ตอนที่ 200 ปกป้องดินแดน
หลูจื้อได้ยินคำพูดของชุยหัง เขาก็ไม่ได้ทำหน้าบึ้งตึงอีกต่อไป แต่กลับยิ้มออกมา
ที่จริงปัญหานี้ไม่ได้มีคำตอบตายตัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เหมือนกับที่เขาเพิ่งจะถามชุยหังไป ยอมที่จะรอตัวเองไหม ชุยหังก็ถามตัวเองว่าต้องรอนานเท่าไหร่ คำถามเหล่านี้ต่างก็ลื่นหูสู้ประโยคง่ายๆ อย่าง ‘ฉันรักนาย’
“งั้นก็โอเคแล้ว เพื่อสามคำนี้ของนาย ฉันยังพอมีความมั่นใจบ้างอยู่” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังพูดขึ้น “มั่นใจอะไร มั่นใจในการหลอกคนเหรอ”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว ถึงยังไงนายก็ไม่ต้องสนใจขนาดนั้นหรอก ที่เหลือส่งให้ฉันก็โอเคแล้ว” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังมองเขา บนใบหน้าของเขาไม่มีความไม่ชอบใจใดๆ ในทางกลับกันคือความมั่นใจที่มีเต็มเปี่ยม
“นายคิดจะทำอะไร” ชุยหังเอ่ยถาม
หลูจื้อพูดขึ้น “ก็ไม่อะไร ก็แค่บอกพวกเขา ช่วงเวลานี้อย่าเพิ่งแนะนำคู่ให้ฉัน ฉันไม่มีกะจิตกะใจนั้น
“แล้วต่อจากนั้นล่ะ” ชุยหังยังคงไม่วางใจ
เรื่องแบบนี้จะเอาแต่ยื้อเวลาไว้ไม่ได้
หลูจื้อเอ่ยตอบ “เดี๋ยวก็มีวิธีเอง ค่อยๆ คิดไป ถึงยังไงนายก็หนีไม่หลุดแล้ว ไม่งั้นนายก็ลองดูได้นะ”
ชุยหังเอ่ยบ้าง “ไม่ลองหรอก ฉันเองก็ไม่ได้โง่”
“ยังอยากไปฮู่ปู้เซี่ยงไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังครุ่นคิดพลางเอ่ย “ไม่ไปแล้ว ที่นั่นเหมือนจะไม่ถูกชะตากับฉัน ขอเพียงแต่ฉันไปที่นั่น นายก็ต้องมีธุระตลอด”
“งั้นไปที่ไหนกัน โรงแรมไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยถาม “ในสมองนายมีแต่อะไรนี่”
“มีแต่นายทั้งนั้น นายพูดมานายคิดถึงอะไร” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยตอบ “แน่นอนฉันไม่ใช่ของ…”
พูดไปถึงครึ่งหนึ่ง เขาก็หยุดลงทันที
“นายจงใจใช่ไหม” ชุยหังเอ่ยถาม
หลูจื้อว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว เป็นคำถามของนายเองที่มีปัญหา”
“โอเค ฉันทน”
“นายไม่ทนก็ไม่ได้ไหมล่ะ ในเมื่อนายเองก็ไม่รู้ว่าจะไปทีไหน งั้นก็ฟังฉันเถอะ” หลูจื้อพูดไป
“อืม นายจัดการเถอะ”
หลูจื้อลากชุยหังไปประตูสี่ ที่นั่นมีถนนคนเดินเส้นยาวอยู่
“มาที่นี่ทำอะไร” ก่อนหน้านี้ชุยหังเคยมาที่นี่กับเพื่อนร่วมหอ แต่ว่าไม่เคยมาเดินเที่ยวดูดีๆ สักที
“ไม่ทำอะไร ซื้อเสื้อผ้า” หลูจื้อบอกไป
หลังจากนั้นเขาก็พาชุยหังไปทุกหนแห่ง เดินไปหลากหลายสถานที่ ให้ชุยหังลองเสื้อผ้า
แต่ว่าทุกครั้งที่จะจ่ายเงิน ชุยหังรู้สึกว่ามันแพงเกินไปแล้ว จึงรีบลากหลูจื้อเดินไป
กว่าหลูจื้อจะเกลี้ยกล่อมชุยหังได้ไม่ใช่ง่ายๆ สุดท้ายได้ซื้อเป็นชุดแบรนด์หลี่หนิง
“ดูดี นายชอบตีแบดไม่ใช่เหรอ จะได้ใส่ชุดนี้พอดีไง” หลูจื้อมองดูชุยหังไปพูดไป
ชุยหังไม่ได้พูดอะไร ที่จริงเขาไม่เคยจะอยากได้อะไรจากหลูจื้อเลย
