ตอนที่ 190 คอกหมู
“พอใช้สิ ใช้ไม่หมดหรอก” ชุยหังเอ่ยอย่างมั่นใจมาก
เป็นอย่างที่ว่าไว้ พวกเขายึดตามวิธีการของชุยหัง หลังจากตกแต่งฝ้าเพดานแล้ว ยังเหลือริบบิ้นอยู่บางส่วนจริงๆ
“ริบบิ้นพวกนี้จะให้ทำยังไง” พวกเขาเอ่ยถาม
ขณะที่ชุยหังแขวนกระดิ่งลมทรงโบราณที่พวกเขาซื้อมาแขวนข้างโคมไฟระย้า เขาก็เอาริบบิ้นผูกบนกระดิ่งใบเล็กไปด้วย
“แบบนี้ไม่โอเคแล้วเหรอ”
เห็นการตกแต่งของชุยหังทั้งหมด ในใจทุกคนต่างก็รู้สึกได้ถึงความพอใจ
ทั้งห้องพักนี้ดูเหมือนมาจากยุคอดีตจริงๆ
“ไปกัน ไปดูห้องอื่นกันไหม” ถังเฉิงพูดขึ้น
ชุยหังเอ่ย “พวกนายไปกันเถอะ ฉันจะดูว่าตรงไหนยังไม่ค่อยดี แล้วจะแก้สักหน่อย”
“ยังจะแก้อะไรอีก แบบนี้ต้องถูกรับเลือกอยู่แล้ว” ถังเฉิงบอกไป
ชุยหังพูดต่อ “นั่นมันไม่แน่นอนหรอก ถ้าหากของคนอื่นดีกว่าล่ะ ครั้งนี้นายรู้ไหมว่ามีกี่ห้องที่เข้าร่วม”
“จะมีเท่าไหร่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลาอู่ของพวกเราหรอก” ถังเฉิงเอ่ยขึ้นด้วยความฮึกเหิม
“เอาล่ะ นายไม่ต้องมาเลียแข้งเลียขาฉันเลย รีบไปดูห้องอื่นเลยว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วกลับมาบอกฉัน” ชุยหังพูดไป
คิดไม่ถึงว่าถังเฉิงออกไปทีก็ไปกันสามคน ในห้องพักเหลือเพียงชุยหังกับจังเผิง
“เป็นยังไงบ้าง เหล่าซานพอใจไหม” ชุยหังเอ่ยถาม
จังเผิงพูดขึ้น “งามหลายน้อ”
“อะไรนะ” ชุยหังฟังไม่เข้าใจ
“สวยมากๆ” จังเผิงเอ่ยขึ้นอีกครั้งโดยที่ติดสำเนียงมาด้วย
เมื่อครู่นี้ที่เขาเพิ่งจะพูดไปคงจะเป็นภาษาถิ่น ชุยหังรู้สึกแปลกใหม่ทีเดียว
ชุยหังหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปทุกมุม แล้วส่งต่อให้หลูจื้อ
‘ไม่รู้ว่าตอนนี้หลูจื้อกำลังทำอะไรอยู่ คงจะกำลังยุ่งอยู่ล่ะมั้ง’
ที่จริงเวลาที่ชุยหังอยู่กับคนที่ใกล้ชิดตัวเอง เขาก็ต้องการคนคนหนึ่งที่มีความรู้สึกเห็นพ้องต้องกันกับเขา เขาจะแสดงให้รู้เป็นนัยๆ ไม่หยุด ตัวเองทำของอะไรมา ก็อยากจะได้ความเห็นชอบของอีกฝ่าย
บางครั้งเขายังคิดว่าแบบนี้ถือว่าต้องการมากเกินไปหรือเปล่า
ต่อจากนั้นรูปภาพแบบเดียวกัน เขาก็ส่งต่อให้ซย่าอวี้ชิวด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้พอได้ยินว่าคณะของพวกเขาจะมีการแข่งขันตกแต่งห้องพักในหอ ซย่าอวี้ชิวก็อยากได้รูปแล้ว แต่ว่าตอนนั้นในห้องพักยังไม่ได้ตกแต่งอะไร แน่นอนว่าถ่ายอะไรมาไม่ได้อยู่แล้ว
เพียงแค่ไม่นานซย่าอวี้ชิวก็ตอบกลับเขามา [นี่คือที่นายทำเหรอ]
[อืม ถือว่าใช่อยู่ ทุกคนช่วยกันหมดเลย] ชุยหังตอบกลับไป
“สวยจริงๆ ต่อไปฉันแต่งงาน นายช่วยฉันออกแบบบ้านใหม่เถอะ” วย่าอวี้ชิวถาม
