ตอนที่ 210 เธอยอม
“ยังไม่ถึง เมื่อกี้ระหว่างทางได้คุยกับเธอไปแล้ว” หลูจื้อเอ่ยบอก
ในใจชุยหังตื่นตระหนก หลูจื้อโทรสายนี้มาหาตัวเอง คงจะอยากพูดกับเรื่องท่าทีของผู้หญิงคนนั้นกับตัวเองสินะ
เขาทำให้ตัวเองรักษาความสงบนิ่งให้ได้ถึงที่สุด หลังจากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ แล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เธอว่ายังไงบ้าง”
หลูจื้อเงียบงันสักพัก เหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าควรจะใช้ถ้อยคำอย่างไร
ค้นพบถึงความผิดปกติของหลูจื้อ ชุยหังจึงเป็นฝ่ายถามไปตรงๆ “เธอยอมใช่ไหม”
หลูจื้อทางนั้นยังคงไม่มีเสียงพูด มีเพียงแค่เสียงถอนหายใจ
ชุยหังแสร้งทำเป็นสงบเยือกเย็น ที่จริงในสมองตอนนั้นที่มีความรู้สึกชา จู่ๆ ก็มานึกขึ้นได้ว่าตัวเองทำของอะไรหล่นหาย แล้วก็คิดไม่ออกว่าไปทำหล่นหายที่ไหน
การโจมตีที่เข้ามาเพียงชั่วพริบตาเดียว ทำให้เขาตั้งรับกับความทรมานนี้ไม่ทัน
“เธอไม่เห็นดีด้วยใช่ไหม” ชุยหังเอ่ยถามอีกครั้ง
ในที่สุดหลูจื้อก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจอยู่เต็มประดา “อืม เธอบอกว่าเธอไม่ถือสา เพราะว่านี่เพิ่งจะเริ่มทำความรู้จักกัน ฉันไม่เข้าใจเธอ”
‘มันเป็นกลอุบายจริงๆ ด้วย ผู้ชายอย่างหลูจื้อหล่อออกขนาดนี้ ผู้หญิงที่ไหนจะยอมปล่อยมือตั้งแต่แวบแรกกัน’
“เธอยังแนะนำตัวกับคนที่บ้านฉันว่าเธอพอใจในตัวฉันมากอีกด้วย” หลูจื้อเอ่ยเสริมอีกประโยค
ชุยหังรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เจ้าแผนการไม่เบาจริงๆ
รู้ว่าย่าของหลูจื้อชอบเธอ ก็รีบใช้ประโยชน์จากคนในครอบครัวของหลูจื้อทันที เพิ่มแรงกดดันให้เขา
เป็นแบบนี้มา ต่อให้หลูจื้ออยากจะหาข้ออ้างไม่ใช้เวลาไปสานสัมพันธ์กับเธอ เขาก็ข้ามด่านคนในครอบครัวไปไม่ได้
“อืม งั้นก็ไม่มีวิธีแล้ว นายก็ทำได้แค่เล่นตามน้ำกับเธอแบบนี้ไปก่อน” ชุยหังพูดไป
เขายังคงพยายามให้เสียงของตัวเองไม่ปรากฏอาการสั่นใดๆ ทำให้ตัวเองรักษาอาการสงบนิ่งขึ้นมาหน่อย
เพียงแต่ความรู้สึกเจ็บที่บีบคั้นกลับบอกเขาจริงๆ ว่าเขาทุกข์ทรมานจะถึงชีวิตอยู่แล้ว
“เมียจ๋า นายวางใจได้ ฉันจะคิดหาวิธีอีก สองสามวันนี้นายก็รอข่าวจากฉัน โอเคไหม” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังเอ่ยตอบ “เดี๋ยวก็จะฉลองตรุษจีนแล้ว นายอย่าทำเรื่องอะไรแผลงๆ ออกมาจะดีกว่า ให้คนที่บ้านฉลองปีใหม่กันดีๆ เถอะ โดยเฉพาะย่าของนายทางนั้น ท่านแกขึ้นอีกปีแล้ว นายอย่าทำอะไรกระทบจิตใจเธอเลย”
เวลามาถึงขนาดนี้แล้ว เขายังคงคำนึงถึงและกำชับว่าควรจะปฏิบัติตัวกับคนในครอบครัวอย่างไรอยู่
หลูจื้อพูดบ้าง “เอางี้ไหมนายก็มาฉลองปีใหม่ที่บ้านฉันเถอะ ฉันก็จะพูดว่านายเคยเป็นนักศึกษาฝึกทหารในปกครองของฉัน แล้วปีใหม่กลับบ้านไปไม่ได้”