ขอเพียงแต่คนยังอยู่ข้างกายเขาก็โอเคแล้ว เงินเบี้ยเลี้ยงของการเป็นทหารคงจะไม่ได้มีมากมั้ง
ชุยหังเอ่ยถาม “กินอะไร”
หลูจื้อครุ่นคิดพลางเอ่ย “ไปร้านเกี๊ยวตงเป่ยร้านนั้นที่นายบอกไหม”
“ไม่เอา ถ้าไปเจอคนคุ้นหน้าจะไม่เป็นผลดีกับนาย” ชุยหังพูดขึ้น
หลูจื้อกล่าว “ยังไงกัน เวลานี้ยังคิดเผื่อฉันด้วยเหรอ”
“ฉันไม่คิดเผื่อนายเมื่อไหร่กัน” ชุยหังพูดไป
“กลัวว่าเพื่อนร่วมชั้นนายจะเห็นฉันใช่ไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยตอบ “ใช่ แล้วยังไงล่ะ พวกเขาเห็นนายต้องมาอลวนอยู่กับนายแน่ๆ เวลาของนายมีจำกัด แล้วทำไมฉันจะต้องเอาให้พวกเขาด้วยล่ะ”
เห็นชุยหังมีท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์ หลูจื้อจึงเอ่ยขึ้น “นี่เป็นการปกป้องดินแดนโดยสมบูรณ์แล้วใช่ไหม”
“ถือว่าใช่มั้ง ยังไงซะคนอื่นก็อย่าคิดมาฮุบดินแดนอย่างนายไปก็แล้วกัน เดิมทีก็เจอกันได้แค่สัปดาห์ละครั้งอยู่แล้ว ยังต้องมาแบ่งให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนั้นอีก ฉันไม่ใช่แม่พระนะ” ชุยหังเอ่ยอย่างไม่เกรงใจแล้ว
หลูจื้อมองดูท่าทางของเขา ก็ยิ้มอย่างเอ็นดูอีกฝ่ายทันที “งั้นฉันพานายไปกินเป็ดดำโจว [1] ”
ตอนที่ 201 ภาพคู่
ตลอดทั้งช่วงบ่าย ชุยหังและหลูจื้อต่างก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่หลูจื้อพูดขึ้นก่อนหน้านี้เลย
ไม่ว่าในอนาคตต้องเจอกันหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่อยากให้พวกเขาเจอกัน
ความเจ็บปวดบางอย่างสามารถเอาไว้พูดภายหลังได้ ไม่จำเป็นต้องเอามาพูดล่วงหน้า ความกังวลใจของพวกเขา เดิมทีก็ไม่มีอะไรรับประกันความรู้สึกได้เลย ชุยหังรู้สึกขัดแย้งกันในตอนแรก เพราะเขารู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้ของตัวเองและหลูจื้อ โดยพื้นฐานแล้วไม่ได้ระรานใคร ไม่ได้เบียดเบียนใคร แต่ก็ไม่มีทางได้รับคำอวยพรจากทุกคน
ยิ่งเป็นคนใกล้ชิดกันกลับยิ่งต่อต้าน
หลังจากที่เลิกกับหลิวเฮ่อไปก่อนหน้านี้ ความจริงสิ่งที่เขาคิดนั้นง่ายมาก คืออย่าไว้ใจใครง่ายๆ อีก
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้ว่าได้เปิดประตูบานเล็กๆ ให้หลูจื้อบุกเข้ามาได้อย่างไร
แม้ว่าเขาเป็นฝ่ายเริ่มเชิญหลูจื้อให้เข้ามาก่อนในระดับหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่หลูจื้อขับรถแล้วกุมมือเขาเอาไว้ หรือตอนที่เขาจอดรถก็มักจะมองเขาเป็นประจำ เพียงแค่นี้เขาก็รู้สึกเต็มไปด้วยความสุขแล้ว
ความจริงสิ่งที่เขาต้องการนั้นเรียบง่ายมาก เขาไม่ได้ต้องการสิ่งของ หรืออะไรที่เป็นตัวเลขตายตัว แต่เป็นความรู้สึกที่ได้รับความห่วงใย และคนสองคนให้ความสําคัญซึ่งกันและกัน
ไม่ว่าคำพูดจะน่าฟังแค่ไหน แต่ไม่รู้สึกถึงการกระทำก็ไม่มีประโยชน์
ปากบอกว่ารักคุณ แต่สายตาไม่รู้ว่ามองไปทางไหน ความรักดังกล่าว ไม่ใช่ความรักอย่างแน่นอน