ชุยหังครุ่นคิด ก่อนจะตอบกลับไป [ถึงตอนนั้นก็ใช้การตกแต่งปรับปรุงที่เป็นประโยชน์ใช้สอยดีแล้ว ของพวกนี้ของฉันต่อให้สวยก็ใช้จริงไม่ได้ อีกอย่างนายชอบ ภรรยาของนายก็ใช่ว่าจะชอบด้วยเสมอไป]
ซย่าอวี้ชิวกลับตอบกลับมาว่า [ไม่เป็นไร นายชอบก็โอเคแล้ว]
[แบบนั้นไม่ได้ ฉันทำให้เรื่องสำคัญในชีวิตนายต้องมาเสียเวลาไปไม่ได้หรอก]
[ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเสียเวลามาก่อน] ซย่าอวี้ชิวตอบกลับมาอย่างรวดเร็วมาก
ชุยหังหนักหัวแล้ว ข้อความนี้ ไม่ตอบแล้วดีกว่า
หลูจื้อเองก็ส่งข้อความกลับมาหาเขาแล้ว [คอกหมูเปลี่ยนโฉมแล้ว?]
[เรียกว่าคอกหมูอะไรกัน สะอาดอยู่ชัดๆ โอเคไหม]
[ผู้ชายคนหนึ่ง มาติดฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์บนเตียงอะไรแบบนี้ เป็นเตียงของนายใช่ไหมล่ะ] หลูจื้อเริ่มจะปากจัดแล้ว
ชุยหังตอบกลับหนึ่งประโยค [คนอื่นเขาพากันบอกว่าสวย นายมาสาดน้ำเย็นใส่ฉันเฉยเลย]
[ฉันเหมือนพวกเขาได้เหรอ ฉันไม่ใช่สามีนายหรือไง ต้องไม่เหมือนใครอยู่แล้ว]
ตอนที่ 191 หัวหน้าห้องพัก
ชุยหังไม่มีอะไรจะพูดกับตรรกะของหลูจื้อ
[ทำไมไม่พูดล่ะ ไม่พอใจ?] หลูจื้อรีบตอบกลับมา
ชุยหังจึงตอบกลับไป [ไม่ใช่ พอใจอยู่แล้ว]
[ไม่เป็นไร นายมีอะไรไม่พอใจ พูดมาได้ตามตรงเลยนะ เรามาคุยกันบนเตียงเถอะ] คำตอบของหลูจื้อทำให้ชุยหังแทบระเบิด
[ไม่ ไม่จำเป็นเลยจริงๆ] ชุยหังยังคงรู้จักเขาดี
[เดี๋ยวสองสามวันนี้ดูก่อนนะ ถ้าว่างฉันจะไปหานาย] คำพูดของหลูจื้อ ทำให้ชุยหังวางใจในที่สุด
[อือ รู้แล้ว]
[ไม่ใช่ว่ารอต้อนรับฉัน หรือว่ากำลังรอฉันอยู่เหรอ] หลูจื้อจ้องจับผิดอีกแล้ว
ชุยหังไม่มีทางเลือกจึงส่งข้อความกลับไปอีกครั้ง [ใช่ สามี ฉันรอนายอยู่นะ]
[เด็กดี รักนายนะ]
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หลูจื้อพูดแบบนี้ออกมา แม้ว่าจะเป็นตัวอักษร แต่ชุยหังรู้สึกเติมเต็มความรู้สึกทั้งหมด
เดิมทีเขาเป็นคนอ่อนไหวอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว ตอนนี้คำพูดของหลูจื้อ ทำให้เขาป็นบ้าไปแล้ว
วันต่อมาแม้ว่าชุยหังจะวุ่นอยู่กับการประกวดเขียนเรียงความและการประกวดออกแบบห้องพัก แต่ชุยหังรู้สึกว่ามีหลูจื้ออยู่ในใจเสมอ แค่ส่งข้อความมาบ้าง เขาก็พอใจมากแล้ว
แน่นอนว่าไม่เป็นไปอย่างที่ทุกคนคาดไว้ เมื่อทุกคนมาถึงห้อง 426 ต่างก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก หลังจากเห็น ‘คลื่นริมฝั่ง’ ที่ห้อง 426 ปรับแก้มา พวกเขาไม่คิดว่า ผู้ชายตัวใหญ่กลุ่มหนึ่งจะสามารถตกแต่งห้องออกมาได้เรียบง่ายแบบนี้