ชุยหังรีบปฏิเสธข้อเสนอนี้ทันที แล้วเอ่ยว่า “นายไม่ต้องห่วงฉัน ถึงยังไงคณะพวกเราก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ไม่ได้กลับบ้าน ตอนนายว่าง นายก็โทรหาฉัน ส่งวีแชทหาฉันก็โอเคแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยังไง ให้ผ่านตรุษจีนไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
‘เขาจะเข้าไปได้ยังไง ถึงเวลานั้น ถ้าเจอผู้หญิงคนนั้นที่บ้านของหลูจื้อ ตัวเองควรจะแสดงออกยังไงล่ะ…
…ใช้สายตาที่เมียหลวงมองเหยียดเมียน้อย หรือคนที่สู้แสงไม่ได้ พอเห็นแสงอาทิตย์ก็หวาดกลัวงั้นเหรอ’
“เมียจ๋า นายรับปากฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังเอ่ยถาม “เรื่องอะไร”
“จะปล่อยมือจากฉันไปไม่ได้ โอเคไหม” เสียงของหลูจื้อทุ้มต่ำยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้เสียอีก
เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้น ชุยหังรู้สึกแค่เพียงแรงกระตุ้นที่บอกตัวเองให้รับปากเขา รับปากเขา
หลังจากนั้นเขากัดฟันเอ่ยออกไป “อืม ฉันรอนาย”
“เมียจ๋า ขอบใจนายนะ ฉันจะคิดหาทางจัดการเรื่องของพวกเราให้ได้” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังพูดต่อ “ฉันพูดจริงๆ นะ นายไม่ต้องฝืนใจ คิดถึงย่านาย คิดถึงคนในครอบครัวของนาย ยอมลงนิดๆ หน่อยๆ บ้างไรบ้างเถอะ ถึงยังไงนายก็เจียดเวลามาบอกฉันว่านายกำลังทำอะไรอยู่ คิดถึงฉันไหม อย่าเป็นแบบทั้งวันไม่ติดต่อฉันก็โอเคแล้ว”
สำหรับความรักในตอนนี้ ชุยหังยอมถอยให้ผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มแทรกซึมเข้ามาในชีวิจตของหลูจื้ออย่างช้าๆ
‘แต่ว่าการแทรกซึมแบบนี้จะดำเนินไปถึงเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดลงได้เสียที’
ตอนที่ 211 อั่งเปา
หลูจื้อมองชุยหังอย่างจริงจังเพื่อต้องการให้แน่ใจว่าเขาโกรธหรือพูดจากใจจริง
เมื่อเขาเห็นน้ำตาคลอในดวงตาของชุยหัง หลูจื้อจึงดึงชุยหังเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก
“ขอโทษนะ เรื่องนี้ฉันจัดการได้ไม่ดีเอง” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่ต้องขอโทษหรอก เรื่องนี้ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่านายจะทิ้งฉันไปแล้ว”
มือของหลูจื้อกระชับแน่นขึ้นไปอีกพร้อมเอ่ยบอก “ไม่มีทาง นายวางใจเถอะ ถึงฉันจะทิ้งใคร ก็ไม่มีทางเป็นนายที่ฉันจะทิ้งไป”
ชุยหังไม่รู้ว่าจะเข้าใจประโยคนี้ได้อย่างไร
เขาไม่ได้อยากจะเค้นหาความจริงจึงทำได้เพียงบอกว่า “ฉันจะไม่ทำให้นายต้องเลือกระหว่างฉันกับครอบครัว”
เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะยอมแพ้มาจนถึงจุดนี้
ถ้าตอนแรกเขารู้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมากมาย เขายอมที่จะปฏิเสธหลูจื้อ ดีกว่าต้องมาเผชิญกับความเจ็บปวดแบบนี้
เหมือนว่าในใจของเขามีคนทำให้เกิดรูโหว่ จึงไม่มีทางหยุดเลือดที่กำลังเอ่อล้นออกมาได้
เขาไม่อยากเป็นคนที่ต้องแบ่งปัน แม้ว่าผู้หญิงอีกคนจะถูกบังคับให้แทรกเข้ามา
