
[อะไรจะเร็วป่านนั้น กลับมายังไม่ทันจะได้กินหรอก]
[อย่าเก็บไว้กินคนเดียวเองล่ะ แบ่งให้เพื่อนในห้องพักกินด้วยนะ] หลูจื้อใจกว้างมาก
ชุยหังตอบกลับ [วางใจเถอะ ต่อให้ฉันไม่ให้ พวกเขาก็จะเป็นฝ่ายมาหยิบเองได้อยู่ดี]
[งั้นก็โอเค พวกนายนี่ความสัมพันธ์ยังดีกันมากเลยนะ]
[นั่นก็ดวงฉันดีไง] ชุยหังตอบกลับด้วยท่าทีคุยโว
ผ่านไปตั้งนาน ซ่งไข่ทางนั้นเพิ่งจะส่งอีกข้อความมาให้เขา [ถ้าครอบครัวของหลูจื้อบังคับให้เขาไปนัดดูตัวอีก นายจะทำยังไง]
ขณะนั้นชุยหังอารมณ์ไม่สุนทรีย์แล้ว รู้สึกราวกับว่าจู่ๆ ท้องฟ้าที่สดใสก็มีเมฆหมอกหนาขึ้นมาปกคลุมในทันใด
แต่เขาเองก็รู้ว่านี่คือปัญหาที่เขาต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างแน่นอน ไม่มีทางจะหลีกหนีได้อยู่แล้ว
เขาตอบกลับ [ดูว่าหลูจื้อเองจะทำยังไงมั้งครับ ถ้าเขาจะต้องแต่งงานแน่ๆ แล้วต้องให้ทายาทกับครอบครัว ผมก็คงถอนตัวไปก่อน]
[คงยังไม่ต้องหรอกมั้ง ตอนนี้เขาควรจะไม่อยากแต่งงานแล้ว] ซ่งไข่ตอบกลับ
[นี่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาอยากหรือไม่อยาก มันอยู่ที่ว่าครอบครัวเขาคิดยังไงต่างหาก] ชุยหังเข้าใจดี
เรื่องพรรค์นี้จะเป็นไปตามอุดมคติเกินไปไม่ได้
บางเรื่องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางอุดมคติได้ แต่เรื่องของพวกเขาเรื่องนี้จะอาศัยแค่อุดมคติแล้วจะแก้ปัญหาได้
โดยเฉพาะในประเทศ ตอนนี้มีคนมากมายดูถูกคนกลุ่มนี้ มองตัวเองเป็นเสาปักรังวัดของศีลธรรม รู้สึกว่าถ้าผู้ชายไม่แต่งเมียมีลูก ก็จะใช้ชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์ไปครั้งหนึ่ง
แล้วตอนนี้คนที่สนับสนุนความคิดนี้ โดยเฉพาะพวกมะเร็งชายแท้ (พวกที่คลั่งความเป็นชายแท้ จนเหยียดคนที่มีรสนิยมทางเพศไม่เหมือนพวกตนไปหมด) พวกนั้น ยิ่งมีจำนวนไม่น้อยทีเดียว
คนพรรค์นี้ เดิมทีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชุยหังมากมายเท่าไหร่ แต่เอะอะพวกเขาก็พูดคำว่า ‘สะอิดสะเอียน’ อย่างนั้นอย่างนี้ คุณธรรมศีลธรรมอยู่เต็มปาก แต่ที่จริงลับหลังนั้นคืออะไร ก็มีเพียงแต่พวกเขาเองเท่านั้นที่รู้
[บ้านเขาควรจะยังต้องการให้เขาแต่งงานอยู่ดี อย่างน้อยย่าเขาก็มีส่วน เขาผ่านไปไม่ได้หรอก] ซ่งไข่ตอบกลับมา
ชุยหังไม่ได้ตอบซ่งไข่กลับไปอีก เพราะว่าตอบกลับไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจะพูดอะไรได้อีกเหรอ
‘หรือว่าจะให้เขาเชื่อตัวเอง ให้เขามารับมือกับหญิงสูงวัยคนนั้นเหรอ’
นี่มันเกินความเป็นจริงไปอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง คนก็อายุปูนนั้นแล้ว จะมารับของสดใหม่โดยเฉพาะของที่ขัดกับแนวคิดอนุรักษ์นิยมของเธอ ต้องยากมากอย่างแน่นอน
หลูจื้อทางนั้นถามกลับมาอีกประโยค [หลิวเฮ่อคนนั้นไม่ได้มาก่อกวนนายอีกแล้วใช่ไหม]
ชุยหังตอบกลับว่า [นายบล็อกเขาไปแล้ว เขาจะยังก่อกวนยังไงอีก]
[เปลี่ยนแอควีแชทได้นะ ตอนนี้คนพวกนี้คิดหาวิธีได้มากทีเดียว] หลูจื้อยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่นัก
[ไม่หรอก ฉันบล็อกเขาไปสองแอควีแชทแล้ว เขาควรจะมียางอายบ้างแหละ]
[ทำเรื่องพรรค์นั้นออกมาได้ ยังจะมียางอายอะไรอีก] หลูจื้อตอบกลับอย่างง่ายดายมาก
ชุยหังก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถึงอย่างไรต่างก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว
อีกอย่างเขาไม่ถือสาก็ดีแล้ว
เดิมทีปัญหาที่เขาเป็นห่วง ระหว่างพวกเขา ตอนนี้ไม่ได้เป็นปัญหา
ถึงแม้ว่าหลูจื้อจะพบแล้วหลิวเฮ่อพยายามจะติดต่อเขา หลูจื้อก็ไม่ได้โกรธ ตรงกันข้ามกลับจัดการอีกฝ่ายได้อย่างองอาจ
‘ที่เหลือคงจะเป็นปัญหาจากฝั่งหลูจื้อแล้วใช่ไหม’