โดยเฉพาะไม้ไผ่บนกำแพงเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกชอบ และยังมีผู้ร่วมตัดสินสองสามคนถ่ายรูปเทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์และไม้ไผ่เหล่านั้นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ครั้งนี้หัวหน้าฝ่ายหญิงก็มาด้วย เมื่อเห็นชุยหังก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เธอไม่คิดว่าชุยหังคนดื้อรั้นแบบนั้น จะมีพรสวรรค์ขนาดนี้
“ไม่เลวเลยจริงๆ ดูดีกว่าหอพักหญิงของพวกเราอีก แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกไม่มีรสนิยมเลยสักนิด” หัวหน้าฝ่ายเอ่ยบอก
ที่จริงแล้วชุยหังรู้สึกเสียใจกับหัวหน้าฝ่ายหญิงเล็กน้อย
เพราะการเต้นรำครั้งนั้นทำให้การสื่อสารระหว่างเธอกับคนฝั่งคณะโลจิสติกส์นั้นค่อนข้างฝืด
การที่เธอเป็นคนกลางนั้น ความจริงแล้วไม่ง่ายเลย
อย่างไรก็ตามยังดีที่หัวหน้าฝ่ายหญิงนั้นไม่ใช่ผู้หญิงใจแคบแบบนั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องเก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ
“ผ้าเช็ดหน้าที่ติดบนผนังเป็นความคิดใครเหรอ” หัวหน้าฝ่ายเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยตอบ “พวกเราทุกคนช่วยกันคิดครับ เพราะว่ากล้วยไม้ข้างบนค่อนข้างสวย”
เขาตีพิมพ์บทความลงบนหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน และยังมีงานศิลปะการแสดงของกลุ่มศิลปะด้วย สำหรับหน่วยกิตของปีการศึกษานี้เต็มไปแล้ว ดังนั้นจึงอยากสู้เพื่อทุกคนมากกว่า
“ใช่แล้ว หัวหน้าห้องพักของพวกนายเป็นใคร”
“หวังเฉียง” ชุยหังชี้ไปทางเหล่าลิ่ว
ในตอนนั้นวังเฉียงก็ตกตะลึง เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าห้องพักที่พวกเขาเลือกคือพี่ใหญ่จ้าวหลิน
อย่างไรก็ตามชุยหังเคยปรึกษากับพวกเขาสองสามเรื่องแล้วว่าทุกคนในห้องพักต่างก็มีความถนัดเฉพาะด้านของตัวเอง มีเพียงวังเฉียงเท่านั้น ที่ไม่เข้าร่วมชมรมอะไรเลย อีกทั้งยังเข้าร่วมกิจกรรมส่วนรวมน้อยมาก จึงยากที่จะได้คะแนนพัฒนาศักยภาพ ดังนั้นหากเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบห้องพัก และได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ พวกเขายินดีที่จะเอาคะแนนนี้เพิ่มให้กับเหล่าลิ่ว
สิ่งนี้ถือเป็นของขวัญจากพี่ๆ ที่จะมอบให้น้องหก
“ทำได้ไม่เลวเลย พวกนายรอฟังประกาศ ถ้าหากได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ อาจจะต้องเตรียมสไลด์โชว์และการแสดงอีกหนึ่งอย่าง” หัวหน้าฝ่ายหญิงเอ่ยบอก
ในความจริงแล้วการแสดงออกของเธอเปิดเผยแล้วว่า โอกาสของ ‘คลื่นริมฝั่ง’ นั้นได้เข้ารอบชิงชนะเลิศสูงมาก
หลังจากกลุ่มสภานักเรียนออกไป ชุยหังก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ จากนั้นก็พูดขึ้น “สู้กันเถอะพี่น้อง พวกเราคงต้องซ้อมการแสดงแล้ว”