เขาไม่รู้ว่าจะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ได้อย่างไร
นับจากนี้เป็นต้นไป เขาต้องอยู่ในความมืดซึ่งเป็นมุมที่มองไม่เห็นแสงสว่าง เขาจะสามารถติดต่อกับหลูจื้อได้ก็ต่อเมื่อหลูจื้อนั้นอยู่คนเดียว
ต่อมาเมื่อหลูจื้อต้องส่งข้อความมาหาเขา บางทีต้องอยู่ในห้องน้ำ บางทีต้องคลุมโปงในผ้านวม หรือตอนที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สนใจ
สรุปว่าเขาต้องใช้เวลาที่เหลือต่อจากผู้หญิงคนนั้นจึงได้ครอบครองเวลาส่วนตัวกับหลูจื้อ ซึ่งความจริงแล้วไม่มีสิทธิ์ครอบครองมัน
‘เหนื่อยเหลือเกิน’ เขามีเพียงความรู้สึกนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามถ้าให้เขาปล่อยมือตอนนี้ก็โหดร้ายเกินไป เขาไม่มีทางพูดคำนั้นออกมาแน่ และไม่มีทางตัดสินใจแบบนั้น
“ขอเวลาให้ฉันจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นสมองฉันต้องระเบิดแน่ๆ” หลูจื้อบอกไป
ชุยหังพูดขึ้น “อืม ฉันให้เวลานาย”
หลูจื้อเอ่ยถาม “คืนนี้ไม่กลับไปได้ไหม”
ชุยหังเข้าใจความหมายของเขา หลูจื้อต้องการเขาและอยากพาเขาออกไปเปิดหูเปิดตา
บางทีสิ่งที่ตัวเขาเข้าใจ ตัวเขาเองรู้สึกว่ายังมีวันของเขา
เพราะว่าหัวใจของเขา ร่างกายของเขาล้วนมอบให้กับตัวเองหมดแล้ว
อย่างไรก็ตามใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ครอบครัวของหลูจื้อน่าจะรอเขาอยู่ ไม่น่าจะอนุญาตให้เขามาค้างคืนข้างนอกนะ
สิ่งที่คิดนั้นสวยงามเสมอ แต่ความจริงนั้นแห้งเหี่ยวเหลือเกิน
“คนที่บ้านนายน่าจะโทรมาตามนะ ผ่านตรุษจีนนี้ไปก่อนค่อยว่ากันเถอะ” ชุยหังเอ่ย
หลูจื้อถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันหวังไว้จริงๆ ว่าฉันจะไม่มีวันหยุด”
“ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว นายรีบกลับไปเถอะ ไม่งั้นคนที่บ้านนายก็จะถามว่านายอยู่ไหน แล้วนายก็จะอธิบายไม่เจนอีก” ชุยหังพูดไป
หลูจื้อลังเล จากนั้นก็พยักหน้าพร้อมพูดว่า “โอเค ตรุษจีนแล้ว สามีให้อั่งเปานายนะ นายรับไว้เถอะ”
หลังจากพูดจบหลูจื้อก็หยิบซองอั่งเปาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้ววางลงในมือของชุยหัง
ชุยหังไม่ได้เปิดซองในทันที แต่พูดว่า “งั้นฉันควรต้องให้อั่งเปานายด้วยไหม”
“นายแค่ยกตัวเองให้กับฉันก็พอแล้ว” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังพูดต่อ “ไม่ใช่ว่าฉันยกตัวเองให้นายไปแล้วเหรอ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็ให้ไปแล้ว”
“ต่อจากนี้จะเป็นของฉันทั้งหมด นายยังอยากวิ่งอยู่ไหม” หลูจื้อเอ่ยบอก
ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่วิ่ง ขาสั้น วิ่งไปก็น่าเกลียดยิ่งกว่าเดิมอีก”
ความจริงอารมณ์ของพวกเขานั้นหนักหน่วงเหลือเกิน แม้จะพูดล้อเล่น แต่บรรยากาศก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าบรรยากาศแบบนี้น่าอึดอัดเหลือเกิน
“เอาล่ะ ฉันกลับก่อน นายก็ดูแลตัวเองดีๆ”
Related