เขาไม่ได้คาดหวังว่าตอนที่มองหลูจื้อ สายตาของเขาจะเต็มไปด้วยดวงดาวเล็กๆ
เขาเต็มใจเงยหน้ามองหลูจื้อ แทนที่จะถูกหลูจื้อมองนั้นมองมา
เมื่อขับรถกลับไปที่มหาวิทยาลัยโพลี ชุยหังบอกกับหลูจื้อ “เมื่อวานฉันเปิดอัลบั้มรูปดูแล้วเจอปัญหาอย่างหนึ่ง”
“ปัญหาอะไร หน้าตาของนายถ่ายรูปเซลฟี่ไม่ได้แล้วเหรอ” หลูจื้อล้อเล่น
ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่ใช่แน่นอน เพราะในมือถือของฉันมีแต่รูปนาย ไม่มีรูปที่นายถ่ายกับฉันเลย”
“แล้วตอนนี้ถ่ายไม่ได้แล้วเหรอ” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังยิ้มพร้อมเอ่ยตอบ “สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือ”
หลูจื้อกอดชุยหังไว้แนบอกพร้อมเอ่ยบอก “มาสิ อยากถ่ายแบบไหนก็ถ่าย”
ชุยหังคว้ามือถือขึ้นมา จากนั้นก็เลือกมุมถ่ายรูป เขาได้พบว่า หลูจื้อในกล้องนั้นมองอย่างไรก็ดูดีไปเสียหมด แต่ตัวเองนั้นมองอย่างไรก็ขี้เหร่เหลือเกิน
‘เฮ้อ หน้าตาไม่ดี ใครบ้างจะเข้าใจ’
ไม่ง่ายเลยที่จะหามุมให้เขาดูเหมาะสมกับหลูจื้อ เมื่อหาได้แล้วจึงรีบกดถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เปลี่ยนมุมถ่ายภาพอีกสองสามรูป
“แขนนายสั้นเกินไป เอามาให้ฉันถ่ายเถอะ” หลูจื้อเอ่ยบอกพร้อมรับมือถือมาจากมือชุยหัง
จากนั้นก็จูบลงบนใบหน้าของชุยหัง แล้วกล้องก็จับภาพช่วงเวลานี้เอาไว้
ชุยหังรีบเอามือถือคืนมา เพื่อเช็คดูว่าภาพเมื่อสักครู่นี้ได้ถ่ายไว้จริงหรือไม่ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
โชคดีที่ภาพนี้ถูกบันทึกไว้แล้ว
หลูจื้อเอ่ยถาม “ยังอยากถ่ายอีกไหม”
“แน่นอน เพิ่งจะถ่ายไม่กี่รูปเอง ฉันยังถ่ายไม่พอเลย” ชุยหังเอ่ยตอบ
“โอเค งั้นก็ถ่ายเถอะ” หลูจื้อเอ่ยบอก
จากนั้นหลูจื้อก็คว้ามือถือขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่รอให้ชุยหังพูดอะไร ก็วางรีมฝีปากลงบนใบหน้าของชุยหัง แล้วค่อยๆ หลับตาลง
พวกเขาใช้เวลาถ่ายภาพไปครึ่งชั่วโมง
เหมือนว่าหลูจื้อจะอารมณ์ดีขึ้นมามากทีเดียว เขาไม่ได้มีท่าทีเบื่อหน่าย อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับชุยหังเป็นอย่างดี
ชุยหังไม่ได้ดูว่ารูปไหนควรเก็บไว้ รูปไหนควรลบทิ้งไป เพราะหลังจากกลับไป ยังเหลือเวลาอีกนาน
“น่าจะเยอะแล้วนะ ฉันคงต้องกลับแล้ว” หลูจื้อเอ่ยเตือน
ทุกครั้งที่ได้ยินหลูจื้อพูดประโยคนี้ ความจริงแล้วชุยหังไม่สบายใจเลย
แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ การที่หลูจื้อมาอยู่เป็นเพื่อนเขา ไม่ใช่สิ่งแรกที่ทหารอย่างหลูจื้อสมควรทำ
“อือ ได้ ฉันจะกลับไปเลือกรูป แล้วส่งให้นายนะ” ชุยหังเอ่ยบอก
“ไม่ต้องหรอก ฉันดูแล้วก็ลบทิ้ง เก็บไว้ในมือถือไม่ได้”
——
[1] เป็ดดำโจว (Zhou Hei Ya) Black Duck หรือ “เป็ดดำ” แบรนด์เป็ดย่างรสเผ็ดขึ้นชื่อแบรนด์หนึ่งของจีน